ชูปราคาบรา (El Chupacabra)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950752-9108.jpeg)
เปอร์โตริโก (Puerto Rico) ชื่อเต็มคือ เครือรัฐเปอร์โตริโก (Commonwealth of Puerto Rico) เป็นเครือรัฐ
ของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสาธารณรัฐโดมินิกันในภูมิภาคแคริบเบียนตะวันออกเฉียงเหนือ
เปอร์โตริโกเป็นดินแดนที่เล็กที่สุดของหมู่เกาะแอนทิลลิสใหญ่ มีพื้นที่รวมเกาะเปอร์โตริโก เกาะเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง
รวมทั้งกลุ่มเกาะ ได้แก่ โมนา เบียเกส และกูเลบรามีป่าไม้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่
เลี้ยงสัตว์ ชีวิตก็เป็นปกติสุขดีอยู่หรอก จนกระทั้ง.........ในช่วงราวปี ค.ศ.1994-1995 นี้แหละ ชาวบ้านได้รู้ซึ้งเลยละ
ว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่น่าสยดสยองที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน.....
มีนาคม 1995 ชาวบ้านที่ตำบลโอโรโดบิส และโมโรบิส แถบภูเชาตอนในของเกาะปอร์โตริโกต้องเผชิญกับสิ่งน่ากลัว
ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาพบว่าแพะแกะของพวกตนนอนตายระเกะระกะเหมือนดั่งว่ามีใคร
ทำร้ายพวกมัน ทีแรกก็ไม่ได้สนใจ คิดกันว่ามันอาจจะเป็นหมาป่าหรือหมาจิ้งจอก แต่พอสำรวจเจอเข้ากับรอยเจาะ 2 รู
ที่เปื้อนไปด้วยรอยเลือดเกรอะกรังขนาดเท่ากับหลอดกาแฟบนตัวสัตว์ทุกตัวที่นอนตาย ที่สำคัญที่สัตว์ที่ตายเหล่านี้
สภาพศพตัวซีดเผือดและมีกลิ่นกำมะถันติดอยู่ แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีรอยเลือดอยู่ที่พื้นดินสักหยด แสดงว่าทุกตัว
ต้องถูกดูดเลือดจนหมดออกร่างไปจนหมด
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950752-5476.jpeg)
ต่อมาเริ่มพบซากของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแพะ สุนัข ตายในลักษณะเดียวกันนี้มากขึ้น ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมใจผู้คน
ต่างร่ำลือกันต่างๆ นานา ว่าเป็นปีศาจบ้าง แวมไพร์บ้าง แต่ไม่มีใครอธิบายเหตุการณ์นี้ว่ามันเป็นอะไรหรือมันเกิดขึ้น
เพราะอะไรจนกระทั้งอีกหกเดือนต่อมา...
มีชาวบ้านคนหนึ่งเห็นตัวมันในกลางดึกคืนหนึ่ง เขาเล่าว่ามันกำลังเกาะอยู่บนตัวแพะในความมืดและส่วนที่เค้าคาดว่า
เป็นส่วนหัวของมันติดอยู่กับลำคอแพะของเขา ด้วยความตกใจเค้าจึงส่งเสียงดังเพื่อไล่มันไป มันหันมามองเค้าแว่บนึง
แล้วก็กระโจนเข้าไปยังทางหลังบ้านแล้วก็หายไปในความมืด ต่อมาตอนเช้าก็ได้มีการชันสูตรซากแพะตัวนั้นไม่มี
เลือดเหลืออยู่เลย......
"มันค่อนข้างมืด แล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจในรายละเอียดของมันเท่าไหร่ แต่ว่าเห็นเพียงใบหน้า และดวงตากลมโต
เท่าไข่ไก่ที่เป็นสีแดง กับเขี้ยวทั้งสองอันที่มุมปาก"
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950754-1438.jpeg)
ในเดือนกันยายนปี 1995 มาเดลีน โตเลนติโน(Miasel Negron) แม่บ้านที่อาศัยอยู่ในคาโนบานาส ทางตะวันออก
ของกรุงซานฮวน เมืองหลวงของเกาะและคนอื่นหลายคนได้โอกาสเห็นตัวต้นเหตุมันกำลังดูดเลือดแพะพอดี........
