ถ้าเป็นไฟล์ดิจิตอล ทั้งภาพและเสียง ถ้า copy เฉยๆ ไม่มีการปรับแก้ save as หรืออะไรทั้งนั้น คุณภาพจะเท่าเดิมครับ เพราะข้อมูลเหมือนเดิมเป๊ะครับ
แต่ขอแตกกรณีศึกษา CD Audio ออกมาครับ เพราะมันจะต่างกันมาก
หลักการ CD Audio จะดึงข้อมูลออกมาในลักษณะเป็นจังหวะๆ เรียกว่าอัตราสุ่มข้อมูล (Sampling time) ปกติคือ 44.1kHz และมักจะได้จากอ่านข้อมูลแบบ oversampling 16 เท่าที่ความถี่ 705.6kSPS (SPS=Sampling per second)
สรุปให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ เสียง 1 วินาที จะใช้ข้อมูลเรียงต่อกันจำนวน 705,600 ครั้ง
นั่นหมายความว่าขณะที่เราฟังเพลง จะมีข้อมูลมหาศาล ทยอยส่งมาแปลเป็นเสียง ออกมาเรื่อยๆ
ดูผิวเผินทางทฤษฎีแล้ว ก็บอกได้ว่ามันก็ copy บิตต่อบิต ก็ย่อมเหมือนกัน 100% ใช่ไหม? คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ
เพราะกระบวนการลึกๆแล้ว อย่าลืมว่าการอ่านบิตข้อมูลของ CD คือ "หลุม" เล็กๆบนหน้าแผ่น
แผ่นลิขสิทธิ์ที่ซื้อมา จะเกิดจากการปั๊มแม่แบบ และหน้าแผ่นเป็นฟิลม์อะลูมิเนียม ทำให้หลุมมีความคมชัด และมีความใกล้เคียงกับมาสเตอร์มากที่สุด (แต่นั่นก็หมายถึงถ้าทำมาสเตอร์ไม่ดี เสียงก็ไม่ดีตามด้วยเช่นกัน)
แต่ CD Writer จะอาศัยการการยิงเลเซอร์เผาผิวหน้าให้เป็นหลุม ทำให้ร่องรอยหลุมที่ได้จากการเผา ไม่คมชัดเท่าของต้นฉบับ รวมถึงการหมุนแผ่นของมอเตอร์ จะมีการ"ส่าย" เล็กน้อย ซึ่งระหว่างเขียน หัวอ่านต้องคอยปรับโฟกัสให้คงที่ ทำให้แผ่นที่เขียนมักจะได้คุณภาพไม่ดีเท่าต้นฉบับ
สำหรับคนที่ซีเรียสเรื่องคุณภาพเสียง ก็จะใช้แผ่นที่คุณภาพดีๆ ไม่แกว่งมาก (พวกเกรด Audio ของยี่ห้อญี่ปุ่น) และเขียนด้วยสปีด 1x ครับ เพื่อคุณภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับที่สุด และระหว่างเขียนคือไม่เปิดโปรแกรมอื่น / ไม่ต่อเน็ต เพื่อให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลลงบัฟเฟอร์ราบเรียบและนิ่งที่สุด ซึ่งหลุมที่ว่าก็จะลึกและคมกว่าเขียนด้วยสปีดสูงๆ ซึ่งกรณีนี้คนที่มีเครื่องเสียงดีๆ จะฟังเปรียบเทียบความแตกต่างตรงนี้ออกได้ครับ
อันที่จริง ยังมีทฤษฎีลึกๆอีกเยอะเลยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเสียงครับ ว่าทำไมเสียงจากช่อง Digital กับ การดึงไฟล์มาเล่น ทำไมมันได้ผลต่างกัน ทั้งๆที่มันก็ข้อมูลตัวเดียวกัน เอาไว้เล่าในโอกาสถัดไปเนาะ
อืม ๆ
ขอบคุณครับท่าน Don ความรู้ใหม่จริง ๆ ไม่เคยรู้ลึกขนาดนี้เลย ;kljj
ความรู้ใหม่เลยครับ พึ่งรู้นะเนี่ย มิน่าครับเวลาผมเบรินแผ่นไปพร้อมกับเปิดโปรดแกรมอื่นไปด้วย เวลาเอาไปฟัง ก็สงสัยว่า และรู้สึกว่า
เสียงที่ออกมาทำไมมันห่วยกว่าเดิม
ไฟล์ภาพถ่ายก็เช่นกันนะครับ (โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูป) ...
พอแก้ไฟล์หรือแต่งสีแล้วเซฟไปเรื่อยๆ ...
คุณภาพไฟล์ก็จะดร็อบลง ...
ยกเว้นว่าเซฟเป็น "psd" หรือ "tiff" ...
.....ความรู้ใหม่ครับ
ถุกต้องคับ เหมือนกับ มานถูไปถูมานั่นแหละ
คริๆ
มานจาถองไปเรื่อยๆ
(เก่วกานมั๊ยเนี่ย)
เพราะงั้น มีอะไรดีๆส่งมาทาง mail ดีกว่า เหอๆๆๆ
เราเน้นภาพและเสียงครวญคราง
จริงครับ เหมือนโดนบบีบอัดไปเรื่อยๆ คุณภาพกอลดลงเรื่อยๆ
.,mn ขอยันยันอีกเสียงครับ
อืมๆ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับสำหรับ ความรู้ใหม่
เป็นประโยชน์ มากครับ เบริน์ครั้งต่อไป ต้องปิดโปรแกรมต่าง เน็ตด้วย