'Deep Throat' บทบาทเซ็กซ์ที่มาจากหนังโป๊ยุค 70
คงเคยได้ยินคำว่า "Deep Throat" กันใช่ไหมครับ (บางคนอาจจะมากกว่าเคยได้ยิน ฮ่าๆๆๆ)
หากใครที่ฟังแล้วงงๆ ก็จะขออธิบายสั้นๆ ว่ามันคือท่าร่วมรักยอดนิยมท่าหนึ่ง คล้ายกับออรัลเซ็กซ์ แต่ไม่ธรรมดา
ตรงที่ฝ่ายชายนั้นต้องดันอาวุธลับไปสุดพิกัดจนลึกถึงคอหอยของฝ่ายหญิง ซึ่งถ้าฝ่ายหญิงไม่เซียนก็อาจทำให้เธอหน้ามืด
สำลักอาเจียนจนหมดมู้ดได้ ... รู้กันรึเปล่าว่าท่านี้เพิ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปี 1970 จากหนังโป๊คลาสสิคแนวตลกสัปดน
ที่มีชื่อเสียงมากทีเดียวในยุคนั้น
(http://image.ohozaa.com/i/ea2/SyzBts.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2Bnx4dzmZme6QoM)
วันที่ 12 มิถุนายน ปีค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ภาพยนตร์โป๊เรื่องหนึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ย่านไทม์สแควร์
หนังที่เกือบจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น The Sword Swallower หนังที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องรวม 8 คนถูกจับกุมตัว
นักแสดงนำชายคนหนึ่งติดคุกนานถึง 5 ปี (ดูแล้วไม่คุ้มเอาซะเลยกับเงินค่าตอบแทนเพียง 250 เหรียญที่เขาได้รับ)
หนังที่ส่งให้นางเอก (ที่ก็รับค่าตัวแค่เพียง 1200 เหรียญ) กลายเป็นราชินีหนังโป๊ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
หนังที่ลงทุนสร้างแค่เพียง 25,000 เหรียญ แต่ท้ายที่สุดกลับรับทรัพย์ไปมากกว่า 600 ล้าน
(http://image.ohozaa.com/i/5f1/l1WnHP.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2Bnzy4lm4eNVhde)
Deep Throat เป็นหนังโป๊ที่นำชื่อเสียงมาสู่วงการหนังโป๊ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพราะถูกต่อต้านโดยกลุ่มสตรีต่อต้านหนังโป๊,
รัฐบาล, ตำรวจนิวยอร์ก จนถึงมือของ FBI ในท้ายที่สุด กับผลงานการติดตามคดียาวนานถึง 3 ปี พบผู้สมรู้ร่วมคิด
ในการนำหนังเรื่องนี้ออกฉายแบบไม่จ่ายตั๋วใน 32 เมือง มากถึง 117 รายชื่อด้วยกัน โดยมีต้นทางสายใหญ่
คือเครือข่ายมาเฟียตระกูล Peraino
ในขณะที่ตัวหนังสร้างสถิติโดนแบนใน 23 รัฐ
(http://image.ohozaa.com/i/6d5/0w15AW.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2Bny89CdMAqxZeg)
ตัวหนังเป็นส่วนผสมระหว่างหนังโป๊ขายเซ็กส์กับหนังแนวตลกสัปดน เรื่องวุ่น ๆ เกี่ยวกับหญิงสาวที่ไม่เคย
สุขสมอารมณ์เซ็กส์ (Linda Lovelace) จนวันหนึ่งก็ถึงบางอ้อ เมื่อตัดสินใจไปหาหมอหนุ่ม (Harry Reems)
เขาตรวจพบว่าปุ่มกระสันของเธอดันย้ายตำแหน่งแห่งหนไปอยู่ลึกในลำคอ มันเป็นทั้งที่มาของชื่อหนัง
และเป็นทั้งที่มาของชื่อเสียงอันหอมหวานที่ Linda Lovelace ได้รับ เธอสามารถแสดงให้คนดู
ได้เห็นกับตาว่า 'ลึกจนสุดคอหอย' จริง ๆ
Erica Jong วิจารณ์แนวคิดของหนังเรื่องนี้ไว้ว่า มันช่างเป็นจินตนาการที่แฟนตาซีแบบโคตร ๆ ของพวกผู้ชาย
"เพราะถ้าพวกเขาเชื่อว่าคลิตอริสลงไปอยู่ในคอหอยของพวกสาว ๆ พวกเขา
จะยัดไอ้จู๋ลงไปในปากของพวกเธอได้สะดวก ๆ สิ"
(http://image.ohozaa.com/i/7fe/gyYOmj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2BnBFWr3wschQFa)
เราจะเรียก Gerard Damiano ผู้กำกับที่กลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการหนังโป๊อเมริกันในช่วงยุค 70
ว่า 'ศิลปิน' ได้มากน้อยแค่ไหน หลายฉากของหนังมีการแทรกภาพที่แทบไม่เกี่ยวข้องกับตัวหนังเข้ามา
(เช่นการระเบิดพลังงานของกระสวยอวกาศที่กำลังจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า, ภาพดอกไม้ไฟที่แตกตัวบนท้องฟ้ามืดมิด)
เพื่อใช้แสดงอารมณ์ในห้วงขณะถึงจุดสุดยอดของนางเอก และด้วยความที่เขาสร้างงานบนโครงสร้างของหนังทุนต่ำ ๆ นั่นเอง
ที่ทำให้ Damiano ถึงขนาดเดินทางไปที่หอภาพยนตร์เพื่อค้นหาฟุตเตจเก่า ๆ มาใช้ในหนังของตน
หรือแม้กระทั่งกับฉากเซ็กส์ที่เกิดขึ้นในห้องเก็บไวน์ อุปกรณ์สำหรับดูดไวน์ที่ถูกใช้กับสิ่งสงวนของลินดา
มันแสดงให้เห็นถึงความคิด 'สร้างสรรค์' ของเขาบ้างไหม ?
