cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 05 สิงหาคม 2016, 17:23:19

ชื่อ: กำเนิดกีฬาโอลิมปิก
โดย: etatae333 เมื่อ 05 สิงหาคม 2016, 17:23:19
กำเนิดกีฬาโอลิมปิก

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-1992.jpeg)

กรีซ คือ ดินแดนที่ให้กำเนิดการแข่งขันกีฬาและกรีฑา เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนจะมีการแข่งกีฬาโอลิมปิกครั้งแรก
เมื่อ 233 ปีก่อนพุทธกาล หรือ  776 ปีก่อนคริสตกาล ที่วิหาร Olympia ทว่าไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ริเริ่มการ
แข่งขันกีฬาดังกล่าว นอกจากเทวตำนานเพียงไม่กี่เรื่อง เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดมาจากเรื่องราวของกษัตริย์หนุ่มจาก
นครไลเดีย (Lydia) นามว่า พีล็อพส์ (Pelops) ผู้เป็นหลานปู่ของมหาเทพซูส บุตรของราชาวิปริต แทนทาลัส (Tantalus)




แข่งรถม้าชิงนารี

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-5685.jpeg)

เมื่อได้ครองกรุงไลเดียต่อจากบิดา (ที่โดนลงโทษให้ไปยืนแช่แม่น้ำนรกตลอดกาลแล้ว) พีล็อพส์ก็ตกหลุมรักเจ้าหญิง
ฮิปโปดาเมีย (Hippodamia) แห่งนครปิซา (Pisa) บิดาของ She  ซึ่งก็คือกษัตริย์อีโนมาอัส (Oenomaus)
ขึ้นชื่อในเรื่องความหวงพระธิดามาก ทั้งยังแอบซาดิสต์ด้วย ตานี่จัดแข่งซิ่งรถม้าขึ้น และประกาศว่าจะยกฮิปโปดาเมีย
ให้กับผู้ที่สามารถขับรถม้าได้เร็วกว่าตน ส่วนผู้แพ้จะต้องโดนเจี๋ยนทิ้งโดยไม่มีข้อแม้


มีชายหนุ่มท้าประลองอีโนมาอัสถึง 13 คน แต่ทุกคนก็พ่ายพ่ายแพ้และถูกตัดหัวไปประดับหน้าประตูวัง ทั้งนี้เพราะม้าเทียมรถ
ของอีโนมาอัสมิใช่ม้าธรรมดา แต่เป็นม้าที่อาเรส (Ares) เทพแห่งสงครามประทานให้ พวกมันจึงวิ่งได้เร็วกว่าม้าทั่วไป

อย่างไรก็ดี พีล็อพส์ ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงคนที่ 14 เองก็ไม่น้อยหน้ากว่ากัน เพราะเขาก็มีม้าที่เจ้าสมุทรโพไซดอนประทานมาให้
อีกทั้งยังได้ความช่วยเหลือจากเจ้าหญิงฮิปโปดาเมีย ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะหลงเสน่ห์ของพีล็อพส์หรือเพราะทนความโหดร้าย
ของบิดาตนเองไม่ไหวอีกต่อไป  She จึงไปติดสินบนสารถี (คนขับรถม้า) ของอีโนมาอัสให้ช่วยดึงสลักที่ยึดล้อรถออก
ทำให้พอเลี้ยวรถ อีโนมาอัสก็กระเด็นตกลงมาที่พื้นอย่างแรงจนตาย ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าพีล็อพส์ชนะการแข่งขัน และจึงได้
สมรสกับฮิปโปดาเมียและปกครองนครปิซาต่อจากอีโนมาอัส

ต่อมา พีล็อพส์ได้จัดการแข่งขันกีฬาขึ้นที่ทุ่งโอลิมเปีย (Olympia)เพื่อบูชาซูสและทวยเทพองค์อื่นๆ โดยใช้รูปแบบการแข่งขัน
ตามการแข่งรถม้าที่อีโนมาอัสจัดขึ้น แต่ไม่มีการสังหารผู้แพ้อีกต่อไป




