cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 22 มีนาคม 2013, 16:17:40

ชื่อ: มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง
โดย: etatae333 เมื่อ 22 มีนาคม 2013, 16:17:40
มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง

(http://upic.me/i/nm/martinandcordermaginnserialpg41-buriedpassionscopy.jpg) (http://upic.me/show/43892955)

การฆาตกรรมแห่งโรงนาสีแดงเป็นคดีดังในตำนานของอังกฤษ เกิดขึ้นที่โพลสเตลด,ซัฟโฟล์ค, ประเทศอังกฤษในปี 1827
ที่จริงมันก็อาจเรียกได้ว่าเป็นคดีปริศนาก็ว่าได้ แม้จะจับคนมาลงโทษเอาผิดได้แล้วก็เถอะ แต่เรื่องมันยังไม่จบเท่านี้นะครับ
มันยังมีอะไรหลายๆ อย่างให้น่าค้นหาหรือน่าสงสัยอีกเพียบ เรียกว่าลึกลับซ้อนความลึกลับทีเดียว แถมมีเรื่องเหนือธรรมชาติ
เพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งมีอะไรบ้างนั้นก็อ่านด้านล่างเลยครับ


เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1827 ที่หมู่บ้านโพลสเตด  (Palstead)  ในประเทศอังกฤษ  เมื่อหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ มาเรีย มาร์เตน (Maria Marten)
ถูกยิงเสียชีวิตโดยคนรักของเธอ ศพถูกฝังในโรงนาเพื่ออำพรางคดี และเมื่อฝังเสร็จเขาก็หนีไปใช้ชีวิตในลอนดอน พร้อมสวมรอยเขียนจดหมายส่งกลับไป
เพื่อให้ดูเหมือนว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ กระทั่ง 1 ปีผ่านไป นางมัวร์ แม่เลี้ยงของผู้ตายได้เกิดฝันประหลาดเข้า เห็นวิญญาณมาเรียมาบอกว่าโดนฆ่า 
ขอให้แม่เลี้ยงเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตัวเธอ

และนี่เป็นจุดเริ่มต้นคดีฆาตกรรมแห่งโรงนาสีแดง  (Red Barn Murder) อันลือลั่นในอังกฤษ

(http://upic.me/i/on/j4201.jpg) (http://upic.me/show/43892945)

มาเรีย  มาร์เตน  อายุ 24 ปี เป็นลูกสาวของนาย โธมัส มาร์เตน ชาวบ้านธรรมดาที่ทำอาชีพจับตุ่น ฐานะค่อนข้างยากจน ความจนทำให้เธอ
หวังที่จะแต่งงานกับคนรวยเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เมื่อพบกับวิลเลียม เธอรีบโดดคว้าโอกาสแสนงามไว้โดยไม่สนประวัติ
หรือนิสัยที่ไม่ดีของเขาเลยแม้แต่น้อย

วิลเลียม คอร์เดอร์ เป็นบุตรชายคนที่ 3 ของครอบครัวเกษตรกร  ฐานะร่ำรวยพอสมควร หน้าตาดีมีสาวๆในหมู่บ้านติดพันหลายคน  มีชื่อเสียงด้านลบ
ว่าเป็นเสือผู้หญิง  ชาวบ้านตั้งฉายาเขาว่า "จิ้งจอก" เพราะนิสัยกลับกลอก เจ้าเล่ห์ขี้โกง โกงแม้กระทั่งพ่อตัวเอง

(http://upic.me/i/u0/000015387.jpg) (http://upic.me/show/43892947)

