cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 04 สิงหาคม 2012, 10:11:55

ชื่อ: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: etatae333 เมื่อ 04 สิงหาคม 2012, 10:11:55
1. "ล๊อกเกอร์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์"

(http://1.bp.blogspot.com/-Bnbl8i4Ouz8/TzjX8UszkdI/AAAAAAAABDU/lN4MjaAW0ZA/s1600/003.JPG)

ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ทีแรกเห็นแต่ขา
แต่ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย


2. "ห้องมืด (ห้องล้างฟิล์ม) ของคณะนิเทศศาสตร์ "

(http://www.classic.in.th/bw/classic_in_th088.jpg)

เรื่องมีอยู่ว่า....เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิล์มในห้องนี้
แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย.... มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้ว
แต่ก็ไม่มีใครพบ...ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อมาเล่าให้ฟังว่า...
ยังมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอีก เช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิล์มในห้องนี้
ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน ก็มีการพูดคุยกัน
แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน... บอกให้หยิบของส่งให้ ก็มีคนหยิบส่งให้...
แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง
จึงได้รู้ว่า ตนเข้าไปคนเดียว......แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้...
ยังคงเป็นปริศนาอยู่.............


3. "บันไดวน คณะเภสัชศาสตร์"

(http://1.bp.blogspot.com/-jMMpk82Oisg/TzjR-IcL61I/AAAAAAAABC0/9I85aTj5MR4/s1600/Capture.JPG)

เป็นบันไดที่ปิดตายไม่ใช้แล้ว มีคนเล่าว่ามีคนเคยเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวตลอดทั้งตัว ยืนอยู่ที่บันไดนี้


4. "ทางเดินระหว่างตึกของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์"

(http://statics.atcloud.com/files/entries/2/20599/images/1_display.jpg)

ทางเดินที่ว่านี้มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามีภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน
....ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามีจนเสียชีวิต....
....เลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้...........

ต่อมาเมื่อทางคณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้
แต่.......มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง
...ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่างที่เห็นกันทุกวันนี้........



5. "สระน้ำจุฬาฯ"

(http://i112.photobucket.com/albums/n189/greendragoncloud/IMG_3215.jpg)

เรื่องเกี่ยวกับสระน้ำจุฬาฯ ที่อยู่ด้านหน้าพระบรมรูป 2 รัชกาล มีเรื่องเล่าอยู่ 2 เรื่องคือ

5.1 "วันลอยกระทง" เชื่อกันว่าถ้าชาย-หญิงคนใด
ที่ยังไม่ได้เป็นคู่กันแล้ว ไปลอยกระทงร่วมกันแล้วจะได้เป็นคู่กัน
แต่ถ้าเป็นคู่กันแล้วไปลอยกระทงร่วมกันจะแยกกัน

5.2 ถ้าใครเดินผ่านสระน้ำจุฬาฯ แล้วเจอเต่าเป็นสัตว์ชนิดแรก
จะถือว่าโชคดี แต่ถ้าได้เจอตะพาบน้ำก่อนจะโชคร้าย
ยิ่งถ้าวันนั้นเป็นวันสอบเจอเต่าแล้วจะทำข้อสอบได้
แต่ถ้าเจอตะพาบน้ำข้อสอบจะยาก


6. "สระน้ำคณะวิทยาศาสตร์"

(http://blog.eduzones.com/images/blog/jipatar/2010030633512.jpg)

เชื่อว่าถ้าใครไปให้อาหารปลาที่สระน้ำข้างรอบคณะวิทยาศาสตร์
แล้วเจอเต่าแสดงว่าเย็นวันนั้นจะโชคดี มีเจ้ามือเลี้ยงข้าว


7. "ลานเกียร์"และ "อนุสาวรีย์เกียร์" 

(http://www.eng.chula.ac.th/files/SupportPicts/building100/history/Retrace100year/Retrace100year3.jpg)

ว่ากันว่าหนุ่มวิศวะคนใดเดินสะดุดในลานเกียร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จะได้แฟนในคณะตัวเอง

ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จะมีอนุสาวรีย์เกียร์ ซึ่งห้ามขึ้นไปนั่งหรือเหยียบ
เพราะเชื่อว่า ถ้าทำแล้วจะโดนรีไทร์


8. "ป้ายคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี"

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/3b/Commerce_Chula.png)

เล่าว่า หนุ่มคนใด ถ้าบังเอิญเจอจิ้งจกเกาะหลังป้าย
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จะได้แฟนอยู่คณะนี้


9. "ทางเดินระหว่างตึกคณะอักษรศาสตร์"

