โขมดดง
(http://happy.teenee.com/xfile/tamnan/img1/11701.jpg)
"มัธยันต์" เล่าเรื่องโขมดดงที่คู่กับโขมดป่า
มีตำนานเล่าว่า โขมดดงนั้นล้มตายในป่าดงแล้วสิงสู่อยู่ที่นั่น มีทั้งดุร้ายน่ากลัวพอๆ กับโขมดป่า กับชอบปรากฏกายในรูปร่างแปลกๆ
มาหลอกหลอนผู้คนให้ขวัญหนีดีฝ่อบ่อยๆ แทบไม่เลือกว่ากลางวันหรือกลางคืน
พวกค้างคาวผี, งูเจ้าที่, หมาปีศาจ ที่เชื่อกันว่าเกิดจากอำนาจของโขมดดงทั้งสิ้น
ทางภาคอีสานเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ผีโพง"
(http://www.okkid.net/stocks/blog/journal/real/20091212170552_124.jpg)
เล่าขานกันว่า คนที่จำเป็นต้องเดินป่าตอนกลางคืน หรือนอนค้างอ้างแรมที่นั่น รวมทั้งพวกที่ออกไปจับกบจับเขียดหลังฝนตกตอนค่ำ
มักจะเจอผีโพงในรูปของดวงไฟลอยวูบวาบ มองเผินๆ เหมือนมีคนถือโคมไฟเดินเข้ามาหา แต่พอเข้ามาใกล้ๆ ยังไม่ทันเห็นหน้าค่าตา
ก็หายวับไปแล้ว ดูเผินๆ คล้ายผีกระสือแฮะ!
บางคนจับกบเขียดได้เต็มข้อง เมื่อกลับบ้านเปิดออกดูกลับไม่มีกบเขียดหลงเหลืออยู่เลย...เรียกว่ามาเงียบไปเงียบ
ล่าเหยื่อรวดเร็วราวเหยียบหิมะไร้ร่องรอยก็ปานกัน
เรื่องผีโขมดหรือผีโพงนี่เชื่อถือเหมือนกันหมดไม่ว่า ไทย พม่า ลาว ญวน เขมร
โดยเฉพาะในจีนกับญี่ปุ่นซึ่งมีภูตผีมากมายก็เชื่อเรื่องผีโพง แต่เรียกว่า "ผีโคมไฟ" ส่วนมากมักจะเห็นหน้าเห็นตาจนรู้แน่ชัดว่า
เป็นผีผู้หญิงล้วนๆ ผิดกับของไทยที่เชื่อว่า ผีโขมดหรือผีโพงเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ มีน้อยเต็มทีที่จะเป็นผีผู้หญิง
(http://zen.gulife.com/gu/zen/files/yotsuya4W.jpg)
ผีป่าของญี่ปุ่นนั้นมักจะเป็นสัตว์ต่างๆ เช่น หมาจิ้งจอก, แมว, ลิง หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงถือโคมไฟ
ส่วนผีจีนจะปรากฏร่างเป็นสาวสวย ถ้าถือโคมไฟประดับดอกโบตั๋น หรือเรียกว่า "โคมไฟดอกโบตั๋น" น่ะ
ส่วนมากไม่ได้มีเจตนาจะหลอกหลอนใครหรอกครับ แต่คุณเธอกำลังมุ่งหน้าไปหาชายคนรักที่บ้านช่องของเขาต่างหากล่ะ
ใครเจอะเจอเข้ากลางทางก็มีหวังวิ่งป่าราบ ตับแทบแตกตาย หรือไม่ก็จับไข้หัวโกร๋นเอาง่ายๆ
เรื่องคนถูกผีหลอกนี่ ชาวเอเชียมักเชื่อถือคล้ายๆ กันว่า "ดวงซวย" ต้องให้พระท่านเสกเป่า หรือกินน้ำมนต์ถึงจะแก้เคล็ดไล่ซวยได้
เพราะภูตผีปรากฏกายให้เห็นก็แปลว่ามันต้องการจะเอาไปอยู่ด้วย มิฉะนั้นก็เป็นลางบอกเหตุว่าจะต้องล้มตายภายใน 3 วัน 7 วันนี่แหละ
อย่าทำชะล่าใจไปเชียว!
พูดถึงผีผู้หญิงในป่าดง ยังมีอีกชนิดหนึ่งที่น่าเล่าสู่กันฟังให้ครบถ้วน เท่าที่นึกออกในตอนนี้
นั่นคือผีที่สิงสู่อยู่ตามห้วยหนองคลองบึงเปล่าเปลี่ยวนั่นปะไร?
ในอินเดียเรียกว่า "รากษส" แปลตรงๆ ว่า "ยักษ์" หรือ "ผีเสื้อน้ำ"
ในพระไตรปิฎกมีตอนพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นวานร ถูกพ่อทำอุบายฆ่าด้วยการใช้ให้ไปเก็บดอกบัวในสระมาให้
แต่ลงเอยที่วานรน้อยนำรากษสผู้เฝ้าสระ หอบดอกบัวตามหลังมาต้อยๆ จนวานรผู้พ่ออกแตกตาย
ประเทศอื่นๆ เกือบทั่วโลก ก็ล้วนแต่มีผีชนิดนี้อยู่ทั้งนั้นแหละครับ โดยเป็นอมนุษย์ที่สิงสู่อยู่ในบึงบางเปล่าเปลี่ยวมาช้านานบ้าง
ถูกฆ่าโยนทิ้งไว้บ้าง หรือไม่ก็มาฆ่าตัวตายเพราะอกหักก็มี เกิดความคับแค้นใจด้วยสาเหตุสารพัดอย่างก็มี
บ้างก็เป็นยักษ์ บ้างก็เป็นสัตว์ต่างๆ เช่น งูเงี้ยวเขี้ยวขอ หรือ "งูหงอน" เนื่องจากสิงสู่มาเนิ่นนานจนหัวมีหงอนเหมือนมังกรชนิดหนึ่ง...
ดูอย่างม้ามังกรของสุดสาครใน "พระอภัยมณี" ของ "สุนทรภู่" นั่นเป็นไร!
ในจีนกับญี่ปุ่นเชื่อว่าในป่าดงบางแห่งจะมีสระใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของเงือก จนชาวประมงเซ่อซ่านึกว่าโชคดี เจอะเจอปลายักษ์
เข้าโดยไม่นึกฝัน จับเอามาฆ่ากิน เกิดอาเพศจนตายหมดบ้านไปเลย
ส่วนคนใจดี ได้ยินนางเงือกร้องขอชีวิตก็ปล่อยไปด้วยจิตเวทนา กลับร่ำรวยอื้อซ่าเพราะนางเงือกให้พร
เรื่องนี้แสดงว่าเงือกน้ำจืดก็มี ไม่ใช่ว่ามีแต่เงือกในทะเลเท่านั้นนะคร้บ พับผ่า!
cradit : ข่าวสด
ขอบคุณครับ ยังไม่เคยเจอจริงๆซะทีแต่อ่านแล้วก็หน้ากลัวครับ