เธอกับชาวบ้านคนอื่นก็ไล่มันไป มันหันมามองเธอแว่บนึงแล้วก็กระโจนเข้าไปยังทางหลังบ้านแล้วก็หายไปในความมืด
ต่อมาตอนเช้าก็ได้มีการชันสูตรซากแพะตัวนั้นไม่มีเลือดเหลืออยู่เลย เธอให้การกับตำรวจว่า
"มันสูงประมาณ 3 - 4 ฟุต มีหนังคล้าย ไดโนเสาร์ ดวงตาสีแดงโตของมันฉายประกายจ้าในความมืด
เขี้ยวยาวและงอโค้งไปด้านหลัง กำลังทำร้ายพวกแพะอยู่"
จากนั้นคำว่า ชูปราคาบรา El Chupacabra จึงปรากฏขึ้นมา พวกเขาเรียกชื่อมันแบบตรงๆ โดยเป็นคำในภาษา
สเปนแปลว่า ตัวดูดเลือดแพะ ("Goat Sucker"เป็นคำในภาษาอังกฤษแปลว่านกตบยุงชนิดหนึ่ง)....แต่มิได้หมายความว่า
เหยื่อของมันจะเป็นแพะเท่านั้น สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ไม่ว่า เป็ด ไก่ ห่าน หมา แมว กระต่าย หรือวัวก็ยังโดนมันดูดเลือดด้วย
ซึ่งยิ่งทำให้ชื่อของชูปราคาบราเป็นที่หวาดกลัวสำหรับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หรือชาวบ้านแถบเปอร์โตริโกในบัดดล...
เดือนพฤศจิกายน 1995 จอร์จ มาร์ติน นักจานผีวิทยาชื่อดังของเกาะได้เผยแพร่ข่าวนี้ให้ชาวโลกได้รับทราบ
ทางอินเตอร์เน็ต ชูปาคาบราก็เลยดังไปทั่วโลก คราวนี้ใครต่อใครก็ให้ข่าวเรื่องชูปาคาบรากันยกใหญ่
Luis Guadalupe หนึ่งในผู้ที่พบกล่าวว่า "มันน่าเกลียดมาก และดูเหมือนว่ามันจะบินได้ด้วยซ้ำ และลิ้นมันยาวยังกับลิ้นงู"
Angel Pulido หนึ่งในผู้พบเห็นกล่าวว่า "มันเหมือนค้างคาวตัวใหญ่ที่ดูเหมือนแม่มด"
พวกนักการเมืองท้องถิ่นเริ่มออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้สอบสวนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ Jose Soto นายกเทศมนตรีของเมือง
เริ่มส่งคณะไปค้นหา มีผู้ร่วมถึง 200 คนตระเวนหาตามไร่ต่างๆ ในตอนกลางคืน เนื่องจากคาดว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้อาจจะหลับ
ในตอนกลางวันแต่ออกหากินเวลากลางคืน แต่ก็เหลว เพราะหุบเขาในเปอโตริโกนั้นซับซ้อนและมีความยาวมาก
ข่าวคราวเรื่องชูปาคาบราออกเล่นวานเหยื่อยังคงมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ จนกระทั้งต้นปี 1996 จึงเริ่มค่อยๆ ชาลงไป
อาจเป็นเพราะปีนี้อากาศหนาวผิดปกติ หลายคนจึงคิดว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้อาจจะจำศิสหนีหนาวอยู่ในถ้ำที่ไหนสักแห่ง
บนเทือกเขาเอลยุงเกนั้นก็ได้
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950753-5154.jpeg)
สงบได้ไม่กี่วัน ชูปาคาบราก็กลับมาอาละวาดอีก ต้นเดือนมีนาคม 1996 เมื่อฮารูตูโร โรดริเกว ชาวนาในหมู่บ้าน
แจ้งว่าไก่ชนที่เขาเลี้ยงไว้ ทั้งตัวผู้แลตัวเมียร่วม 30 ตัว ถูกชูปาคาบราฆ่า ตามตัวและคอหอยของซากไก่มีบาดแผล
