ประโยชน์ที่สำคัญของลำเลียง ขนส่งสินค้า by บริษัท ไทยอินเตอร์แมท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Roller Conveyor สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1859-0978 มาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับลำเลียงซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลจากเนื้อหานี้
ทำความรู้จักอย่างถ่องแท้กับระบบสายพานลำเลียง Belt Covenyorสายพานลำเลียง ประกอบ (Complementary) ด้วยแผ่นของ
ลำเลียง (http://www.thaiintermat.com)ที่มีลักษณะเชื่อมต่อ (Connection) เป็นวง หมุนรอบล้อสายพานหรือพลูเลย์ 2 ตัวหรือมากกว่า 2 ตัว โดยที่พลูเลย์ 1 ตัวหรือทั้ง 2 ตัวเป็นตัวขับเคลื่อน ทำ หน้าที่ขับเคลื่อนให้สายพานและสิ่งของหรือวัสดุบนสายพานเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
การพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นสายพานลำเลียง จากผลพวงของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความต้องการใช้เครื่องจักรที่สามารถขนถ่ายสินค้าเกรดห้าดาวหรือวัสดุได้ครั้งละจำนวนมาก สายพานลำเลียงจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อลดช่วงของวันเวลาและใช้อย่างพอเพียง พลังงานที่หลายคนใฝ่ฝันในการขนส่งสิ่งของสิ่งของต่างๆ ซึ่งในระยะเริ่มแรกการพัฒนา (Development) สายพาลำเลียงทำโดยการใช้ฝ้าย (cotton) เสริมแรงในสายพานยาง (ปี ค.ศ. 1858 S.T. Parmalee ได้จดสิทธิบัตร BP 777/1858) และการใช้งานที่ใช้สติปัญญาของสายพานก็จะลำเลียงวัสดุที่มีน้ำหนักของวัตถุเบา เช่น แป้ง เมล็ดพืช ต่อมาจึงได้ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสายพานให้มีความกว้างมากขึ้น ความแข็งแรงสูงขึ้น ปรับเปลี่ยนผันไปตามเวลาโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการและวัสดุที่ใช้เพื่อ เพิ่มความย่อมในการใช้งานของสายพานให้สูงขึ้นเช่น การใช้สายพานลำเลียงลวดสลิงในงานที่ใช้สติปัญญาเหมือง
ชนิด (Type) ของสายพานลำเลียง1. สายพานลำเลียงแบบ Common (conventional conveyor belt)
2. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord conveyor belt)
ส่วนประกอบที่สำคัญอันดับหนึ่งของสายพานลำเลียงสายพานลำเลียงแบบทั่วไป ประกอบด้วย1. ยางผิวบนหรือชั้นยางหุ้มด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่าง (top cover) มีหน้าที่รองรับวัสดุ ขนถ่าย และป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรง จากการสัมผัสกับวัสดุที่ลำเลียง เช่น แรงกระแทก การเจาะทะลุ น้ำมัน ความร้อนจัด ซึ่งการเลือกใช้ชนิด (Type) ของยางผิวบนขึ้นอยู่กับความ อย่างเหมาะสมของการใช้งานที่สร้างรายได้ดี เช่น ยางอีพีดีเอ็มของสายพานที่ต้องการตามที่ใจปรารถนาทนความร้อนสูงเป็นยิ่งกว่าปกติ ยางไนไทรล์เพื่อสายพานที่ต้อง สัมผัสกับน้ำมัน
2. ชั้นผ้าใบรับแรง (carcass) มีหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นและช่วยกระจายแรงดึงของสายพานระหว่างการลำเลียงวัสดุ
3. ชั้นยางประสานผ้าใบ (skim rubber) มีหน้าที่ประสานชั้นผ้าใบแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน
