(http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/wp-content/uploads/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87.png)
น้ำขิง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87)
ขิงเป็นสมุนไพร รวมทั้งเครื่องเทศที่ช่วยชาติไทยจีนแล้วก็ประเทศอินเดียรู้จักใช้มาตั้งแต่โบราณ หนังสือเรียนสรรพคุณโบราณของไทยว่าขิงสด มีรสหวานเผ็ดร้อน
มีสรรพคุณ แก้เจ็บท้อง บำรุงธาตุ ขับลมในไส้ให้ผายรวมทั้งเรอ โดยเหตุนี้น้ำขิงนอกเหนือจากการที่จะช่วยละลายยาให้กินยาง่ายแล้ว ยังช่วยแต่งรถให้น่าลิ้มลองเพิ่มขึ้นทั้งมีสรรพคุณทางยาซึ่งสามารถเสริมฤทธิ์ตัวยา ในยาขนานนั้นได้อีกด้วย ทิ้งที่ประยุกต์ใช้เตรียมน้ำขิง สำหรับทำเป็นกระสายยานั้น มักใช้ขิงแก่สดสูตรเอาเปลือกนอกออก ล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆต้มกับน้ำตามต้องการส่วนขิงที่นำมาใช้เป็นเครื่องเทศนิยมใช้อีกทั้งสดรวมทั้งแห้งทั้งหินอ่อนรวมทั้งขิงแก่โดยมักใช้ขิงที่ยังอ่อนอยู่ ทำอาหารที่ไม่อยากรสเผ็ดมากมาย โบราณว่าขิงแห้งมีรสหวานเผ็ดร้อนมีคุณประโยชน์แก้ไข้แก้ลมแก้จุกเสียดแก้เสลดบำรุงธาตุแก้คลื่นเห*ยน อ้วก สวนหินสดมีรสหวานเผ็ดร้อนมีสรรพคุณแก้เจ็บท้องบำรุงธาตุ ขับลมในลําไส้ให้ผายลมแล้วก็เรอ
สมุนไพร (http://www.disthai.com/) ยาขณะที่ ๕๓ ในหนังสือเรียนพระยาพระนารายณ์ชื่อ "มหากระทัศใหญ่" ที่ใช้แก้ลมทุกประเภทนั้น ให้ใช้น้ำผึ้ง น้ำขิง น้ำส้มซ่า หรือน้ำกระเทียม เป็นน้ำกระสายยาก็ได้ แล้วแต่หมอผู้วางยาจะยักน้ำกระสายให้ต้องโรคจำต้องอาการ ดังต่อไปนี้ "มหากทัศใหญ่" ให้เอาโกฏสอเทศ เทียน ๕ รากเจตมูลไฟ ผลกระวาน ใบกระวาน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99/) ผลอันใหญ่ สะค้าน (http://www.disthai.com/16488299/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99) เปลือกสมุลแว้ง ขิงแห้ง ว่านน้ำ (http://www.disthai.com/16488304/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3) พริกล่อน รากไคร้เครือ บอแร็ก ลูกจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/) ดอกจันทน์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/) เกลือบก สิ่งละส่วน การะบูร กานพลู (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/) เทียนตาตั๊กแตน เทียนเกล็ดหอย สหัสคุณก็ได้ เปล้าน้อยก็ได้ สิ่งละ ๘ส่วน ดีปลี ๒๐ ส่วน ปฏิบัติเป็นผุยผง ละลายน้ำผึ้ง น้ำขิงน้ำส้มส้า น้ำกระเทียมก็ได้ รับประทานหนักสลึงหนึ่ง แก้ลมปัตฆาฏ ลมอัมพาต ลมราทยักษ์ หากลมนั้นเบากำลังยานั้นก็จะให้ร้อนถึงปลายมือปลายตีน บรรดาลมทั้งสิ้นแก้ได้หายสิ้นแลฯ
ขิง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87/)มีชื่อเรียกในภาษาสันสกฤตว่า srigavere ซึ่งแผลงเป็น zingiber เมื่อทำให้เป็นภาษาละตินเพื่อตั้งเป็นชื่อสกุลรวมทั้งชื่อตระกูล ตามหลักสากลสำหรับเพื่อการตั้งชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ ฝรั่งเรียกว่าขิง ginger ดังที่เรียกกันในภาษาแขก ผู้รู้ทางภาษาหลายๆคนสันนิศฐานว่า คำ "ขิง" ในภาษาไทย ก็น่าจะมีที่มาจากภาษาแขกนี้เอง แต่เรียกให้สั้นลง