กำเนิดโอลิมปิกตำนานอื่น

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463617-0868.jpeg)

ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ซูสและเฮอร์คิวลิสเป็นผู้บุกเบิกการแข่งโอลิมปิก เกมการแข่งขันครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราชาไอฟีโตส(Iphitos)
แห่งอีลีส(Elis)ได้ยินคำพยาการณ์จากเทพยากรณ์แห่งเดลฟี(Delphi)ว่าความมืดมิดจะเข้าครอบงำเมือง เพโลพอนนีส
(Peloponnese=เมืองทางใต้ของกรีกโบราณ)และนำมาซึ่งโรคระบาดและสงคราม มีเพียงเอาชนะเกมนี้เท่านั้นจึงจะสามารถ
ช่วยภัยพิบัติครั้งนี้ได้

ข้อสัญญาถูกเซ็นขึ้นภายใต้ข้อตกลงระหว่างเมือง อีลีส(Elis) สปาต้า(Sparta)และปีซ่า(Pisa) โดยหนังสือถูกเซ็นที่เมือง
ทางตอนใต้ของกรีซ สัญญานี้ได้กำหนดอาณาเขตรอบโอลิมเปียเป็น"พื้นที่ศักดิ์ที่ห้ามล้วงล้ำ" และถูกกำหนดให้อยู่ในข้อตกลง
ระหว่างแข่งโอลิมปิกด้วย


อย่างที่ทราบกันดีว่าพวกเขาอยู่ภายใต้สงคราม เพราะฉะนั้นการฝึกฝนร่างกายจึงเป็นสิ่งที่ชาวกรีกทำเป็นประจำ และแล้วถึงเวลาที่
พวกเขาต้องแสดงศักยภาพในโอลิมเปีย ทุกเมืองได้รับเชิญให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแข่งขัน โดยเฉพาะเมืองที่ต้องการผ่านไปมาบ่อยๆ
จะได้ผ่านเข้าออกอาณาจักรอย่างอิสระ หนังสือสัญญาโอลิมปิกจึงถูกสร้างขึ้นนับจากนั้น


ทุกๆ4ปีจะมีสาส์นของเมืองอีลีสถูกส่งมาในฤดูใบไม้ผลิ โดยจะตระเวนส่งให้ทั่วทั้งกรีกเพื่อเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมการแข่งขัน 
ในสมัยกรีกโบราณ การเคารพข้อตกลงโอลิมปิก(ข้อตกลงขึ้นอยู่กับผู้จัดโอลิมปิก)ถือเป็นหน้าที่ทางศีลธรรมที่ต้องปฏิบัติตาม
หากผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับบทลงโทษ  ขอบคุณสำหรับคำสัญญา "ไม่รุกราน"(7วันก่อนการแข่งและ7วันหลังจบการแข่ง) นักกีฬา
โปรดออกเดินทางจากเอเธนส์ สปาต้า โครินธ์ รวมไปถึงหมู่เกาะ และอาณานิคมบริเวณตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เพื่อมุ่งหน้าไปยังโอลิมเปีย

แน่นอนว่าการแข่งขันดึงดูดพ่อค้าและจิตรกรมาด้วย สังเกตได้จากเต็นท์ที่พักรอบกองไฟ ที่อยู่ถัดไปจากผู้เข้าชม
(ผู้ที่มีตระกูลสูงศักดิ์จะอยู่ในกระโจมที่พิเศษกว่าคนทั่วไป) ผู้ที่จะได้ตำแหน่งชมการแข่งขันที่ดีกว่าคนทั่วไป ซึ่งกรรมการ
เป็นผู้จัดหาให้นั้นได้แก่ ผู้นำทางศาสนา เศรษฐี และผู้ที่มีอำนาจ ผู้ชมทั่วไปจะได้นั่งชมบนพื้นรอบๆไหล่เขา ซึ่งสามารถ
จุคนได้ราวๆ4หมื่นคนต่อวัน

