10 การตัดสินใจ "ธุรกิจที่ผิดพลาด" ที่สุดในประวัติศาสตร์!
"การตัดสินใจ" เรื่องของธุรกิจนั้น แน่นอนว่าต้อง มีวิสัยทัศน์ มองกาลไกล และพิจาณาใหดีกับข้อเสนอที่อยู่ตรงหน้า
ว่าจะทำเงินและเติบโตได้จริงหรือไม่ นั่นทำให้หลายๆครั้ง การตัดสินใจ ก็อาจจะผิดพลาดได้ และนี่คือ ' 6 "การตัดสินใจ"
ทางธุรกิจที่ผิดพลาดที่สุดในประวัติศาสตร์!'
1.Yahoo ปฏิเสธ Google
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-508.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-508.jpeg)
Yahoo ปฏิเสธ Google 2 รอบ รอบแรกในปี 1997 ที่ราคา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรอบ 2 ในปี 2002
ที่ราคา 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้ Google มีมูลค่ามากกว่า Yahoo 10 เท่า ที่ราคา 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2.Decca ปฏิเสธ The Beatles
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-6865.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-6865.jpeg)
ในปี 1962 The Beatles ออดิชั่นเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงให้กับ Decca Records ไม่กี่อาทิตย์ต่อมา Decca ติดต่อกลับมา
และปฏิเสธบอกว่า วงดนตรีที่มี 4 คนและกีตาร์ มันจบไปนานแล้ว
3.กล้องดิจิตัลของ Kodak
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-9793.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-9793.jpeg)
Kodak ผลิตกล้องดิจิตัลครั้งแรกในปี 1975 แต่พวกเขาเก็บเงียบ เพราะกลัวว่าจะเสียการควบคุมตลาดกล้องฟิล์มของพวกเขา
แต่ในที่สุดยอดขายของเขาก็ตก จนต้องประกาศล้มละลายในปี 2012
4.Wester Union ปฏิเสธ สิทธิบัตรโทรศัพท์
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-9392.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-9392.jpeg)
ในปี 1876 บริษัทการสื่อสารอย่าง Wester Union ปฏิเสธข้อเสนอในการซื้อสิทธิบัตรโทรศัพท์ในราคา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เขาบอกว่าโทรศัพท์เป็นแค่ "ของเล่นอิเล็กทรอนิกซ์" ที่ไม่สามารถทำเงินได้หรอก
5.Fox ขาย Star Wars
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-5376.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-5376.jpeg)
ในปี 1977 20th Century Fox ขายลิขสิทธิ์การขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Star Wars ให้กับ George Lucas
ด้วยเงินเพียง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในตอนนั้น แต่วันนี้ 2 ใน 3 ของมูลค่าของ Star Wars ที่มีมากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
มาจากการขายผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
6.Coca-Cola เปลี่ยนเป็น "Coke"
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-5211.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-5211.jpeg)
ในปี 1985 Coca-Cola เปลี่ยนแบรนด์ตัวเองเป็น "Coke" และเปลี่ยนสูตรของตัวเองที่เคยทำมา 99 ปี ผลก็คือ มีคนร้องเรียนว่า
ไม่ควรถึง 400,000 ราย และส่วนแบ่งการตลาดลดลงเหลือแค่ 1.4% พวกเขาเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิมภายใน 87 วัน
7. Blockbuster ปฏิเสธ Netflix
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-1832.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-1832.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-7168.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-7168.jpeg)
ในปี 2000 Blockbuster ปฏิเสธที่จะซื้อ Netflix ที่กำลังแย่ในราคา 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ 14 ปีให้หลัง
Blockbuster ปิดสาขาตัวเองกว่า 9,000 สาขา ขณะที่ Netflix มีมูลค่าพุ่งสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
8. Mars ปฏิเสธ E.T.
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-6877.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026819-6877.jpeg)
ในปี 1981 Mars Company ปฏิเสธข้อเสนอในลงโฆษณา M&M ใน E.T. เพื่อแลกกับการโปรโมทหนัง
ในห่อขนม M&M ผลก็คือ คู่แข่งอย่าง Reese's รับข้อเสนอแทน และมียอดขายเพิ่มขึ้น 65%
9. George Lucas ขาย Pixar
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-119.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-119.jpeg)
ในปี 1986 Steve Jobs ซื้อ Pixar จาก Lucas มาในราคา 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีก 20 ปีต่อมา
Disney ซื้อ Pixar มาในราคาที่สูงกว่าเดิมถึง 1,500 เท่า หรือคิดเป็นเงิน 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
10. ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ขายหุ้นทิ้ง
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-1831.jpeg) (http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1425026820-1831.jpeg)
ในปี 1976 ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple Ron Wayne ขายหุ้นในบริษัททิ้งด้วยเงินเพียง 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ในปี 1977 ยอดขายก็ขึ้นไปที่ 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว และในวันนี้ จำนวนหุ้นของเขาในตอนนั้น
จะมีมูลค่าเท่ากับ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