ความสำเร็จขั้นแรกของตัวหนังเกิดขึ้นเมื่อนโยบายจัดระเบียบหนังโป๊ถูกนำมาสำเร็จความใคร่กับหนังเรื่องนี้
หลายต่อหลายครั้งที่ตำรวจนิวยอร์กบุกเข้ารื้อป้ายโฆษณาของหนัง และต้องการให้หยุดการฉายหนังโดยสิ้นเชิง
มันกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของแคมเปญกวาดล้างหนังโป๊ในนิวยอร์ก ประเด็นสำคัญที่พวกเขาอ้างในศาลก็คือ
'มันเป็นหนังที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง'
ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะ 'เป็นอันตรายต่อเพศหญิง'
นอกจากพวกตำรวจจะหยุดยั้งการฉายหนังเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว เมื่อนักข่าวของไทม์รายงานเรื่องนี้ออกไป
โรงภาพยนตร์กลับขายตั๋วได้เพิ่มเป็น 2 เท่า คนดู 1,700 คนต่อวันทยอยมาเข้าคิวซื้อตั๋ว หนังเริ่มกลายเป็น
กระแสเมื่อพวกตลกคำพูดทางโทรทัศน์หลายรายการเริ่มนำมันไปล้อเลียน
'ผมไปดูดีพโทรทเพราะชอบดูหนังสัตว์ นี่มันหนังเกี่ยวกับยีราฟ ใช่มะ ?...'
Deep Throat กลายเป็นหนังโป๊ที่นำพาวงการหนังโป๊ออกจากดินแดนสนธยาเสียที
แม้ในภายหลังคำตัดสินของศาลจะสั่งให้มีการงดฉายมันอย่างสิ้นเชิงก็ตาม แต่ด้วยอำนาจของเครือข่ายมาเฟีย
ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ รวมทั้งอำนาจของเงินที่ทุกคนต่างรู้ว่าจะได้ครอบครอง ทำให้คนมากมายอยากเป็น
ส่วนหนึ่งของการจัดฉายหนังเรื่องนี้ในโรงนอกนิวยอร์ก
'Deep Throat won't die'
(http://image.ohozaa.com/i/799/5cMPlB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2BoIrOK4dFqt2h2)
แทบไม่แตกต่างจากภาพความล้มเหลวของคนในแวดวงหนังโป๊จากหนังเรื่อง Boogie Nights
(ฉากหลังของหนังคือยุค 70 นี่เอง) แฮรี่ รีมส์ ที่ถูกจำคุกอยู่นานถึง 5 ปี
(แม้ แจ็ก นิโคลสันและวอเรน บีตตี้ จะออกโรงเข้าข้างรีมส์อย่างจริงจังแล้วก็ตาม)
หลังพ้นโทษออกจากคุกพร้อมความหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาได้รับการติดต่อให้เล่นหนัง
เรื่อง Grease ของ Allan Carr แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลง เมื่อทางค่ายพาราเมาท์
จัดการลบชื่อของเขาออกจากรายชื่อนักแสดง หลังจากนั้นรีมส์กลายสภาพเป็นไอ้ขี้เมา
ชีวิตล้มเหลวในทุกทาง พยายามจะหนีทุกอย่างด้วยเหล้าและยาเสพย์ติด
ล้มเหลวแม้กับการหวนกลับไปแสดงหนังโป๊อีกครั้ง
(http://image.ohozaa.com/i/c06/K06hhx.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2BnDNOwL4NkxgSk)
Linda Lovelace หรือ Linda Boreman ในสมัยที่ยังไม่โด่งดัง ดูเหมือนเด็กสาวธรรมดาที่อยู่ในละแวกบ้านของคุณ
และคงจะเป็นแบบนั้น หากเธอไม่พบกับผู้ชายที่ชื่อ Chuck Traynor ลินดาตัดสินใจย้ายตัวเองออกจากบ้าน
ที่สภาพความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก เพื่อแต่งงาน แล้วหนีไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์กกับผู้ชายที่เธอบอกคนในครอบครัวว่า
เป็นนักทำหนังสารคดี - นักทำหนังสารคดีที่ไปหา Damiano ที่อ็อฟฟิศ