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-6025.jpeg)

ก่อนหน้าคริสตกาลกว่า 1,000 ปี การแข่งขันกีฬาได้ดำเนินการกันบนยอดเขาโอลิมปัส ในประเทศกรีซ โดยนักกีฬา
จะต้องเปลือยกายเข้าแข่งขัน เพื่อประกวดความสมส่วนของร่างกาย


และยังมีการต่อสู้บางประเภท เช่น กีฬาจำพวกมวยปล้ำ เพื่อพิสูจน์ความแข็งแรง ผู้ชมมีแต่เพียงผู้ชาย ห้ามผู้หญิงเข้าชม
ดังนั้นผู้ชมจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดเขา ครั้นต่อมามีผู้นิยมมากขึ้น สถานที่บนยอดเขาจึงคับแคบเกินไป ไม่เพียงพอที่จุ
ทั้งผู้เล่นและผู้ชมได้ทั้งหมด

ดังนั้น เมื่อ 776 ปีก่อนคริสตกาล ชาวกรีกได้ย้ายที่แข่งขันลงมาที่เชิงเขาโอลิมปัส และได้ปรับปรุงการแข่งขันเสียใหม่ให้ดีขึ้น
โดยให้ผู้เข้าแข่งขันสวมกางเกง พิธีการแข่งขันจัดอย่างเป็นระเบียบเป็นทางการมีการบันทึกการแข่งขันอย่างชัดเจน
มีจักรพรรดิมาเป็นองค์ประธาน อนุญาตให้สตรีเข้าชมการแข่งขันได้ แต่ไม่อนุญาตให้เข้าแข่งขัน

ประเภทกรีฑาที่แข่งขันที่ถือเป็นทางการในครั้งแรกนี้ มี 5 ประเภท คือ วิ่ง, กระโดด, มวยปล้ำ, พุ่งแหลน และขว้างจักร
ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่ง ๆ จะต้องเล่นทั้ง 5 ประเภท โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัล คือ มงกุฎที่ทำด้วยกิ่งไม้มะกอกที่มีชื่อว่า
ช่อลอเรล ซึ่งขึ้นอยู่บนยอดเขาโอลิมปัสนั่นเอง และได้รับเกียรติเดินทางท่องเที่ยวไปทุกรัฐ ในฐานะตัวแทนของพระเจ้า


การแข่งขันได้จัดขึ้น ณ เชิงเขาโอลิมปัส แคว้นอีลิส ที่เดิมเป็นประจำทุกสี่ปี และถือปฏิบัติติดต่อกันมาโดยไม่เว้น เมื่อถึง
กำหนดการแข่งขัน ทุกรัฐจะต้องให้เกียรติ หากว่าขณะนั้นกำลังทำสงครามกันอยู่ จะต้องหยุดพักรบ และมาดูนักกีฬา
ของตนแข่งขัน หลังจากเสร็จจากการแข่งขันแล้ว จึงค่อยกลับไปทำสงครามกันใหม่

ประเภทของการแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างในระยะต่อๆมา โดยมีการพิจารณาและลดประเภทของกรีฑาเรื่อยมา
อย่างไรก็ดีในระยะแรกนี้กรีฑา 5 ประเภทดังกล่าวที่จัดแข่งขันกันในครั้งแรก ได้รับเกียรติให้คงไว้ ซึ่งเรียกกันว่า
เพ็นตาธรอน หรือ ปัญจกรีฑา ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรำลึกถึงกำเนิดของกรีฑา โดยในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการแข่งขันกันอยู่
ซึ่งประเภทของปัญจกรีฑาได้เปลี่ยนไปตามเวลา

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-0738.jpeg)

