cmxseed สังคมราตรี

Seed market => Cmxseed Market => หัวข้อที่ตั้งโดย: Treekaesorn เมื่อ 08 มิถุนายน 2016, 12:19:18

ชื่อ: จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์อุทกภัย ที่มีขึ้นกับตัวข้าพเจ้าครับ
โดย: Treekaesorn เมื่อ 08 มิถุนายน 2016, 12:19:18
ถ้าหากบอกกันถึงเรื่องราวของเหตุภัยธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง อุทกภัย วาตะภัย ในเมืองไทยนั้น ล้วนแล้วเกิดจากฝีมือของคนอย่างเราทั้งหมด แต่เหตุการณ์ที่จะมีขึ้นได้บ่อยครั้งที่สุด พร้อมกับสร้างความทุกข์ร้อนได้บ่อยครั้งมากก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ของอุทกภัย หรือ อุทกภัยที่เกิดขึ้นตามต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ ก็เคยปรากฏมาแล้ว และขณะมีเหตุเกี่ยวกับอุทกภัยสิ่งที่จะช่วยเหลืออำนวยความคล่อง และช่วยเหลือใครก็ตามได้ นั้นก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นเรือกู้ภัย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมไปถึงช่วยในเรื่องราวของการส่งข้าวสารอาหารแห้ง ให้กับทางผู้เจอภัยอันตรายด้วย หากสำหรับตัวผมเอง จะมาเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับเหตุอุทกภัย ที่เคยพบเจอมากับตนเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมถึง การแสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะผมต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าหากวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ
สภาวการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม เพื่อนฝูงๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะล้นเนี่ย เราก็ได้ยินข่าวสารมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงที่อยู่อาศัยผมนั้น ทางตอนเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากทีวี ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอาเรือกู้ภัย ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุโดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา กระทั่งถึง กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่า มันค่อนข้างไกลตัว และอีกอย่าง กรุงเทพมหานครแทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมสาหัสสากรรจ์อะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปรกติเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงที่อยู่เราด้วย สักพักก็มีประกาศว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับผมณ ตอนนั้น ผมก็เล่าเรียนอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีข่าวคราวมี ให้ระดมคนไปสนับสนุนกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อคุ้มกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้ไปช่วยและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในแรกเริ่ม ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มใจคอไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในพี่น้อง ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นคล้ายๆ เรือกู้ภัย เผื่อมันท่วมมาถึงบ้านเราจริง จะได้มีไว้ย้ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีคุณตา ยาย ซึ่งแก่และแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ในขณะนั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่หารือกัน ว่าถ้าสมมติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอาไงกัน แต่ทางพ่อของผมเอง ก็ไม่เชื่อและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากโต้เถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีประกาศว่า ฝายกั้นตรงแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวอาณาบริเวณนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ห่างจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนฝูงอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำเอ่อยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านข้าพเจ้าก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้เยอะอะไรมาก ตอนแรก ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะคุณพ่อจะไปหาเรือกู้ภัยมาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาคุณตาคุณยายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด คุณพ่อท่านบอกว่า