เพื่อพูดว่า 'ลินดาทำได้ทุกอย่าง'
(http://image.ohozaa.com/i/6b5/7R4KYg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2BnEvLTkeYUckmY)
ชื่อเสียงมาเยือนลินดาเพียงชั่วข้ามคืน เธอแทบไม่แตกต่างจากดาราฮอลลีวู้ด ไม่มีใครรู้หรือสนใจว่าในขณะที่เธอ
กลืนเจ้าโลกของรีมส์ลงไปในลำคอนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง และเมื่อคนในครอบครัวเริ่มระแคะระคายความจริง
ก็ไม่มีใครสนใจว่าเธอจัดการกับมันอย่างไร ในขณะที่ Damiano ยังคงกอบโกยความสำเร็จของตนด้วยการ
สร้างหนังโป๊เรื่องอื่น ๆ ต่อไป ลินดาก็ทำแบบเดียวกันนั้นเอง
อย่างไรก็ดี ลินดา เลิฟเลซ ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มสตรีต่อต้านหนังโป๊ในช่วงหลังของชีวิต
เธอทั้งเขียนหนังสือบอกเล่าถึงถึงความจริงที่เกิดขึ้น ทั้งเดินสายออกรายการโทรทัศน์เพื่อพูดถึงความเลวร้าย
ที่เธอต้องประสบ สามีเก่าที่ขู่ฆ่าเธอแทบทุกครั้ง เมื่อเธอนึกอยากจะติดต่อคนในครอบครัว
บาดแผลบนเนื้อตัวที่ปรากฏในหนังเรื่อง Deep Throat เป็นหลักฐานที่เธอและเครือข่ายต่อต้านหนังโป๊
นำมายืนยัน
'ทุกครั้งที่มีใครดูหนังเรื่องนี้ คนพวกนั้นกำลังดูฉันโดนข่มขืน' เธอพูด
(http://image.ohozaa.com/i/39e/VyS44c.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w2BnFdJfTlo4B88o)
มันอาจจะเป็นข้อความที่เธอต้องพูดเพื่อผลลัพธ์ในการทำกิจกรรมของกลุ่มต่อต้านดังกล่าวก็ได้
รวมทั้งการตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมของลินดาอาจเกิดจากการจัดตั้งโดยกลุ่มสตรีที่ว่านี้
เป็นอีกเรื่องที่ไม่มีใครสนใจรู้
'ลินดาต้องการใครสักคนที่คอยบอกว่าเธอควรต้องทำอะไร เธอมีความสุขกับการแสดงหนังมาก
แต่เมื่อเธอแสดงหนังแล้วกลับมีคนกลุ่มนึงมาบอกว่าเธอไม่ควรแสดง เธอก็เลยคิดว่าตัวเองไม่ควรจะทำมัน'
อดีตผู้กำกับหนังที่สร้างชื่อเสียงให้เธอเพียงชั่วข้ามคืน ว่าเอาไว้
ลินดาใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายกับลูก ๆ ของเธอ โดยหนีไปอยู่ในรัฐอื่น ทำงานเหมือนคนปกติทั่วไป
เธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 2002 (โดยพี่สาวของเธอตั้งคำถามเกี่ยวกับการตายที่มีเงื่อนงำนี้)
http://www.youtube.com/v/iOdET_VLlkY?version=3&hl=en_US
กล่าวกันว่า Deep Throat เป็นหนังโป๊ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ระบบกฎหมาย สังคม
และทำหน้าที่ปฏิวัติความคิดอ่านเกี่ยวกับเรื่องเพศในสังคมอเมริกันเสียใหม่
(อีกการดื้อแพ่งฉายหนังเรื่องนี้ในหลาย ๆ เมือง ทั้งมีคำสั่งห้ามจากศาลแล้ว ก็อาจถือเป็นการพาสังคมอเมริกัน
เข้าสู่ภาวะอนาธิปไตยแบบกลายๆ ก็ได้) บทเรียนจากทุกส่วนของหนังเรื่องนี้ที่สัมพันธ์กับแทบทุกองคาพยพของสังคม
แสดงให้เห็นว่าแม้หนังโป๊เพียงเรื่องเดียวก็สามารถทำหน้าที่ทางสังคมได้ดีไม่แพ้สื่อประเภทอื่น ๆ เลย
หมายเหตุประเทศไทย - ทั้งหมดของย่อหน้าข้างบนนี้ อาจเป็นเรื่องที่นักเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ในประเทศของเรา
ไม่มีวันที่จะเข้าใจ ?
