cmxseed สังคมราตรี

Seed market => Cmxseed Market => หัวข้อที่ตั้งโดย: teareborn เมื่อ 05 ธันวาคม 2017, 11:16:12

ชื่อ: สัตววัตถุ งูเห่า
โดย: teareborn เมื่อ 05 ธันวาคม 2017, 11:16:12
(http://www.xn--[url=http-ui2a7a34agf://www.disthai.com/%5D%5Bb%5D%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%5B/b%5D%5B/url%5D.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%B2.jpg)
งูเห่า (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%B2/)
งูเห่าเป็นงูมีพิษขนาดปานกลางถึงกับขนาดใหญ่
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Naja naja kaouthia Lesson
มีชื่อสามัญว่า Thai cobra หรือ common cobra หรือ Siamwse cobra
จัดอยู่ในวงศ์ Elapidae งูเห่าหม้อ หรือ งูเห่าไทยก็เรียก
งูเห่าไทยที่โตสุดกำลังมีความยาวราว ๑๓๐ ซม. วัดขนาดผ่านศูนย์กลางของลำตัวราว ๕ ซม. มีลวดลายสีสันไม่เหมือนกันออกไปในแต่ละตัว สีที่พบได้มากคือสีเทนดำ  นอกนั้นอาจมีสีน้ำตาลเข้ม เขียวหมอง หรืออมเขียว มักมีสีเดียวกันตลอดทั้งลำตัว ลวดลายบนตัวมีความมากมายหลายมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นลวดลายที่คอหรือ "ดอกจัน"งูเห่าไทยที่พบได้ทั่วไปมีดอกจันเป็นวงกลมวงเดียว จึงมีชื่อเรียกในภาษษอังกฤษว่า monocellate cobra  บางจำพวกมีดอกจันวงกเงินลมตัดกัน ๒ วงเหมือนแว่น เรียกงูเห่าแว่น  บางประเภทมีดอกจันรูโป้ปดอกส้านหรือลายตาอ้อย เรียกงูเห่าดอกส้าน  บางประเภทมีลายดอกจันเป็นรูปอานม้า ก็เรียกงูเห่าอานม้า งูเห่าพ้นพิษ งูเห่าอีกกลุ่มหนึ่ง เรียกงูเห่าพ้นพิษ (spitting  cobra) ที่พบในประเทศไทยมี ๓ ประเภท  ตัวอย่างเช่น
๑.งูเห่าด่างพ่นพิษ (black and white spitting cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja naja siamensis Nutphand
ชนิดย่อยนี้มีลักษณะเหมือนงูเห่าไทย  แม้กระนั้นขนาดเล็กกว่า  ลำตัวยาวราว ๘๐  ซม.  คล่องแคล่ว  ปราดเปรี่ยว  และดุกว่างูเห่าไทย  พ่นพิษได้ไกลราว ๒ เมตร  ลำตัวมีสีไม่แน่นอน  สีด่างถึงขาว  ดอกจันรูปตัวยู (U)  ในภาษาอังกฤษ  บางที่เรียก  งูเห่าขี้เรื้อน  มักพบในภาคตะวันตกรวมทั้งตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองไทย  อาทิเช่นที่จังหวัดกาญจนบุรี  จังหวัดอ่างทอง  จังหวัดสุพรรณบุรี  รวมทั้งตาก  นอกนั้นยังอาจเจอทางภาคตะวันออกด้วย  ดังเช่นว่า  จันทบุรี  ชลบุรี  งูที่เจอรอบๆนี้มักไม่มีลายด่างขาว
๒.งูเห่าทองคำพ่นพิษ (going  spitting  cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja naja sumatranus Var
งูประเภทย่อยนี้มีลำตัวยาวราว  ๙๐  เซนติเมตร  มีสีเหลืองปลอดหมดทั้งตัว  บางตัวอาจมีสีเหลืองอมเขียว  ไม่มีลายสีอื่นๆ ไม่มีดอกจันบนหลังคอแล้วก็ท้องสีขาว  ภาคใต้พูดได้ว่างูเห่าปลวก  งูชนิดนี้มีน้ย  เจอเฉพาะทางภาคใต้ของประเทศไทย  เป็นต้นว่าที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  สุราษฎร์ธานี  พัทลุง  แล้วก็สตูล
๓.งูเห่าอีสานพ่นพิษ (isan  spitting  cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja naja isanensis (Nutphand)
งูชนิดย่อยนี้ลำตัวเล็กมากยิ่งกว่าประเภทย่อยอื่นๆ ยาวราว ๖๐-๗๐ เซนติเมตร  ดุ  ว่องไว  ปราดเปรี่ยว  พ่นพิษเก่งมากมาย  มีสีเขียวอมเทา  เขียวอมน้ำตาล  หรือเขียวหม่นทั้งตัว  ไม่มีลายเด่นชัด  มักไม่มีดอกจัน  แต่บางตัวอาจมีดอกจันรูปตัวยู(U) ในภาษาอังกฤษแจ่มกระจ่างกว่างูเห่าด่างพ่นพิษ  พบได้มากทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย  บางถิ่นเรียก งูเห่าเป่าตา