อาศัยที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงเลยหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้าไม่เช่นนั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติธรรมดาแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการเตรียมเรือกู้ภัยเอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับเพราะในใจผมเองเนี่ย มองว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอสักพัก น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมซาบขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำออกจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามากันน้ำไว้ เพื่อปกป้องรักษาไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่ท้ายที่สุด มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากภายในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ตลอดวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันสังเกตเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่ในที่สุด ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นไปจนถึงต้นขาบนแล้ว และบ้านผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาปรึกษาหารือกันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะมันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การขับถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยปลงใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ ต่างจังหวัดกันครับ แต่ปมปัญหาก็คือ น้ำมันท่วมสูงพอควร สำหรับคนแก่ ที่ขาไม่ค่อยมีแรง เป็นอะไรที่ลำบากมากครับ และการเคลื่อนย้ายก็ลำบาก เนื่องจากบ้านเราเป็นคนตัวใหญ่ จะให้แบกพวกท่านก็ไม่น่าจะไหวกันครับ ก็เลยตัดสินใจ ไปหาพวกให้บริการเรือกู้ภัย เพื่อมารับเราไปส่งในที่ ๆ น้ำยังท่วมไม่ถึงครับ แต่อุปสรรคก็คือ หาไม่ได้เลยครับ เพราะโดยมากก็จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่อนข้างจะมีราคาสูง อีกอย่างคือคนใช้บริการจำนวนมาก พวกที่ทำมาหากินทางนี้ ก็เลยชาร์จมูลค่ากันเต็มที่เลย ประเด็นก็คือ เราไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอย่างไรสักอย่าง ตัวเงินก็ไม่ได้กดไว้เลย คือไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเช่าเรือราคาแพงขนาดนี้ ตู้ ATM ก็ใช้งานไม่ได้ครับ ทีนี้เราก็ค่อนข้างจะจะเครียดกันมากและ เนื่องจากหาเรือให้เราอาศัยไม่ได้เลย และน้ำก็เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆๆ เลย แต่สุดท้าย พบพวกจิตอาสาครับ คอยขับขี่เรือกู้ภัย รับส่งผู้ที่ประสบภัย ลอยผ่านเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เพื่อน้ำข้างของมามอบให้ให้สำหรับคนที่มีบ้าน 2 ชั้น และไม่ต้องการจะออกไปไหน ผมก็เลยออกไปคุย และขอร้องพี่เขา ว่าช่วยไปส่งพวกผมหน่อย เดี๋ยวถ้าถึงที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึงแล้ว จะรีบกดเงินมาให้ เขาก็บอกได้ ๆ ให้พวกเราขึ้นเรือไปครับ ผมนี้คือแบบดีใจมาก เพราะเราหมดทางเลือกแล้วจริง ๆ ณ ตอนนี้ ดีที่ได้พบพวกพี่จิตอาสาพวกนี้ผ่านเข้ามาพอดี และพอเขานำพวกผมไปส่งเสร็จ พ่อผมกำลังจะไปรีบไปหาตู้ เพื่อกดเงิน มาเป็นการขอบคุณพี่เขา เขาบอกกลับมาว่า " ช่างเถอะครับ ผมไม่รับ มีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยเหลือครับ ชาวไทยด้วยกันครับ " (แล้วก็ยิ้ม) ประโยคนี้ ทำให้ผมซาบซึ้งใจมาก ๆ ในน้ำใจพี่ ๆ อาสาครับ แบบถ้ามิได้เรือกู้ภัยของพวกพี่เขา เราคงลำบากมาก ๆ แน่ ๆ และทำให้รู้ว่า คนไทยรักกัน และใจดีจริง ๆ แถมอีกทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังรางวัลอะไรเลย
อย่างน้อยในเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็แฝงไปด้วยมิตรสัมพันธ์ดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเราเฝ้าคอยช่วยเหลือกันและกันในยามเหนื่อยยากครับ ผมซึ้งใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ มันจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร สำหรับคนอื่น ที่ไม่ได้ประสบกับภัยน้ำท่วมนั้น อาจมองว่า ผมโอเว่อร์หรือเปล่าแต่สำหรับผม มันคือน้ำใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ และทำให้ญาติของผมผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ยังไงก็ขอบพระคุณพวกพี่ ๆ จิตอาสากลุ่มนั้นมาก ๆ ครับ ถึงเขาอาจไม่ได้รับรู้ก็ตาม และเรื่องนี้ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่า หากมีใครที่ยากลำบากกว่าเรา และเราพอที่จะช่วยเหลือเขาได้ เราก็ควรจะช่วยเหลือเขานะครับผมเพราะอย่างน้อย ก็เป็นน้ำใจสำหรับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และจะทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นครับ


Tags : ขายเรือ,เรือ,เรือตกปลา