ภายหลังเขาถูกจับได้ว่าปลอมแปลงเอกสารและโกงผลผลิตจากชาวบ้าน จึงเป็นเหตุทำให้ทางครอบครัวขายหน้าจึงต้องส่งตัวเขาไปอยู่ลอนดอน
วิลเลียม คอร์เดอร์ อย่างไรก็ตาม  ไม่นานนักวิลเลียมก็ถูกเรียกกลับเมื่อพี่ชายของเขาจมน้ำเสียชีวิต  และในเวลาต่อมาพ่อกับพี่ชายอีกคนของเขา
ก็เสียชีวิตลงอย่างมีเงื่อนงำ  มรดกและฟาร์มพื้นที่กว่า  300  เอเคอร์ จึงตกอยู่ในมือของเขาทั้งหมด

ยามว่าง ทั้งสองมักไปพลอดรักกันในโรงนาขนาดใหญ่บนเนินเขาบาร์นฟิลด์ (Barnfield Hill) ไกลจากบ้านเธอประมาณครึ่งไมล์  โรงนาขนาดใหญ่
สร้างด้วยไม้  หลังคามุงกระเบื้องสีแดง เมื่อแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามาเหมือนโรงนาอาบไปด้วยสีแดงทั้งหลัง  ด้วยเหตุนี้ชาวบ้าน
มักเรียกติดปากว่า "โรงนาสีแดง"

เมื่อมาเรียตั้งท้อง เธอกดดันให้เขาแต่งงานด้วย แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังนิ่งเฉย กระทั่งเธอคลอดเด็กทารกและเด็กเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ 
มาเรียกล่าวโทษว่าเขาทำให้ลูกตาย (ต่อมามีการพิสูจน์ว่าเด็กทารกถูกฆาตกรรม) วิลเลียมนั้นไม่เคยคิดแต่งงานด้วยเลย  เพราะมาเรียเป็นเพียง
ลูกสาวชาวบ้านจนๆ ซึ่งไม่มีวันเข้าสังคมของเขาได้ ทว่าเมื่อโดนบีบหนักเข้า เขาจึงเริ่มมองหาทางออก

ทางออกสุดท้ายที่เขาคิดไว้คือ ฆ่าเธอซะเพื่อตัดปัญหา!!

(http://upic.me/i/mv/10118115william-corder-ellis-kills-maria-marten-posters.jpg) (http://upic.me/show/43892948)

18 พฤษภาคม 1827 เขานัดพบเธอที่โรงนาสีแดงแหล่งพลอดรัก บอกว่าจะพาหนีไปเริ่มชีวิตใหม่ด้วยกัน เมื่อถึงเวลานัด หมาย มาเรียปลอมตัว
เป็นชายเพื่ออำพรางสายตาชาวบ้าน ออกจากบ้านเร่งฝีเท้าตรงมาที่โรงนาสีแดง ซึ่งเวลานั้นเองโธมัสผู้เป็นพ่อเห็นเข้าพอดี นี่เป็นภาพสุดท้าย
ที่เขาได้เห็นขณะเธอยังมีชีวิตอยู่


ท่านผู้อ่านคงเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  วิลเลียมสังหารมาเรียด้วยปืน  และลากศพเธอไปฝังในโรงนาสีแดง ก่อนที่เขาจะหนีไปอยู่ลอนดอน

เมื่อครอบครัวของมาเรียไม่ได้ข่าวคราวหลายเดือน โธมัสพยายามติดต่อวิลเลียม พร้อมกับขู่ว่าหากไม่ตอบกลับว่า ตอนนี้มาเรียเป็นอย่างไร
พวกเขาจะไปแจ้งตำรวจ ด้วยแรงกดดัน  ทำให้วิลเลียมคิดแผนอย่างหนึ่ง  เขาเขียนจดหมายถึงพ่อของมาเรีย  โดยแสร้งทำเป็นว่าเธอเป็นคนเขียน
ในจดหมายเขียนว่า ตอนนี้เราทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนเกาะไวท์ และขอโทษพ่อที่ไม่ได้ส่งจดหมายหรือส่งข่าวคราวให้ทราบ

