หมูแฮม เจ้าเก่าอีกแล้ว-ควบเก๋งชนรถ ปอ.
โดย ข่าวสด วัน ศุกร์ ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.
หมูแฮม"อีกแล้วขับเก๋งชนกับรถปอ. บนถนนลาดพร้าว แต่คราวนี้ไม่มีเหตุรุนแรงเพราะเจ้าตัวนั่งนิ่งตัวแข็งอยู่ในรถ จนตร.ต้องมาช่วยขับพาไปโรงพัก ก่อนติดต่อพ่อมาเจรจายอมรับ ผิดชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณี โชเฟอร์รถปอ.เผยขับรถมาตามเลนซ้ายอยู่ดีๆ รถเก๋งของคู่กรณีก็เปลี่ยนเลน เข้ามาชนดื้อๆ แล้วไม่ยอมลงมาเจรจาจนต้องแจ้งตร.มาจัดการ เผย"หมูแฮม"ซึ่งเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เพิ่งถูกอัยการสั่งฟ้อง 3 ข้อหาหนักทั้งฆ่า พยายามฆ่า และทำร้ายร่างกาย หลังขับรถเบนซ์เฉี่ยวกับรถปอ.แล้วใช้ก้อนหินทุบหัวโชเฟอร์คู่กรณีบาดเจ็บ ก่อนขับรถพุ่งเข้าชนกลุ่มคนบนฟุตปาธ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก หลังเกิดเหตุนั่งตัวเกร็ง-มือหงิกในรถ ครอบครัวอ้างมีอาการไม่ปกติ
ปอ.สาย 545 คันที่เฉี่ยวชนกับรถเก๋งของหมูแฮม
บนถนนใกล้ปากซอยลาดพร้าว 55/2เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ร.ต.ท.ธนวินทร์ บัวหลวง ร้อยเวรสอบสวน สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนบริเวณถนนลาดพร้าว ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 55/2 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถประจำทางปรับอากาศสาย 545 สีขาวคาดน้ำเงิน หมายเลขข้างรถ 126-4 วิ่งระหว่างนนทบุรี-สำโรง จอดอยู่เลนซ้ายสุด มีรอยถูกเฉี่ยวเป็นทางยาว 1 เมตร ที่ท้ายรถใกล้ล้อหลังขวา ส่วนคู่กรณีเป็นรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 9ธ-7617 กทม. มีรอยชนที่หน้ารถฝั่งซ้าย
ตำรวจพบเพียงคนขับรถปอ.ยืนรออยู่ ขณะที่คนขับรถเก๋งพบว่านั่งอยู่ในรถที่ติดฟิล์มสีดำมืด โดยไม่ยอมลงมาเจรจากับคู่กรณี ตำรวจตัดสินใจเคาะกระจกเรียกแต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงเปิดประตูพบว่าคนขับคือนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 21 ปี หรือหมูแฮม ลูกชายนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ นักธุรกิจและนางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทย ที่เคยเป็นข่าวใหญ่ขับรถเบนซ์เฉี่ยวกับรถประจำทาง แล้วทำร้ายคู่กรณีหัวแตก จากนั้นขับรถพุ่งชนคนบนฟุตปาธเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2550 ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจาณาในชั้นศาล โดยนายกัณฑ์พิทักษ์มีอาการตกตะลึงนั่งตัวแข็งไม่พูดจา เหมือนอยู่ในอาการช็อก
เจ้าหน้าที่จึงให้ส.ต.อ.คฤโฆษ เยี่ยงกาย ผบ.หมู่ จร.สน.โชคชัย เข้าไปนำตัวออกมาและให้ไปนั่งบริเวณเบาะด้านซ้าย ก่อนที่ส.ต.อ.คฤโฆษจะขับรถเก๋งไปที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร บก.น.4 บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เนื่องจากรถทั้งคู่จอดกีดขวางการจราจร ทำให้รถติดเป็นระยะทางยาว เมื่อมาถึงศูนย์ฯ นายกัณฑ์พิทักษ์ก็ยังไม่ยอมพูดจาใดๆ อ้างแต่ว่ารู้จักนายตำรวจผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงพาตัวเข้าไปนอนพัก สงบสติอารมณ์ก่อน
ด้านโชเฟอร์รถปอ.ให้การว่าขับรถจากต้นทาง จ.นนทบุรี มุ่งหน้าไปสำโรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งขับอยู่เลนซ้ายมาดีๆ ปรากฏว่ารถเก๋งคู่กรณีจู่ๆก็ขับเปลี่ยนเลนเข้ามาชนดื้อๆ จึงจอดรถลงมาดูความเสียหายและจะเจรจา แต่คนในรถไม่ยอมเปิดประตู จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนผ่านไปเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายกัณฑ์พิทักษ์เริ่มมีอาการดีขึ้น ให้เบอร์โทร.ติดต่อทางบิดาเพื่อให้มาเจรจากับคู่กรณี ต่อมานายกัณฑ์เอนกเดินทางมาเจรจากับคนขับรถปอ. โดยนายกัณฑ์เอนกยอมรับผิดและจ่ายค่าซ่อมรถให้คู่กรณีเป็นเงิน 2,000 บาท ก่อนรีบพาตัวบุตรชายกลับไปโดยไม่ยอมพูดจาใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับนายกัณฑ์พิทักษ์เพิ่งถูกอัยการจังหวัดพระโขนงสั่งฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกาย ฆ่าคนตายและพยายามฆ่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้อง หาสารภาพเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย จากเหตุการณ์ที่นายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนกับรถปรับอากาศร่วมบริการสีน้ำเงิน-ขาว สาย ปอ.513 บริเวณถนนสุขุมวิท แล้วใช้ก้อนหินทำร้ายนายสถาพร อรุณศิริ โชเฟอร์รถปอ.ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนรอรถบนฟุตปาธริมถนน เป็นเหตุให้นางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงินขสมก.เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังก่อเหตุนั่งตัวแข็งมีอาการเกร็ง มือหงิกอยู่ในรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2550
หลังเกิดเหตุมีความวุ่นวายตามมาเมื่อนายกัณฑ์เอนกบิดาออกมาโวยวายและพูดจาไม่เหมาะสม จนถูกพนักงานขสมก.ก่อม็อบประท้วง จนต้องออกมาขอโทษ ขณะที่นางสาวิณี มารดาเดินสายเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยฝ่ายครอบครัวพยายามอ้างว่านายกัณฑ์พิทักษ์มีอาการผิดปกติทางจิต เข้ารักษาตัวในร.พ.มาแล้ว จึงอาจจะก่อเหตุไปโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดตำรวจและอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องใน 3 ข้อหาฉกรรจ์ดังกล่าว
เซงมันจริงเว้ยไม่รู้จักเข็ดเลยหรือไงวะ โกรธ
jljhl น่ารักจริง .,mn