เป็นรูเล็กๆ และไม่มีรอยเลือดที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดูก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชูปาคาบรา
เพียงแต่บอกว่ามันอาจเกิดจากหมาป่าหรือค้างคาวกัดก็เป็นได้
วันที่ 9 มีนาคม เด็กชายโอรีโอ เมนเดซ กำลังสาละวนขุดหลุมเพื่อฝังไก่เขาที่ตายอยู่สนามหลังบ้านนั้น พลันเหลือบ
ไปเห็นตัวอะไรบางอย่างที่รูปร่างแปลกประหลาด สูงราวสี่ฟุต เดินสองขา นัยน์ตาแดง มีเขี้ยวใหญ่ มือมีอุ้งเล็บ ตัวสีเทา
เด็กคนนั้นเล่าให้ตำรวจฟังว่า
"เจ้าสัตว์หูแหลมตัวนั้นยื่นนิ่งพอสมควรเลยครับ แต่มันไม่ทำร้ายผม และมันก็วิ่งหายไป"
ความตายของสัตว์เลี้ยงยังดำเนินต่อไปจนถึงแถบบาร์ริโอ ซูมีเดโร โดยเฉพาะตำบลลา เวกาคาปิญา และ ลา อาราญา
พวกสัตว์เลี้ยงหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เป็ด ไก่ ห่าน แพะ แกะ หรือแม้แต่วัวก็ล้มตายโดยถูกดูดเลือดจนหมดทุกตัว
มีอยู่ที่หนึ่งประตูสังกะสีขนาด 4.8x4.2 ถูกกระชากจนหลุดจากบานพับแสดงว่าเจ้าสัตว์จะต้องมีกำลังมหาศาล
ฮูลิโอ โลเปซ ยืนยันว่าชูปาคาบรามีพละกำลังมหาศาล
"รูปร่างของกรงกระต่ายของลูกสาวผมออกจากเหลือเชื่อ ท่อเหล็กและลวดตาข่ายถูกฉีกขาด มันเอากระต่ายไปฆ่า
และควักหัวใจไส้พุงออกมา พวกหมา ลิงทโมน หรืองู ไม่มีทำเรื่องแบบนี้หรอกครับ"
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950754-0533.jpeg)
เรื่องของชูปาคาบราเรื่องแพร่กระจาย และมีข่าวลื่อมากมายเกี่ยวกับตัวมัน บางคนคิดว่าชูปาคาบราเป็นผีดูดเลือดด้วยซ้ำ
จะต้องใช้กระสุนเงินฆ่ามันเท่านั้น บางก็ว่าต้องใช้แสงเลเซอร์ฆ่า
เหตุชูปาคาบราอาละวาดฆ่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีแต่เฉพาะปอร์โตริโกเท่านั้น มันยังลามไปถึงอเมริกา และเม็กซิโก
ด้านมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1996 มีรายงานการตายของสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก ที่รัฐซิโนโลอา
ฮาลิสโค และเวราครูซ โดยเฉพาะรัฐเวราครูซได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเพราะรัฐนี้เป็นรัฐที่เลี้ยงแพะมากที่สุด
โดยมีรายงานสัตว์เลี้ยงถูกดูดเลือดจนตายที่เมืองตลาลิสโคยัน ลาส ตรานคาส และนาซีคาส
เหตุการณ์ในเม็กซิโกเริ่มเลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อมีรายงานว่ามีคนถูกซุปาคาบราทำร้าย ส่วนใหญ่ผู้ถูกทำร้ายจะปรากฏ
บาดแผลเป็นรูเล็กๆ สองรูตามร่างกาย หรือรอยเล็บ และมีรายงานชูปาคาบราโดนคนยิงแต่ไม่สามารถทำอันตราย
แก่ตัวมันได้แล้วมันก็หนีไปในความมืด