งูเห่าอีกชนิดหนึ่ง  พบได้ทั่วไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี  ชนิดนี้ลำตัวมีสีนวลและไม่มีดอกจัน เรียกงูเห่าสีนวล
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Naja  kaouthia  suphandensis (Nutphand)
(http://www.xn--[b][i][-4uw1a0q3b8a2ar6f2exftj/i%5D%5B/b%5D.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%94-1.jpg)
ผลดีทางยา
สมุนไพร (http://www.disthai.com/) หมอแผนไทยรู้จักใช้คราบงูเห่า กระดูกงูเห่า ดีงูเห่า และน้ำมันงูเห่า นอกนั้นหมอตามชนบทยังใช้งูเห่าตลอดตัวปิ้งไฟจนกระทั่งแห้งกรอบ  ดองเหล้ารับประทานแก้ปวดเมื่อย  แก้ปวดหลัง  และแก้ผอมเกร็งในสตรีหลังคลอดบุตร  และใช้หัวงูเห่าสุมไฟให้เป็นถ่าน  ปรุงเป็นยาแก้ชาชักในเด็ก  ลดหุ่น  ว่ามีรสเย็นและเมา
๑.คราบเปื้อนงูเห่า  เป็นคราบที่งูเห่าลอกทิ้งเอาไว้ ในพระหนังสือปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่งที่เข้า "คราบงูเห่า" เป็นเครื่องยาด้วย  ดังต่อไปนี้ ภาคหนึ่งยาทาตัวกุมาร   กันสรรพโรคทั้งมวล  แลจะเจ็บป่วยอภิฆาฎดีแล้ว  โอปักกะมิกาพาธดีแล้ว ท่าน ให้เอาใบมะขวิด คราบเปื้อนงูเห่า หอมแดง สาบแร้งสาบกา ขนเม่น ไพลดำ ไพลเหลือง บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำนมโค  ทาตัวกุมาร  ชำระความไม่บริสุทธิ์โทษทั้งผองดีนัก
๒.กระดูกงูเห่า  มีรสเมา  ร้อน  แก้พิษเลือดลม  แก้จุกเสียด  แก้ษนัย  แก้เมื่อย  แก้ชางตานขโมย  รวมทั้งปรุงเป็นยาแก้แผลเนื้อร้ายต่างๆ ในพระหนังสือจินดาร์ให้ยาอีกขนานหนึ่งเข้า "กระดูกงูเห่า"  เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ ยาใช้ภายนอกท้องแก้ท้องเฟ้อ   ขนานนี้ท่านให้เอาใบหนาด ๑ ใบคนทีสอ (http://www.disthai.com/16536669/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%AD) ๑ ใบลูกประคำไก่ ๑ ใบผักเค็ด ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในสะบ้ามอญ ๑ มดยอบ ๑ กำยานผี ๑ ตรีกะฎุก ๑ สานส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ บอแร็ก ๑ กระชาย (http://www.disthai.com/16484907/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B3) ๑ กระทือ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD/)ไพล (http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5) ๑ หอม ๑ กระเทียม (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1/)ขมิ้นอ้อย (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/) ๑ กระดูกงูงูเหลือม ๑ กระดูกงูเห่า ๑ กระดูกห่าน ๑ กระดูกแกงเลียงหน้าผา ๑ มหาหิงคุ์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%8C/) ๑ ยาดำ (http://www.disthai.com/16488295/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B3) ๑ รงทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้  ทำเปนจูณ  บดทำแท่ง  ละลายน้ำมะกรูดทาท้อง  แก้ท้องรุ้งกินน้ำท้องมาร  แก้มาเกลื่อนกลาดระไษยลม  แก้ไส้พองเอาเท่าเทียมกัน  ท้องใหญ่  ท้องเฟ้อท้องเขียว  อุจจาระฉี่มิออก  ลมทักขิณคุณ  ลมประวาตคุณ  หายสิ้น
