สรุปทุติยบรรพ
สมัยที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์นั้น เมื่อภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรือ อุบาสิกา คนใดคนหนึ่งทำกาละ พระองค์ท่านมักจะตรัสพยากรณ์ว่าใครได้ไปเกิดใหม่ในภพใด เมื่อมีผู้ถามว่าพระองค์ทรงมีพุทธประสงค์อย่างไรในการพยากรณ์เช่นนั้น ท่านก็ตรัสตอบว่า ตถาคตพยากรณ์สาวกทั้งหลายผู้ทำกาละไปแล้ว ว่าใครเกิดใหม่ในภพใดเช่นนี้ จะเพื่อให้คนพิศวงก็หามิได้ จะเพื่อเกลี้ยกล่อมคนก็หามิได้ จะเพื่ออานิสงส์เป็นลาภสักการะและคำสรรเสริญก็หามิได้ จะเพื่อให้เราเป็นที่รู้จักของมหาชนก็หามิได้ ดูก่อนอนุรุทธะ มีกุลบุตรจำนวนหนึ่งจะเกิดศรัทธามาก เกิดความยินดีมาก เกิดความปราโมทย์มากหลังจากได้ฟังคำพยากรณ์หนึ่งๆแล้ว และจะน้อมจิตเพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง นี่คือประสงค์ของเรา ที่พยากรณ์ก็เพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่กุลบุตรเหล่านั้นสิ้นกาลนาน
การได้ยินได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับสุคติเพื่อเป็นศรัทธา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เชื่อมั่นในหนทางไปสู่สุคติ คือก่อกรรมดี ละความตระหนี่ รักษาความสะอาดของจิต ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นใจและเชื่อมั่นในการชี้แนะของพระพุทธเจ้ายิ่งๆขึ้น เพราะมหากุศลจิตย่อมให้ความรู้สึกปลอดภัยอันเป็นที่รู้อยู่กับตนเอง ผู้มีความพรักพร้อม ไม่ถูกกลุ้มรุมด้วยความตระหนี่ ไม่แปดเปื้อนมลทินจากการละเมิดศีล ย่อมมีความกล้าเผชิญความตาย เพราะมั่นใจเกินมนุษย์อื่นๆว่าถ้าภพหน้ามีเขาต้องได้ไปดีกว่าที่เป็นอยู่ในภพมนุษย์แน่ๆ
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ถ้ารักตัวเองแล้ว ก็ไม่ควรก่อบาปทั้งปวง เพราะความสุขนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทำชั่วจะได้พบโดยง่าย เมื่อบุคคลถูกมรณะครอบงำ ละทิ้งภพมนุษย์นี้ไป ก็มีอะไรเป็นสมบัติของเขาเล่า? เขาย่อมพาเอาอะไรไปด้วยเล่า? อะไรเล่าจะติดตามเขาไปประดุจเงาติดตามตนไป? ผู้ที่มาเกิดแล้วจำจะต้องตายในโลกนี้ ไม่ว่าจะทำกรรมอันใดไว้ ทั้งที่เป็นบุญและเป็นบาป บุญและบาปนั้นแลเป็นสมบัติของเขา เขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไป บุญและบาปนั้นย่อมติดตามเขาไปประดุจเงาติดตามตนไป ฉะนั้นทุกคนควรทำกรรมอันดีสะสมไว้เป็นสมบัติในปรโลก บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก
ศาสนา และคำสอน ของๆๆศาสนา สอนให้เราทำความดี สาธุ
สาธุ ครับ ;khhg
สาธุ คำสอนง่ายๆ แต่ทำไมปฏิบัติจริงช่างยากเย็น cxz
ไม่ได้้ามาห้องนี้ นาน uilo
อ่านแล้ว ลึกซึ้ง มากๆๆ ครัล สาธุ ;khhg
เข้ามาอ่านแล้วทำให้ได้เห็นแง่มุมที่แท้จริงในการใช้ชีวิตครับ ทุกคนไม่ว่าจะรวย จน แต่ตายไปก็เอาไปไม่ได้ซักอย่าง