(http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD.png)
เสือโคร่ง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87/)
เสือโคร่งเป็นสัตว์ชนิดแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รับประทานเนื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera tigris (Linnaeus) ชนิดที่เจอในประเทศไทยเป็นประเภทย่อย Panthera tigris corbetti (Mazak) จัดอยู่ในวงศ์ Felidae เสือลายพิงกลอน ก็เรียก
ชีววิทยาของเสือโคร่ง
เสือโคร่งเมื่อโตเต็มกำลังมีความยาวลำตัวราว ๒๑๐ ซม. หางยาวราว ๑๐๕ ซม. สูงราว ๙๕ ซม. (วัดจากหัวไหล่) น้ำหนักตัว ๑๐๐-๒๑๐ กิโล ตัวผู้ที่โตเต็มที่บางทีอาจหนักได้ถึง ๓๐๐ กก. มีเล็บคม หลบซ่อนได้ มีเขี้ยวบน ๒ เขี้ยว ข้างล่าง ๒ เขี้ยว หน้าสั้น มีหนวดแข็ง ตากลมโต แวววับ ขมเรียกตัวเป็นเส้นเล็กละเอียด สีเหลืองปนเทา หรือสีเหลืองอมสีน้ำตาลแดง ท้องสีขาว มีแถบลายดำพิงผ่านข้างหลังลงมาข้างๆลำตัวตลอดตั้งแต่หัวถึงปลายหาง หางมีบ้องสีดำสลับเหลือง ปลายหางสีดำ ข้างหลังใบหูมีสีดำ และก็มีจุดสีนวลใหญ่เห็นได้ชัด เสือโคร่งเป็นสัตว์ขี้ร้อน ถูกใจเล่นน้ำหรือแช่น้ำมาก ปีนต้นไม้ได้ อาศัยในป่าได้เกือบทุก สมุนไพร (http://www.disthai.com/) จำพวกที่มีอาหาร น้ำ และก็แหล่งแอบตัวอย่างเพียงพอ อย่างเช่น ถ้ำ หลืบหิน ท่อนไม้ใหญ่ ป่าที่รกทึบ ออกล่าเหยื่อตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนถึงรุ่งอรุณ ของกินที่กินได้แก่ กวาง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87/) เก้ง หมูป่า (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/) วัว (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A7/) ควาย (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2/) แล้วก็สัตว์อื่นๆเสือโคร่งถูกใจอยู่โดดเดี่ยว ยกเว้นตัวเมียที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน เป็นปกติตัวเมียเป็นสัดทุก ๕๐ วัน รวมทั้งเป็นสัดอยู่นาน ๕ วัน ตกลูกครอกละ ๑-๗ ตัว มีท้องนาน ๑๐๕-๑๑๐ วัน เสือโคร่งในธรรมชาติ มีอายุได้ ๒๐-๒๕ ปี เคยมีผู้ทำนองว่า ในประเทศไทยมีเสือโคร่งเหลืออยู่ในธรรมชาติไม่เกิน ๕๐๐ ตัว พบในแนวเขาตะนาวศรี แนวเขาเพชรบูรณ์ เขาใหญ่ รวมทั้งในป่าดิบทางภาคใต้ ในต่างประเทศพบได้ตั้งแต่ในไซบีเรียไปจนกระทั่งทะเลสาบแคสเปียน ในประเทศอินเดียรวมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเกาะสุมาตรา ชวา รวมทั้งเกาะบาหลี เสือโคร่งที่เลี้ยงกันทั่วไปในประเทศไทยเป็นเสือโคร่งเบงกอล อันเป็นเสือโคร่งประเภทย่อย ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera tigris tigris (Linnaeus) พบที่ประเทศอินเดีย เนปาล บังกลาเทศ และก็พม่า จำพวกย่อยนี้ตัวโตกว่าเสือโคร่งชนิดย่อยที่พบในธรรมชาติในไทย
ผลดีทางยา
หมอแผนไทยรู้จักใช้ส่วนต่างๆของเสือโคร่งแทบทุกส่วนเป็นเครื่องยา ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเสือโคร่ง เขี้ยว กระดูก หนัง ดีเสื้อ เอ็นเสือ ตาเสือ ไตเสือ รวมทั้งเนื้อเสือ แม้กระนั้นที่ใช้มากมายมี