4. ยางผิวล่างหรือชั้นยางหุ้มข้างล่าง (bottom cover) มีหน้าที่ป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรงจากการเสียดสีกับ
ลูกกลิ้ง (idler) และพลูเลย์ (pulley) ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดต้องมีความหนาเท่ากับยางผิวบนเนื่องด้วยเหุตผลไม่ได้รับภาระหนักเหมือนยางผิวบน
สายพานลำเลียงลวดสลิง ผนวกด้วยชั้นโครงสร้างที่เป็นมาตรฐานมีลักษณะเหมือนกันกับสายพานลำเลียงแบบธรรมชาติ แต่มีชั้นของเส้นลวดรับแรง(steel cord) ทำหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นแทนชั้นของผ้าใบรับแรง
โครงสร้างที่เป็นมาตรฐานของสายพานลำเลียง สายพานลำเลียงโดยทั่วไป (ยกเว้นสายพานแบบน้ำหนักสุทธิเบาและสายพานแบบไม่ใช่ทั่วไป) การกำหนดสัญลักษณ์ของสายพาน ลำเลียงขึ้นกับความ Strong ของสายพาน ซึ่งประกฏให้เห็นในหน่วยกิโลนิ วตันต่อเมตร (kN/m) ของความกว้างของสายพาน เช่น PP 550/3 คือ polyamide warp (เส้นด้ายตามแนวยาว) และ polyamide weft (เส้นด้ายตามแนวขวาง) มี 3 ชั้น และมีความ แข็งแรง (Strong) รวม 500 kN/m EP 800/4 คือ polyester warp และ polyamide weft มี 4 ชั้น และมีความแข็งแรง (Strong) รวม 800 kN/m ST 2250 คือ steel cord belt และมีความแข็งแรงรวม 2,550 kN/m
1. สายพานลำเลียงปริมาณน้ำหนักเบา (light belting) สายพานลำเลียง Weight เบาเป็นสายพานที่ใช้อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ในห้างสรรพสินค้าราคาไม่แพงและซุปเปอร์มาร์เก็ต ในอาคารสนาม (Field) บิน อุตสาหกรรมาธิการบรรจุ กลุ่มอุตสาหกรรมเศษกระดาษ และ การใช้งานที่สร้างรายได้ดีทั่วไป ประกอบด้วยชั้นผ้าใบ 1, 2 หรือ 3 ชั้น (3 ชั้นไม่ค่อยนิยมเกี่ยวกับด้วยเหตุผลที่ว่าแนวโน้มต่อไปข้างหน้าคือการทำแบบชั้นเดียว) เส้นใยที่ใช้ เช่น ฝ้าย เส้นใยผสมระหว่างฝ้ายและเส้นใย สังเคราะห์ ยางผิวบนหรือยางหุ้มด้านบนนิยมเกี่ยวกับใช้เป็นพีวีซีหรือโพลิยูรีเทน โพลิยูรีเทนเหมาะของงานที่ตัวเองชอบที่มีการเสียดสีสูงซึ่งจะไม่เกิดการแตกที่ผิว และไม่จำเป็นต้องใช้พลาสทิไซเซอร์ สายพานลำเลียงชนิดนี้ต้องการอย่างแท้จริงการยืดตัวและการเสียดทานต่ำขณะใช้งานที่หลายคนใฝ่ฝัน มักใช้เส้นด้ายเดี่ยวตามขวาง สีของสายพานลำเลียงจะออกแนวสีพาสเทล พื้นผิวของสายพานอาจจะมีลายขรุขระเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ สารเชื่อมพันธะที่ใช้ เช่น สารที่ยึดมั่นถือมั่นระหว่างโครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานของพีวีซีและโพลิยูรีเทนที่จะติดกับโครง สร้างของเส้นใย
2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น (multiply) เส้นใยรับแรงถูกนำมาถักตามความกว้างและความยาวเพี่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่