๓.ดีงูเห่า มีรสขม  ร้อน  ผสมยาหยอดตาแก้ตาฝ้า  ตาพร่า  ตาแฉะ  ตาต้อ  และก็บดเป็นกระสายยาช่วยทำให้ฤทธิ์ยาแล่นเร็ว  ในพระคัมภีร์ปฐมจินดาร์  ให้ยาขนานหนึ่งเข้า "ดีงูเห่า (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%B2/)"  เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ ยาชื่ออินทรบรรจบคู่กัน  ขนานนี้ท่านให้เอาชะมด (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%94/)พิมเสน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99/) ๑ จันทน์ทั้งคู่๑ กฤษณา (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2/) ๑ กระลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ ว่านกลีบแรด (http://www.disthai.com/16488305/%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%94) ๑ ว่านร่อนทองคำ ๑ ผลมะขามป้อม (http://www.disthai.com/16488243/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1) ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กระเทียม ๑ ดีงูเหลือม (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1/) ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง  เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนแดง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เทียนบัวหลวง ๑ ผลจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/) ๑ ดอกจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/)กานพลู (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/) ๑ กระวาน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99/) ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รวมยา ๒๓ สิ่งนี้  ทำเปนจุณ  แล้วจึงเอา ดีงูเห่า ๑ ดีจระเข้ ๑ ดีตะพาบน้ำ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/) ๑ ดีปลาช่อน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/) ๑ ดีปลาไหล ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง  แช่เอาน้ำเปนกระสาย  บดปั้นแท่งไว้  ละลายน้ำดอกไม้กิน  แก้หมดหนทาง  ถ้าเกิดมิฟัง  ละลายสุรารับประทานแก้สรรพตาลทรางทั้งปวง  แลแก้ชักเท้ากำมือกำ  หายดีนัก
๔.น้ำมันงูเห่า  เตรียมได้โดยการเอาเปลวมันในตัวงูเห่าใส่ขวด ผึ่งแดดจัดๆ จนเปลวมันละลาย  ใส่เกลือไว้ก้นขวดเล็กน้อยเพื่อกันเหม็นเน่า  ในตำราพระโอสถ  พระนารายณ์มียาขี้ผึ้งขนานหนึ่งว่า "น้ำมันงูเห่า" เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ สีปากบี้พระเส้น  ให้เอาชะมดทั้ง ๒ ไพล พิมเสน โกฏเชียง  กรุงเฉมา  ดีงูเหลือม  จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา  กระลำพัก สิ่งละเฟื้อง  โกฏสอ โกฏเฉมา โกฏจุลาลำภา  โกฏกัตรา  โกฏสิงคี (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B5/)  โกฏหัวบัว (http://www.disthai.com/16488288/%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7)  มัชะกิยวาณี  กระวาน  กานพลู  ลูกจันทน์  ดอกจันทน์  เทียนดำ  เทียนขาว พริกหอม พริกหาง พริกล่อน  ดีปลี (http://www.disthai.com/16488287/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5) ลูกกราย  ฝิ่น (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9D%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99/)  สีปาก สิ่งละสลึง  กะเทียม  หอมแดง  ขมิ้นอ้อย  ๒ สลึง  ทำเป็นจุณ  ละลายน้ำมะนาว ๑๐ ใบ  น้ำมันงาทนาน ๑  น้ำมันหมูหลิ่ง น้ำมันเสือ น้ำมันไอ้เข้  น้ำมันงูเห่า น้ำมันงูเหลือม  พอเหมาะ  หุงให้อาจจะแม้กระนั้นน้ำมัน  จึงเอาชันรำโรง ชันย้อย ชันระนัง ใส่ลงพอเหมาะ  กวนไปดีแล้วก็เลยเอาทาแพรทาผ้ามอบให้ ทรงปิดไว้ ที่พระเส้นอันแข็งนั้นหย่อน