10. Pumped Up Kicks จาก ฟอสเตอร์ เดอะ พีเพิล (Foster the People)
http://www.youtube.com/v/SDTZ7iX4vTQ?version=3&hl=th_TH
ไม่บอกใครจะไปเชื่อว่าเพลงมัน ๆ จังหวะสนุกสนานชวนขยับเนื้อขยับตัวตามอย่าง "Pumped Up Kicks"
จะมีเนื้อหาหนักหนารุนแรง อิงเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนไล่ถือปืนกราดยิงเพื่อน ๆ ซึ่งในเพลงนี้คือพ่อหนุ่มโรเบิร์ต
ที่อยากมีรองเท้าเจ๋ง ๆ ใส่เหมือนเพื่อน แต่กลับไม่มี เลยป่าวประกาศว่าใครก็ตามที่มีรองเท้ารุ่นเจ๋งนี้
จงวิ่งหนีไปให้ไกลจากปลายกระปอกปืนของเขา ก่อนที่จะโดนสอย
และนอกจากเนื้อเพลงจะแหวกแนวจากเพลงอื่น ๆ ในตลาดแล้ว การมิกซ์เพลงสุดมัน
ชวนแดนซ์ให้ขยับศีรษะตามนี้ ยังถูกใจนักฟังวัยรุ่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็เลยได้ไต่บิลบอร์ดชาร์ต
กันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียวล่ะ
9. Cruel จาก เซนต์ วินเซนต์ (St. Vincent)
http://www.youtube.com/v/Itt0rALeHE8?version=3&hl=th_TH
การผสมผสานดนตรีแนวต่าง ๆ เข้าด้วยกันให้กลายเป็นเพลง ดูท่าจะเป็นความสามารถเฉพาะตัว
ของสาว แอนนี่ คลาร์ก หรือที่รู้จักกันในชื่อ เซนต์ วินเซนต์
เพราะเพลง "Cruel" ของเธอผสมผสานไปด้วยดนตรีแนวร็อก ดิสโก้ และ บาโรกป๊อบ
ทั้งยังทำออกมาสดใส แปลกใหม่ดีด้วยนะ
8. Yonkers จาก ไทเลอร์ เดอะ ครีเอทเตอร์ (Tyler the Creator)
http://www.youtube.com/v/XSbZidsgMfw?version=3&hl=th_TH
สำหรับเพลงนี้ไทม์ถึงกับออกตัวก่อนเลยว่า อาจไม่เหมาะสำหรับนั่งฟังชิล ๆ ที่บ้าน ฟังขณะขับรถ
หรือแม้กระทั่งเปิดเพื่อแดนซ์ เพราะ "Yonkers" จาก ไทเลอร์ แร็ปเปอร์หนุ่มวัย 20 ปี มีเนื้อหา
ค่อนข้างจะโฉ่งฉ่างและรุนแรงไปสักหน่อย
การฟังเพื่อความสนุกจึงไม่ใช่เป้าหมายของเพลงนี้ นอกจากนี้นักฟังทั้งหลายยังกล่าวว่า ด้วยการถ่ายทอดอารมณ์
อย่างตรงไปตรงมา ช่างเหมือนกับศิลปินที่ใส่ความรู้สึกและจิตวิญญาณลงไปในผลงาน
"Yonkers" จึงน่าจะจัดเป็นผลงานศิลป์แบบศิลปะแสดง หรือเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ต (performance art)
เสียมากกว่า หากแต่มันก็เป็นเพลงที่เปิดแนวใหม่ให้กับตลาดแพลงแนวแร็ป-ฮิปฮอป
และเป็นการเรียกอารมณ์เพลงแบบพังค์กลับมาด้วย
7. Go Outside จาก คัลส์ (Cults)
http://www.youtube.com/v/eAM9diyVRiM?version=3&hl=th_TH
นี่เป็นอีกหนึ่งมิวสิควิดีโอที่ให้อารมณ์ย้อนยุค แต่สำหรับ "Go Outside" ของ คัลส์ เป็นการย้อนยุค
ที่อิงอยู่บนเหตุการณ์จริงจากเรื่องของ โจนส์ทาวน์ (Jonestown) เมืองในอุดมคติที่ผู้คนทั้งผิวขาวดำ
มีความเสมอภาคและอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้การนำของ จิม โจนส์
แต่สุดท้ายเรื่องกลับตาลปัตรเมื่อ จิม โจนส์ บ้าอำนาจ และนำไปสู่เหตุการฆาตกรรมหมู่โดยการวางยา
ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 900 ราย ซึ่งเพลง "Go Outside" เมื่อฟังครั้งแรกราวกับเป็นเพลงที่ชักชวนเด็ก ๆ
ออกไปวิ่งเล่นท่ามกลางแสงแดดอุ่น
แต่ความจริงแล้วกลับแฝงความหมายด้านมืดเหมือนกับสาวกที่มาเข้าร่วมกับ โจนส์ ในเริ่มแรก
ที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธาและความหวัง แต่สุดท้ายก็พลิกผันดำมืดเมื่อต้องมาพบกับจุดจบที่แสนโศกสลดนั่นเอง
6. Gangsta จาก ทูน ยาร์ดส์ (tUnE yArDs)