คอนเวเยอร์ (http://www.thaiintermat.com) โดยที่ความ Strong ของชั้นเส้นใยเป็นไปตามตารางที่ 2 การเพิ่มความ Strong ทำได้โดย การเพิ่มสถิติของคอร์ด (cord) หรือปริมาณของเส้นใยที่ตีเกลียวอยู่สิ่งที่อยู่ภายในเส้นคอร์ด 1 เส้นยางระหว่างชั้นเส้นใยจะแปรเปลี่ยนไปไปตามความ Strong และหน้าที่การใช้งาน คือ ยิ่งมีชั้นเส้นใย หลายชั้นมากจะยิ่งเพิ่มความต้านทานต่อการกระทบได้สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งในโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการแบบ 2 ชั้น โครงสร้างที่เป็นมาตรฐานที่เป็นฝ้าย 100% จะให้ความแข็งแรง (Strong) 250 kN/m สายพานที่เป็นของผสม ระหว่างฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์จะให้ความแข็งแรงสูงถึง 1,500 kN/m สำหรับสายพานที่มีโครงสร้างที่ถูกต้องเป็นเส้นใยสังเคราะห์ทั้งหมด เช่น PP, EP และ EE (polyester warp and weft) จะให้ ความ Strong สูงถึง 2,500 kN/m ซึ่งโดยส่วนมากนิยมกันเป็นอย่างมากใช้ไนลอนเป็นเส้นด้ายตามขวางและโพลิเอสเทอร์เป็นเส้นด้ายตามยาว
3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ (solid woven) สายพานลำเลียงแบบถักทอชั้นเดียว จะมีเส้นใยตามยาวสอดไขว้กับเส้นใยตามขวาง และยึดเส้นใยทั้งหมดที่คาดคะเนได้ไว้ด้วยกัน เส้นใยที่สนใจใช้ ได้แก้ ฝ้าย ไนลอน และโพลิเอสเทอร์ ซึ่งจะให้ความ Strong 3,000 kN/m และเส้นใยอะรามีด จะให้ความ Strong สูงขึ้นโดยประมาณ 4,000 kN/m และจะใช้ PVC, CR หรือ NBR ในการเคลือบชั้นเส้นใยเพื่อ Property ทนการติดไฟ
4. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord)โครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานของสายพานแบบนี้ประกอบด้วย คอร์ดหลายคอร์ดวางในแนวระนาบและปิดทับทั้งด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างและด้านล่างด้วยยางจะเคลือบด้วยสังกะสีและสารเชื่อมติดเพื่อช่วยในการยึดติด (Cleave) ของคอร์ด และยาง
ขั้นตอนผลิตวิธีผลิตสายพานลำเลียงขึ้นอยู่กับประเภทและโครงสร้างของสายพาน กล่าวคือ
1. สายพานลำเลียงน้ำหนัก (Weight) เบา
2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น
3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ
4. สายพานลำเลียงลวดสลิง
สายพานลำเลียงน้ำหนักมวลรวมเบาโดยทั่วไปสายพานประเภทนี้ผลิตโดยการพ่นน้ำยางหรือโพลิเมอร์ เช่น พีวีซีหรือโพลิยูรีเทน ให้กระจายตัว (spreading) เคลือบชั้นของสิ่งทอให้ได้ความหนาที่ต้องการอย่างมาก จากนั้นจึงนำไปอบให้ ความร้อนมาก ซึ่งการทำนั้นย่อมจะทำได้หลายๆ ชั้น โดยที่ชั้น สุดท้ายจะเป็นการเคลือบที่ผิว
สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น สิ่งทอที่เป็นฝ้ายและเส้นใยผสมระหว่างฝ้ายกับเส้นใยสังเคราะห์ต้องการอย่างสูงการทำให้แห้งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนผลิต จุ่มหรือวางสิ่งทอที่ผ่านการทำให้แห้งแล้วให้กระจายในสารละลายยางเพื่อ ให้เกิดการเชื่อมติดตามต้องการอย่างแรงกล้า แต่โดยทั่วไปสิ่งทอมักจะถูก ทำให้ติดกับยางโดยนำไปผ่านลูกกลิ้งของเครื่องคาเลนเดอร์ ซึ่งอย่างรวดเร็วของลูกกลิ้งจะให้อัตราส่วนความเสียดทาน (friction ratio) เท่ากับ 1.5:1 เพื่อให้ได้สมบัติการติดที่ดีและมีความเหนียวติด (tack) ของฝ้ายน้ำหนักมวลรวมเบา ไม่มีประโยชน์ต้องเคลือบด้วยยาง แต่ฝ้ายที่น้ำหนักรวมของวัตถุมากกว่า 28 ออนซ์ จะต้องมีการเคลือบด้วยยาง และนำไปผ่านเครื่องคาเลนเดอรท์ ที่มีรวดเร็วมากเท่ากับ 1:1 