หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้ องจอดรถไว้ ไม่ว่าที่ใดก็ตามย่อมมีโอกาสเสี ่ยงที่จะถูกโจรกรรมได้เสมอ และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะติ ดตามกลับคืนมาได้ อันเนื่องมาจาก กำลังของเจ้าหน้าที่มีน้ อยและไม่รู้เส้นทางการหลบหนี
ดังนั้นจึงมีอีกวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล 100 %
คือให้ท่านหาโทรศัทพ์มือถื อราคาถูกๆแต่ใช้งานได้ดี
Battery ดี ซิมการ์ดระบบใดก็ได้
เปิดเครื่องและซ่อนไว้ในรถในจุ ดที่ลับตาที่สุด ที่คิดว่าคนร้ายจะไม่เห็น
เปิดเครื่อง ปิดเสียง ปิดสั่น ทิ้งไว้ในรถเมื่อท่านต้ องจอดในบริเวณที่มีความเสี่ยง และล็อครถ ของท่านตามปกติ
กรณีเกิดรถหาย ให้แจ้ง! ที่ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกั บผู้ให้บริการเครือข่าย ของหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านซ่ อนไว้ในรถเพื่อค้นหาตำแหน่ งของรถท่าน เพื่อการติดตามจับกุมได้อย่ างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ รถที่หายจะยังอยู่บนถนน หากที่ใดมีคลื่นโทรศัพท์ ก็จะสามารถระบุตำแหน่งได้
ทุกวันนี้ซิมการ์ดระบบเติมเงิ นบางระบบเติมเท่าใดก็ใช้ได้เป็ นปี ราคาไม่กี่ร้อย
บวกค่าโทรศัพท์ที่ท่านหาซื้ อได้ในราคาหลักร้อย
ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุ ดแล้วครับ
:Dบางคนอาจกังวลกับกรณีกลัวแบตมือถือหมดเพราะฉนั้นคุณต้องเลือกเอาระหว่างชาร์ตแบตบ่อยๆกับรถหาย kjhgf
ตำรวจไทยทำได้ขนาดนั้นแล้วเหรอครับ urhys
Good idea ...
สโลแกน ไม่มีอะไรที่ ตำรวจไทย ทำไม่ได้ mnb mnb
ขอบคุณสาระดีๆที่มาแบ่งปันครับ ;kljj
>:( ถ้าผมเสียบเบตตรีไว้ตลอดมันจะกินไฟเยาะไหมครับ แล้วมันจะใช้ได้นานไหมครับ แต่อย่างว่าประกันปีหนึ่งก็ถื่อว่าคุ้มแล้วดีกว่า ติดสัญญานกันขโมย ซึ่งมันกันไม่ได้เลย ijhgvf
น่าสนใจ แล้วที่ chiangmai มีที่ทำ GPS ใหมครับ
ชุดเท่าไหร่ครับ
จาได้ เอาไปเปิดรับทำ GPS รถหายเยอะช่วงนี้
ijn
ก็คิดว่าถ้าเราทำเป็นประจำมันก็จะเคยชินนะครับ ฝึกไว้นะครับ ดีกว่ารถหายแล้วแจ้งความ รอตำรวจไทย บอกว่าแล้วจะตามเรื่องให้ 1ปี-10ปี ยังไม่ได้เรื่องนะครับ ถ้ามีโทรศัพท์ที่อยู่ในรถ ที่ศูนย์ของสัญญาโทรศัพท์ก็มีวิธีหาครับ แต่ระบบติดตามGPSบ้านเรามีใช้ในรถบรรทุก ที่ขนสินค้าราคาแพงๆ หรือป้องกันพนักงานขับรถออกนอกเส้นทาง คิดว่าระบบGPSน่าจะมีราคาแพงครับ
เท่าที่ได้อ่านมานะครับ การตรวจเช็คสัญญานโทรศัพท์ ระบุตำแหน่งได้จริง แต่ตำแหน่งที่ได้ เป็นระยะทางที่ต้องมีแม่เบส(เสาส่งสัญญานไม่น้อยกว่า 3 เบส) ก็หมายความว่าจะรู้ตำแหน่งได้ในระยะ ประมาณ 10-20 กิโล นะครับ ระยะทางไม่แน่ใจนะครับ