ที่มา : นิตยสาร BIOSCOPE ฉบับที่ 91 / mthai.com
ล้ำลึกจิงๆ pongz pongz
ใครได้ดูต้องบอกเลยครับว่า เด็ดกว่าหนังโป๊หลายเรื่องสมัยนี้อีก ทั้งคลาสสิคและเร้าอารมณ์ ภาพของหนังก็ทำให้หนังน่าดูขึ้นอีกเยอะเลยครับ ขอบอกหอยเดิมๆขนเดิมๆ hgjhg
คดีวอเตอร์เกต บันทึกอันแสนอัปยศของประธานาธิบดีนิกสัน
คดีวอเตอร์เกตมีจุดเริ่มต้นที่นี้ โรงแรมวอเตอร์เกต วอชิงตัน ดีซี ในวันที่ 17 มิถุนายน 1972 ซึ่งโรงแรมนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับชาติของพรรคเดโมแครต ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน บังเอิญเจ้าหน้าที่โรงแรมได้สังเกตเห็นสิงผิดปกติในที่ทำการพรรคเดโมแครต จึงโทรเรียกตำรวจ ส่งผลสามารถจับกุมผู้ต้องหา 5 คนได้พร้อมของกลาง
ฯลฯ
คดีวอเตอร์เกตได้สร้างชื่อเสียงให้แก่วูดเวิร์ดและเบิร์นสไตน์ และได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง "All The President's Men" ในปี 2519 ส่วนนามแฝง "ดีพโธรท" ยังเป็นที่จดจำนั้นเป็นเพราะเป็นชื่อเดียวกับชื่อหนังโป๊เรื่อง "Deep Throat"
แม้คดีจบไปนานแล้ว แต่ปริศนาของคดีนี้ยังมีอยู่ เมื่อหลายฝ่ายต่างอยากรู้ว่า คนแฉเรื่องคดีวอเตอร์เกตนั้นเป็นใคร โดยเฉพาะคนที่ใช้นามปากกาว่า "ดีพโธรท" ซึ่งเป็นแหล่งข่าวลับสุดยอด คนแฉข้อมูล ให้กับคนในสำนักพิมพ์ให้ฟัง แบบรู้เรื่องคดีนี้ทั้งหมด ราวกับตาเห็น จนประชาชนยกย่องเขาในฐานะ 'ฮีโร่' ที่คอยฟาดฟันกับบรรดานักการเมืองเหลิงอำนาจ
อย่างที่รู้ๆ กัน คงไม่มีใครในรัฐบาลของนิกสันหรือข้าราชการคนไหน บ้าพอที่จะเอาคอตัวเองขึ้นเขียงด้วยการให้ข้อมูลกับนักข่าวในเรื่องนี้แล้วเห็นชื่อตัวเองปรากฏหราอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับวันรุ่งขึ้นแน่
"ดีพโธรท" เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของแหล่งข่าวที่มีความลึกลับ แต่มีความน่าเชื่อถือ
ฯลฯ
นักข่าวหลายคนถูกจับได้คาหนังคาเขาว่ากุข่าวที่ตัวเองเขียนขึ้นมาเอง และแหล่งข่าวที่อ้างอิงในเรื่องนั้นไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ
เรื่องนี้กว่าจะไขได้ก็ปาไป 30 เมื่อวอชิงตันโพสต์ยอมเผยโฉม "ดีพโธรท".....ว่า "ดีพโธรท" คือ ดับเบิลยู มาร์ค เฟลท์ อดีตผู้นำหมายเลข 2 ของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ซึ่งผู้เปิดโปงคดีอื้อฉาววอเตอร์เกต ในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างทำเนียบขาวกับเอฟบีไอ กำลังตึงเครียดถึงที่สุด
-------------------------
นี่เป็นตำนาน "ดีพโธรท" อีกเรื่องหนึ่งนอกเหนือจากหนังโป๊ที่ท่านว่ามา ไปหาอ่านกันในเวปนะครับเป็นความรู้ประดับตัว เพราะถ้ามีการพูดถึง "Deep Throat" ทางการเมือง หรือเกี่ยวกับหนังโป๊....พวกเรารุ่นหลังจะได้เข้าใจความหมายไงล่ะครับ
ชอบดูหนังเก่าแบบนี้เหมือนกันครับ มันคลาสสิคดี มีเนื้อเรื่องด้วย
คงหาดูยากเต็มทีละ... ouiy
เก่าไป
แต่ก้ยังสวย