เนื้อหาในจดหมายยังระบุว่า ขณะนี้เธอกำลังป่วย เจ็บมือ ทำให้ลายมือของเธอออกจะแปลกๆ ไม่เหมือนที่เคยเขียน  ในจดหมาย
มีเงินสอดมาด้วยอีกปึกหนึ่ง ซึ่งโธมัสก็เชื่อจดหมายนี้อย่างสนิทใจ

เวลาผ่านไป 1 ปี...กลางดึกของเดือนเมษายน 1828 เรื่องราวเหนือธรรมชาติก็ได้เกิดขึ้น แม่เลี้ยงของมาเรีย ปลุกโธมัสสามีของเธอ
ที่กำลังหลับอยู่ข้างๆด้วยใบหน้า ตื่นตระหนก

ค่ำของวันที่ 19 เมษายน ค.ศ.1828

(http://upic.me/i/sw/6900843241_4133110ab8.jpg) (http://upic.me/show/43892950)

คืนวันนั้น นางมัวร์  มาร์เตนแม่เลี้ยงของมาเรีย ได้ลุกขึ้นมาจากที่นอน  ในขณะที่โทมัสสามีของเธอ กำลังนอนอยู่  หล่อนได้ปลุกเขาให้ตื่น
ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ส่งเสียงพึ่งพำ


" โทมัส คะ  ชั้นฝันร้ายคะ ฉัน.....ฝันร้ายถึงมาเรีย"

นางมัวร์กระซิบ

"มาเรียมาหาฉันในฝัน มาเรียมีเลือดโชกพยายามจะพูดกับฉัน แกบอกว่าถูกคอร์เดอร์ฆ่า"

แต่กระนั้นโทมัสไม่เชื่อเรื่องที่นางมัวร์เล่า เขาพูดตอบโต้ว่า

"เรื่องบ้าๆ ตอนนี้มาเรียยังมีชีวิตอย่างสุขสบายกับแฟนเธอที่ลอนดอนต่างหาก"

นางมัวร์ได้ฟังและเถียงว่า
"แต่ 3-4 เดือนนี้จดหมายของเธอก็ เงียบหายไปเลย  แถมลายมือดูหวัดแปลกๆ......"

"แกบอกว่าเจ็บมือ"

แต่คำเถียงของโทมัสก็ไม่ช่วยให้นางมัวร์คลายกังวลแม้แต่น้อย เธอยังอ้างว่าผีมาเรียในฝันบอกว่าวิลเลียมฆ่าเธอ
และเอาศพเธอไปฝังที่โรงนาสีแดง ตอนนี้เธอเป็นผีเร่ร่อนขอความเป็นธรรม นางมัวร์ชักชวนโทมัสให้ไปทุ่งนาสีแดง
จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกคล้อยตาม  เวลาต่อมาโทมัสรวบรวมชาวบ้านมาได้กลุ่มหนึ่ง  เตรียมจอบ เตรียมเสียม และตะเกียง
เพื่อไปสำรวจที่โรงนาทันที

จากนั้น นาง มัวร์ มาร์เตน ก็บอกให้ชาวนาขุดตามที่เธอชี้ ณ จุดนั้น ซึ่งเธออ้างว่าเป็นจุดที่มาเรียเข้าฝันบอกว่าวิลเลียมฆ่าเธอ
และฝันเธอตรงนี้ ขณะที่จอร์น และเพื่อนบ้านทุกคนต่างช่วยกระทุ้งดิน  พวกเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มีความรู้สึกที่ข้นเหนียว 
กลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียน ติดอยู่ปลายเสียม ขณะที่ชายอีกคนกำลังปาดหน้าดิน  เขาหยิบอะไรบางอย่างที่โผล่ออกมาจากพื้น

"ผ้าพันคอ!"