http://www.youtube.com/v/EbkMPHW67xM?version=3&hl=th_TH
ฟังรอบแรกแล้วอาจจะดูแปลกประหลาดอวกาศไปหน่อย แต่นี่ก็เป็นสไตล์การสร้างสรรค์
ผลงานที่แปลก และสดใหม่ไม่เหมือนใคร จากทูน ยาร์ดส์ วงน้องใหม่จากนิว อิงแลนด์
ที่มีผลงานออกมาชุดแรกในปี 2009
สำหรับ "Gangsta" ผลงานในปี 2011 พูดถึงเสียงอึกทึกครึมโครมที่ไม่คุ้นเคย
แต่ในที่สุดก็ได้พบว่าเสียงต่าง ๆ ผสมผสานกันออกมาเป็นจังหวะที่สอดประสานกันได้
เหมือนกับแนวดนตรีของวงที่ที่หลากหลาย และแปลกหู
ใครชอบฟังเพลงแนวนี้ ลองไปตามหาผลงานเก่า ๆ ของเขาฟัง รับรองไม่ผิดหวัง
5. Super Bass จาก นิกกี้ มินาจ (Nicki Minaj)
http://www.youtube.com/v/4JipHEz53sU?version=3&hl=th_TH
จะว่ากันจริง ๆ แล้ว นักร้องสาว นิกกี้ มินนาจ ก็นับเป็นสีสันในวงการดนตรีได้ไม่น้อย
แถมเธอยังสามารถตีตลาดดนตรีแนวฮิปฮอปที่ส่วนใหญ่มีแต่นักร้องชายได้อีกด้วย
ดูอย่างเพลงเด็ดเพลงนี้กับ Super Bass ที่ฟังแล้ว ทั้งมัน ทั้งเพลิน ทั้งสนุก
แถมยังได้คำฮิตติดปากอย่าง "บูม บะ-ดูม บูม ๆ บะ-ดูม บูม เบส" กลับไปอีกด้วย
4. Otis จาก เจซี และ คานเย่ เวสต์ (Jay-Z and Kanye West)
http://www.youtube.com/v/BoEKWtgJQAU?version=3&hl=th_TH
รับประกันความฮิปของเพลงนี้ด้วยชื่อของ เจซี พ่วงมากับหนุ่มคานเย่ เวสต์ ก็รับรองว่า "Otis" นี้
ออกมาถูกใจคอเพลงฮิปฮอปแน่ ๆ เนื้อเพลงสนุก ๆ มีเสียงแบ็คกราวด์กวน ๆ ถูกใจดีนักแล
3. A Long Time จาก เมเยอร์ ฮอว์ธอร์น (Mayer Hawthorne)
http://www.youtube.com/v/S4iIsE1PBhE?version=3&hl=th_TH
ฟังซาวด์พร้อมกับดูมิวสิควิดีโอเพลงแล้ว นึกว่านี่มันเพลงสมัยย้อนยุคไปสมัย
คุณพ่อคุณแม่ยังสาวเสียอีก แต่ที่จริงเพลงนี้เพิ่งจะปล่อยออกมาสด ๆ ร้อน ๆ
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011 นี่เอง
ผลงานเพลงจากพ่อหนุ่มดีเจที่ผันตัวเองมาเป็นนักร้อง เมเยอร์ ฮอว์ธอร์น
(เป็นฝรั่งผิวขาวชาวมะกันนะ เผื่อดูเอ็มวีแล้วอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนักร้องผิวสี)
เพลงนี้ เด่นตรงซาวด์ที่ฟังแล้วให้อารมณ์ย้อนยุคนิด ๆ แต่รับรองแดนซ์ได้แบบไม่ยั้ง
ไม่ว่าจะฟังในยุคไหน ๆ ก็ตามเถอะ
2. Rolling in the Deep จาก อะเดล (Adele)
http://www.youtube.com/v/rYEDA3JcQqw?version=3&hl=th_TH
เพลงที่บรรยายความรู้สึกร้าวรานจากการถูกคนรักหักหลัง ทำร้ายให้เจ็บปวด คงไม่มีเพลงไหนในปี 2011
ที่ทำได้ดีเท่ากับเพลง Rolling in the Deep ของนักร้องสาวเสียงสุดยอดพาวเวอร์อย่าง อะเดล อีกแล้ว
ทั้งเนื้อหาเจ็บแค้น เข้าถึงอารมณ์คนบอบช้ำจากรักสุด ๆ จังหวะกลองตึบ ๆ ชวนให้ใจเต้นตาม
และเสียงของอะเดลที่ไต่จากต่ำไปหาสูงได้อย่างรื่นหู พาเธอเข้าโผไปสบาย ๆ
1. No Light, No Light จาก ฟลอเรนซ์ + เดอะ แมทชีน (Florence + The Machine)
http://www.youtube.com/v/HGH-4jQZRcc?version=3&hl=th_TH
"No Light, No Light" เพลงนี้ ได้เสียงหนักแน่นมีพลังของสาวฟลอเรนซ์ มาเป็นพาวเวอร์ของเพลงได้อย่างเคย
เนื้อหาเพลงที่คร่ำครวญถึงรักที่จากไป บวกกับมิวสิควิดีโอที่ทำออกมาได้แบบแปลกตา อลังการ
เมื่อรวมกันทั้งตัวเอ็มวี เนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี เพลงนี้ก็เลยได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ทั้งหลายกันตรึม
ไม่เชื่อลองไปพิสูจน์กันจ้ะ
cradit :: toptenthailand
เยี่ยมไปเลยครับ