ขิง เป็นเหง้าของพืชขนาดเล็กที่มี
ชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Zingiber officnale Roscoe
ในตระกูล Zingoberaceae
เป็นพืชอายุนับเป็นเวลาหลายปี สูง ๓๐-๙๐เซนว่ากล่าวเมตนมีเหง้าที่มีกาบใบบางๆหุ้มห่อ เปลือกสีน้ำตาลปนเหลือง เนื้อเหง้ามีสีนวล มีกลิ่นเฉพาะ เป็นใบเลี้ยงผู้เดียว ออกสลับกัน รูปขอบขนานปนรูปใบหอก ปลายใบแหลม ขอบของใบเรียบ ขนาดกว้าง ๑-๓ ซม. ยาว ๑๐-๒๕ซม. ดอกออกเป็นช่อ ช่อดอกแทงขึ้นโดยตรงจากเหง้า ก้านช่อดอกยาว๑๐-๒๐ ซม. มีใบปนะดับ สีเขียวอ่อน ดอกย่อย ไม่มีก้าน ดอกมีสีเหลือง ปลายกลีบเป็นสีม่วงแดง ผลได้ผลสำเร็จแห้ง มี๓ พู
(http://www.xn--[b][url=http-fz0btb76agg://www.disthai.com/%5D%5Bb%5D%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%5B/b%5D%5B/url%5D%5B/b%5D.com/wp-content/uploads/2017/06/0001.jpg)
ขิงมีองค์ประกอบเป็นชันน้ำมัน (oleoresin)อยู่ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ขิงมีรสเผ็ดและก็ มีกลิ่นหอมยวนใจ ถ้าหากสกัดชันน้ำมันนี้ ด้วยตัวทำละลาย บางประเภทจะได้ชันน้ำมันที่เกือบบริสุทธิ์ซึ่งมีลักษณะข้นเหนียว สีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นฉุนรวมทั้งรสเผ็ดร้อน มีชื่อเรียกด้านการค้าว่า "จินเจอริน" (gingerin) มีสารในกลุ่มจินพบรอล ( gingerol) โชโกล (shogaol) รวมทั้ง ชิงเจอโรน (zingerone) เป็นหลัก ชันน้ำมันที่เตรัยมใหม่ๆจะมีจินพบคอยล ดังเช่น 3-6-gingerol,8-gingerol,10-gingerol,12-gingerol เป็นหลัก แม้กระนั้นถ้าเกิดทิ้งเอาไว้นานๆจะมีโชโกลเป็นตัวหลัก ทั้งโชโกลและซิงเจอโรนไม่ใช่สารสินค้าธรรมชาติที่พบในขิง แต่ว่าเป็นสารที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีในระหว่างการสกัดด้วยตัวทำละลาย สารทั้งสองนี้มีรสเผ็ดร้อนกว่าจินพบรอล เพราะฉะนั้น จินพบรินที่ดีจะต้องมีสารทั้งสองชนิดนี้ในจำนวนที่ต่ำที่สุด ขิงมีน้ำมันระเหยง่ายราวปริมาณร้อยละ ๑-๓ ปริมาณนี้จะขึ้นกับแนวทางปลูกและขณะที่เก็บเกี่ยว ในน้ำมันระเหยง่ายมีสารสำคัญหลายอย่าง ดังเช่นว่า (-)-b-sesquiphillandrene , E,E-a-farnesene , (-)-zingiberene , (+)-ar-curcumene ซึ่งมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อบัคเตรีที่ส่งผลให้เกิดหนอง ขับลม กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะและก็ลำไส้ ปัจจุบันมีการใช้สารสกัดจากขิง ซึ่งหนสารส่วนประกอบหลักเป็นอนุพันธ์ของ 4-hydroxy-3-methoxyphenyl อาทิเช่น ซิงเจอโรน จินพบร์ไดออล (gingerdiol) จินเจอร์ไดโอน (gingerdione) จินพบรอคอยล โชโกล เป็นยาบรรเทาอาการอ้วกคลื่นไส้ รวมทั้งทุเลาลักษณะของการปวดเพราะข้อเสื่อม อีกทั้งอาจช่วยลดการอักเสบรวมทั้งบวมของข้อ