cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 02 กุมภาพันธ์ 2012, 17:43:27

ชื่อ: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: etatae333 เมื่อ 02 กุมภาพันธ์ 2012, 17:43:27
10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก

10. สุสานมัมมี่ ปานาโม อิตาลี (LAS CATACUMBAS DE LOS CAPUCHINOS)

(http://farm5.static.flickr.com/4039/5074314911_4103683c20.jpg)

เป็นสุสานใต้ดินเก่าแก่ตั้งอยู่ในใต้อารามนักบวชคาปูชิน แห่งโบสถ์ฟรานซิสกัน ของคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก
ที่เมืองปาร์เลอโม (PARLEMO) เกาะซิซิลี ที่นี้มีซากมัมมี่กองเต็มไปหมด จะเป็นชุมชนแออัดอยู่แล้ว
ถึงขนาดที่บางศพที่มาทีหลัง ไม่มีที่ให้ยืนสบายๆ ต้องถูกแขวนไว้กับตะขอ บนผนังโน่น และถ้าเดินเข้าไป
ก็จะเจอแต่ศพนั่ง.....นอน...... ยืน...... และเดิน เอ๊ย เดินไม่มี


(http://sobreitalia.com/wp-content/uploads/catacumbas-de-palermo-1.jpg)
(http://eltemplodelaluzinterior.files.wordpress.com/2009/05/rosalia_lombardo.jpg)

บางตัวละยังคงสวมเครื่องแต่งกายเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตด้วย มีมัมมี่เด็กด้วยนะ เป็นผู้หญิงอายุ 8 ขวบ
ชื่อโรซาเลีย ลอมบาร์โด (ROSALIA LOMBARDO) ที่ดองไว้70 - 80 ปีแล้วด้วย หน้าตายังน่ารัก
เหมือนคนนอนหลับเลย สถานที่นี้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว(จะมีคนไปเหรอ) จำกัดเวลาครับ
อยากไปลองถามไถ่ดูละกัน


9. อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L'Alma)

(http://www.great-vacations-travel-guide.com/image-files/things-to-see-in-paris-princess-diana-memorial.jpg)

สถานที่เจ้าหญิงไดอาน่าประสบอุบัติเหตุอุบัติเหตุรถคว่ำ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540
และยังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลกว่าอุบัติเหตุหรือ ถูกฆาตกรรม เพราะในคืนที่เกิดโศกนาฏกรรม
มีการเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L'Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิม
คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย และทำไมวิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีส
ไม่สามารถใช้การได้โดยไม่ทราบสาเหตุ


(http://www.live2times.com/imgupload/event/10697/090410154652/normal/lady-diana-se-tue-dans-un-accident-de-voiture-sous-le-pont-de-l-alma---o-parisaccidentdiana2.jpg)

ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสาร
เพื่อขอรับการช่วยเหลือเพื่อรักษา พระชนม์ชีพของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที เป็นความบังเอิญจริงหรือ?
ใครๆ ที่ไปเที่ยวที่อุโมค์ฝรั่งเศสแล้ว ใครๆ ก็ว่าบรรยากาศมันน่ากลัว



8. เทือกเขาร็อกกี้ โคโลราโด (Colorado Rockies)

(http://farm8.staticflickr.com/7024/6767806517_715b6e7b6d.jpg)

ที่สยองคือภูเขานี้เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น เป็นเรื่องของมนุษย์กินคน ที่ไม่ใช่คนป่า ปี 1874
ในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด คณะนักสำรวจหกคนได้ขุดอุโมงค์ในหุบเขาโคโลราโด
ต่อมาอุโมงค์เกิดถล่ม การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก


(http://farm7.static.flickr.com/6081/6122167566_e4463c6ea1.jpg)

และต่อมา ฤดูใบไม้ผลิมีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดกลับมาจากหุบเขาโคโลราโด อยู่ในสภาพ
สมบูรณ์แข็งแรงดี เขาคนนี้มีนามว่าอัลเฟร์ด แพคเกอร์ และเมื่อเขาออกมาก็ถูกจับเนื่องจาก
ถูกกล่าวหาว่ากินเพื่อนของเขาสองคนเพื่อ มีชีวิตรอดเพราะอาหารหมดและเพื่อนก็ตายไปทีละคนทีละคน
เขาเลยอดใจไม่ไหวกินเป็นอาหารเสียเลย

