ดร็อกแฮตทริก!สิงห์รัว6-0ทะยานฝูง
"สิงห์บูล" เชลซี ทะยานรั้งจ่าฝูงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตั้งแต่นัดแรกที่ลงเล่น หลังจากที่เปิดรังไล่ถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน น้องใหม่ 6-0
ดิดิเยร์ ดร็อกบา เหมาแฮตทริก ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 6 - 0 เวสต์บรอมวิช
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เกมระหว่าง "แชมป์เก่า" กับ"น้องใหม่" ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซีได้ปีเตอร์ เช็คที่เจ็บน่องฟิตสมบูรณ์กลับมาเฝ้าตาข่ายแม้ไม่ได้ลงเล่นในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ที่ปราชัยต่อแมนฯ ยูไนเต็ด
พร้อมกันนี้ อเล็กซ์เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กับดิดิเยร์ ดร็อกบากองหน้าก็ฟิตเปรี๊ยะลงบู๊ได้ทั้งคู่ ส่วนยอสซี่ เบนายูนยังนั่งสำรอง ขณะที่รามิเรซสมาชิกใหม่อีกรายยังไม่มีส่วนร่วม
ด้านเวสต์บรอมวิชที่มีโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโออดีตขุนพลสิงห์บลูส์คุมทัพสามารถใช้งานเกรแฮม ดอร์แรนส์กองกลางทีมชาติสก็อตแลนด์ที่ชวดเกมพ่ายสวีเดนเมื่อกลางสัปดาห์ได้หลังฟื้นจากอาการเดี้ยงที่ขาหนีบ แต่นิคกี้ ชอรี่ปราการหลังตัวใหม่ยังนั่งอยู่ในซุ้ม
เชลซีได้เริ่มเขี่ยบอล และหาโอกาสทักทายผู้มาเยือนก่อนในนาทีที่ 4 จากจังหวะส่องระยะ 23 หลาของนิโกล่าส์ อเนลก้า แต่สก็อตต์ คาร์สันรับเข้าซองได้
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 6 แฟนสิงห์บลูส์ก็ได้ไชโยกันอยู่ดีเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลหลังปาโบล อิบานเยซทำฟาวล์ฟลอร็องต์ มาลูด้า ดร็อกบาจึงปรี่เข้าซัลโวถูกคาร์สันทุบออกมา แม้จอห์น โอบี มิเกลจะตามไปซ้ำแล้วโดนนายทวารเวสต์บรอมวิชปัดได้ แต่สุดท้ายมาลูด้าเข้าเก็บตกเผาขนไม่เหลือพาทีมเมืองกรุงทะยานนำ1-0
อย่างไรก็ดี น้องใหม่ยังไม่เสียขวัญ เปิดเกมสู้ทันที และในนาทีที่ 10 ดอร์แรนส์ก็ลองตะบันมาจากริมเขตโทษด้านซ้ายแฉลบขาจอห์น เทอร์รี่เกือบเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่เช็คขยับไปปัดหลุดกรอบได้อย่างเฉียดฉิว
ผ่านมาถึงนาทีที่ 19 กองเชียร์เจ้าบ้านก็มีหนาวเมื่อโรมัน เบ็ดนาร์สบโอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดจาก 18 หลาผ่านเช็คเสียบมุมงดงาม แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปซะก่อน
พอถูกหยาม เชลซีก็เดินหน้าอีกรอบ และเกือบเพิ่มสกอร์ได้ในนาทีที่ 22 จากลูกเข่นหน้าเขตโทษของแฟร้งค์ แลมพาร์ดที่แฉลบเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วมาลูด้าตามไปยิงยัดไส้ แต่คาร์สันล้มตัวปัดได้หวุดหวิด
โดยรวมแล้ว เกมของเดอะ แบ็คกีส์ไม่ได้แย่ไปกว่าแชมป์เก่าเลย แต่เกือบเสียประตูเพิ่มในนาทีที่ 37 เมื่อแลมพาร์ดไหลบอลจากแถวสองให้มาลูด้าทะลุไปกดระยะ 14 หลาชนเสา แต่ก็เป็นลูกล้ำหน้าอยู่ดี
ถัดมาอีกสามนาที เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลอีกครั้งจากการทำฟาวล์ใส่ดร็อกบาของกาเบรียล ทามาส คราวนี้แลมพาร์ดรับอาสากระหน่ำถูกคาร์สันปัดออกมาแล้วมาลูด้าเจ้าเก่าตามไปโขกซ้ำโด่งไปนิดเดียวเท่านั้น
กระนั้นก็ดี นาทีที่ 45 เวสต์บรอมวิชก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยุสซูฟ มาลุมบ้า ทำเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษทางด้านขวาอีกจากการปะทะใส่มิชาเอลเอสเซียง และเป็นดร็อกบาวิ่งเข้าตะบันจาก 30 หลาส่งบอลฝ่ากำแพงเข้าตุงตาข่ายเสาแรกสุดที่คาร์สันจะตามมาปัดได้ทัน จบครึ่งแรกสิงห์บลูส์จึงนำหน้า 2-0