และย่อมสร้างจำนวนชั้นได้ตามต้องการอย่างสูงก่อนที่จะนำไปวัลคาไนซ์ ของสายพานลำเลียงที่ผลิตจากชั้นของสิ่งทอที่เป็นเส้นใย สังเคราะห์ไม่จำเป็นต้องนำสิ่งทอนั้นไปทำให้แห้งก่อน เพราะพันธะที่เชื่อมติดนั้นเป็นพันธะเคมี (Chemical) นำสิ่งทอไปเคลือบด้วยน้ำยางบนเครื่องคาเลนเดอร์ สร้างแต่ละชั้นจนถึงชั้นสุดท้ายคือ การหุ้ม ด้วยยางผิวบนและเตรียมที่จะเข้าอบ ของการวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องไม่หยุดนั้นไม่จำเป็นแต่อย่างใดต้องมี Process สร้างยางของยางแต่ละชั้นและยางผิวบน
สายพานลำเลียงแบบถักทอนำสิ่งทอถักหรือชั้นผ้าใบรับแรงมาเคลือบด้วยพีวีซีเจลทั้งด้านบนและข้างล่างให้ได้ความหนาตามต้องการ (Want) หรืออาจจะหุ้มด้วยยางก็ได้
สายพานลำเลียงลวดสลิงดึงเส้นลวดให้ตึงตรงกันทุกเส้น ประกบยางที่จะให้ติดกับลวดโดยให้ยางผิวบนไว้ที่ข้างบนและยางผิวล่างไว้ที่ด้านล่างจากนั้นจึงกดให้สายพานแบนได้ขนาด (Size) ตัดขอบที่เกินออก แล้วจึงนำไป วัลคาไนซ์ในแท่นอัดขณะที่ดึงเส้นลวด
การวัลคาไนซ์การวัลคาไนซ์สายพานยางทำได้ 2 วิธี (Method) หลัก คือ
1. press vulcanization
2. continuous vulcanization
– rotor cure
– contiroll system
สายพานพีวีซี ไม่ต้องวัลคาไนซ์แต่จะให้ความ Hot เพื่อให้หลอมติดกัน สายพานแบบถักทออาจจะต้องให้ความร้อนมาก โดยที่เคลื่อนผ่านอุโมงค์ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และต้องรอให้ เย็นก่อนจึงจะม้วนเก็บได้ หรืออาจใช้แท่นอัดกดให้เกิดความร้อนจัดที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และทำให้เย็นก่อนจะเปิดออกมา และเพื่อปกป้องคุ้มครองการบิดเบี้ยวของปลายสายพานแท่นอัดนั้น ต้องมีส่วนที่หล่อเย็นทั้งด้านในและด้านนอก
สายพานผ้าใบและสายพานลวดสลิงวัลคาไนซ์ด้วยการกดอัดเหมือนกันอย่างกับแกะ (อุณหภูมิ ระยะทางของวันเวลา และความดัน) เป็นปัจจัยต่างๆที่ต้องคบคิด โดยที่สายพานลวดสลิงต้องการอย่างแรงกล้าความดันสูงกว่าและอุณหภูมิ ในการวัลคาไนซ์ที่ใช้โดยทั่วไปคาดหมาย 145-155 องศาเซลเซียส และจะต้องอยู่ข้างในแรงดึงตลอดเวลา (Time) การวัลคาไนซ์ สายพานยางที่ขึ้นรูปด้วยการดอัดจะต้องมีส่วนที่หล่อเย็นเข้าไปใน แท่นอัดเพื่อให้เกิดการคงรูป ช่วงของวันเวลาที่ใช้ในการวัลคาไนซ์ของสายพานแต่ละเส้นขึ้นกับคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจของคอมพาวด์ ความหนา และอุณหภูมิที่ใช้ในการวัลคาไนซ์
การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอใน rotocure ( Trademark ของ Boston Woven Hose) หรือ AUMA (เครื่องหมายการค้าในการโปรโมทของ Hermann Berstorff Maschinebau) สายพานจะผ่านไปยัง ดรัมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดที่วัดได้ใหญ่ และไปยังดรัมที่มี Size เส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก 2 ลูก โดยความร้อนจัดที่ได้มาจากดรัมและเครื่องใช้ให้ความร้อนมากอีกด้านหนึ่ง แถบของสายพานจะถูกดึงผ่านไป เพื่อให้คงรูป โดยใช้ความดันต่ำ เวลาในการวัลคาไนซ์ขึ้นกับอย่างรวดเร็วของสายพานและมุมสัมผัส เส้นผ่านศูนย์กลางของดรัม และอุณหภูมิถ้าอุณหภูมิและเส้นผ่านศูนย์กลางของดรัมคงที่ วันเวลาที่ ใช้ในการวัลคาไนซ์จะแปรผกผันกับอย่างรวดเร็วของสายพาน
การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งที่มีความติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ได้แก่ ระบบ ContiRoll (เครื่องหมายการค้าในการประกอบกิจการของ Siempelkamp GmbH) โดยลักษณะของแท่นอัดนั้นจะมีการเพิ่มแถบเหล็กแบบต่อเนื่องไปเรื่อยๆทั้งด้าน บนและข้างล่าง ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสายพานตลอดการกดอัดด้วยแบริ่งที่ไม่มีแรงเสียดทานและการหมุนของลูกกลิ้งขนาดที่ประมาณด้วยสายตาใหญ่ที่ปลายแท่นอัด
การต่อสายพาน (belt splice)ย่อมทำได้ 3 วิธี เช่น
1. การต่อร้อนมาก (vulcanized splice) เป็นวิธีที่ทำให้รอยต่อของสายพานมีความ Strong มากที่สุดที่เราตั้งใจไว้ และให้ความต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอของรอยต่ออย่างสม่ำเสมอ โดยใช้สินค้าที่มีแรงดันและความร้อนที่สุดเข้า มาช่วย
2. การต่อเย็น จะใช้กาว (adhesive) เป็นตัวหลักในการต่อ
3. การต่อกิ๊บ ใช้ในเคสที่มีความเร่งด่วน (Pressing) ในการใช้งานที่ใช้สติปัญญา เพราะว่าเหตุผลคือแนวทางนี้ใช้ระยะทางของวันเวลาน้อยกว่าการต่อร้อนและต่อเย็น
การเลือก Size ของสายพาน การเลือกขนาดของสายพานลำเลียงที่มีความเหมาะสม คือ สายพานนั้นจะต้องมีความกว้างมากเพียงพอต่อการขนถ่ายวัสดุในปริมาณที่ต้องการ (Want) ได้ โดยวัสดุจะต้องไม่อยู่ชิดขอบของสายพาน มากเกินไป การเลือกขนาด (Size) ความกว้างของสายพานลำเลียงที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทั่วไปดังต่อไปนี้
- ประเภทของวัสดุที่ลำเลียงและสมบัติของวัสดุ
- Size ของวัสดุ (lump size)
- อย่างรวดเร็วของสายพาน (belt speed) (m/min, m/s)
- ปริมาณการขนถ่ายลำเลียง (ft3/hr)
เกรดของสายพานสายพานลำเลียงแบ่งเกรดตามคุณภาพที่ดีของชั้นผ้าใบและยางที่ใช้หุ้มดังที่ปรากฏนี้
1. แบ่งตามคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นของชั้นผ้าใบ ( Table ที่ 6)
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายประเภทที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้าย Type ที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายชนิดที่ 3
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายชนิดที่ 4
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์รูปแบบที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์แผนกที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์ชนิด (Type) ที่ 3
2. แบ่งตามคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นของยางที่ใช้หุ้ม (ตาราง (Table) ที่ 7)
- หุ้มด้วยยางประเภทที่ 1
- หุ้มด้วยยางประเภทที่ 2
สายพานลำเลียงเป็นสายพานที่ใช้ขนส่งวัสดุจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยจะต้องมีตัวขับและพูเลย์ในการทำให้สายพานเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ของสายพานจะเกิดจากแรงเสียดทานระหว่าง สายพานกับพูเลย์ แรงเสียดทานดังกล่าวจะขึ้นอยุ่กับผิวสัมผัส ระหว่างสายพานกับพูเลย์ และแรงดึงให้สายพานตึง จากลักษณะการใช้งานที่มีผลตอบแทนดีสายพานจึงต้องมีสมบัติต่าง ๆ เช่นนี้ คือ
