ตำนานเพกาซัส(Pegasus)
(http://image.ohozaa.com/i/gbb/ELxaEe.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq7Wc17xbBm5jd)
เพกาซัส (Pegasus) มีลัษณะเป็นม้าที่ลำตัวสีขาวสะอาด มีปีกขนาดใหญ่เหมือนนกสีขาว แต่ก็มีบางทีก็มีคนวาดปีกเพกาซัสเป็นสีทอง
เพกาซัสเป็นม้าที่มีความฉลาดปราดเปรือง เป็นเครื่องหมายแห่งความบริสุทธิ์ ความสว่าง พลังแห่งดวงอาทิตย์ และแน่นอนว่าเป็นพาหนะ
ของพวกพระเอกเท่านั้น!(อิอิ) นอกจากนี้ความหมายของชื่อเพกาซัสคือความไว การสร้างน้ำพุและยังแข็งแรงขนาดที่ฝ่าพายุขนาดบินอยู่
บนท้องฟ้าได้อย่างสบายๆ
ตำนานการเกิดของเพกาซัสมีอยู่หลายตำนาน แต่ที่เป็นหลักๆ มีอยู่ 2 เรื่อง คือ
1.ตำนานที่กล่าวว่าเพกาซัสเป็นบุตรของเทพโพเซดอน (Poseidon) กับนางเมดูซ่า (Medusa) ซึ่งในขณะที่โพเซดอนลอบเข้าหา
นางเมดูซ่าได้แปลงกายอยู่ในลักษณะของม้า จึงทำให้ลูกที่เกิดมาเป็นม้าด้วย
2.ตำนานที่กล่าวว่าเพกาซัสเกิดจากหยดเลือดของนางเมดูว่าขณะที่เพอซิอุส(Perseus) ตัดหัวนางออกมา
(http://image.ohozaa.com/i/gc2/4m5are.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq6aiBHBhyhZPT)
เริ่มตำนานแรกกันเลย มีเรื่องเล่าว่าโพเซดอนซึ่งเป็นเจ้าแห่งสมุทร หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าเนปจูน(Neptune) เกิดไปหลงรักสาวน้อยนางหนึ่ง
ชื่อว่า เมดูซ่า โดยเมดูว่าเป็นบุตรของเทพฟอร์ซีส (Phorcys) กับนางซีโต(Ceto) และเป็น 1 ใน 3 พี่น้องกอร์กอน (Gorgons)
โดยเมดูซ่ามีรูปโฉมที่งดงามมาก จนโพเซดอนอดใจไม่ไหวแอบแปลงเป็นมาเข้ามากุ๊กกิ๊กกับเมดูซ่าในบริเวณวิหารของเทพีอาเธน่านั่นแหละ
ซึ่งถือเป็นการลบหลู่กันอย่างแรง เพราะสมญานามของพระนางนอกจากจะเป็นเทพีแห่งปัญญาแล้วก็ยังครองตำแหน่งเทพีแห่งพรหมจรรย์อีกด้วย
จะไม่ให้โกรธได้อย่างไรเมื่อเล่นหยามหน้ากันเข้ามากุ๊กกิ๊กกันในวิหารอันศักดิ์สิทธ์ของพระนางแถมเจ้าหนุ่มนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลุงแท้ๆ
ของตัวเองสะอีก เมื่อเอาผิดกับลุงของตัวเองไม่ได้เทพีอาเธน่าจึงหันมาเล่นงานเมดูซ่าแทน
(http://image.ohozaa.com/i/c4d/QHNjU9.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq2CvMRWpcsjf2)
พระนางสาปให้เมดูซ่าที่เคยเป็นสาวงามกลายเป็นอสูรกายหน้าตาอัปลักษณ์ เส้นผมสีดำที่เคยเป็นเกลียวสวยงามก็กลายเป็นงูเต็มหัวไปหมด
และเมื่อนางมองสิงมีชิวิตใดก็ตามสิ่งนั้นก็จะกลายเป็นหินไป จากหญิงสาวธรรมดากลายเป็นปีศาจร้ายที่มีจิตอันชั่วร้าย จากนั้นก็ส่งตัวเมดูว่า
ไปอยู่เกาะกอร์กอน เพื่อตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย
(http://image.ohozaa.com/i/501/NOSvnD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq08F0SMnPpdcn)
เมื่อเวลาผ่านไป เพอซิอุส ซึ่งเป็นบุตรของเทพซุส กับนางดาเน่ (Danae) ถูกมอบหมายงานมาให้ตัดศรีษะของนางเมดูว่าโดยกษัตริย์
โพลีเดคทีส (Polydectes) แห่งแคว้นเซริฟอส(Seripos) ซึ่งเคยให้ที่พักพิงแก่เพอซิอุสและเจ้าหญิงดาเน่ผู้เป็นมารดาขณะลอยแพมาติดเกาะ
