[STORY] หลานสาวทีเด็ด!
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734161442-2105.jpeg)
ความสนิทสนม ความใกล้ชิด ความเห็นอกเห็นใจ ตลอดจนบรรยากาศที่อำนวยให้ ทำให้คนเรา
ลืมตัวได้อย่างแน่นอนครับ ผมกล้าพูดอย่างนี้ เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวผมและหลานสาวมาแล้ว
ฟังดูมันอาจจะแสลงศิลธรรมและจริยธรรมไปสักหน่อยแต่ขอให้นึกถึงความจริงของชีวิตเถอะครับ
ว่าไม่มีใครจะหลีกหนีพ้นหรอกถ้ายังมีเลือดเนื้อและอารณ์ข้อ สำคัญก็คือสิ่งแวดล้อมเป็นใจด้วย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่ของ 2 ปีก่อน หลานสาวผมโทรมาชวนผมไปเที่ยวที่บ้างของเธอ
ที่อำเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ และบอกว่าขอให้ไปให้ได้เพราะเตรียมการต้อนรับเต็มที่ทั้งอาหารการกิน
และที่ พัก พอดีปีใหม่คราวนั้นผมยังไม่มีโปรแกรมที่ไหนนอกจากกินเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าที่บริษัท
ในเย็นวันที่ 30 ผมจึงตอบรับ หลานสาวของผมอายุน้อยกว่าผมประมาณ 5-6 ปีเท่านั้น
เธอเป็นลูกสาวของญาติที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม จึงเรียกผมว่า "น้า" เราสนิทสนมกันมาก
เพราะเธอถูกฝากให้มาพักอยู่กับครอบครัวของผมเพื่อเรียน หนังสือตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ตอนกลางค่ำ
กลางคืนเธอมักจะเข้ามาทำการบ้านมั่งอ่านหนังสือมั่ง ในห้องนอนของผม และง่วงหลับไปเลยก็มีบ่อยๆ
ซึ่งผมก็ปล่อยให้เธอนอนบนเตียงเดียวกับผม จนกระทั่งเธอเริ่มเป็นสาวจึงไม่นอนค้างในห้องผม
แต่ก็ชอบเข้ามาคลุกคลีในห้อง ผมเสมอๆ รวมทั้งโอบกอดผมอย่างสนิทชิดเชื้อเสมอ
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734161673-4652.jpeg)
"แหม่ม" เป็นเด็กที่เรียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง กว่าจะจบชั้นมัธยมได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ แล้วก็ไม่ได้
เรียนต่ออีก เธอเข้าทำงานเป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ทำได้เพียงครึ่งปี
ก็ได้สามีเป็นเซลส์แมนที่มาติดต่อกับห้างแห่งนั้นเป็น ประจำ แหม่มจึงย้ายจากบ้านผมที่บางซื่อ
ไปอยู่กับสามีแถวพระโขนง แล้วต่อมาสามีของเธอได้พาไปอยู่ที่บุรีรัมย์ ประกอบการค้าส่วนตัว
แล้วค่ำวันที่ 31 ผมก็ได้พบกับแหม่ม หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ 3 ปี "คิดถึงน้าจังเลย"
เธอบอกแล้วถลาเข้ามากอดผมอย่างดีอกดีใจ "น้าก็คิดถึงแหม่ม..." ผมตอบเบาๆ กอดเธอแค่หลวมๆ
เพราะเดี๋ยวนี้เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว วัย21-22ปีเป็นสาวเด็มตัว และมีสามีแล้วด้วย
