uyt ประกาศยุบวง จากแดน-บีม uyt
26 ตุลาคม 2550 07:41 น.
"แดน-บีม" น้ำตาซึมประกาศยุบวง เผยสาเหตุเป็นความต้องการของบริษัทที่อยากให้ศึกษาต่อ และได้ทำในสิ่งที่รักและเป็นตัวเองจริงๆ ยันไม่มีการแตกคอตามที่ข่าวลือ
โด่งดังมาจากการรวมตัว3 คน ระหว่าง "แดน" วรเวช ดานุวงศ์ "บีม" กวี ตันจรารักษ์ และ "บิ๊ก" ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ ในฐานะวง "ดีทูบี" กระทั่งเหลือสมาชิกเพียง 2 คน ด้วยสาเหตุ บิ๊ก หนึ่งในสมาชิกเกิดประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ จนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ต้องปิดฉากชื่อ "ดีทูบี" และใช้ชื่อวงใหม่ "แดน-บีม" นั้น ล่าสุดก็ได้มีข่าวว่าทั้งคู่ตัดสินใจยุบวง "แดน-บีม" ท่ามกลางกระแสข่าวลือถึงการแตกคอกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เวลาประมาณ 11.30 น. บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ต้นสังกัด ได้จัดแถลงข่าวขึ้น ณ ห้องแถลงข่าว ตึกเชษฐโชติศักดิ์ 3 ชั้น 7 ประกอบไปด้วย นายวรเวช ดานุวงศ์ หรือ "แดน" นายกวี ตันจรารักษ์ หรือ "บีม" นายอนุชา อรรจนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการมิวสิค คอนเทนท์ อะบอริจินซ์ โดยนายอนุชาได้เริ่มต้นกล่าวถึงสาเหตุของการยุบตัวของทั้งคู่ในครั้งนี้
"ในส่วนตัวของผม ไม่ว่าจะเป็น ดีทูบี หรือ แดน-บีม นี่คือลูกที่ผมตัดสายสะดือ ผมอยากเห็นลูกเจริญเติบโตไปตามทางที่ควรจะเป็น ทั้งดีทูบีและแดน-บีม ต่างก็ได้รับความนิยมสูงมากจริงๆ แต่เมื่อน้องโต ก็เริ่มมีความแตกต่างกันมากขึ้น มีแนวทาง ความมุ่งมั่นของตัวเอง ทั้งเรื่องงาน การศึกษา เลยมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ ว่าควรจะทำยังไงกับแดน-บีมต่อไป เราคิดอยู่แล้ว ว่ามันต้องถึงวันนี้ เพียงแค่รอวันที่เหมาะสม" นายอนุชา กล่าว
นายอนุชายังบอกด้วยว่า สำหรับตนแล้ว แดน-บีม เป็นคู่ดูโอสูงสุด เหนือความคาดหมาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทำงานที่สูงสุดแล้ว ก็ไม่อยากให้เกิดข่าวว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน หรือวงแตก ไม่อยากให้ความนิยมของทั้งคู่น้อยลง รวมทั้งเรื่องการศึกษา ที่บริษัทอยากส่งเสริมเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา ตนได้เห็นความมุ่งมั่นของทั้งคู่เรื่องการเรียน
"เวลาแดนร้องเพลง บีมก็จะเอาหนังสือไปอ่าน พยายามจะจัดเวลาให้เขาเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ด้วยความนิยมของทั้งคู่ ทำให้เขาจัดเวลายาก ผมไม่อยากให้เขาเหมือนกับบิ๊กที่พักผ่อนน้อยจนเกิดผลพวงตามมา ตอนนี้แดนก็หาเวลาไปเรียน สิ่งที่เขาชอบได้แล้ว คือด้านออดิโอ เอ็นจิเนียร์ ส่วนบีมก็กำลังเรียนปริญญาโท มาถึงวันนี้ ก็ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะมากที่จะให้น้องเดินทางไปในสิ่งที่ตัวเองชอบ ตอนนี้เราจะหยุดให้เขาได้มองหาแนวทางของตัวเองมากขึ้น ก็จะขอยุบแดน-บีมแค่ตรงนี้ คอนเสิร์ต "แดน-บีม ฟรีดอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ ไลฟ์ อิน คอนเสิร์ต" จะเป็นการรวมตัวครั้งสุดท้ายของพวกเขา" ผู้บริหารอาร์เอส กล่าว
สำหรับกระแสที่ว่าทั้งคู่หมดสัญญากับทางบริษัทต้นสังกัดนั้น นายอนุชา กล่าวว่า ความจริงสัญญาของแดน ยังเหลืออีกเกือบปี ส่วนของบีม ยังเหลืออีก 2 ปี ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงคุยกันเรื่องต่อสัญญา แต่ทั้งนี้ ด้วยความที่ทั้งคู่มีงานมาก เลยทำให้ยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างจริงจัง
