เด็กชายกำพล ผลิตในครอบครัวที่มีพ่อกับแม่ทำงานก่อ เขาจึงก้าวหน้ารุ่งมาในแคมป์คนงาน ตอนเด็กๆกำพลก็จะวิ่งเล่นกับเด็กลูกคนงานอยู่ในแคมป์ เช้าวันหนึ่งกำพลสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความรื่น เคลื่อนที่ออกมาเตรียมชำระล้างร่างกาย โดยพลันสายตากำพลเหลือบคลาไคลเจอะพ่อศักดิขับขี่รถอะไรบางอย่างชูไว้ที่กำพลไม่เคยมอง ลักษณะเหมือนรถที่พาเราขึ้นไปที่สูงๆ กำพลมีท่าใจเต้นและแคร์กับสิ่งที่ได้สังเกตอยู่ตรงหน้า ร้องสืบถามพ่อโดยฉับพลันว่าพ่อพละขับรถรถอะไรอยู่ พ่อรู้สึกเอ็นดูลูก จึงลงจากกระเช้ารถบูมลิฟท์ แล้วเคลื่อนที่ตรงมาสู่กำพล พร้อมกับชวนกำพลจรอาบน้ำ แล้วชั่วครู่หนึ่งพ่อจะยกตัวอย่างเรื่องรถบูมลิฟท์ให้เชื่อฟัง หลังจากชำระร่างกายเสร็จ พ่อพากำพลไปนั่งลงใต้ต้นมะขามที่ร่มรื่น พ่อเริ่มบอกประวัติรถบูมลิฟท์ ให้กำพลตรับฟัง เริ่มจาก รถบูมลิฟท์เป็นรถที่ใช้ทำงานบนที่สูง ลักษณะของมันคือ มีแขนยืดได้ บนแขนมีกระเช้าเพื่อให้คนขึ้นไปทำงานบนที่สูงได้ มีปุ่มสั่งการทำงานอยู่บนกระเช้าและข้างๆตัวรถ รถบูมลิฟท์มีหลายความสูงให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ 10 เมตรเป็นต้นไป แล้วก็ยังมีทั้งแบบหักศอกและไม่หักศอก แบบหักศอกคือตรงปลายกระเช้าสามารถหักลงมาได้เชี่ยวชาญพาเข้าตามที่แคบๆได้มากกว่าแบบไม่หักศอก แบบไม่หักศอกตรงคอกระเช้าจะไม่สามารถหมุนได้มากตามที่ต้องการ และเราก็ต้องเลือกใช้รถบูมลิฟท์ให้ถูกกับหน้างาน โดยจะมีแบ่งแยกไปอีกคือรถบูมลิฟท์ที่ใช้คืนน้ำมันและใช้คืนแบตเตอรี่ แบบชดใช้น้ำมันจะเหมาะสมใช้กับหน้างานที่มีการก่อสร้างข้างนอก เป็นลานโล่ง เพราะการใช้คืนน้ำมันจะมีท่อไอเสียขับถ่ายคันออกมา จึงเหมาะกับการกินในที่ outdoor มากกว่า ส่วนรถบูมลิฟท์ที่ใช้แบตเตอรี่ จะเหมาะกับการกินงานในสถานที่ที่เป็น indoor เพราะว่า ไม่มีมลพิษ ถ้าประพฤติในสถานที่ที่ไม่อาจจะระบายอากาศได้ก็จะไม่มีผลต่อสุขภาพของผู้ที่ทำงานในนั้น สำเนียงเครื่องยนต์ก็จะเบากว่า การใช้งานมีการควบคุมเหมือนกันทั้งน้ำมันและแบตเตอรี่ แต่แบบเบตเตอรี่ต้องมีการชาร์ตแบต ชดใช้เวลาในการชาร์ต 8 ชั่วโมง รถจะสมรรถใช้งานได้ 8 ชั่วโมง แล้วพ่อยังเผยต่ออีกว่า รถบูมลิฟท์ยังมีแบ่งแยกไปอีกในเรื่องของล้อ ถ้าอธิบายแต่ภาพกำพลอาจจะนึกภาพไม่ออก พ่อจึงย่างก้าวนำกำพลไปที่รถที่จอดอยู่ที่ 2 คัน พ่อส่อให้กำพลดูที่ล้อ คันที่ 1 เป็นล้อยาง คันที่ 2 เป็นล้อคล้ายๆกับรถแบ็คโฮของโจ้ที่กำพลเคยทำเพลง พ่อจึงสอบถามกำพลว่า ลูกว่ารถ 2 คันนี้ ใช้แตกต่างกันยังไง กำพลไม่แยแสได้คิดเดินสักครู่แล้ววิสัชนาพ่อว่า ล้อยาง น่าจะใช้ในงานที่มีพื้นผิวเรียบ แล้วถ้าเป็นล้ออีกแบบนึงน่าจะใช้กับพื้นที่ขรุขระ พ่อจึงเสริมต่อว่า ล้อยางจะเหมาะกับการใช้กับสถานที่ที่พื้นเป็นซีเมนต์ ส่วนอีกแบบนึงเค้าเรียกว่าล้อแทรคนะ อันนี้เหมาะกับการใช้คืนงานที่ผจญภัยมากกว่า พื้นผิวขรุขระ เป็นดินโคลนเลอะๆ ซึ่งเวลาเค้าจะคัดเลือกกินรถบูมลิฟท์ ในแต่ละงาน เราต้องคัดเลือกสละเหมาะสมกับหน้างาน เพื่อแจกงานเราคลอดมาสู่มีประสิทธิภาพและลดการคลอดอุบัติเหตุด้วย หลังจากพ่อเสี้ยมสอนกำพลเรื่องรถบูมลิฟท์ (http://www.d-rent.co.th/component/content/?id=26&Itemid=185)เสร็จ พ่อก็ได้พากำพลขึ้นไปบนกระเช้า กำพลระทึกขวัญมากที่ได้ขึ้นเดินที่สูง เขาจึงบ่งบอกกับพ่อว่า เขาจะมุ่งหน้าศึกษาเล่าเรียนหนังสือแล้วเมื่อโตขึ้นไปเข้าอยากมีรถบูมลิฟท์เอาไว้ทำหน้าที่บนที่สูงแบบพ่อ
uppp
upp
uppp
Upp
upp