ชายคนที่ปาดหน้าดินพูดขึ้นพร้อมกับมือที่หยิบผ้าผืนนั้นขึ้นมา โทมัส มาร์เตน ผู้เป็นพ่อของมาเรียพูดออกมาด้วยเสียงแหบพร่า

"ผ้าผืนนี้เป็นผ้าที่มาเรียใช้พันคอก่อนที่จะออกเดินทางจากไป"

จาการตรวจสอบศพที่พบในโรงนาสีแดง ระบุว่าเป็นศพของมาเรีย มาร์เตนแน่นอน เนื่องจาก ลักษณะทางกายภาพ ผมของศพ แต่งกาย
และประวัติการทำฟัน เหมือนของเจ้าตัวไม่มีผิด ส่วนหลักฐานที่เอาผิดวิลเลียมคือ คือปืนพกที่ติดมากับศพ ซึ่งปืนพกนั้นเป็นของวิลเลียม  คอร์เดอร์
ในที่สุดเรื่องก็แดง คอร์เตอร์ถูกจับกุมตัวขณะที่เขายังอยู่บ้านหลังใหม่กับภรรยาใหม่ที่ลอนดอน ตำรวจแจ้งข้อหาเขาฐานฆ่าคนรักและลูกในครรภ์
แน่นอนวิลเลียมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทั้งหมด ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวกลับไปพิจารณาคดีในโพลสเตด และถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1828
ท่ามกลางผู้คนที่สนใจในคดีนี้ต่างแห่เข้ามาฟังจนเต็มศาล


(http://upic.me/i/h5/corder-broadside1.jpg) (http://upic.me/show/43892952)

การสู้คดีในชั้นศาลทนายของวิลเลียมใช้เหตุผลวิลเลียมไม่ใช้คนฆ่านางมาเรียกเข้าสู้ โดยบอกว่าสาเหตุการตายของมาเรียอาจไม่ใช้เกิดจาก
กระสุนปืนของเขาก็ได้ ซึ่งบาดแผลสาหัสของศพนั้นอาจเกิดมาจากจอบ,เสียมที่ชาวบ้านและนายโทมัส มาร์เตนขุดต่างหาก

จากนั้นก็ถึงคราวที่แม่เลี้ยงของมาเรีย นางมัวร์ มาร์เตน มาขึ้นศาล ศาลถามว่าเธอรู้ที่ซ่อนศพมาเรียได้ไง เธอกล่าวว่าผีของมาเรียมาบอกในฝัน
บอกเรื่องราวการฆาตกรรมให้ตนฟัง และยังบอกที่พบศพตามที่ขุดเจออีกด้วย การเล่าของนางมัวร์ได้รับเสียงฮือฮาเต็มศาล แม้เรื่องจะปาฏิหาริย์
เหลือเชื่อ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนคล้อยตามได้

แต่ถึงยังไง.......วิลเลียมก็จำนงด้วยหลักฐานที่ถูกนำออกมาทีละอัน ผ้าพันคอที่ถูกค้นพบ,บาดแผลที่ได้จากคำยืนยันของแพทย์, จดหมายปลอม,
รอยนิ้วมือที่เขาจับเสาค้ำโรงนา นอกจากนี้ยังมีพยานที่เห็นนายวิลเลียมถือปืนออกจากโรงนาสีแดง มันแสดงให้เห็นว่าวิลเลียมฆ่านางมาเรียแน่นอน

ในวันตัดสิน ในศาล วิลเลียมเอ่ยปากรับสารภาพว่าเขาฆ่านางมาเรียจริง เพราะเธอทำให้เขากดดัน และขอร้องให้คณะลูกขุนเมตตาเขาบ้าง
เขาไม่อยากตาย ไม่อยากถูกประหารแต่ในที่สุดคณะลูกขุนใช้เวลาเพียง 35 นาที ในการตัดสิน วิลเลียม คอร์เดอร์ ว่ามีความผิดจริง
ศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอต่อหน้าสาธารณชน

(http://upic.me/i/2s/28images.jpg) (http://upic.me/show/43892954)

