cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => xseed คลิป => Cmx Music & Movie => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2015, 11:51:06

ชื่อ: 10 หนังไซไฟชั้นเยี่ยมของโลก Sci Fi
โดย: etatae333 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2015, 11:51:06
10 หนังไซไฟชั้นเยี่ยมของโลก Sci Fi

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971686-0981.jpeg)

ในทุก ๆ ปีจะมีภาพยนตร์ออกฉายไม่ต่ำกว่าหลายพันเรื่อง ทุกแนวทุกสไตล์ล้วนทยอยกันมาถ่ายทอดเล่าเรื่องราวใหม่ ๆ
ให้กับผู้ชมทั่วโลก ช่วยขจัดความน่าเบื่อหน่าย เหงากาย ไม่สบายจิต หนังทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ นั้นไม่เหงาจนเกินไปนัก ขณะเดียวกันก็เปิดกว้าง
จินตนาการของเราให้ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยรู้ หลายเรื่องมันสร้างความประทับใจจนทำให้
หลายคนต้องย้อนไปดูจนนับครั้งไม่ได้ อาจจะพอกล่าวได้ว่า "หนังเป็นทั้งเพื่อนและครู" เพราะมันทำหน้าที่เป็นเพื่อนเราในช่วงเวลาที่ไม่มีใคร
เข้าถึงตัวเราได้ ขณะเดียวกัน หลายครั้งหนังก็ทำหน้าที่สอนเราให้คิดทำในเรื่องที่ยิ่งใหญ่และมีประโยชน์ได้ เป็นแรงบันดาลใจพิเศษที่ไม่อาจ
พบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971686-009.jpeg)

หนึ่งในหลาย ๆ แนวของหนังที่มีในท้องตลาดนั้น มีอยู่แนวหนึ่งที่ไม่เคยห่างหายไปจากวงการจอเงินเลย นั่นคือแนวภาพยนตร์ไซไฟ (Science Fiction)
ตลอดทุกปีจะมีหนังแนวนี้ออกมาให้เราได้ชมกันอยู่เนื่อง ๆ ไม่เคยห่างหาย ไม่ว่ากระแสหนังของปีนั้น ๆ จะมีฮีโร่เกิดใหม่กี่คน หนังผีจะอาละวาดและเฮี้ยน
ไปทั่วโรงภาพยนตร์แค่ไหน หนังตลกจะเกลื่อนตลาดด้วยมุขที่ลอก ๆ กันมาอย่างไรก็ตาม  หนังไซไฟยังคงติดตลาดและได้รับการสนใจจากผู้ชมอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันก็ถูกนำไปผสมผสานเข้ากับบทภาพยนตร์แนวอื่น ๆ ทำให้กระแสของหนังไซไฟนั้น ตายยาก และผมเชื่อว่ามันจะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
เลยทีเดียว

หากจะถามกันจริง ๆ ว่าหนังไซไฟคืออะไร คำถามง่าย ๆ แต่คำตอบนั้นกว้างและลึกซึ้งมาก นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์หลายท่านก็ให้ความหมายที่แตกต่างกันไป
แต่โดยสังเขปแล้ว หนังไซไฟ(สำหรับผม)คือ หนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์และสังคม ผ่านระบบของเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ ซึ่งโดยมากแล้วจะมีการคาดเดา
อนาคตเอาไว้ในหนังด้วย แม้ว่าความเป็นจริงเทคโนโลยีของเราอาจจะไปยังไม่ถึง แต่ต้องเป็นการคาดคะเนอย่างมีเหตุมีผล และควรจะเป็นจิตนาการที่อยู่ในระบบ
ของกฏทางวิทยาศาสตร์ (การสังเกต การตั้งสมมติฐาน การทดสอบสมมติฐาน และการสรุปผล) นั่นจึงจะเป็นการทำงานเชิงศิลปะที่สอดคล้องกับหลักการ
วิทยาศาสตร์อย่างน่าชื่นชม

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971686-1689.jpeg)

เท่ากับว่าหนังแนวไซไฟเป็นเรื่องเพ้อฝันที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาการด้านเทคโนโลยีรองรับ! ที่สำคัญหลายเรื่องมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริง!
แนวคิดเพ้อฝันของนักเขียนนิยายวิทยสาสตร์หลายเรื่องก็เกิดขึ้นจริงไปแล้ว! เช่น

