เลวิเทติ้ง เทรนด์ฮิตใหม่ ทำตัวลอยในอากาศต้านแรงโน้มถ่วงโลก
จ่อกลบกระแส แพลงกิ้ง
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/1_4.jpg)
เรียกได้ว่าไม่ว่าจะหันไปทางไหนตอนนี้ในสังคมออนไลน์ของไทย ก็มักจะพบกับภาพการทำท่าแพลงกิ้งที่ถูกโพสต์ขึ้นแทบทุกหนทุกแห่ง
และยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังมีดาราไทยหลายต่อหลายคนฮิตมาทำท่าแพลงกิ้ง แล้วถ่ายภาพมาโพสต์ลงทั้งในเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์
จนตอนนี้วัยรุ่น - ลูกเด็กเล็กแดง - หนุ่มสาวออฟฟิศต่างก็จ้องจะประชันภาพการแพลงกิ้งสวย ๆ เจ๋ง ๆ ที่ตัวเองทำได้ให้คนอื่นได้ชมกัน
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/110602-levitating-girl-11.jpg)
แต่ในขณะเดียวกัน ในประเทศแถบตะวันตกและญี่ปุ่น เทรนด์การทำท่าแพลงกิ้งถือได้ว่าเริ่มเอาท์เอยเชยแหลกไปซะแล้ว
เมื่อมีเทรนด์ท่าถ่ายรูปใหม่ถือกำเนิดขึ้นมา นั่นก็คือ "เลวิเทติ้ง" หรือ "Levitating" ซึ่งจะเป็นการถ่ายภาพในขณะที่ร่างกายเรา
กำลังลอยค้างอยู่บนอากาศ เหมือนเรามีวิชาตัวเบาลอยตัวได้
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/83a5fd275dc.jpg)
โดยผู้นำเทรนด์ดังกล่าวก็คือสาวน้อยหน้าใสชาวญี่ปุ่นนามว่า นัทสึมิ ฮายาชิ (Natsumi Hayashi) ที่โพสต์ภาพที่เธอทำท่า เลวิเทติ้ง
ทุก ๆ วันลงบนเว็บไซต์ yowayowacamera.com และ ทวิตเตอร์ ส่วนตัวของเธอนั่นเอง
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/e854dd48a019901.jpg)
ฮายาชิ ได้เปิดเผยแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพในท่าเลวิเทติ้งนั้นเกิดมาจากเธอปิ๊งไอเดียการถ่ายภาพแบบนี้
หลังจากได้ยินสำนวนที่ว่า "เท้าที่เหยียบยืนบนผืนดิน แสดงให้เห็นว่าเราต่างก็เป็นคนอย่างแท้จริง" ซึ่งสำหรับเธอแล้ว
เธอไม่อยากจะเป็นเช่นคนธรรมดาคนหนึ่ง จึงทำตัวเองให้แตกต่างจากคนทั่วไปโดยการกระโดดขึ้นบนอากาศด้วยท่วงท่า
ต่าง ๆ แล้วถ่ายภาพขณะลอยตัวด้วยกล้องชัตเตอร์ความเร็วสูง ซึ่งภาพที่ออกมานั้นก็ทำให้เธอแตกต่างจากคนอื่นสมใจ
เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังลอยตัวอยู่บนอากาศอย่างเป็นธรรมชาติเลยทีเดียว แต่กว่าจะได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ
และสมบูรณ์แบบออกมา 1 ภาพ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เพราะเธอต้องกระโดดประมาณ 60 ครั้งโดยเฉลี่ยกว่าจะได้ช็อตที่ต้องการ
และบางภาพก็ต้องกระโดดถึง 300 กว่าครั้งเลยก็มี
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/4b47b8bb8906a3.jpg)
สำหรับคำว่า เลวิเทติ้ง หากแปลกันอย่างตรง ๆ ก็คือการต้านแรงโน้มถ่วงโลก หรือการที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของสิ่งของไม่สัมผัส
กับพื้นโลกเลย อย่างเช่นการที่แม่เหล็กขั้วเดียวกันดันตัวออกจากกัน และหลักการนี้ก็ถูกนำมาใช้ในการสร้างรถไฟแมกเลฟ (Maglev)
ที่เหมือนรถไฟลอยได้อยู่บนราง แต่จริง ๆ แล้วเป็นการใช้ทฤษฎีเลวิเทชั่นมาสร้างนั่นเอง
ทั้งนี้ ขณะนี้ การถ่ายภาพแนวเลวิเทติ้งเริ่มจะได้รับความนิยมกันไปทั่วโลกแล้ว โดยเฉพาะในแถบอเมริกาใต้ ไปจนถึงสแกนดิเนเวีย
และญี่ปุ่น ส่วนจะเข้ามาเป็นกระแสฮอตฮิตในเมืองไทยเมื่อไหร่ ทีนี้ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปแล้วล่ะ
cradit : Kapook.com
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/110602-levitating-girl-13.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/3.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/5_1.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/7_1.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/22.jpg)
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/news_4/6f77ab4768d97ed.jpg)
อันนี้เข้าท่าแฮะ เด๋วลองดู กดออโต้เอาชัตเตอร์ไวสุดน่าจะได้
แหอะๆๆ อยากทำมัง แต่ กล้องโทรสับ จะ ออกมาเปณไง หว่า