วิลเลียมถูกประหารด้วยการแขวนคอใน 3 วันให้หลัง ช่วยที่โดนประหารนั้นเป็นช่วงเวลาเที่ยง อากาศค่อนข้างร้อน แต่ฝูงชนต่างแห่กันมาดู
การประหารนั้นจนแน่นขนัด ซึ่งจากข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งบอกว่ามีผู้ชมกว่า 7,000 แต่ ในขณะที่อีกฉบับหนึ่งบอกว่ามีจำนวนผู้ชมกว่า 20,000 คน
ก่อนที่เพชฌฆาตกำลังสวมหมวกคลุมหัวนั้น วิลเลียมกล่าวประโยคสุดท้ายก่อนตายว่า
"I am guilty - my sentence is just - I deserve my fate - and may God have mercy on my soul"
("ผมมีความผิด-นี้คือการตัดสินยุติธรรมสำหรับฉัน-ฉันสมควรได้รับโชคชะตาของฉัน-และขอให้พระเจ้าเมตตาต่อจิตวิญญาณของฉันด้วย")


(http://upic.me/i/wt/5740919554_cea366532a_z.jpg) (http://upic.me/show/43892949)

หลังจากนั้นวิลเลียมก็ถูกประหารด้วยการแขวนคอตาย ร่างของเขาถูกนำไปให้แพทย์ชำแหละเพื่อการศึกษา  จนกระทั่งปี 2004 ร่างบางส่วน
ของวิลเลียมถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ ฮัดเทเลี่ยน ในวิทยาลัยศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ และร่างยังอยู่จนถึงปัจจุบัน
ส่วนกระโหลกของเขานั้นมีเรื่องเล่าหลังจากนั้น คือในช่วงที่กระโลหกของวิลเลียมถูกตั้งโชว์ในกรอบแก้วที่โรงพยาบาลซัฟโฟล์ค จู่ๆ กระโหลก
ด้านบนเกิดยุบลงหมาเหมือนมีใครบางคนทุบกระโหลกไม่มีผิด ทำให้หลายคนเชื่อว่านี้คือคำสาปของมาเรียที่มีต่อวิลเลียม
ชื่อ: Re: มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง
โดย: etatae333 เมื่อ 22 มีนาคม 2013, 16:17:50
หลังวิลเลียมตายจู่ๆ ก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าวิญญาณของมาเรียมาเข้าฝัน นางมัวร์  มาร์เตน จริงหรือ??
โดยข้อสังเกตของแต่ละฝ่ายเกี่ยวกับนางมัวร์และมาเรียมีดังต่อไปนี้

(http://upic.me/i/o1/red-barn-murder.jpg) (http://upic.me/show/43892957)

1.นางมัวร์  มาร์เตน  เป็นแม่เลี้ยงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับ มาเรีย  ซึ่งแต่งงานกับบิดาผู้ชราของมาเรีย สมัยที่นางมาเรียยังมีชีวิตอยู่
ทั้งคู่มักมีเรื่องโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อน  ทำไมมาเรียกลับไม่เข้าฝันบิดาแท้ๆของเธอ

2.ในคืนวันเกิดเหตุ ค.ศ.1826 มาเรียมาบอกนางมาร์เตนว่าจะไปหาวิลเลียม คอร์เดอร์ เพื่อจะแต่งงานกัน  น่าแปลกที่นางมัวร์กลับไม่มีท่าทีสนใจ
และในตอนเช้าเธอพบคอร์เดอร์ ขณะที่คอร์เดอร์กำลังถือพลั่วและจอบ  นาง มัวร์จึงถามว่า "มาเรียไปไหน"  ซึ่งเขาก็ตอบมาอย่างง่ายๆว่า 
เธอไปลอนดอนเพื่อเตรียมตัวแต่งงาน  ซึ่งนางมาร์เตนเล่าเรื่องเหล่านี้ในศาล แต่ไม่มีใครถามว่า ทำไมเธอไม่สงสัยตั้งแต่ตอนนั้น