ถ้าคุณอยากลองเป็นหรืออยาก รู้ว่ายังไงกับมนุษย์กินคนเป็นยังไง เทือกเขาร็อกกี้
ก็พร้อมต้อนรับท่านไปเป็นมนุษย์กินคนอย่างยิ่งด้วยความหนาว และความตาย



7. หมู่เกาะปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea)

(http://www.expatify.com/files/2009/09/kimbe1.jpg)

ปาปัวนิวกินีเป็นเกาะอยู่ทางเหนือ ของทวีปออสเตรเลีย ประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆมากกว่า 700 เผ่า
แต่ละเผ่าต่างคนต่างอยู่ การเดินทางไปมาหาสู่กันลำบากมาก เพราะพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน
และใครอยากเห็นมนุษย์กินคนก็ต้องเข้าไปลึกหน่อยนะ โชคดีอาจไปทันตอนคืนพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะ
และกินซุปเนื้อมนุษย์


http://www.janesoceania.com/png_about/papua%20new%20guinea%20market%201911.jpg

วิธีปรุงอาหารรายการนี้ง่ายมาก นำน้ำใส่หม้อดินขนาดใหญ่ต้มให้เดือด บั่นศพมนุษย์ที่ตาย
ทั้งสองฝ่ายให้มีขนาดที่จะใส่ในหม้อนั้นได้ใส่ลงในหม้อ นำผักชนิดต่างๆ รวมทั้งมันและเผือก
ใส่รวมลงไปด้วย ต้มจนสุกและเปื่อยดีแล้วก็ตักออกมากินกัน ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็มัดไว้ก่อน
และค่อยๆ ฆ่าให้ตาย นำมาปรุงเป็นอาหาร กินเลี้ยงกันในคืนต่อๆมา รองเท้าหนัง ถุงเท้า
ตลอดจน เสื้อผ้าก็ถูกนำมาต้มจนเปื่อย และกินจนหมดสิ้นเช่นเดียวกัน สำหรับหัวกะโหลกเก็บไว้
เป็นเครื่องประดับตามบ้านเรือนสวยงามมาก

(http://4.bp.blogspot.com/-azMkUZ5u2nc/Td_jeYyrhPI/AAAAAAAAAFM/zD3VAisfbrE/s1600/real_cannibalism_01-over.jpg)

แต่ปัจจุบันใครไปอาจอดเจอซุปเนื้อคนเพราะตอนนี้เขาเลิกแล้วเพราะกฎหมาย
ออกมาว่าห้ามกินเนื้อคนไม่ว่าศัตรูหรือนักท่องเที่ยว! แฮ่



6. โรงงานนรก "ค่ายเอาชวิตซ์" (Auschwitz)

(http://www.thefastestpaydayloans.com/wp-content/uploads/2009/12/auschwitz.jpg)

สยองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ "ค่ายเอาชวิตซ์" (Auschwitz)
ที่ใกล้เมืองเอาชวิตซิน โดยค่ายนี้สร้างขึ้นเพื่อสังหารชาวยิวด้วย การรมแก๊สพิษและเผาในเตาเผา
โดยมีเหยื่อที่โดนถึง 1 ล้านสองแสนคน จากที่ต่างๆ ทั่วยุโรป จํานวน 22 ล้านคน ไปที่ค่าย


(http://furtherglory.files.wordpress.com/2010/12/dachaumorgue1945.jpg)

โดยขนไปทางรถยนต์ รถไฟ และเรือเดินสมุทร และปัจจุบันสภาพยังเหมือนเดิมทุกประการ
ไม่ว่าเตารมแก๊ส เตาเผา ค่ายพัก คุก มีกลิ่นแห่งความตายติดมาด้วย พร้อมกับความวังเวง
เมื่อท่านไปก็อาจเจอผีชาวยิวที่ไม่ไปเกิดอีก ได้สองเด้ง ปัจจุบัน เอาชวิตซ์เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ
และมีนักท่องเที่ยวสนใจมากที่สุด แห่งหนึ่งของ โปแลนด์ ซึ่งพยายามรักษาสภาพ เอาชวิตซ์ให้ใกล้เคียง
สภาพเดิมให้มากที่สุด