ที่เมืองนี้ก็เกิดใจคิดจะครอบครองเจ้าหญิงดาเน่ จึงคิดจะกำจัดเพอซิอุสที่เป็นก้างชิ้นใหญ่นี่ไปซะ ก็เลยออกอุบายให้เพอซิอุสไปตัดหัวเมดูซ่ามา
เพราะกษัตริย์โพลีเดคทีส คิดว่ายังไงเพอซิอุสก็คงตายด้วยฝีมือของนางเมดูซ่าอย่างแน่นอน
จากนั้นเพอซิอุสก็ได้ออกตามหาเมดูซ่าโดยได้รับความช่วยเหลือจากเทพีอาเธน่า ทั้งคำบอกใบ้ไปเกาะกอร์กอน แถมให้ยืมโล่ของพระนางอีกด้วย
(แสดงว่าแค้นนี้ยังฝังใจ =w=) แล้วก็ยังมีดาบที่เทพแห่งการสื่อสารเมอร์คิวรี่ที่ได้มอบไว้ให้ ซึ่งดาบนี้เป็นดาบวิเศษที่ไม่มีวันหักเป็นของแถมให้
อีกต่างหาก แล้วในที่สุดเพอซิอุสก็ได้พบเมดูซ่า เพอซิอุสใช้โล่ที่อาเธน่ามอบให้เพื่อป้องกันตัว และใช้วิธีเหลือบมองเงาของนางเมดูซ่าผ่านโล่วิเศษ
และในที่สุดเพอซิอุสก็ตัดหัวเมดูซ่าได้สำเร็จ เลือดของเมดูซ่าที่หยดต้องน้ำของมหาสมุทรก็บังเกิดกลายเป็นม้าวิเศษขึ้นมาทันที
(http://image.ohozaa.com/i/eb9/BZ6Vkw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq1yzK1aLrZjuR)
ซึ่งม้าตัวนั้นก็คือเพกาซัสบินรับเพอซิอุสไปส่งขึ้นฝั่ง แล้วเพกาซัสก็บินตรงไปที่เขาเฮลิคอน(Helicon) ที่มีเทวีแห่งศิลป์ทั้ง9นาง
หรือที่เรียกว่ามิวซิส (Muses) คอยให้การดูแลเพกาซัสต่อมา พูดง่ายๆก็คือเป็นพี่เลี้ยงนั่นเอง (ตรงนี้บางตำนานบอกว่าเทพีอาเธน่า
เป็นผู้นำไปมอบให้เทวีแห่งศิลป์ที่เข้าเฮลิคอนด้วยตัวเอง) จากนั้นเพอซิอุสก็ได้ปราบมังกรทะเลและช่วยเหลือเจ้าหญิงอันโดรเมด้า (Andromeda)
แห่งเมืองเอธิโอเปีย ก็ได้ไปรับพระมารดาและพากันไปตั้งเมืองใหม่ที่ชื่อว่าไมซีเน่ (Mycenae) ส่วนหัวของนางเมดูซ่าเทพีอาเธน่า
ก็นำมาติดบนโล่ประดับไว้
โพเซดอนไม่เกี่ยวข้อง เรื่องนี่มีอยู่ว่าในบรรดาสามศรีพี่น้องกอร์กอน เมดูซ่าถึงจะไม่ได้เป็นอมตะเหนือพี่สาวทั้ง2 แต่ก็มีความงามเป็นเลิศและนาง
ก็บังอาจท้าทายความงามของนางกับเทพีอาเธน่า จนทำให้พระนางโกรธจึงสาปให้เมดูซ่ามีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดมีเส้นผมเป็นงูอย่างที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว
จากนั้นก็นำตัวสามศรีพี่น้องตัวแสบไปขังไว้ที่เกาะกอร์กอนส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นก็ลงท้ายเหมือนกัน
(http://image.ohozaa.com/i/0b5/h5fgje.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJqcxUSO7ZgZHzY)
กลับมาที่เรื่องของเพกาซัสกันต่อนะ หลังจากที่มาอยู่ที่เขาเฮลิคอนแล้วเพกาซัสก็ซุกซนเหมือนเด็กๆทั่วไปแต่มันต่างกันตรงที่เพกาซัสเป็นม้าแถมบินได้
เพกาซัสก็เลยชอบไปๆมาๆ ระหว่างโลกมนุษย์และเขาโอลิมปัส(Olympus) ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทพทั้งหลายหรือเรียกง่ายๆว่าสวรรค์นั่นแหละ
บางทีก็ชอบบินท่องไปในมหาสมุทร ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งคณะเทวีแห่งศิลป์ได้ประกวดร้องเพลงกับพีเอริซ(Pierises) ทำให้เขาเฮลิคอนพองตัว