(http://upic.me/i/8b/it003.jpg) (http://upic.me/show/37852317)

อยู่ในตึกเทวาลัยหนึ่ง เป็นโถงที่มีพื้นสีแดง หากว่าใครไปสะดุดล้มที่นั่น
จะได้แฟนเป็นสาวอักษร (ทางที่ว่านี้ ปัจจุบันไม่ให้ใครเข้า)


10. "บันไดหน้าตึกขาวคณะวิทยาศาสตร์"

(http://www.sc.chula.ac.th/th/img/alumni01.jpg)

เดิมทีนั้นตึกขาวคณะวิทยาศาสตร์ เคยใช้เป็นที่เรียนของคณะแพทยศาสตร์
และที่ใต้บันไดเคยใช้เป็นที่เก็บอาจารย์ใหญ่ เชื่อกันว่าห้ามนิสิตปี 1
คณะวิทยาศาสตร์ เดินขึ้นบันไดนี้ มิฉะนั้นจะถูก Retire


11. "บันไดกลางคณะครุศาสตร์"

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/295/13295/images/cu/cu7.jpg)

ที่คณะครุศาสตร์เชื่อกันว่าถ้านิสิตปี 1 เดินผ่านขึ้นลงบันไดกลางแล้วจะเรียนไม่จบ
แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้แล้วเดินผ่านก็ถือว่า "ผู้ไม่รู้คือผู้ไม่ผิด"


12. "บันไดหน้าคณะอักษรศาสตร์"

(http://img.kapook.com/image/education/art_faculty.jpg)

ห้ามนิสิตคณะอักษรศาสตร์ถ่ายรูปที่บันไดหน้าคณะอักษรศาสตร์
เพราะเชื่อว่าจะทำให้เรียนไม่จบ และถ้าสำเร็จการศึกษาแล้วต้องไปถ่ายรูปที่นั่น
เพราะถ้าไม่ได้ถ่ายรูปที่นั่นเหมือนว่าเรียนไม่จบจริงๆ


13. ศิลปกรรมศาสตร์ ห้องล้างรูป

(http://uc.exteenblog.com/rokang/images/APlayOn/7.jpg)

ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิลปกรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว
ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปอีกด้วย
(ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว)

บางทีก็มีเสียงเก้าอี้นั่งรอล้างรูปดังอี๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ
หรือนิสิตบางคน ได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง
ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบฯ
อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง


14. อักษรศาสตร์ ห้องสมุด

(http://www.car.chula.ac.th/halloffame/images/b4.png)

ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ
เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที
เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า...ไม่มีหน้า


15. คณะวิทยาศาสตร์ ตึกชีววิทยาทางทะเล

ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคน และแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน
ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก


16. ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี

(http://img.photobucket.com/albums/v318/jaanlala/Blog/school/s7.jpg)

อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล้อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม และแน่นอน
ไม่มีคนเข้า พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว
บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้


17. ประตูอังรีฯ

เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ แนน) ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ
จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา
ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป

นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ
ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน
ก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไร เหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว


18. เศรษฐศาสตร์
ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหารด้านหลัง ถูกกั้นไม่ให้เข้าออกเพราะเป็นทางผีผ่าน
มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย


19. ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน)
เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปี (สำหรับเพื่อนสาธิตรามขอบอกว่าคือ โอชิน) เล่าว่า
วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมากเลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโท
เพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก
พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ
อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา
เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้
แต่เงาดำไม่ตอบ และเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที
แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ
ไม่ยอมบอกเพื่อนกลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


20. หอหญิง (ตึกดำ)
เพื่อนเราเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่ง
ก่อนนอนกลัวว่าจะร้อน เลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี
เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่
ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที
ธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้วก็เลยคลุมโปงนอนต่อ


21. วิศวกรรมศาสตร์ ห้องสมุด
เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า
แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิมเป็นตึกเรียนเก่า
กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า
คือ ยืมได้แต่ห้ามเดินเข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสืออยู่ตามชั้นต่างๆ
พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา
เห็นว่าใส่ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่านิสิตเข้ามาได้ยังไง
แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่า
แม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้
แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุนกลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก


22. ห้อง Sound Lab
ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก
อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ
ขณะกำลังเปิดเทป มีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง
อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง
อาจารย์คอยเช็คชื่อ เห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วย และเด็กก็ไม่ยอมออกมาสักที
เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับเห็น เด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่
และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น


23. ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง
ดาดฟ้าตึกพยาธิวิทยา
ตอนดึกๆ หรือตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ
ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว



สิ่งศักดิ์สิทธิ์

(http://www.dooview.com/cache_img/photo/1/794/1315276681_45512-500x0.jpg)

1. "พระบรมรูป 2 รัชกาล"
เป็นพระบรมรูปที่เป็นที่เคาารพสักการะ ของชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป
เป็นพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่6)

ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ได้ใช้พระนามของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และผู้สถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบรมรูป 2 รัชกาลนี้เป็นที่เคารพสักการะของนิสิตจุฬาลงกรณ์เป็นอย่างมาก
โดยที่หากนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนใด เดินเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัย
และผ่านพระบรมรูป 2 รัชกาลนี้ จะพนมมือไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคล
ทั้งในเวลาที่เข้ามหาวิทยาลัยและออกจากมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ถ้าหากใครมีเรื่องต้องการบนบานศาล กล่าวก็มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผลการสอบ
ของนิสิตนั่นเอง เช่น ขอให้เกรดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม , ขอให้ผลการเรียนไม่มี F ,
ขอให้ไม่ตกมีน (ค่ากลางของคะแนนแต่ละรายวิชา) เป็นต้น

นักเรียนที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเข้าเป็นนิสิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก็จะไปบนบาน กับพระบรมรูปของทั้ง 2 รัชกาล สิ่งที่มีการนำมาใช้บูชาพระบรมรูป 2 รัชกาลนี้
จะเป็น "ดอกกุหลาบสีชมพู" เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงโปรดปรานดอกกุหลาบสีชมพูเป็อย่างมาก จึงมีการนำดอกกุหลาบสีชมพูมาใช้
เป็นสิ่งที่ใช้ในการบูชา


2. "ศาลพระภูมิ หอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"

ศาลพระภูมินี้จะเป็นนที่สักการะบูชาของชาวหอพักนิสิตนี้ได้ตั้งขึ้นพร้อมกับหอพักนิสิต
โดยเฉพาะสำหรับนิสิตชั้นปีที่ 1ที่ผ่าน ประเพณีการรับน้องใหม่รุ่นพี่จะพาน้องๆมาไหว้ศาลแห่งนี้
เพื่อความเป็นศิริมงคล และเป็นการแสดงการฝากตัว ประกอบกับความเคารพให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง


เมื่อเข้ามาอยู่ในหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มื่อเดินผ่านศาลพระภูมิไม่ว่าจะเข้าหรือจะออกจาก
หอพักนิสิตนิสิตจะไหว้แสดงความเคารพเสมอ


3. " ศาลหลวงชัยอัศวรักษ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์"

หลวงชัยอัศวรักษ์เป็นชื่อของคณบดีคนแรกของคณะสัตวแพทยศาสตร์
ซึ่งท่านเป็นที่สักการะของนิสิตในคณะนี้มาก

หลังจากนั้น ท่านได้เสียชีวิตลงจึงตั้งศาลขึ้นที่คณะเพื่อเป็นที่เคารพบูชาของชาวคณะ


4. "ศาลพระภูมิ คณะรัฐศาสตร์"

เป็นศาลที่ตั้งขึ้นมาพร้อมกับการแรกเริ่มตั้งคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งเล่ากันว่าในอดีตเจ้าที่
ในบริเวณนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก จนถึงกับต้องตั้งศาลเพิ่มขึ้นพร้อมกันถึง 5 ศาล

ต่อมาจึงลดจำนวนลงเหลือเพียงศาลเดียว ปัจจุบันศาลนี้เป็นที่สักการะของชาวรัฐศาสตร์
เมื่อถึงประเพณีการรับน้องใหม่รุ่นพี่จะนำรุ่นน้องมาสักการะ ณ ศาลแห่งนี้


5. "ต้นไทรใหญ่ ที่ลานไทร คณะรัฐศาสตร์"

เมื่อมีการนำผ้าไปผูกที่โคนต้นไม้ก็มักจะเข้าใจกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเคารพสักการะ
หรือเคยมีปาฏิหารย์เกิดขึ้น โดยที่ต้นไทรคณะรัฐศาสตร์นี้เพิ่งจะมีการผูกผ้าสีได้ไม่นานนัก

คือ ไม่ได้เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งคณะซึ่งตั้งมากว่า 51 ปีแล้ว คนที่มาผูกผ้านี้ เข้าใจว่า
คงเป็นนิสิตของคณะที่เคยบนบานกับต้นไม้นี้หรือพูดลอยๆกับต้นไม้นี้ ว่า
ถ้าหากสอบผ่านแล้วจะเอาผ้าสีมาผูกต้นไม้ แล้วสอบผ่านจริงๆ ก็เลยมีการเอาผ้าสีไปผูกต้นไทร
อีกทั้งต้นไทรมีขนาดใหญ่และมีอายุมากจึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย


6. "สัญลักษณ์ Rx คณะเภสัชศาสตร์"

อยู่ข้างลานบ่อน้ำพุตึกเภสัชเก่า ห้ามไม่ให้นิสิตเดินข้ามสัญลักษณ์นี้
เพราะถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธ์ของคณะ


7. "ถ" ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

จะมีสัญลักษณ์ "ถ" ในคณะ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำคณะ
และห้ามนิสิตข้ามหรือเดินเหยียบ เนื่องจากสัญลักษณ์ของคณะ
ถือว่าศักดิ์สิทธิ์และยังมีการห้ามเหยียบ "ถุง" ที่คณะนี้อีกด้วย


8. "ใบชงโค"

(http://www.maemaiplengthai.com/webboard/attachments/20081019_9dea7e5ed7b07b2d243fyTKXAuCOabpC.jpg)

คณะอักษรศาสตร์ ห้ามเด็ดใบชงโค ห้ามถ่ายรูปกับบันไดนาคเทวาลัย บริเวณแถบคณะอักษรศาสตร์
จะมีต้นไม้ ต้นใหญ่ที่มีมานาน กว่า 30 ปี คือ ต้นชงโค โดยชาวคณะอักษรฯ


เชื่อกันว่า ใบชงโคหน้าคณะนั้น "ห้ามเด็ด เด็ดขาด" เพราะจะถือว่านำใบไม้ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ประจำสถาบัน พร้อมกับห้ามถ่ายรูปหน้าบันไดนาคที่เทวาลัย หากใครถ่ายก็จะเรียนไม่จบ
สมควรเก็บไว้ถ่ายตอนวันสำเร็จการศึกษาแล้วเท่านั้น


9. "ลาน 4 เสาเทวาลัย"

(http://povolam.exteen.com/images/R0014184_r.jpg)

นี่ก็อีกหนึ่งความเชื่อของคณะคุณภูมิ "สี่เสาเทวาลัย" อนุสรณ์สถานของอดีต
ตึกอักษรศาสตร์ 3 ที่โดนทุบไปนานแล้ว เช่นเดียวกับบันได้พญานาค เชื่อกันว่านิสิตที่ยังเรียนอยู่
ถ้าขึ้นมาเหยียบเทวาลัยจะทำให้เรียนไม่จบภายใน 4 ปี ซ
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: luciana เมื่อ 05 สิงหาคม 2012, 12:19:51
เยอะมาก

แต่รูปที่9 เหมือนเป็นอยู่ที่ อักษร ศิลปากร นะครับ
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: poojung3 เมื่อ 07 สิงหาคม 2012, 02:08:20
 ไม่รู้ฮะ นู๋เรียนเชียงใหม่  eta07
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: pong เมื่อ 10 สิงหาคม 2012, 17:24:18
หลายๆตึกของจุฬาเคยเป็นที่พักทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองครับ
พอญี่ปุ่นแพ้ฮาราคีรีกันเพียบ
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: vienna เมื่อ 11 สิงหาคม 2012, 13:36:43
เรื่องก็ตื่นเต้นดี...  แต่พระบรมรูปสองรัชกาลที่ซึ่งปรากฏในเว็บนั้น  ควรลบออกนะครับ  ไม่ค่อยเหมาะนัก
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: ycom2004 เมื่อ 13 สิงหาคม 2012, 09:58:47
ขอบคุณครับ ที่เอามาให้อ่านเป็นความรู้ครับ
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: tommyjaa เมื่อ 03 กันยายน 2012, 23:57:27
น่ากลัวนะ ถ้าเข้าไปเรียน
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: del38196 เมื่อ 29 พฤษภาคม 2013, 11:20:49
มีงี้ด้วย
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: OsamaB เมื่อ 29 พฤษภาคม 2013, 22:42:23
สนุกมาก อ่านเพลินเลย ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: เรื่องผี ความเชื่อต่างๆในรั้วจุฬา ! และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคณะต่าง ๆ ...
โดย: Barball เมื่อ 15 มิถุนายน 2013, 17:02:49
สนุกมากครับ ได้ความรู้แปลกๆใหม่ๆเยอะเลย  pongz

วันหลังขอมหาวิทยาลัยในเชียงใหม่บ้างนะครับ  ;khhg