ที่มาบอกเนี่ยเพราะเป็นวิธีที่ธนาคารปกปิดมาตลอด
เคยมีหนังสือพิมพ์ออกมาขายแต่ธนาคารสั่งเก็บหมด
โปรด..อ่าน..ช้า ช้า.......
..ห้ามเบิกเงินแค่ที่มีในบัญชี ให้ใช้วิธี....ไม่กรอกตัวเลข...แต่..เขียน..ปิดบัญชี
เพียงเท่านี้..ธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ยคุณ 6 เดือน
วิธีนี้..เป็นวิธีที่ธนาคารไม่พยายามบอกคนฝากเงิน เพราะธนาคารมันเสียเปรียบ...
แต่ต้องเป็นกรณีที่เป็นบัญชีออมทรัพย์นะ ถ้าเป็นบัญชี ฝากประจำเราจะไม่ได้ดอก
เพราะถือว่าฝากไม่ครบตามกำหนดแต่ถ้าบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์
หรือที่เรียกว่า savings (สะสมทรัพย์)ธนาคาร จะคิดดอกให้ทุวันตามยอดเงินที่มี...เข้าๆออก
ครบ6 เดือนทีหนึ่งก็จะมีดอกเข้ามาให้ ดังนั้นถ้าใครปิดบัญชี เขาก็ต้องคิดดอกมาให้ด้วย
ส่วนมากประชาชนจะไม่รู้ ก็จะถอนแค่จำนวนเงินที่มีในบัญชีแล้วก็ทิ้งสมุดไว้..ตรงนี้แหละที่ธนาคารได้กำไร
เพราะสมุดนั้นพอทิ้งไว้นานเกินก็จะปิดไปเองและเดี๋ยวนี้ธนาคารส่วนมากจะกำหนดให้
บัญชีต้องมีเงินเหลือติดอยู่อย่างน้อยๆ 500 บาท หากขาดการเคลื่อนไหวนานเกิน 3-6 เดือน
ก็จะเริ่มหักค่ารักษาบัญชีรายละประมาณ 50 บาทหรือไงเนี่ยแหละ
ที่บอกนี่เป็นผลประโยชน์ของผู้บริโภคน่ะ
แต่ส่วนมากมักจะไม่ชอบไปธนาคาร ถอนทางเอทีเอ็ม
แล้วก็คิดว่าที่เหลือแค่เศษสตางค์ช่างมัน..
พอเราขาดการติดต่อธนาคาร เขาก็หักค่ารักษาบัญชี
เงินไม่พอเขาก็ปิด บช เองตามกฎ
ปล.เอิ่มม มันก็นานมากแล้วนะครับผมเองก็ไม่แน่ใจว่าใช้ได้อยู่ไหมนะ แหะๆๆ fdgdfdf
ขอบคุณในสาระที่แบ่งปันครับ
hgjhg
ยังใช้ได้อยู่นะครับ แต่จะไม่ได้ 6 เดือนเป๊ะ แต่จะได้ตามระยะเวลาที่เราใช้มาหลังจากที่เขาคิดดอกไป
เช่น คิดดอกให้ มกรา กับ กรกฏา เราปิดตอน เมษา ก็นับมา กุมภา มีนา เมษา ได้ดอก 3 เดือน ประมาณนี้ครับ
(พนักงาน ธกส บอกมา และคิดว่าธนาคารอื่นก็เหมือนกันครับ)
เป็นความรู้ที่ที่ดีครับ แต่เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเยอะครับ สำหรับเงินในบัญชีไม่มากเดือนชนเดือน ถ้ามีก็ไม่มากปิดบัญชีค่าดอกยังไม่พอค่าน้ำมันไปธนาคารหรอกครับ
eta03 ทีหลังจะเขียนว่า ปิดบัญชี แน่นอนคับ
ขอบคุณที่นำมาฝาก hgjhg
ขอบคุณครับ