ตำนานราศีกุมภ์ (Aquarius)
(http://image.ohozaa.com/i/026/W00qhj.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfyEIaXebRYgL8)
ในสมัยอียิปโบราณ เห็นดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวนี้ ทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่หน้าฝน เห็นกลุ่มดาวนี้
เป็นรูปเทพเจ้า Hapi ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นผู้ให้น้ำ นำฝนมาให้แก่พวกเขาในการอุปโภคบริโภค
และใช้ในฤดูแห่งการเพาะปลูก เพื่อการดำรงชีวิตของมนุษบ์โลก เสมือนหนึ่งว่ามีคนแบกหม้อน้ำมาเทจึงให้ชื่อกลุ่มดาวนี้ว่า
คนแบกหม้อน้ำ และได้กล่าวไว้ว่า อควาเรียสเป็นผู้ที่ทำการรินน้ำลงมาในแม่น้ำไนล์ ในฤดูกาลเพาะปลูก
ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่น้ำไนล์ล้นตลิ่งและท่วมออกมายังพื้นที่ที่ต้องการน้ำต่างๆ
(http://image.ohozaa.com/i/g90/KeWofD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfyEIaX4dAdM9f)
เมื่อครั้งที่สมัยเมืองทรอยยังคงอยู่ มีเจ้าชายนามว่ากานีเมเด (Ganymede) กานีเมเดเป็นเด็กหนุ่มรูปงามเสียจนว่า
แม้แต่สาวงามก็ยังเทียบได้ยาก ซีอุสซึ่งแต่เดิมจะเป็นหญิงหรือชายก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วนั้น เมื่อได้เห็นก็เกิดถูกใจ
ในความงามของกานีเมเดเข้า จึงแปลงกลายเป็นนกอินทรี (บ้างก็ว่าส่งอินทรีมา) มาลักพาตัวกานีเมเดที่กำลังต้อนฝูงแกะ
อยู่นั้นเองไปที่โอลิมปัส และให้ทำหน้าที่เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพ
(ประมาณว่าโดนจับให้มาเป็นเด็กเชียร์เบียร์ แต่ว่ากันว่าไม่ใช่แค่รินเหล้า แต่ให้เป็นเด็กรับใช้ส่วนตัวของซีอุสด้วยซ้ำ)
ซึ่งแต่เดิมเป็นหน้าที่ของเฮเบ (Hebe) เทพีแห่งความเยาว์วัยซึ่งเป็นธิดาของเทพีเฮร่าและซีอุส แต่ได้เกษียณตัวเอง
ไปแต่งงานกับเฮอร์คิวลิสที่ถูกยกให้เป็นเทพบนสวรรค์ (ถือว่าเป็นการสงบศึกกันระหว่างเฮร่าและเฮอร์คิวลิส)
แต่เมื่อเฮร่าเห็นซีอุสให้ความรักแก่กานีเมเดก็เกิดความหึงหวง ฝ่ายซีอุสก็กลัวเมียเป็นทุนเดิม จึงให้กานีเมเดไปเป็น
กลุ่มดาวราศีกุมภ์เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนเฮร่ารังควาน และใกล้ ๆ กันจะมีกลุ่มดาวอินทรีซึ่งก็คือร่างของซีอุสที่กลายร่าง
เป็นอินทรีมาลักตัวกานีเมเดไปนั่นเอง
แต่บางเรื่องเล่าก็ว่าเมื่อกานีเมเดถูกลักพาตัวไปแล้ว ฝ่ายบิดาและมารดาซึ่งเป็นเจ้าเมืองทรอยในตอนนั้นก็เศร้าเสียใจมาก
ซีอุสจึงให้ผู้รับใช้นำของขวัญมาปลอบใจซึ่งได้แก่ม้าวิเศษที่วิ่งบนน้ำได้ (บ้างก็ว่าเป็นเถาองุ่นทองคำ) และเล่าว่ากานีเมเด
ได้รับพรให้ไม่แก่ไม่ตายและยังได้รับเกียรติให้เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพอีกด้วย และซีอุสก็ได้ทำให้กานีเมเดกลายเป็น
กลุ่มดาวราศีกุมภ์ เพื่อให้พ่อแม่ของเขาสามารถมองเห็นเขาอยู่บนท้องฟ้าได้ (คืน ๆ ให้พ่อแม่เขาไปซะก็สิ้นเรื่อง)
(http://image.ohozaa.com/i/9c6/z9CMZZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfEkn5ufZrBnbE)
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เทพเจ้าซีอุส (จูปีเตอร์)แห่งโอลิมเปีย ได้มอบหมายให้แกนีมีด (Ganemede) ผู้ถือแก้วน้ำ
ของเหล่าเทพเจ้าเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งน้ำลงมายังโลก โดยเอียงแก้วให้น้ำไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายกลายเป็น