ครึ่งหลังเชลซีเน้นคุมจังหวะ ทำให้เวสต์บรอมวิชได้บุกมากขึ้น และนาทีที่ 53 เอสเซียงก็ไปปะทะใส่มาเร็ค เช็คล้มจากด้านหลังจึงเสียลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่ดอร์แรนส์ซัดไปตกหลังคา
และแล้วอีกสองนาที สิงโตลอนดอนก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาโดยเทอร์รี่ขวิดไปที่เสาไกลถูกมูลุมบูสกัดออกจากเส้นประตู แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี ดร็อกบาได้ซ้ำหกหลาพาเชลซีหนีเป็น 3-0
เขี่ยบอลกันใหม่ เปาโล แฟร์ไรร่าก็โดนจดชื่อเมื่อเข้าเสียบคู่แข่งจากด้านหลังทำให้โดนเปลี่ยนออกทันทีโดยมีบรานิสลาฟ อิวาโนวิชได้ลงมาแทน
กระนั้นนาทีที่ 63 อเนลก้าก็ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้แอชลีย์ โคลตบมาหน้าประตู แล้วแลมพาร์ดแปเข้าเสาแรกจาก 14 หลานิ่มๆให้เชลซีนำขาด 4-0 ก่อนที่แลมพาร์ดจะถูกถอดออกให้เบนายูนลงไปแทน
นาทีที่ 67 ทีมเยือนใช้งานสองตัวสำรองทั้งอิสมาเอล มิลเลอร์กับไซม่อน ค็อกซ์ที่ได้เล่นแทนเบ็ดนาร์กับดอร์แรนส์ แต่นาทีต่อมาก็โดนดีจากดร็อกบาที่มีช่องตะบันจากริมเขตโทษด้านซ้ายถูกศีรษะของทามาสตุงตาข่ายที่เสาแรก แต่มีการยกให้เป็นแฮททริคของหอกผิวสีที่พาเชลซีนำเพิ่มเป็น 5-0
นาทีที่ 70 เจ้าถิ่นเปลี่ยนซาโลมง กาลูลงไปแทนดร็อกบา กระทั่งนาทีที่ 84 เวสต์บรอมวิชก็ส่งไจลส์ บาร์นส์ลงเล่นแทนเจโรม โธมัส
จากนั้นอีกสองนาที น้องใหม่ก็บุกขึ้นมาดีโดยคริส บรันท์มีโอกาสกระทุ้งจากหน้าเขตโทษเต็มข้อ แต่ยังไม่เป็นประตูตีไข่แตกถูกอเล็กซ์โขกพ้นคานได้
จวบจนนาทีที่ 90 แฟนเมืองหลวงก็ได้กรี๊ดกันอีกเมื่ออเนลก้าชิพบอลเข้าเขตโทษให้มาลูด้าหลุดเดี่ยวไปแตะหลบคาร์สันก่อนจะซัดจากแปดหลาชนเสาเข้าประตู จบเกมสิง์บลูส์จึงประเดิมชัยขยี้น้องใหม่ยับ 6-0 ผงาดเป็นจ่าฝูงตั้งแต่หัววันพร้อมทำให้เดอะ แบ็คกี้ส์รั้งอันดับบ๊วย
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , เปาโล แฟร์เรยร่า (บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น.60), จอห์น เทอร์รี่, อเล็กซ์, แอชลี่ย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด (ยอสซี่ เบนายูน น.64) , นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (ซาโลมง กาลู น.70), ฟลอร็องต์ มาลูด้า
สำรองไม่ได้ใช้ : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ (ผู้รักษาประตู), ยูริ ชีร์คอฟ, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, แพทริค ฟาน อันโฮลท์
เวสต์บรอมฯ : สก็อตต์ คาร์สัน , กอนซาโล่ จาร่า, กาเบรียล ทามาส, ปาโบล อิบานเญซ, มาเร็ค เช็ก, ยุสซูฟ มูลัมบู, คริส บรันท์ , เจมส์ มอร์ริสัน, เกรแฮม ดอร์แรนส์ (อิสห์มาเอล มิลเลอร์ น.67), เจอโรม โธมัส (ไจลส์ บาร์นส์ น.84), โรมัน เบ็ดนาร์ (ไซมอน ค็อกซ์ น.67)
สำรองไม่ได้ใช้ : โบซ มายฮิลล์ (ผู้รักษาประตู), นิคกี้ ชอรี่ย์ , โยนาส โอลส์สัน, สตีเว่น รีด
สรุปผลฟุตอบลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สเปอร์ส เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0
แอสตัน วิลล่า ชนะ เวสต์แฮม 3-0
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
โบลตัน เสมอ ฟูแล่ม 0-0
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ เบอร์มิงแฮม 2-2
วีแกน แพ้ แบล็คพูล 0-4
วูล์ฟส์ ชนะ สโต๊ค 2-1
เชลซี ชนะ เวสต์บรอมวิช 6-0
ทีมนี้ ทำไมเก่งจัง.......
แชมป์พรีเมียร์อีกสมัยอีกล่ะมั๊ง...
คอมมูนิตี้ชิล เจอทีมเก่ง ยิงไม่ได้ คงเก็บกดน่าดู มาลงกับทีมไม่มีทางสู้ เค้าเรียกรังแกคนอื่นแอครับ แบบนี้ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ไม่ไว้หน้ากันบ้าง เห็นว่าเก่งกว่าแล้วข่มเอา ๆ ไม่ใช่วิสัยลูกผู้ชายครับ kick