(http://www.hobotraveler.com/blogphotos/blog180auschwitz04.jpg)
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: etatae333 เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012, 15:06:18
5. ปอมเปอี (Pompei)

(http://propimg.travellerspoint.com/l_46783-4-hotel-del-sole-pompei.jpg)

ปอมเปอีเมืองเก่าสมัยกลาง ตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ของคาบสมุทรอิตาลี ริมอ่าวเนเปิล
เมืองนี้เป็นชุมชนขึ้นมาก่อนคริสต์ศักราช โดยอยู่ใต้อิทธิพลของกรีก ต่อมาราว 80 ปีก่อนคริสตกาล
กลายเป็นเมืองตากอากาศฤดูร้อนของชาวโรมันหลังตกเป็นอาณานิคม ของอาณาจักรโรมัน


(http://netkinat.files.wordpress.com/2010/02/pompei.jpg)

กระทั่ง ถูกภูเขาไฟระเบิดถล่มทั้งเมือง ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สยองขวัญมาก เค้าหล่อรูปคนตาย
ในท่าที่ถูกลาวาทับไว้ ก็เลยเป็นสถานที่แสดงท่าหนีตายของชาวเมืองไปเพราะวปอมเปเอียนและสัตว์เลี้ยง
แข็งเป็นหินคงสภาพเกือบทุกประการ รวมถึงความหวาดกลัวต่อความตายที่ยังตราติดอยู่บนดวงหน้า

(http://www.itusozluk.com/image/pompei_64063.jpg)

บางซากนั่งเอามือปิดหน้า บางซากซบอยู่กับกำแพง ปอมเปอีจึงได้อีกชื่อว่า "ซากเมืองแห่งความตาย"
ปัจจุบันเมืองโบราณปอมเปอีได้รับการฟื้นฟู องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997



4. คุก และ หอคอยลอนดอน (Tower of London)

(http://0.tqn.com/d/paranormal/1/0/-/U/1/tower-of-london.jpg)

หอคอยลอนดอนประเทศอังกฤษ สถานที่เกิดเหตุแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 900 ปี
นองเลือด ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เคยเป็นป้อมปราการ, ปราสาทราชวัง, คุก แดนประหาร


(http://speedy.theanneboleynfiles.com/wp-content/uploads/2011/03/LadyJaneGrey_450x373.jpg)

เป็นสถานที่ตัดหัวของแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ทุกวันนี้วันดีคืนดียังมีคนเห็นแอนน์ โบลีนถือหัว
และร้องครวญอย่างทรมาน ไม่รวมกับอีกหลายวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ในหอคอยแห่งนี้ซึ่งมักจะส่งเสียง ร้องขอชีวิต
หรือเสียงลากโซ่ตรวนให้ผู้คนได้ยินและปรากฎให้เห็นเป็นระยะๆ จึงทำให้ที่นี่ยังคงโด่งดังเรื่องความหลอนตลอดกาล

ปัจจุบันหอคอย ลอนดอนเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารและหอคอยหลายหลัง ที่เก็บเครื่องมือทรมาน
และเครื่องมือประหารนักโทษแบบโหดๆ ของยุคกลาง และมีอีกาดำด้วย ดูแล้วก็น่ากลัวจริงๆแหละ



3. ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย โรมาเนีย

(http://www.mostcostly.com/wp-content/uploads/2011/04/most_expensive_house_bran_castle.jpg)

ปราสาทที่เป็นแหล่งที่มาของนิยายผีดูดเลือด แดรกคิวล่า ที่ว่าน่ากลัวคือเจ้าชายจอมเสียบ วลาด ดารคูลา
ผู้เป็นเจ้าของปราสาท แกชอบเอาจับเอาเหล่าเชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน
แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ


(http://navyblueromeo.files.wordpress.com/2011/02/vlad_the_impaler_ilustration_germanic__3.jpg)

วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั้นเลย .....อืมอร่อย
ส่วนปราสาท ปัจจุบันยังอยู่ครับ แต่...........มันทำไมอยู่สูงจัง ใครจะไปก็อดทนหน่อยล่ะ
ปีนขึ้นไปดูเอง (ล้อเล่น เขาทำบันไดให้ปีนแล้วจ้า)



2. อัลคาแทรซ, ซานฟรานซิสโก (Alcatraz)

(http://stayinsf.com/picture/alcatraz1.jpg)

นี่คือคุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา อัลคาแทรซ (Alcatraz) สถานที่คุมขัง อัลคาโปน เจ้าพ่อชื่อดัง
และภายในคุกสยอง วังเวงจริงๆ และได้ฉายาว่าเดอะร็อกเป็นคุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ


(http://static.freepik.com/free-photo/inside-alcatraz-4_2350469.jpg)

ถึงแม้จะมีนักโทษพยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็กและแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่ปรากฏว่า
เขามีชีวิตรอดไปได้ นักโทษหลายคนตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ
และนี่เองเป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน
และความรู้สึกถูกจ้องมอง ปัจจุบันคุกนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว สามารถค้างคืนได้ด้วยนะจะบอกให้



1. อนุสรณ์สถานแห่งคิลลิ่ง ฟิลด์ (Killing Field)

(http://img25.imageshack.us/img25/5524/00qx4.jpg)

ใครจะว่าไงไม่รู้ แต่ผมยกให้สถานที่นี้คือสุดยอดที่สุดแล้ว เพราะมันอยู่ใกล้บ้านเรา กัมพูชาเองจ้า
เลิกซะทีเถอะข้ามพรมแดนไปเล่นการพนัน หันมารู้ประวัติศาสตร์ที่แสนโหดร้ายกันบ้างกับ


(http://board.postjung.com/data/507/507187-topic-3.jpg)

โดยสถานที่นี้เป็นอนุสรณ์รำลึกความโหดร้ายในยุคเขมรแดงที่นำโดยเฮียพอลพต ที่สั่งฆ่าชาวเขมรนับล้าน
ศพมากมายนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นกะโหลกไร้ญาติ(ไม่สามารถระบุได้ว่าคนตายเป็นใคร)
ได้ถูกนำมารวมไว้ที่นี้ และมีรูปผู้ตายที่นับล้านให้ดูไว้ให้สงสาร

(http://board.postjung.com/data/507/507187-topic-2.jpg)

วันดีคืนดีบางคืนอาจได้ยินเสียงกะโหลกร้องระงม ฟังแล้วได้บรรยากาศมาก อีกที่ก็ ตุล สาเลช
คุกเถื่อนซึ่งในอดีตเป็นโรงเรียนมัธยม ที่นั้นมีคนมาถูกฆ่าไม่เว้นวันและบางรายถูกนำมาทรมานเยี่ยงสัตว์
ก่อนตายอย่างสยอง

cradit :: toptenthailand.com
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: gunslinger2 เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012, 19:25:51
คงไม่กล้าไปหละครับ
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: Norulejune เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012, 17:06:26
 scary scary

น่ากลัว แต่อยากลองไปซักครั้ง  eta03
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: เอกหื่น เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012, 21:03:19
 hgjhg ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: Jikkolapoon เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2012, 17:34:09
ไค๊พาเพื่อนสาว ไปซัก2-3 คน คงจุ๊กกรู๊น่าดู  .,mn
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: tomxxx เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 11:53:14
วังเวง โหดร้าย และน่ากลัว  ljhgf
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: ouhlunla เมื่อ 28 สิงหาคม 2012, 19:17:15
ขอบคุณที่โพสมาครับ
สิบที่นี้ผมจะได้ไม่ไปเที่ยว  eta20
ชื่อ: Re: 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดสยองทั่วโลก
โดย: tommyjaa เมื่อ 03 กันยายน 2012, 23:44:57
น่าลองดีครับ 555