แต่ก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะมียานพาหนะที่พามนุษย์ออกไปนอกโลกได้ แล้วยังไม่ตายด้วย
ปัจจุบันเรามียานอวกาศที่ทยอยบินออกสู่ชั้นบรรยากาศโลกกันมากมาย

แต่ก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะมีหุ่นยนต์ที่คอยรับใช้มนุษย์ หรือจักรกลที่คิดได้ดีและฉลาดกว่ามนุษย์ ปัจจุบันเรามีหุ่นยนต์
มากมายที่พัฒนากันจนอีกไม่นานจะเป็นเหมือนในหนังแล้ว มันสามารถถามตอบทักทายคำนวณตอบโต้กับเราได้

สิ่งดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะมนุษย์ไม่เคยหยุดที่จะใช้จินตนาการ เราไม่เพียงแต่แค่นอนดูดวงดาวไปแบบคืนต่อคืน แต่เราคิดที่จะออกไปตามหามัน!

และนี่คือ 10 หนังไซไฟที่มีการโยนหินถามทาง หาความหมายจากการตีความของผู้รับชมอย่างน่าสนใจ หลายเรื่องทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หลายเรื่อง
ถูกยกให้เป็นหนังชั้นครู หลายเรื่องเข้าไปอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคน ๆ นั้นอย่างไม่รู้จบ

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971686-2177.jpeg)

ขอแจ้งก่อนว่าหนังไซไฟนั้นในโลกนี้แบ่งเป็น 3 ระดับ
1.ฮาร์ดไซไฟ (Hard Sci - Fi) เป็นหนังที่นำเสนอเกี่ยวกับกฏและทฤษฏีที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แบบแท้จริง ใช้แนวคิดที่ได้รับการยอมรับในยุคนั้น ๆ
แบบเต็มรูปแบบ ความสนุกในการดำเนินเรื่องแนวนี้จะมาจากเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริงเท่านั้น

12.ซอลฟ์ไซไฟ (Soft Sci - Fi) เป็นประเภทที่เปิดกว้างทางจินตนาการมากกว่า ฮาร์ดไซไฟ ทฤษฏีต่าง ๆ อาจจะลดทอนลงในโหมดนี้ รูปแบบการดำเนินเรื่อง
และเนื้อหาจะมีความแฟนตาซีผสมอยู่

13.ไซไฟแฟนตาซี (Sci - Fi Fantasy) โหมดนี้จะมีการดำเนินเรื่องที่สนุกสนานย่อยง่ายกว่าทั้งสองโหมดแรก เพราะมีส่วนผสมของแฟนตาซีสูงกว่า
ทั้งสองโหมด เรื่องทฤษฏีอาจไม่จำเป็นสำหรับหนังแนวนี้มากนัก แต่โดยรวมแล้วก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอวกาศ



มาเริ่มกันที่

1. 2001 A Space Odyssey (1968)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-592.jpeg)

Director: Stanley Kubrick
Writers: Stanley Kubrick (screenplay), Arthur C. Clarke(screenplay),
Stars: Keir Dullea, Gary Lockwood, William Sylvester


สำหรับเรื่องนี้ที่ผมยกมาให้เป็นเรื่องเปิดนั้น เพราะว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไซไฟที่เป็นระดับชั้นครู จากงานเขียนของ อาเธอร์ ซี.คลาร์ก บิดาแห่งนิยาย
วิทยาศาสตร์ของโลก ร่วมกับงานกำกับของสแตนลีย์ คูบริกเจ้าพ่อแห่งวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะแนวสัญลักษณ์ ซิมโบลิคในเรื่องนี้นั้นซ่อนอยู่ในเรื่อง
ตลอดแทบทุกนาทีที่ดำเนินไป นับเป็นภาพยนตร์แนวฮาร์ด ไซไฟ ที่มีคุณค่าสูงมาก เรื่องนี้ผลิตขึ้นมาปี 1968 แต่ผมเชื่อว่าคอหนังไซไฟในยุคปัจจุบัน
อย่างแน่นอน เพราะตัวหนังยังล้ำและดูไม่เชยเลยแม้แต่น้อย

https://www.youtube.com/v/Z2UWOeBcsJI




2.I Robot (2004)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-6058.jpeg)

Director: Alex Proyas
Writers: Jeff Vintar (screenplay), Akiva Goldsman(screenplay),
Stars: Will Smith, Bridget Moynahan, Bruce Greenwood