3.จดหมายที่  วิลเลียม เขียนมาเพื่ออำพลางว่ามาเรียอยู่กับเขา ทำไมเขาจึงส่งเงินมากับจดหมายด้วย

4.แต่ช่วง3-4เดือน  กลับไม่มีจดหมายมา นางมัวร์ก็เกิดฝันประหลาดซะได้ว่าวิญญาณมาเข้าฝันเธอ และทำไมวิญญาณของมาเรีย
จึงรอนานกว่า 1 ปีถึงจะเข้าฝัน

และนี่คือคำอธิบายที่เหมาะสมกับ "ความจริง" ที่เราได้รับรู้

(http://upic.me/i/q9/red-barn-owl-sutter-buttes.jpg) (http://upic.me/show/43892958)

1.ความจริงนางมัวร์  มาร์เตนดีใจมากทีเห็นมาเรียจากไป ในวันที่เกิดเหตุเธอยุให้มาเรียไปพบวิลเลียมทันที โดยไม่สนว่าเธอจะเป็นหรือตาย

2.วันรุ่งขึ้นนางมัวร์  มาร์เตน เดาได้ทันทีถึงเหตุการณ์เมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้น  หรือบางทีเธอคงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าวิลเลียมวางแผนที่จะฆ่ามาเรียมานานแล้ว

3.นางมัวร์  มาร์เตน ใช้เรื่องนี้มาแบล็คเมล์เขาโดยกล่าวให้จ่ายค่าปิดปากมา  ไม่งั้นเธอจะแฉเรื่องนี้  ซึ่งวิลเลียมก็ได้จัดการส่งเงินมาให้เธอทุกเดือน

4.เมื่อเวลาผ่านมาได้ระยะเวลาหนึ่ง วิลเลียมเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงหยุดส่งเงิน  จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่นาง มัวร์  มาร์เตนมาก 
แต่จะทำได้อย่างไร  ถ้าเธอไปแจ้งความตอนนี้  เธอจะถูกจับในข้อหาสมรู้ร่วมคิด  และถูกแขวนคอพร้อมกับ วิลเลี่ยม  คอร์เดอร์ได้

5.ดังนั้นนางมัวร์จึงสร้างเรื่องให้น่าฟังหน่อย จะมีอะไรคลาสสิคและทำให้ตนเองปลอดภัย ถ้าไม่ใช่เรื่องผี......

6. เป็นไปตามที่เธอคิด  ไม่มีใครสงสัยในตัวเธอเลยในช่วงนั้น  นายคอร์เดอร์ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยที่คอร์เดอร์ไม่มีโอกาสได้พูดถึงผู้สมรู้ร่วมคิด

7. หากเป็นไปตาม 6 ข้อ แสดงว่าคนร้ายจริงๆอาจมี 2 คนคือ  นางมัวร์  มาร์เตน  แต่ทำไมวิลเลียมต้องปกป้องเธอด้วย ซึ่งก็มีข่าวลืออีกแหละว่า
นายวิลเลียมเป็นเสือผู้หญิงแน่นอนบางทีนางมัวร์อาจเป็นหนึ่งในคนรักของวิลเลียมก็เป็นได้ บางทีนายมัวร์อาจเป็นคนวางแผนกำจัดลูกเลี้ยงของตนด้วยซ้ำ

8. ไม่มีใครคิดจะสอบสวนเรื่องพวกนี้อีกต่อไป เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดนางมัวร์ อีกทั้งตัวของวิลเลียมก็จากโลกนี้ไปแล้ว ทำให้ปริศนาที่เหลือ
ของการฆาตกรรมแห่งโรงนาสีแดง ยังค้างๆ คา พิศวงจนถึงปัจจุบัน

(http://upic.me/i/qu/red_barn01.jpg) (http://upic.me/show/43892956)

