คุณหญิงเอลก้า (Countess Elga)
รูปภาพสีน้ำมันกระหายเลือด
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734083141-4859.jpeg)
วันที่ 10 มิ.ย. ปี 1909 บนหน้าหนังสือพิมพ์เวียนนาที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น
"Neues Wiener Journal" ได้ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็ก ๆ จำนวนหนึ่ง
ที่มากกว่าอัตราเฉลี่ยในบริเวณเทือกเขาคาร์เพเทียน (ภูเขาทอดยาว 1,500 ไมล์
ครอบคลุมพื้นที่ของสาธารณะรัฐเช็ค และโรมาเนีย) โดยระบุว่าเป็นฝีมือของแวมไพร์
โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของ เคาน์เคสเอลก้า (Countess Elga) หรือ "คุณหญิงเอลก้า"
ในหนังสือพิมพ์ได้ตีพิมพ์คำบอกเล่าของ "ฟรานซ์ ฮาร์ทแมน" ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากปราสาท
ของคุณหญิงเอลก้าว่าได้รับการบอกเล่าจากคู่สามีภรรยาสูงอายุที่อาศัยอยู่ใกล้กับปราสาทว่า
ได้ยินเสียง "แปลก ๆ" เกิดขึ้นบ่อยในตอนกลางคืนจากห้องโถงที่ปล่อยทิ้งให้รกร้าง
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734083133-1397.jpeg)
เรื่องราวที่ถูกปะติดปะต่อได้คือ เคาน์ผู้เคยเป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้เป็นพ่อม่าย และมีลูกสาว
รูปงามสุดที่รักคนหนึ่ง น่าเสียดายที่เธอเสียชีวิตจากการตกลงจากหลังม้า ไม่นานหลังจากนั้น
ท่านเคาน์ชราก็เสียชีวิตอย่างลึกลับตามไปด้วย ร่างของพวกเขาถูกนำไปฝังเอาไว้ในสุสาน
อันโดดเดี่ยวของหมู่บ้านใกล้เคียง
ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขาเสียชีวิต กลับพบการเสียชีวิตที่แสนผิดปกติในหมู่ชาวบ้าน เด็กและ
ผู้ใหญ่หลายคนเสียชีวิตโดยที่ไม่มีอาการป่วยเหมือนแค่จากไปเฉย ๆ ทำให้เกิดข่าวลือว่าเคาน์ชรา
ได้กลายมาเป็นแวมไพร์หลังจากเสียชีวิต เหตุผลที่หลายคนเชื่อแบบนั้นเป็นเพราะเขาเป็นพวก
ติดเหล้าและยังมีข่าวลือที่น่าตกใจเกี่ยวกับความประพฤติของเขาที่มีต่อลูกสาว แต่ก็ไม่มีใคร
ทราบความจริงที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ทรัพย์สินที่ไร้ผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการของเคาน์ชราก็ได้กลายเป็นของตระกูล
แต่เจ้าของใหม่ก็ไม่ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่เพียงแค่สั่งคนให้มาดูแลรักษาปราสาทให้คงอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
วันหนึ่งมีแขกหนุ่มสองคนมาเยี่ยมเยือนปราสาท คนหนึ่งเป็นทนายอีกคนเป็นนักวรรณกรรม
พวกเขาเดินสำรวจในปราสาทที่เกือบจะว่างเปล่าเพราะสิ่งของส่วนใหญ่ถูกนำออกไปขาย
จนหมดแล้ว จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับภาพวาดสีน้ำมันของหญิงสาวเก่า ๆ ที่ทนายหนุ่ม
อ้างว่าได้เห็นมันกะพริบตาและยิ้ม
(https://www.cnxseed.com/cmx_files/server/php/files/1734083230-0716.jpeg)
คืนนั้นเอง พวกเขาได้วางแหวนลงบนโต๊ะ ก่อนที่มันจะขยับเองอย่างน่าอัศจรรย์พร้อมกับสะกด
คำว่า "เอลก้า" เมื่อถามผู้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็ต้องแปลกใจว่าผู้หญิงในภาพวาดที่
พวกเขาพบคือคุณหญิงเอลก้า!?
จิตวิญญาณของคุณหญิงเอลก้าได้แสดงออกมาต่อหน้าผู้เขียนข่าว รวมไปถึงทำให้เกิดประสบการณ์
ที่ไม่สามารถอธิบายได้กับคนดูแลในปราสาท เมื่อขอให้ตำรวจมาทำการสืบสวนปรากฏว่าเจ้าหน้าที่
ไม่พบอะไรนอกจากรถม้าสีดำที่มายืนรออยู่ก่อนแล้วราวกับกำลังรอผู้มาเยือน
ไม่นานนักหลังจากที่ข่าวเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ ประชาชนที่หวาดกลัวได้ทำการ
เผาปราสาทหลังนี้จนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน แต่.. สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ จำนวนของผู้เสียชีวิต
ในหมู่เด็ก ๆ ที่เคยสูงก็พลันหยุดลงด้วยเช่นกัน!?