โลกที่มีหุ่นยนต์เคียงคู่ใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ แต่ทั้งสองจะร่วมทางกันได้นานเท่าไหร่... หนังเรื่องนี้ตีแผ่ความเป็นมนุษย์ผ่านสองตัวละครหลัก ๆ
ฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ อีกฝ่ายเป็นหุ่นยนต์ คำถามคือ ใครมีความเป็นมนุษย์มากกว่ากัน สิทธิของมนุษย์กับหุ่นยนต์สมองกลควรจะเท่ากันหรือไม่
ถ้าใช่ หรือไม่ ใช้อะไรวัด?

https://www.youtube.com/v/rL6RRIOZyCM



3.Prometheus (2012)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-9501.jpeg)

Director: Ridley Scott
Writers: Jon Spaihts, Damon Lindelof.
Stars: Noomi Rapace, Logan Marshall-Green, Michael Fassbender


สุดยอดหนังไซไฟในดวงใจผมอีกเรื่องหนึ่ง เล่าเรื่องถึงการเดินทางในอวกาศเหมือนเราไปตลาดกันแล้ว มุมมองและปรัชญาของเรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่ลึกล้ำ
แต่ก็อยู่ในรากฐานของความมีเหตุมีผล สุดท้ายอยู่ที่คุณจะเชื่อหรือไม่

https://www.youtube.com/v/0Wuy61nd_kQ



4. Oblivion (2013)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-6103.jpeg)

Director: Joseph Kosinski
Writers: Karl Gajdusek (screenplay), Michael Arndt(screenplay),
Stars: Tom Cruise, Morgan Freeman, Andrea Riseborough

เมื่อโลกถึงวันที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นสิ่งที่มาหลังจากพ่ายแพ้สงครามต่างดาว มนุษย์จะดำรงอยู่ภายใต้ภาวะนี้ได้หรือไม่
สงครามสงบแล้วจริง ๆ หรือ? หนังเรื่องนี้เล่าถึงความดำรงอยู่ของมนุษย์ได้อย่างสวยงามลึกซึ้งมาก เป็นอีกเรื่องที่แนะนำเลยครับ

https://www.youtube.com/v/IBVkUb_TWp8



5.Gravity (2013)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-629.jpeg)

Director: Alfonso Cuarón
Writers: Alfonso Cuarón, Jonás Cuarón,
Stars: Sandra Bullock, George Clooney, Ed Harris


ฮาร์ดไซไฟอีกเรื่องที่จะพาคุณออกไปท่องอวกาศได้สมจริงมาก ๆ หลักฟิสิกส์ของเรื่องนี้แม่นยำชนิดที่ทำให้คุณลอยขึ้นแบบไร้แรงโน้มถ่วงได้เลยทีเดียว
เทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยควบคู่กับทฤษฏีด้านอวกาศแบบเป๊ะ ๆ คือไม้ตายของเรื่องนี้ โดยรวมแล้วผมถือว่าย่อยง่ายอยู่นะครับ แม้ว่าคุณจะไม่เคยต้อง
ศึกษาเรื่องของอวกาศมาก่อนเลยก็ได้

https://www.youtube.com/v/OiTiKOy59o4



6.Dark City (1998)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971694-6421.jpeg)

Director: Alex Proyas
Writers: Alex Proyas (story), Alex Proyas (screenplay),
Stars: Rufus Sewell, Kiefer Sutherland, Jennifer Connelly

ดาร์ก ซิตี้นั้น จัดว่าเป็นหนังไซไฟในยุคคลาสสิค มีสไตล์ที่จัดจ้านเป็นของตนเอง โทนเรื่องนั้นเป็นแนวดาร์ก ๆ สมชื่อ แต่ก็แฝงไว้ซึ่งทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์
มากมาย มีกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีค่อนข้างมาก นับเป็น 1 ใน 10 เรื่องที่แปลกนอกเหนือจากเรื่องอื่นที่ผมยกมาครับ

https://www.youtube.com/v/gt9HkO-cGGo



7.AI (2001)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971695-0335.jpeg)

Director: Steven Spielberg
Writers: Brian Aldiss (short story "Supertoys Last All Summer Long"), Ian Watson (screen story),
Stars: Haley Joel Osment, Jude Law, Frances O'Connor