การแข่งขันได้ดำเนินติดต่อกันมานับเป็นเวลาถึง 1,200 ปี จนมาในปี พ.ศ. 936 (ค.ศ. 393) จักรพรรดิธีโอดอซิดุช
แห่งโรมันได้ทรงประกาศให้ยกเลิกการแข่งขันนั้นเสีย เพราะเกิดมีการว่าจ้างกันเข้ามาเล่นเพื่อหวังรางวัล และผู้เล่น
ปรารถนาสินจ้างมากกว่าการเล่นเพื่อสุขภาพของตน รวมทั้งมีการพนันขันต่อ อันเป็นทางวิบัติซึ่งผิดไปจากวัตถุประสงค์เดิมคือ
ผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายต่างก็อยากได้ช่อลอเรลซึ่งเป็นรางวัลของผู้ชนะ ด้วยเหตุนี้เอง พระองค์จึงสั่งให้ล้มเลิกการแข่งขันนี้เสีย

ตลอดระยะเวลาที่มีการแข่งขันนั้น ได้จัดขึ้น ณ บริเวณที่แห่งเดียว คือ เชิงเขาโอลิมปัส แคว้นอีลิส จึงเรียกการแข่งขัน
ตามชื่อของสถานที่ว่า "การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก"







กีฬาโอลิมปิก (สมัยใหม่)


(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-3964.jpeg)

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (Olympic Games) หรือ โอลิมปิกส์ (Olympics) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายชนิด
จากหลายประเทศทั่วโลกร่วมแข่งขัน โดยจัดขึ้นทุก 4 ปี และมีการแบ่งออกเป็น โอลิมปิกฤดูร้อน และ โอลิมปิกฤดูหนาว
   
รางวัลในกีฬาโอลิมปิก

ในสมัยก่อน รางวัลของการแข่งขันในสมัยโบราณผู้ที่ชนะจะได้รับการสรรเสริญมาก รางวัลที่ให้แก่ผู้ชนะในสมัยนั้น คือ กิ่งไม้มะกอก
ซึ่งตัดมาจากยอดเขาโอลิมปัส อันเป็นที่สิงสถิตของพระเจ้าซีอูซ แล้วทำเป็นวงคล้ายมงกุฎ จักรพรรดิจะเป็นผู้พระราชทานครอบลง
บนศีรษะของผู้ชนะนั้น ๆ พร้อมทั้งได้สร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้ชนรุ่นหลังศึกษาและชื่นชมต่อไป

สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกสมัยปัจจุบันแบ่งรางวัลเป็นสามระดับ คือ เหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ให้แก่ผู้ชนะเลิศ,
ผู้ชนะเลิศที่สอง และที่สามตามลำดับ ส่วนอันดับที่สี่ไปถึงอันดับที่หก จะได้ประกาศนียบัตรการเข้าร่วมการแข่งขัน


คบเพลิงโอลิมปิก

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463442-7663.jpeg)

สมัยก่อน โคมไฟโอลิมปิก เมื่อมีการแข่งขันโอลิมปิกจะมีการจุดไฟกองใหญ่ขึ้นบนยอดเขาโอลิมปัส
เพื่อให้ความสว่างไสว และเพื่อเป็นสัญญาณประกาศให้คนทั่วไปได้ทราบว่า การเฉลิมฉลองได้เริ่มขึ้นแล้ว พิธีการจุดไฟนั้น
เริ่มแรกทำบนยอดเขาโอลิมปัส

โดยใช้แว่นรวมแสงอาทิตย์ไปยังเชื้อเพลิง เมื่อติดไฟแล้ว จึงนำตะเกียงต่อเอาไว้ ไฟกองใหญ่จะคงลุกโชติช่วงต่อไปจนตลอดงานฉลอง
ส่วนตะเกียงนั้นจะมีการวิ่งถือไปทั่วทุกนครรัฐ ด้วยการส่งต่อกันไปเป็นทอด ๆ จากนักวิ่ง คนละ 2 ไมล์

หากผ่านทะเลหรือแม่น้ำก็จะลงเรือข้ามฟากโดยไฟไม่ดับ ไฟนี้ชาวกรีก ถือว่าเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ และความสงบสุขของชาวกรีก
ซึ่งพระเจ้าจะทรงพระพิโรธต่อบุคคลที่ไม่สนใจในกิจการนี้