แม่น้ำบนโลกมนุษย์ ซึ่งแกนีมีดก็คือ กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำนี่เอง ........ ฉะนั้นกลุ่มดาวกลุ่มนี้จึงเป็นเครื่องหมาย
แห่งฤดูฝน
(http://image.ohozaa.com/i/c1a/zhHW1j.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfCcuZMQlqIJOV)
สำหรับชาวกรีกโบราณนั้น อควาเรียส คือคู่สามีภรรยา ที่ชื่อว่า ดิวคาเลียน ( Deucalion ) และ เพียร่า ( Pyrrha )
โดยเรื่องนี้ได้ปรากฎในเทพนิยายกรีก ตั้งแต่เมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาลโดยกล่าวไว้ว่า.....อควาเรียสได้ทำให้เกิด
น้ำท่วมครั้งใหญ่เพื่อทำการชำระล้างล้างโลกมนุษย์ ซึ่งพ่อของดิวคาเรียนก็ได้บอกกับบุตรชาย และลูกสะใภ้
ให้สร้างเรือที่แข็งแรงขึ้นมา และทำการตุนเสบียงอาหารเอาไว้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาน้ำท่วมโลกก็ปรากฎว่าทั้งสองนั้น
ลอยอยู่ในเรือเป็นเวลาถึง 9 วัน 9 คืน จนกระทั่งมาเกยตี้นที่ภูเขาพาร์นาสซัส (Parnassus)
(http://image.ohozaa.com/i/566/ebW1SR.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfEGlLLUxPGmpZ)
ในที่สุด ทั้งสองปลอดภัยดีแต่ว่าก็เป็นเพียงแค่ 2 คนที่รอดชีวิตอยู่เท่านั้น พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ ในขณะที่น้ำ
ค่อยๆลดลงและเผยให้เห็นถึงภูมิประเทศต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่รู้จะทำยังไงดี พวกเขาก็ได้วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งก็มีเสียงตอบออกมาว่า
"...จงขว้างกระดูกของแม่ข้ามหัวไหล่ของเจ้าไป..."
ดิวคาเรียนทายว่ากระดูกของแม่ หรือ โลก ก็คือก้อนหิน ดังนั้นเขาทั้งสองจึงเดินหาและเก็บก้อนหินมาแล้วก็
ขว้างข้ามหัวไหล่ของตนไปทางด้านหลัง ซึ่งเมื่อทั้งสองหันหลังไปก็พบมนุษย์อยู่ โดยก้อนหินที่ขว้างโดย
ดิวคาเลียนนั้นกลายเป็นมนุษย์ผู้ชาย และก้อนหินที่ขว้างโดยเพียร่านั้นก็กลายเป็นมนุษย์ผู้หญิง
(http://image.ohozaa.com/i/cb4/NMzbTs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfCUsmm7lhPm2F)
ดังนั้น อควาเรียส จึงรู้จักกันในนามของ ผู้นำมาซึ่งชีวิตและผู้ให้ชีวิต ซึ่งเทพนิยายเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับ
น้ำท่วมโลกและกำเนิดสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีอยู่ในเรื่องเล่าของหลายๆชาติด้วยกัน ........
บางนิทานดาว ชาวบาบิโลเนียนโบราณ ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตศักราช มองเห็นเป็นรูปหม้อน้ำ ที่มีน้ำล้นออกมา
และแทนด้วยสัญลักษณ์ ของคนแบกหม้อน้ำ (Aquarius) ซึ่งในเดือนที่ 11 ของชาวบาบิโลเนียน
(หรือระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) จะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักในรอบปี สำหรับชาวอาหรับ ซึ่งต้องใช้ชีวิต
โดยขึ้นกับฝนที่จะตกมาในฤดูฝนนั้น มองกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำว่าเป็น "ถังน้ำ" ทั้งนี้เนื่องจากข้อห้ามทางศาสนา
อันห้ามนับถือรูปเคารพใดๆนั่นเอง ..........
(http://image.ohozaa.com/i/633/ncHBDG.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wDnfzmFxw8vtZIsP)
credit :: physicsworld / ginolife / tumnandd.com
เรียบเรียง by cmxseed.com
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มาก จะติดตามต่อไป pongz
นึกถึง คามิว อาจารย์เฮียวกะอ่า