เมเจอร์ฯ เตรียมเปิดโรงหนัง 100 บาท หลังถูกโซเชียลเน็ทเวิร์ครวมตัวต้าน
(http://pics.manager.co.th/Images/554000007811601.JPEG)
เมเจอร์ฯ เตรียมผุดโรงหนังราคาถูกตั๋ว 100 บาท พร้อมสั่งคุมเวลาโฆษณาหลังถูกกลุ่มโซเชี่ยล เน็ทเวิร์ค
รวมตัวแฉสารพัดถูกเอาเปรียบ แจงหากใครรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้คุยกับผู้จัดการแต่ละสาขาได้เลย
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจไม่น้อยต่อการรวมตัวกันของเหล่าโซเชี่ยล เน็ทเวิร์ค ผ่านเฟซบุ๊คภายใต้ชื่อแฟนเพจ
เครือข่ายคนรักหนังต่อต้านการโฆษณามหาโหดของโรงหนังเครือเมเจอร์ ซึ่งถึงขณะนี้มีสมาชิกรวมกันเกือบจะ 2 หมื่นเข้าไปแล้ว
โดยจุดประสงค์หลักของการรวมตัวกันของเครือข่ายที่ว่าจากการเปิดเผยของผู้ที่ที่ทำแฟนเพจดังกล่าวขึ้นมาก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็น
ถึงความเอาเปรียบและความไม่เป็นธรรมที่ผู้บริโภคได้รับจากการไปใช้บริการจากโรงภาพยนตร์ในเครือภาพยนตร์เมเจอร์
ทั้งในเรื่องของราคาค่าตั๋ว, ค่าเครื่องดื่มที่แพงกว่าปกติ รวมไปถึงการฉายโฆษณาที่กินเวลากว่าครึ่งชั่วโมง
ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางเครือข่ายยังได้ทำจดหมายเปิดผนึกไปถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อีกด้วย
กับประเด็นดังกล่าว ล่าสุดทางด้านของนาย วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด
ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 80% ในธุรกิจโรงหนัง (ตัวเลขเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล) ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว
โดยเปิดเผยว่าทางเมเจอร์ได้เตรียมที่จะเปิดโรงภาพยนตร์ที่จำหน่ายตั๋วราคา 100 บาท ในปี 2555 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
และเพื่อครอบคลุมในแต่ละเซ็กเม้นท์เทชั่น ทั้งนี้จะมีคัดเลือกจากโลเกชั่นเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการเปิดในโลเกชั่นใหม่กับโครงการใหม่
ของไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งบิ๊กซีและเทสโก้ โลตัส ที่อยู่ย่านชานเมือง
"เรารับฟังเสียงผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา และพยายามแก้ไข ที่ผ่านมาเราเป็นผู้นำในการทำ Movie Day คือลดราคาในทุกวันพุธ
รวมถึง Student Day ด้วย ส่วนในเรื่องของราคาตั๋ว เราเป็นรายแรกที่ไม่คิดระบบ Flat Rate ซึ่งสมเหตุสมผล และช่วยทำให้อุตสาหกรรม
ภาพยนตร์โดยรวมเติบโต ทั้งยังทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการบริโภค"
นายวิชากล่าวผ่าน ผ่าน www.positioningmag.com/magazine
ส่วนเรื่องระยะเวลาโฆษณาที่ยาวนานเกินไปนั้นผู้บริหารเมเจอร์ฯ เผยว่าเฉลี่ยเวลาการฉายภาพยนตร์โฆษณาไม่เกิน 10 นาที
ตัวอย่างภาพยนตร์จะไม่เกิน 6 เรื่อง เรื่องละ 2-2.5 นาที เพลงสรรเสริญพระบารมี 2 นาที รวมถึงภาพยนตร์โฆษณาห้าม
ละเมิดลิขสิทธิ์ของดีเอสไอด้วย ทำให้ระยะเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 21 นาที แต่ที่ผ่านมาอาจมีการฉายเทรลเลอร์มากถึง 9 เรื่อง
และแต่ละเรื่องมีความยาวถึง 4 นาที ทางเมเจอร์ฯ ได้ขอความร่วมมือกับเจ้าของภาพยนตร์ในเรื่องการควบคุมระยะเวลาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งนอกจากนี้แล้วเมเจอร์ฯ เองต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างเร่งด่วน เพื่อทำความเข้าใจทั้งในเรื่องราคาตั๋ว
ที่แปรผันตามต้นทุนหนัง โลเกชั่น การบริการและเทคโนโลยีให้ได้อย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นแล้ว แรงเม้าท์แบบปากต่อปาก
อาจทำให้เมเจอร์ฯ ต้องแก้ปัญหานี้อีกยาว
ทั้งนี้สำหรับกระแสข่าวที่ว่าทางเมเจอร์ฯ นั้นมีนโยบายที่ให้แต่ละสาขาต้องทำยอดให้ได้มากที่สุด หากส่วนไหนทำไม่ได้ก็มิสิทธิ์ถูกเด้งจน
ทำให้แต่ละสาขาต้องมาขูดรีดกับผู้ใช้บริการนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าว Super บันเทิง ออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยว่า บริษัทมีการกำหนด
เป้าหมายในการทำงานจริงซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่การลงโทษนั้นก็ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดที่ว่า
รวมถึงหากลูกค้าคนใดที่มาใช้บริการและรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถที่จะขอคุยกับผู้จัดการในแต่ละสาขาได้ทันที
ซึ่งถ้าหากยังรู้สึกว่าไม่ได้รับคำตอบที่พอใจก็สามารถร้องเรียนมายังสำนักงานใหญ่ได้
cradit : manager.co.th
ตัวอย่างหนังน้อย โฆษณาเยอะโคตร
dsgjsd ก็ดี พวกที่ชอบเข้าโรงช้าๆ จะได้หัดตรงต่อเวลา
ก้อว่านะครับ โฆษณาเยอะไป
บางทีรอจนหลับ
ป๊อบคอร์นหมดหนังยังไม่เริ่ม
โดนสะบ้าง พวกเอาเปรียบ kjhg
ถูกดี dsgjsd
มีอย่างนี้บ้างก็ดี...