การฆาตกรรม, ความแค้น, เสือผู้หญิง, และเด็กผู้หญิงน่าสงสาร ผลลัพธ์ที่ได้คือส่วนผสมของโครงเรื่องที่สนุกน่ากลัวที่เล่นกับจิตใจของคนอย่างเหลือเชื่อ
ส่งผลให้เรื่องนี้ถูกนำไปดัดแปลงและถ่ายทอดจากสื่อต่างๆเริ่มจากนวนิยาย Newgate novels นำโครงเรื่องนี้มาตีพิมพ์ และขายดีดีมากและมันหมดไป
อย่างรวดเร็วพอๆ กับเรื่องของแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์  นอกจากนั้นยังถูกนำไปแสดงเป็นละครเวทีเวอร์ชันต่างๆ พร้อมนำเสนอข้อสันนิษฐานที่กล่าวมา
ลงไปในเรื่องด้วย


นอกจากนี้สถานที่เกิดเหตุหรือโรงนาสีแดงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวที่อุตส่าห์เดินทางไกลเพื่อมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้
บางคนมาจากไอร์แลนด์ก็มี โดนคะแนว่ามีนักท่องเที่ยวมายังโพลสเตลด,ซัฟโฟล์ค ในปีใน 1828  เป็นจำนวนกว่า 200,000 
นอกจากนี้ก็ยังมีของที่ระลึกต่างๆ เช่น รูปยุ้งข้าวสีแดงถูกนำมาวาดเป็นภาพที่ระลึก, แผ่นกระดานที่ทำลาย และบางส่วนถูกขายเป็นไม้จิ้ม ฯลฯ
ในปี 1842 โรงนาสีแดงหลังที่เกิดเหตุก็ถูกเผาไหม้ ไม่เหลือซากให้เห็นอีกแล้วในปัจจุบัน หินบนหลุมฝัง

และสถานที่นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมจำนวนมากคือที่ฝังศพของมาเรีย นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกเกี่ยวกับเธออีก เช่น ภาพวาดหยาบๆ ของมาเรีย,
เครื่องปั้นดินเผาจำลอง และเพลงประกอบในศตวรรษที่ 19 สมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย เรื่องของการฆาตกรรมโรงนาสีแดงถูกนำมาทำเป็นบทละครเวที
โดยจำลองให้วิลเลียมเป็นสัตว์ประหลาดมีเลือดเย็น และมาเรียเป็นหญิงสาวที่ไร้เดียงสา และมันได้รับความนิยมสูงมาก

http://www.youtube.com/v/R4MNEoS9i5c
               
ส่วนภาพยนตร์ก็มีเรื่อง Marten or Murder in the Red Barn ฉายในปี 1935 และรายการวิทยุก็ไม่น้อยหน้านำเสนอละครนี้ด้วยเหมือนกันเมื่อปี ค.ศ.1953
ดนตรีก็เช่นกัน วง No Roses by the Albion Country Band นำโครงเรื่องของคดีนี้ไปร้องเพลงเมื่อปี 1971 และยังมีศิลปินและวงดนตรีหลายราย
ที่นำเรื่องนี้มาแต่งแล้วนำมาร้องเป็นเพลงอีกมากมาย

(http://upic.me/i/b5/51xxdr5cabl._sl500_ss500_.jpg) (http://upic.me/show/43892944)


โดย อลิสโต และ ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน /wikipedia.org
ชื่อ: Re: มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง
โดย: chili เมื่อ 03 เมษายน 2013, 13:04:38
ขอบคุณครับ หาเรื่องสนุกๆมาให้อ่านอีกนะครับ
ชื่อ: Re: มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง
โดย: unless เมื่อ 11 เมษายน 2013, 20:22:08
 pongz ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: มาเรีย มาร์เตน กับโรงนาสีแดง
โดย: del38196 เมื่อ 14 พฤษภาคม 2013, 23:24:29
ชอบเรื่องแบบนี้มากเลยครับ