"ส่วนแผนการงานของน้องๆ ในปีหน้า ผมก็คิดไว้ว่าสองคนน่าจะทำงานออกมาแบบไหน แต่ช่วงเวลาจะเมื่อไร ยังตอบไม่ได้ จากนี้อยากให้เขาได้ใช้เวลาเรียนให้มากขึ้น สำหรับงานที่จะเป็นตัวของเขาเอง ก็ต้องมีความละเอียดมากขึ้น คงต้องใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง เพื่อที่แฟนๆ ของพวกเขาจะได้ไม่ผิดหวัง" นายอนุชา กล่าว
ด้านนายวรเวชได้กล่าวว่า ทราบเรื่องว่าจะยุบแดน-บีม เมื่อสองวันที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ก็เชื่อในการตัดสินใจของบริษัท ส่วนข่าวที่ว่าทั้งคู่แยกตัว เพราะแตกคอกัน มีเรื่องชกต่อยในห้องอัดนั้น ไม่เป็นความจริง เหตุผลหลักๆ คือ บริษัทเห็นว่าภาพของพวกตน น่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว อยากจะให้ทุกคนจดจำแดน-บีม ณ วันนี้ที่คนยังรักอยู่ ไม่อยากรอให้ทุกอย่างขาลงแล้วมาประกาศ ทั้งนี้ก็ยอมรับการตัดสินใจของบริษัท ที่ผ่านมาทำงานด้วยกันก็มีความสุข
"เมื่อวันนี้บริษัทตัดสินใจ ว่าเราควรจบแดน-บีมที่ตรงนี้ เราก็แล้วแต่บริษัท เรื่องทะเลาะกันไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องการลงไม้ลงมือ ทะเลาะกันในห้องอัด ไม่เป็นจริงอย่างที่ข่าวลงเลย เรื่องกินแรงมันไม่ใช่ ทุกครั้งที่ขึ้นคอนเสิร์ตก็เหนื่อยร่วมกัน หรือถ้าผมแต่งเพลง พี่บีมไม่ได้แต่ง ผมก็ได้เงินของผม เรื่องกินแรง น้อยใจ ผมว่ามันไม่ใช่ ส่วนเรื่องเรียนของผม ผมเชื่อว่าคนเราต้องมีของเรา ต้องหาของใส่ตัวเรา สิ่งที่ผมเรียน คือจะนำมาใช้ในงานของผม คงไม่ผิดที่ผมจะพักงานไปเพื่อศึกษาต่อ และนำสิ่งใหม่มาทำงาน เพราะตอนนี้ของผมจะหมดแล้ว ก็ขอไปเติมก่อน" นายวรเวช กล่าว
ถามว่าทำไมถึงไม่เลือกที่จะเรียนด้วยทำงานไปด้วย นายวรเวชบอกว่า ถ้าให้เรียนไปทำงานไป เชื่อว่าก็คงจะไม่ได้ดีสักอย่าง จากนี้ไป งานก็ยังคงมีอยู่ แต่จะลดปริมาณลง ส่วนข่าวที่ว่าจะย้ายค่ายไปอยู่โซนี่ หรือแกรมมี่นั้น พูดตรงๆ ว่ามีหลายค่ายที่ติดต่อมา ไม่เฉพาะค่ายเพลงเท่านั้น ยังมีค่ายละคร และอื่นๆ แต่ก็อยู่ในขั้นตอนของการแค่พูดคุย ยังไม่ได้รับปากกับใคร ถ้าจะไปจริง คงได้เห็นภาพการแถลงข่าวแบบนี้อีก
"ถ้าถึงวันที่ผมจะไปอยู่ไหน ผมจะตอบ ผมว่าอนาคตจะเป็นยังไง ค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้ผมอยากทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน ตอนนี้ผมยังมีความสุขดีกับที่อาร์เอสและทีมงาน ผมอยากฝากถึงแฟนเพลงดีทูบีทุกคน วันนี้ความผูกพันทั้งหมดยังคงอยู่เหมือนเดิม กำลังใจที่ทุกคนให้มา เรารับรู้หมด ที่ผ่านมา เรามีกระแสเยอะมาก ทั้งชมทั้งว่า แต่เราก็ทำงานอย่างเต็มที่ เท่าที่จะทำได้ ผมอยากจะบอกว่า รักแฟนเพลงทุกคนของผมมาก ผมไม่รู้จะเห็นแฟนเพลงของเราอีกเมื่อไร วันที่เรากลับมา จะยังรักเราเหมือนเดิมไหม แต่ตอนนี้เรารักทุกคนเหมือนเดิม และไม่โกรธถ้าใครจะไม่รักเราแล้ว" แดน กล่าวน้ำตาซึม
ส่วนนายกวีกล่าวว่า ตัวเขาสามารถเรียนปริญญาโทควบคู่ไปกับการทำงานได้ ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องสัญญานั้นยังคงเหลืออีก 2 ปี แต่จะต่อหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุย เพราะถือว่าเกิดจากบริษัท อาร์เอส และยังมีความสุขกับการทำงานกับต้นสังกัดเดิม เลยอยากขอทำงานไปเรื่อยๆ ก่อน
"ผมรู้สึกเสียใจมากๆ ที่ต้องบอกว่า ข่าวลือที่ว่าเราจะแยกวง มันเป็นจริงแล้ว ต่อไปนี้คงยากที่เราสองคนจะมาร่วมงานกัน ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน จะมีโอกาสอีกไหม ผมขอโทษทุกคน ที่อยากเห็นเราอยู่ด้วยกันตลอด แต่บางทีคนเราก็มีเรื่องต้องทำ ต้องรับผิดชอบ เมื่อวันนั้นมาถึง ทุกคนก็ต้องแยก ตอนนี้เราเหลืองานคู่กันงานเดียว คือคอนเสิร์ต ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ทุกคนมาเจอกัน และมันคงเป็นสิ่งที่ผมจะจำไปตลอดชีวิตการทำงานเลย" บีม กล่าวน้ำคลอเบ้า
ทั้งคู่เผยว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้บอก "บิ๊ก" ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ ให้ทราบ ด้วยเป็นเรื่องฉุกละหุก แต่ภายหลังคอนเสิร์ต "แดน-บีม ฟรีดอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ ไลฟ์ อิน คอนเสิร์ต" ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นั้น จะเดินทางไปบอกเพื่อนร่วมวงที่เป็นเจ้าชายนิทราอยู่ให้ทราบต่อไป
ด้านนายอุดม กิตติกรเจริญ บิดาของนักร้อง บิ๊ก ดีทูบี กล่าวว่า รู้สึกเสียดายที่แดน-บีม แยกวง ถือว่าเป็นการปิดตำนาน ดีทูบี ด้วย ทั้งนี้เชื่อว่า ข้อขัดแย้งของทั้งสองคนคงไม่มีแน่นอน บีมคงอยากไปเรียนต่อ คงอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ที่ผ่านมา ความรู้สึกลึกๆ ของเขาอาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไปบ้าง
"อย่างบีมเขาเคยบอกผม ว่าเขาอยากเรียนทางด้านวิศวะ อีกข้อหนึ่งคือเรื่องสัญญา รู้สึกว่าบีมเขาจะหมดสัญญากับบริษัท อาร์เอส อีก 2 ปี เขาคงอยากจะขอมีเวลาส่วนตัวจริงๆ คือช่วงนี้เราไม่ได้คุยกับเขาเท่าไร เขาเองก็ไม่ได้มาบอกผมเรื่องที่จะแยกวง แต่บีมเคยบอกผมเวลามาเยี่ยมบิ๊ก ว่าอยากไปเรียนต่อ อยากเรียนให้สูงที่สุด บีมเขามีความเป็นผู้ใหญ่ ผมก็บอกเขาไปว่าเรียนไปเถอะ วันข้างหน้าเราต้องเผชิญอะไรอีกยาว พวกเขาเกิดจาก 3 คน ดีทูบี เมื่อวันหนึ่งเขาอยากมีเวลาส่วนตัว เขาเลยอยากขอเวลาคืนบ้าง" นายอุดม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าเรื่องแยกวงของนักร้องชื่อดังนั้น จะนำไปกระซิบบอกกับลูกชาย "บิ๊ก" หรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่นำไปบอกกับลูกชาย เพราะต้องการให้เพื่อนทั้ง 2 คน ของลูกชายมากระซิบด้วยตัวเอง
"ผมว่ารอให้เขาคุยกันเอง ว่าจะไม่มีวงแล้วนะ แยกวงแล้ว ยุบวงแล้วนะ ปิดตำนานไปแล้วนะ คือ แดนกับบีม เดี๋ยวเขาก็ต้องมาหาบิ๊กในวันเกิด 2 ธันวาคมนี้ ฉะนั้นให้เขาบอกกันเองดีกว่า วันหนึ่งถ้าบิ๊กเขานั่งได้ พวกเขา 3 คนก็อาจจะมารวมตัวกันอีกก็ได้ ในส่วนของแฟนคลับ ยังไม่มาที่บ้าน แต่คิดว่าถ้าทราบข่าว ก็คงจะมาสอบถามที่บ้าน" นายอุดม กล่าว
อ้ะ ไม่เชื่ออ่ะดิ เอาปาย เอาปายดูกาน
http://video.mthai.com/Flash_player/player.swf?idMovie=14M1193299294M960'
แต่งงตรงที่ว่า ปากก็บอกกันว่าเสียใจ....เสียใจที่แยกวง ถ้ามันเสียใจ แล้วมานจะแยกกันทำไมฟระ เง้อ....ธุรกิจ ยังไงก็ต้องเป็นธุรกิจวันยังค่ำ workz
ยุบไปได้ก็ดี ??? กรูเลียดพวกเมิง >:D (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพระบายความในใจ)
>:( ทุกคนย่อมมีวิถี เป็นของตัวเอง... ศิลปิน ดารา นักร้อง มันก็อาชีพหนึ่ง ที่มีขึ้น ย่อมมีลง zad
หากเขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร ก็ปล่อยๆ เขาไปเถอะครับ โตๆ กันแล้ว
ดีกว่าแยกวงตอนที่หมดความนิยมแล้ว อย่างที่ บริษัทเขามอง ไว้นะแหละ
แต่ไม่นานหรอก แต่ล่ะคนยังขายได้ สัญญาก็ยังเหลือ RS ซะอย่าง ???