โอลิมปิกปัจจุบันก็ยังคงรักษาประเพณีเรื่องการจุดไฟไว้ดังเดิมทุกประการ กล่าวคือ ก่อนจะมีการแข่งขันจะมีพิธีจุดไฟ ณ เขาโอลิมปัส
ผู้จุดคือ สาวพรหมจารีย์ผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้ต่อไฟจากแว่นรวมแสงของดวงอาทิตย์ด้วยคบเพลิง และไฟนี้จะถูกแจกจ่ายไปยังประเทศ
สมาชิกทั่วโลก และข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู่ประเทศเจ้าภาพ

และมีการวิ่งถือคบเพลิงส่งต่อกันไปจุดที่กระถางใหญ่บริเวณงานในวันแรกของพิธีเปิดการแข่งขัน ไฟจะต้องไม่ดับตั้งแต่เริ่มจุด
ณ ภูเขาโอลิมปัส จนกว่าจะสิ้นสุดการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนั้นๆ



สัญลักษณ์โอลิมปิก

(http://www.cmxseed.com/cmx_files/server/php/files/1470463443-077.jpeg)

ธงโอลิมปิกมีผืนธงเป็นสีขาวขนาดมาตรฐานยาว 3 เมตร กว้าง 2 เมตร ส่วนเครื่องหมายห้าห่วงคล้องกันอยู่บนกลางธง ขนาด 2 เมตร คูณ 0.60 เมตร
มี สีฟ้า สีเหลือง สีดำ สีเขียว สีแดง ตามลำดับจากซ้ายไปขวา คล้องไขว้กันอยู่ตรงกลางสองแถว แถวบน 3 ห่วง แถวล่าง 2 ห่วง
ห่วงสีที่คล้องกันอยู่ตรงกลางธงบนพื้นธงสีขาว รวมเป็น 6 สี โดยแท้จริงแล้ว ห้าห่วงหมายถึง ห้าส่วนของโลกที่อยู่ในโอบอ้อมของ "โอลิมปิกนิยม"
มิเจาะจงเป็นห้าทวีปในโลกอย่างที่เข้าใจกัน แต่บังเอิญห้าทวีปนี้ก็เป็นห้าส่วนของโลกก็เลยอนุโลมกันไปเช่นนั้น


Advertisement
ส่วนสีที่ห่วง 5 สี มิได้หมายถึงสีประจำทวีป ซึ่งสีทั้งหมด 6 สี รวมทั้งสีขาวที่เป็นพื้นธง หมายความว่า ธงชาติของประเทศต่าง ๆ ในโลก
ประกอบด้วยสีใดสีหนึ่งหรือมากกว่านั้นในจำนวนหกสีนั้น และไม่มีธงชาติของประเทศใดที่มีสีนอกเหนือไปจากหกสีนี้


ด้านล่างของห่วงมีคำอยู่ 3 คำ ซึ่งเป็นภาษาโรมัน แต่ละคำมีความหมายดังต่อไปนี้

Citius (swifter) : ความเร็ว ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องวิ่งให้เร็วที่สุด
Altius (higher) : ความสูง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องทำให้สูงที่สุด
Fortius (stronger) : ความแข็งแรง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องมีความแข็งแกร่งที่สุด




credit ::
http://www.thairath.co.th/content/277770
http://sport.sanook.com/5921/
http://povolam.exteen.com/
snews.in.th/
ชื่อ: Re: กำเนิดกีฬาโอลิมปิก
โดย: happy007 เมื่อ 07 สิงหาคม 2016, 15:59:24
สาระดีมากๆครับ
ชื่อ: Re: กำเนิดกีฬาโอลิมปิก
โดย: spspace เมื่อ 11 กันยายน 2017, 11:43:22
ขอบคุณสาระดีๆ   dsgjsd

ข้อมูล BigBike (http://ablecoinsurancedfw.com/)