๑. น้ำมันเสือ หนังสือเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า น้ำมันเสือมีรสเผ็ด ใช้ต้มผสมกับสุรา กินแก้อาเจียนคลื่นไส้ แก้ผมหงอกก่อนวัย ใน ตำราพระยาพระนารายณ์ มียาขนานหนึ่ง คือขนานที่ ๖๙ ขี้ผึ้งบี้พระเส้น เข้า "น้ำมันเสือ" เป็นเครื่องยาด้วย
๒. เขี้ยวเสือ โบราณว่ามีรสเย็น มีสรรพคุณดับไข้พิษ ไข้รอยดำ แก้พิษร้อน พิษอักเสบ พิษตานซาง เขี้ยวเสือเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในพิกัดยาไทยที่เรียก "นวเขี้ยว" หรือ "เนาวเขี้ยว" ดังเช่น เขี้ยวหมูป่า เขี้ยวหมี เขี้ยวเสือ เขี้ยวแรด เขี้ยวสุนัขป่า เขี้ยวปลาพะยูน เขี้ยวจระเข้ เขี้ยวเลียงผา และก็งา
๓. กระดูกเสือ ตำรายาโบราณว่ามีรสเผ็ดคาว เป็นยาบำรุงกระดูก บำรุงไขข้อรวมทั้งเนื้อหนัง แก้ปวดบวมตามข้อ แก้โรคปวดข้อ เป็นยาระงับประสาท แก้โรคลมเหียน แก้ปวดตามข้อ หัวเข่า กระดูก บำรุงกระเพาะ ยาขนานหนึ่งใน พระตำราไกษย ชื่อ "ยาเนาวหอย" เข้า "กระดูกเสือเผา" เป็นเครื่องยาด้วย
(http://www.xn--[b][u][url=http-zg9b1b90blh://www.disthai.com/%5D%5Bb%5D%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%5B/b%5D%5B/url%5D%5B/u%5D%5B/b%5D.com/wp-content/uploads/2017/09/35405028124_207079804f_o.jpg)
กระดูกเสือในยาจีน
กระดูกเสือเป็นเครื่องยาที่ใช้ในยาจีน หายากและก็ราคาแพงแพง มีชื่อเครื่องยาในภาษาละตินว่า Os Tigris จีนเรียก หูกู่ (แมนดาริน) ได้จากกระดูกแห้ง (ทุกชิ้น) ของเสือโคร่ง Panthera tigris (Linnaeus) ตำราเรียนยาจีนว่า กระดูกเสือมีรสเผ็ด ฤทธิ์อุ่น มีสรรพคุณไล่ "ลม" และก็แก้ปวด จึงใช้รักษาโรคลมจับโปง และก็มีสรรพคุณเพิ่มความแข็งแกร่งของกระดูกแล้วก็กล้มเนื้อ ใช้แก้อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงของกระดูกและก็กล้ามอันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากตับรวมทั้งไต "พร่อง" ขนาดที่ใช้เป็นวันละ ๓-๖ กรัม โดยมักจัดแจงเป็นยาเม็ดลูกกลอน ยาผง แล้วก็ยาดองเหล้า ก่อนนำกระดูกเสือมาใช้เป็นเครื่องยา จำเป็นต้องละเนื้อออกให้หมด ตากให้แห้ง แล้วเลื่อยออกเป็นชิ้นเล็กๆหรือบางทีอาจเอากระดูกชิ้นเล็กๆมาทอดด้วยน้ำมันยากจนแล้วทำให้เย็นก่อนประยุกต์ใช้ เพราะเหตุว่ากระดูกเสือเป็นเครื่องยาหายากและแพงแพง ก็เลยมีของเทียมขายในท้องตลาดมาก โดยมากเป็นกระดูกวัว
๔. นมเสือ ตำราคุณประโยชน์ยาโบราณว่ามีรสมันร้อน มีสรรพคุณบำรุงกำลังแก้หืด ดับพิษร้อน มียาหยอดตาขนานหนึ่งใน พระคัมภีร์ปฐมจินดาร์ เข้า "นมเสือ" เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ ยาหยอดตาสำหรับกัน ขนานนี้ท่านให้เอา นอแรด ๑ นมเสือ ๑ ผลสมอเทศ ๑ รากตำลึงตัวผู้ ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดทำแท่ง ฝนด้วยน้ำค้าง หยอดแก้สารพัดตานทรางทั้งปวงขึ้นตา แล้วจึงแต่งยาชื่อว่าสรรพคุณลิกานั้น สำหรับแก้ตานมิจฉาชีพ เหล่านี้ถัดไป