(http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2.png)
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2/)มะม่วย[/url]
มะม่วย Gnetum latifolium Bl. Var. funiculare (Bl.) Markgraf
บางถิ่นเรียก มะม่วย (สุรินทร์) มะหน่วย กะรูวะ (มลายู-จังหวัดนราธิวาส)
ไม้เถา เนื้อแข็ง กิ่งเป็นข้อต่อกันรวมทั้งตามข้อจะบวมพอง ใบ ลำพัง เรียงเป็นคู่สลับตั้งฉาก ใบรูปขอบขนานปนรี รูปขอบขนานแกมรูปใบหอก กว้าง 5-5.5 ซม. ยาว 13-16 เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่งสั้นๆโคนใบสอบแคบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนามัน เส้นใบเป็นแบบขนโค้ง เมื่อแห้งใบจะมีสีน้ำตาล มองเห็นเส้นกิ้งก้านใบแน่ชัดก้านใบยาวราวๆ 1 เซนติเมตร ดอก ออกเป็นช่อตามลำต้น ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ช่อดอกแตกเป็นหลายแขนง สมุนไพร (http://www.disthai.com/) ดอกเรียงเป็นชั้นๆรอบศูนย์กลาง ช่อดอกเพศผู้ ยาว 2-5 ซม. มีปริมาณดอก 30-50 แต่ละชั้นมี 6-8 ดอก แต่ละดอกมีกาบรอง 2 อัน ที่เชื่อมชิดกันเป็นกระจัง มีแผ่นใบสร้างอับสปอร์เพศผู้ ยาว 3 มม. และก็มีอับสปอร์เพศผู้ติดต่อ 2 อัน ช่อดอกเพศเมีย ยาว 5-8 เซนติเมตร แต่ละชั้นดอก 6-9 ดอก ดอกยาวราวๆ 4 มิลลิเมตร ปลายดอกเรียวแหลมแล้วก็ชี้ขึ้น ผล รูปกลมรี หรือ รูปไข่ กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 1.5-2.5 เซนติเมตร เมื่อสุกสีแดง หรือ สีส้มคล้ำ ก้านผลเรียว ยาว 0.5-2 ซม. เม็ดแข็ง มีเนื้อห่อหุ้มอยู่ข้างนอก
นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นในป่าดิบ ป่าพรุ ที่ราบลุ่มถึงความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 300 ม. เจอทั่วทุกภาคของประเทศ (มีดอกและก็ผลระหว่างเดือน เดือนกันยายน-เดือนกรกฎาคม)
คุณประโยชน์ : ต้น น้ำยางจากเปลือกต้นเป็นพิษ ใช้ทาลูกศรแต่พิษไม่รุนแรงนัก เม็ด กินได้เมื่อทำให้สุก