เทพโพเซดอนจึงให้เพกาซัสใช้กับเท่าแทงเขาเฮลิคอนเพื่อที่จะทำให้เขากลับสู้สภาพเดิม จากนั้นมาจุดที่เพกาซัสใช้ขาแทงเขาเฮลิคอน
ก็กลายเป็นน้ำพุขึ้นมา เรียกว่า ฮิปโปครีน (Hippocrene) หรือน้ำพุอาชา (Horse Spring) ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำพุนี้มีพลังวิเศษ หากใครได้ดื่มน้ำ
จากน้ำพุนี้จะทำให้มีพรสวรรค์ในด้านศิลป์ขึ้นมาทันที
หลังจากที่เพอซิอุสปราบเมดูซ่าไม่กี่ปี เทพีอาเธน่าก็ยกเพกาซัสให้กับ เบลเลอโรฟอนโดยมอบบังเยนสีทองให้อันหนึ่ง ซึ่งบังเยนนี้มีความสามารถ
ทำให้เพกาซัสเชื่องได้ แล้วเบลเลอโรฟอนก็ไปดักรอเพกาซัสที่น้ำพุในขณะที่เพกาซัสกำลังดื่มน้ำจากน้ำพุพีเรเนียน น้ำพุนี้เพกาซัสก็สร้างขึ้นเอง
คือใช้กับเท้ากระทุ้งน้ำให้พุ่งขึ้นมา เมื่อเห็นจังหวะเหมาะเบลเลอโรฟอนก็กระโดดขึ้นหลังเพกาซัสปุ๊บ ครอบบังเกียนปั๊บ เพกาซัสก็เลยต้องเป็น
ม้ามีเจ้าของไปโดยปริยาย
(http://image.ohozaa.com/i/f30/LN0uP0.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJqjDuwtFqycPvA)
หลังจากนั้นเพกาซัสและเบลเลอโรฟอนก็ไปปราบตัวคิเมร่ากัน ซึ่งตัวคิเมร่านี้มีหัวเป็นสิงห์ตัวเป็นแพะ และมีหางเป็นมังกร ซึ่งหลังจากนั้นทั้งเบลเลอโรฟอน
และเพกาซัสก็ได้คู่เคียงบ่าเคียงไหล่มากันตลอด แต่ช่วงสุดท้ายของวีรบุรุษคนนี้กลับน่าเศร้านัก เมื่อการที่เขาทำศึกครั้งใดก็ชนะตลอดเพราะมีม้าวิเศษ
อย่างเพกาซัสทำให้เขาผยองจนลืมตัว คิดจะขึ้นไปพบปะเทพบนสวรรค์โดยขี่หลังเพกาซัสไปยังเขาโอลิมปัส ทำให้ทวยเทพรู้สึกไม่พอใจและแน่นอนว่า
เทพซุส ก็ให้บทลงโทษที่แสนสาหัสกับความโอหังครั้งนี้อย่างสาสม เทพซุสปล่อยแมลงใส่เพกาซัส เมื่อเพกาโดนเหล็กในของแมลงนั้นก็เจ็บปวดจนเผลอ
สะบัดเบลเลอโรฟอนจนตกจากหลังของมัน ถ้าเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว แต่ด้วยความเมตตาของเทพีอาเธน่าจึงแค่บันดาลให้พื้นดินตรงนั้นอ่อนนุ่ม
จึงทำให้เบลเลอโรฟอนแค่ขาหักและตาบอดไป ชีวิตช่วงสุดท้ายของวีรบุรุษคนนี้จึงน่าอนาถนักต้องเร่ร่อนไปทั่วแผ่นดินเพื่อจะตามหาม้าวิเศษ
ในที่สุดเขาก็ตายอย่างเดียวดาย
ส่วนเพกาซัสก็กลายเป็นม้ารับใช้ของเหล่าเทพไป โดยเพกาซัสได้ไปที่เขาของเทพธิดาเอ-ออส หรือ ออโรร่า ซึ่งเป็นเทพธิดาในการดูแลของเทพอพอลโล
เทพแห่งดวงอาทิตย์ เพื่อช่วยนางในการทำให้ตะวันตกดิน และก็ช่วยเทพอพอลโลในการทำให้พระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้บางทีเพกาซัสก็รีบใช้เทพซุสด้วย
โดยจะเป็นผู้นำสายฟ้าซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของเทพซุสส่งให้เมื่อองค์มหาเทพต้องการ
(http://image.ohozaa.com/i/fc1/wFcpb6.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xiJq0QCnrV3ETLjZ)
หลังจากนั้น เพกาซัสก็ได้รับการสถาปนาขึ้นบนท้องฟ้าให้กลายเป็นกลุ่มดาวเพกาซัส ซึ่งดาวกลุ่มนี้จะปรากฏขึ้นทางทิศใต้ในฤดูใบไม้ร่วง โดยเรียก
กลุ่มดาวนี้ว่า Square of Pegasus หรือสี่เหลี่ยมเพกาซัสซึ่งกลุ่มดาวเพกาซัสนี้มีตำแหน่งอยู่ติดๆกับกลุ่มดาวอันโดรเมด้าอีกด้วย