หนังดราม่าไซไฟอันโด่งดังอีกเรื่อง ผลงานสุดล้ำลึกด้านภาพยนตร์อีกชิ้นหนึ่ง ว่าโดยหุ่นยนต์ที่มีความคิดและตรรกะขั้นสูงเสมือนมนุษย์ ผ่านหุ่น A.I โมเดล
เด็กผู้ชายคนหนึ่ง รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอนหากได้รับเรื่องนี้

https://www.youtube.com/v/kYr8RwDGfe8



8. Source code (2011)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971695-1117.jpeg)

Director: Duncan Jones
Writer: Ben Ripley
Stars: Jake Gyllenhaal, Michelle Monaghan, Vera Farmiga

แม้เรื่องนี้จะไม่มีดาบเซเบอร์ ไม่มีอวกาศ แต่ผมก็นับเป็นหนังไซไฟแฟนตาซีเรื่องหนึ่ง แต่กฎของเงื่อนไขเวลา และทฤษฏีที่ใช้ในเรื่องนี้นั้นหนักแน่นน่าคิด
จังหวะการดำเนินเรื่องและบทต้องบอกว่าชั้นเลิศ! ตัวหนังนั้นละมุนมากจนผมต้องดูซ้ำอยู่หลายรอบเพิ่มพูนความละเมียดให้ตนเอง

https://www.youtube.com/v/WatVodRARsU



9. Edge of Tomorrow (2014)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971695-1096.jpeg)
(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432972071-306.jpeg)

Director: Doug Liman
Writers: Christopher McQuarrie (screenplay), Jez Butterworth (screenplay),
Stars: Tom Cruise, Emily Blunt, Bill Paxton


หนังไซไฟแฟนตาซีตัวจริงอีกเรื่องที่แสดงโดยทอม ครูส ผมสังเกตหลายครั้งแล้วว่าเมื่อไหร่ที่แกเล่นเรื่องไหนที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว มักจะทำได้ดี อิอิ
สงสัยว่าจะลึกซึ้งในลัทธิที่ตนเองเป็นสาวกอยู่ อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เล่นกับเงื่อนไขของเวลา และมีการลำดับเรื่องให้เข้าใจง่าย สนุก
และอิ่มเอมในพลังของหนังเมื่อดูจบ อ่อ....เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นนะครับ ในชื่อ All You Need is Kill

https://www.youtube.com/v/2efTHT9Cax8



10.Interstellar (2014)

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1432971695-1395.jpeg)


Director: Christopher Nolan
Writers: Jonathan Nolan, Christopher Nolan
Stars: Matthew McConaughey, Anne Hathaway, Jessica Chastain


สำหรับเรื่องนี้นั้นผมต้องรอจนได้ดูก่อนจึงจะเขียนบทความนี้ได้ เพราะนับเป็นหนังฮาร์ดไซไฟอีกเรื่องที่คนทั่วโลกรอคอย เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางท่อง
ไปในอวกาศ เป้าหมายอยู่ที่หลุมดำ! แค่นี้ก็น่าสนใจมากแล้ว ระหว่างดูผมเสียน้ำตาไปกับการดำเนินเรื่อง ผมฟินตรงที่โนแลนทำให้เรื่องยาก ๆ เข้าใจได้
ง่ายขึ้น (หากคุณเคยศึกษาเรื่องฟิสิกส์ ควอนตัม อวกาศและบริบทของอวกาศ รูหนอน หลุมดำ มิติของเวลา จะยิ่งทำให้ดูสนุกและเห็นภาพมากขึ้น)
ผมรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปที่นั่นจริง ๆ นับว่าโนแลนประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการทำเรื่องนี้

https://www.youtube.com/v/Lm8p5rlrSkY




บทส่งท้าย

ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหนังแนวไซไฟนั้นเสริมสร้างจินตนาการ และการบริหารความคิดอย่างมีเหตุมีผล หากขาดซึ่งสองสิ่งนี้คงเป็นเรื่องยากที่โลกจะพัฒนา
หรือกลับไปสู่ความเจริญได้ในวันที่เราล้มเหลว การเรียนการสอนในบ้านเราจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะนำชุดความคิดชนิดนี้ไปสอดแทรกให้เด็กฝึกที่จะคิด
อย่างมีระบบ และนำไปสู่การเข้าใจธรรมชาติอย่างชาญฉลาด เพื่อที่ลูกหลานเราจะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข

ที่มา: http://www.benmanhirefashion.com/blog/read/10-Sci-Fi-Movies