ในปานามา (Panama) ก็มีรายงานลักษณะเดียวกันนี้เช่นกันและคราวนี้หญิงสาวคนหนึ่ง Elizabeth Saaverdra
ก็โดนทำร้ายจากเจ้าสิ่งนี้เช่นกัน บางครั้งก็พบว่าอวัยวะของซากสัตว์นั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีรอยฉีกขาด
เหมือนตัดเอาไปด้วยแสงเลเซอร์ ไม่เท่าเฉพาะแต่เพียงเท่านี้ ในบราซิล (Brazil) ก็มีการบันทึกของชูปาคาบรา
อีกเหมือนกันโดยคราวนี้ไม่ใช่รายงานสัตว์ที่โดยทำร้ายแต่เป็นรายงานการตายของเจ้า ชูปาคาบรานี้
โดยถูกนักตกปลายิงได้ที่ทะเลสาบ และหนึ่งในนั้นได้ตัดส่วนหัวของมันเก็บไว้และได้นำมาออกในรายการทีวี
ในเวลาต่อมา แต่ก็มีข่าวว่ามีคนจับตัว ชูปาคาบราเป็นๆ ไว้ได้แต่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ เพียงแต่ยอม
ให้นักสำรวจของอเมริกาตรวจดูได้
มันคืออะไร?
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950753-931.jpeg)
จากคำบอกเล่าของพยานผู้รู้เห็น จากซากสัตว์ที่โดยทำร้าย และจากซากของชูปาคาบรา พบว่าชูปราคาบรานั้น
มีรูปร่างหลายแบบ แตกต่างกัน บ้างก็เหมือนมนุษย์ต่างดาว เหมือนหนูตัวใหญ่ บ้างก็เหมือนลิง บางตัวก็มีปีก
บางตัวมีกลิ่นเหม็นคล้ายกำมะถัน บางก็มีเสียงเห่าหอน...ทำให้ผู้ออกความเห็นมากมาย บ้างก็ว่า....
เป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950752-4934.jpeg)
มีเรื่องน่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ ที่ป่าเอลยุงเกเมื่อหลายปีมาแล้ว รัฐบาลสหรัฐเคยมาสร้างสถานีวิจัยทางทหารลับๆ
ไว้แห่งหนึ่ง ครั้งเมื่อปี 1989 เกิดพายุเฮอร์ริเคนพัดกระหน่ำ เป็นไปได้ที่อาจมีสัตว์อะไรสักอย่างหลุดหนีออกมา
เป็นต้นว่า ลิงกลายพันธุ์ที่ทดลองทางพันธุ์วิศวกรรม แต่เพราะพายุทำให้มันหนีและไปเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ในป่า
สัตว์ร้ายในท้องถิ่น
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950753-0473.jpeg)
ใช่ว่าทุกคนจะลงความเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของตนตายเพราะชูปาคาบรา หญิงสาวคนหนึ่งให้การว่ากระต่ายเธอถูกหมากัด
ต่างหากละ หรือไม่ก็มีลิงทโมนหลุดจากที่ไหนสักแห่ง บางที่เพราะสื่อมวลชนสร้างข่าวให้ใหญ่โตเกินเหตุมากกว่า
นักสัตว์วิทยาบางคนลงความเห็นว่ามันอาจเป็นฝีมือของหมาป่าไกโยต์ที่อพยพหนีจากพื้นที่แห้งแล้งทางตอนเหนือ
ของประเทศ หรือไม่ก็ค้างคาวดูดเลือดชนิดใหม่ที่อพยพจากทางเหนือ
ไดโนเสาร์หรือสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950753-7657.jpeg)
ความจริงเรื่องของชูปาคาบราไม่ใช้เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะมันปรากฏในหนังสือโบราณเกี่ยวกับไสยเวทย์เล่าว่า
มันออกมาอาละวาดเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 หรือ 12 ภาพเขียนหนังสือเล่มนั้นเหมือนตัวกากอยส์มาก
อย่าลืมสิว่าหุบเขาในเปอโตริโกนั้นซับซ้อนและมีความยาวมาก จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ว่าน่ะมีสัตว์ประหลาดแปลกๆ
ซ่อนตัวอยู่ไม่ให้ใครเห็นก็ได้ บางที่อาจมีอุโมงค์ลับอยู่ใต้ทะเลที่เชื่อมเกาะเปอร์ริโกกับเทือกเขาปีเรนิสของสเปน
และผืนแผ่นดินอเมริกาใต้ ทำให้ชูปาคาบราออกมาเดินเล่นดูดเลือดสัตว์ได้สะดวก
มันอาจเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เหลือรอดจากยุคดึกดำบรรพ์ก็เป็นได้
เอเลี่ยน สิ่งที่มากับจานบินต่างดาว
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1429950755-2489.jpeg)
มีผู้พบเห็นฝูง ชูปราคับบรา ในป่าหลังบ้าน ในการสำรวจป่า มีการพบร่องรอยบนหญ้า ชาวพื้นเมืองยังบอกอีกว่า
ซูปราคับบรา กำลังมุ่งหน้าไปหาแสงไฟประหลdาด
เดือนตุลาคม พ.ศ. 2539 ใน แคมโปริโก จอร์จ มาร์ติน ได้พบตัวอย่างเลือดที่รั่ว ซึ่งชูปราคับบรา ได้ไต่ออกมาก่อน
ที่จะหนีไป อีกรายงานหนึ่งแจ้งว่า ก่อนเหตุการณ์นี้ตำรวจท้องที่ยิงมันได้ตัวหนึ่ง ทำให้ได้ตัวเลือดที่หยดไปเป็นสาย
ผลการตรวจเลือดแสดงให้เห็นว่าลักษณะเลือดของมันคล้ายเลือดมนุษย์ แต่การวิเคราะห์พันธุกรรมแสดงว่าเลือด
ของมันเข้ากับเลือดมนุษย์ไม่ได้ และไม่มีทางที่จะไปกันได้ด้วย
ซูปราคับบราอาจนี้เป็นเศษเดนของเชื้อสายมนุษย์ต่างดาว ที่ได้ทิ้งไว้ในโลกใบนี้ก่อนที่จานบินระเบิด โดยที่เปอร์โตริโก้
มีคนหลายร้อยคนเห็น UFO มาหลายปี และอยู่ไม่ไกลจากรัฐฟลอริดา ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดสนใจของ UFO
มาถึงตอนนี้ ชูปาคาบราได้กลายเป็นเรื่องท็อปฮิตในหมู่ชาวอเมริกันที่พูดภาษาสเปนไปแล้ว ภัตตราคารหลายแห่ง
ทางตอนใต้ของอเมริกาได้ใช้ชื่อชูปาคาบรามาตั้งชื่ออาหาร คณะดนตรีใช้ชื่อวงว่า "ลอส ชูปาคาบรา" ขบวนพาเหรด
ในวันเปอร์โตริโกที่นิวยอร์คก็แต่งชุด ชูปาคาบรา และเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายรูปชูปาคราบรากำลังดูดเลือดเหยื่อก็กำลัง
ระบาดในสหรัฐและเม็กซิโก
แต่พวกสัตว์วิทยากลับไม่ชอบเรื่องของชูปาคาบรานัก แถมกล่าวโทษพวกสื่อมวลชนอีกว่านี้แหละเจ้าตัวดี
ที่โหมกระพือข่าวเสียจนชูปาคาบราเป็นสัตว์ในตำนานไปซะแล้ว
เจ้าตัวกินแพะยังคงเป็นสัตว์ลึกลับมาจนทุกวันนี้ และยังคงมีการตามหาร่องรอยของมันอยู่เสมอ เพื่อจะศึกษาว่า
คือตัวอะไรกันแน่ ระหว่างสิงมีชีวิตพันธุ์ใหม่ หรือ สิ่งมีชีวิตที่มาจากต่างดาว
credit:: cammy@dek-d.com
ปี 95 ก็ไม่นานเท่าไหร่นี่ ท่าทางจะมีตัวตนจริงๆ
อยากเจอตัวเป็นๆ