"มาพักพับแหม่มหลายๆวันนะคะ แหม่มเหงาจะตายอยู่แล้วเดี๋ยวนี้" เธอบอกผมระหว่างกินข้าวด้วยกัน
ที่ร้านอาหารชานเมือง "ทำไมเรอะ?" ผมถาม พลางจิบเหล้าบางๆไปด้วย แกล้มกับอาหารอีสานรสแซ่บ
"ก็ผัวแหม่มน่ะซีคะ ไม่ยอมให้แหม่มออกทำงาน ให้อยู่เป็นแม่บ้านเฉยๆแต่ตัวเขาเองทำงาน
จนไม่มีเวลาว่างเลยเดี๋ยวนี้ข้ามไป ค้าขายถึงลาวโน่น ไปทีเป็นอาทิตย์ๆ กว่าจะกลับมาบ้าน
กลับมาแค่วันสองวันก็เผ่นเข้ากรุงเทพ สั่งของที่จะส่งไปลาว โอ๊ย แหม่มละก็เซ็งชีวิตจะแย่
อยู่แล้ว...ถึงคิดถึงน้ามากไงคะ เลยโทรไปชวนมาเที่ยวฉลองปีใหม่กับแหม่ม"
ผมฟังแล้วเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะดูเธอหงอยๆเหงาๆ บ้านที่อยู่ก็เป็นตึกแถว 3 ชั้น ข้างล่าง
กับชั้นที่2 ทำเป็นโกดังเก็บสินค้า ห้องนอนอยู่บนชั้น3 เธออยู่กับเด็กรับใช้ผู้หญิงอีกคนเดียวเท่านั้น
จึงต้องเหงาเป็นธรรมดา
ประมาณ3ทุ่มกว่า เราก็อิ่มอาหาร แหม่มถามว่าอยากไปเที่ยวบาร์-คลับหรือเปล่า ผมรีบปฎิเสธ
เพราะเบื่อคนแน่น และบอกว่าอยากคุยกับเธอให้สมกับที่ไม่เจอกัน 2-3 ปี แล้วมากกว่า
คืนนั้นเราอยุ่กันเพียง 2 คนเพราะแหม่นอนุญาตให้เด็กรับใช้กลับบ้านไปฉลองปีใหม่ เราจึงอาบน้ำ
อาบท่าแล้วสวมชุดนอนคุยกันอยู่ในห้องที่แหม่มจัดให้ผมพัก
คุยไปคุยมาเราก็เอนร่างนอนเคียงกันบนเตียงเหมือนเมื่อครั้งแหม่มยังเป็น เด็กๆ อยู่บ้านผมที่บางซื่อ
แต่ตอนนี้เธอโตแล้วครับ แถมเนื้อตัวในชุดนอนยังอวบอิ่มและขาวขึ้นมาก เพราะส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน
จนราศีเถ้าแก่เนี้ยจับผุดผ่อง ผมชักรู้สึกยังไงๆ ขึ้นมาพิกล เมื่อเห็นความอวบขาวและสวยของเธอ
แล้วผมก็ใจหายวาบ เมื่อแหม่มพลิกตัวมากกอดผมไว้ แล้วบอกว่า
"อยากกลับไปเป็นเด็กๆจังเลยจะได้นอนกอดน้าทั้งคืน"
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734161697-3217.jpeg)
ผมเผลอตัวกอดตอบ แล้วไม่รู้ว่าฤทธิ์เมา หรือฤทธิ์ความใคร่ทำให้ผมกอดตอบและจูบหน้าผากเธอแผ่วๆ
แล้วจึงเลื่อนมาจูบปิดปากเธอ แหม่มคงแปลกใจ..จ้องตาผมเป๋งเลย แต่ก็ดูดปากกับผมโดยไม่บ่ายเบี่ยง
เมื่อผมสอดลิ้นเข้าปากเธอก็เล่นลิ้นด้วย แถมพลิกตัวขึ้นทาบทับบนร่างผมอีก เราจึงบดปากกันอย่างเนิ่นนาน
และเอร็ดอร่อยซ่านเสียว
บอกตรงๆ ว่า ผมไม่เคยดูดปากแหม่มมาก่อน นอกจากกอดและหอมแก้มตามปกติธรรมดาของ น้าหลานสาว
แต่คราวนี้เราต่างเป็นหนุ่มสาวเต็มตัวแล้ว การกอดจูบด้วยปากและลิ้นจึงเป็นสื่อความใคร่อย่างแท้จริง
ผมเริ่มลูบไล้ไปตามแขน และแผ่นหลังของแหม่มซึ่งสวมชุดนอนเนื้อบางๆลื่นๆ เธอเองก็จูบไซ้ไปตามใบหน้า
และซอกคอของผม ลมหายใจของเธอรุ่มร้อนจนผมรู้สึกผ่าวๆที่ผิว