ความทนทานต่อแรงเฉือน (Tear strength) ระหว่างใช้งานที่ตัวเองชอบ ชั้นยางและผ้าใบแต่ละชั้นจะรับแรงในการขับเคลื่อนสายพานในปริมาณที่แตกต่างกัน เมื่อผ่านพูเลย์ ยางผิวด้านล่างจะเกิดแรงกด ส่วนยางผิวด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างจะถูกยืดออก และชั้นผ้า ใบแต่ละชั้นก็รับแรงไม่เหมือนกัน ระหว่างชั้นวัสดุแต่ละชั้นของสายพาน จะมีแรงเฉือนเกิดขึ้น แรงเฉือนดังกล่าวจะกระทำกับแต่ละจุดของสายพานมีลักษณะเป็นรอบ อาจทำให้เกิดปัญหาแยกชั้น ของสายพานได้หากแรงยืดของแต่ละชั้นไม่แข็งแรง (Strong) พอ การทดสอบผลิตภัณฑ์สายพานลำเลียงจึงต้องมีการทดสอบ สมบัติความทนทานต่อแรงเฉือนของสายพาน เกี่ยวกับการยึดติดระหว่างผ้า ใบกับยางและระหว่างผ้าใบกับผ้าใบแต่ละชั้น
ความทนทานต่อการสึกหรอ (Abrasion Resistance) สายพานจะเกิดการเสียดสีตลอดวันเวลาในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะ (Especially) ที่ผิวยางบน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับวัสดุที่ต้องการ (Want) จะลำเลียงวัสดุแต่ละ Type เป็นการจะทำให้เกิดการสึกหรอแตกต่างกัน จึง ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น Every time ใน Manufacturing สายพานลำเลียง
ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Environmental Resistance) การใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเองสายพานลำเลียงมีลักษณะท
(http://www.thaiintermat.com/images/logo.png)
ภาพตัวอย่างลำเลียง สำหรับเชื่อมต่อกระบวนการต่าง โดย ไทยอินเตอร์แมท ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-4107-1968
ลำเลียง BELT CONVEYOR SYSTEM โดย Thai Intermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Belt สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:09-0197-6305อ้างอิงจาก: ลำเลียงคำที่ใกล้เคียง: ลำเลียงอ้างจาก: ลำเลียงลำเลียง สำหรับเชื่อมต่อกระบวนการต่าง โดย ไทยอินเตอร์แมท ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-4107-1968
หมวดหมู่ของเว็บ: สายพานลำเลียง คลังสินค้า คอนเวเยอร์ ชั้นวางสินค้า ระบบลำเลียง Racking - Conveyor - Mobile Rack - Roller Conveyor - Belt Conveyorเผยแพร่โดย: ไทยอินเตอร์แมทหน้าหลัก: http://www.thaiintermat.com (http://www.thaiintermat.com)ดูรายละเอียด: http://www.thaiintermat.com/company.php (http://www.thaiintermat.com/company.php)Contact: http://www.thaiintermat.com/contact.php (http://www.thaiintermat.com/contact.php)เว็บเพจ: ไทยอินเตอร์แมท (http://www.thaiintermat.com)ชื่อ: THAIINTERMAT CO.,LTD.เบอร์โทรติดต่อ: 02-7383580-94 Press 12 - 17 Fax : 02-738-3598 - 9 เมล์: marketing@thaiintermat.comที่อยู่: 95/2 Moo14 Kingkeaw-Onnuch Rd., Rachataewa, Bangplee, Samutprakarn 10540ประเภทธุรกิจ: ออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบจัดเก็บสินค้า และ ระบบลำเลียงสินค้า ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย