cmxseed สังคมราตรี

หมวดหมู่ทั่วไป => ลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ตำนานโลก => หัวข้อที่ตั้งโดย: etatae333 เมื่อ 11 เมษายน 2014, 16:16:07

ชื่อ: ตำนานผีญี่ปุ่น Part5
โดย: etatae333 เมื่อ 11 เมษายน 2014, 16:16:07
1 กัปปะ ปีศาจพรายน้ำ

(http://image.ohozaa.com/i/64a/HgYTpS.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWBeH2N8cVaCPF)

คราวนี้มาพูดถึุงปีศาจที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ใครๆก็รู้สึก มันคือ กัปปะ เป็นปีศาจที่น่ากลัว เพราะมันอาจจับเรากินได
เขาว่ามันจะจับสิ่งต่างๆไม่ว่าคนหรือสัตว์จับลงไปในน้ำลึกพอขาดอากาศหายใจก็จะดูดเลือดกินเป็นอาหาร น่าสยดสยองจริงๆ
แต่เรามักจะไม่ภาพลักษณ์ของมันเป็นอย่างนี้เท่าไรนัก เพราะการ์ตูนมักสร้างมันเป็นแบบน่ารักๆ น่าเอ็นดู


ภาพยนตร์การ์ตูนของญี่ปุ่นมักจะมีบางที่จะกล่าวถึงปีศาจตนนี้ ไม่ทราบเหมือนว่าทำไมแต่คงเป็นรูปลักษณ์ของมันที่ประหลาด
หน้าตาเหมือนลิง มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลังและมีผิวสีเขียวเหลืองออก เหมือนเต่าผสมกับลิงอย่างไรอย่างนั่น แต่มันก็มีของที่
มันโปรดปรานมากคือ แตงกวา คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า หากจะให้พ้นจากการเป็นเหยื่อของกัปปะ โดยการนำแตงกวา มา
และแกะชื่อของตนพร้อมกับอายุ หรือจะแกะชื่อทั้งครอบครัวก็ได้และโยนลงไปในแหล่งน้ำที่กัปปะอยู่ พอกัปปะเจอแตงกวานั้น
ก็จะอ่านและจำไว้และจะไม่ไปทำร้ายเด็ดขาด

กัปปะถึงจะเป็นปีศาจที่ทราบกันดีว่ามันอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ แต่มันกลับสามารถอยู่บนบกมากระโดดโลนเต้นอย่างสนุกสนานได้
เพราะบนศีรษะของกัปปะจะมีสิ่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นจานคว่ำและมีน้ำใสหล่อเลี้ยงอยู่ข้างใน เคยมีวิธีการหนึ่งกล่าวว่าหากเจอกับ
กัปปะและกลัวว่ามันจะจับไปกินนั้นก็จงทำท่าโค้งคารวะให้มัน ด้วยเขาเชื่อว่ากัปปะเป็นปีศาจที่มีสัมมาคารวะ มันจะโค้งคารวะกลับ
และน้ำที่หล่อเลี้ยงบนศีรษะจะหกลงมาจนหมด และมันจะหมดซึ่งเรี่ยวแรงทันทีคราวนี้เละหนีไปอย่างสบายใจ.... 

แต่ก็เคยมีเรื่องเล่ากันถึงกัปปะว่าเป็นปีศาจที่มีความรู้อย่างน่าประหลาด เรื่องมีอยู่ว่า กัปปะนั้นด้วยความมีนิสัยชอบเล่นกีฬาอย่างซูโม่
และ ชักเย่อ กัปปะตนหนึ่งเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่โตท่าทางเป็นคนมีพละกำลังขี่ม้าผ่านมา ตนก็กระโดดไล่จับชายคนนั้น หวังจะให้เป็น
คู่ประลองชักเย่อ พอชายคนนั้นมีพละกำลังมากจึงคิดแก้เผ็ดกัปปะปีศาจจอมก่อกวน จึงจับมือกัปปะไว้และควบม้าได้อย่างรวดเร็ว
ตัวกัปปะก็ปริ้วๆมา น้ำที่หล่อเลี้ยงบนศีรษะก็หกลงมาหมด กัปปะวิงวอนให้ชายผู้นี้หยุด ด้วยความเห็นใจชายหนุ่มก็นำน้ำมาเติม
บนศีรษะของกัปปะ กัปปะเห็นน้ำใจอารีของชายหนุ่มจึงได้สอนวิธีการต่อกระดูกแก่ชายหนุ่มเป็นการตอบแทน จากนั้นมาชายหนุ่ม
ก็กลายเป็นหมอกระดูกที่มีชื่อเสียงและสอนบอกต่อจากรุ่นลูกสู่รุ่นหลานจนกลายเป็นตระกูลหมอต่อกระดูกในเวลาต่อมา...

ถึงอย่างไรว่ากัปปะจะเป็นปีศาจที่น่ากลัว แต่ก็อาจเป็นกุศโลบายของคนสมัยโบราณ เคยมีเรื่องเล่าว่ามีหมู่บ้านหนึ่ง มีลูกเล็กเด็กแดงมาก
และส่วนใหญ่หมู่บ้านนี้จะมีหมู่บ้านเกษตรกรรม และมีแม่น้ำใหญ่เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยง พอพ่อแม่ทำไร่ทำนา พวกเด็กๆในหมู่บ้าน
รุ่นราวคราวเดียวกันก็พากันไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ ด้วยเด็กไม่รู้อะไรก็มีเด็กจำนวนหนึ่งที่จมน้ำตาย พ่อแม่มาตามหาก็ไม่พบ วันต่อมาทราบว่า
กลายเป็นศพไปเสียแล้ว

พ่อแม่ของพวกเด็กที่จมน้ำตายก็ได้ทำบุญอุทิศและสร้างสุสานของลูกเขาไว้ และได้แต่งสร้างปีศาจในจินตนาการ คือ กัปปะ
ว่าเป็นปีศาจที่เกิดจากวิญญาณของเด็กที่จมน้ำตายกลายเป็นพรายน้ำ ให้เด็กระวังตัวหรือไม่ลงเล่นน้ำเลยดีกว่า เพราะจะถูกปีศาจกัปปะจับกิน
ซึ่งที่มาของกัปปะก็อาจมาจากสาเหตุนี้ก็เป็นได้...



2. กิชิโมะ จิน นางมารกลับใจ

(http://image.ohozaa.com/i/7b4/TUOKlI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWYZgJMXqeRD0o)

มาเจอกับปีศาจต่างประเทศที่มากลับเป็นปีศาจที่คนญี่ปุ่นเคารพนับถือกันดีกว่า ปีศาจตนนี้คือ "กิชิโมะ จิน"

กิชิโมะ จิน เป็นปีศาจมาจากประเทศอินเดีย ความจริงเขาเป็นนางยักษ์เคยปรากฏขึ้นในสมัยพุทธกาลของพระสมณโคดมพุทธเจ้า
(พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) นามว่า "ฮาริตี"นางด้วยวิสัยของยักษ์ย่อมชอบจับสัตว์จับคนกินเป็นของธรรมดา แต่การกระทำของนาง
กลับสร้างความเศร้าแก่ผู้เป็นพ่อแม่ คือ นางจับลูกของชาวบ้านกินเป็นอาหารและเป็นอาหารที่เธอโปรดปรานเป็นอันมาก
เธอจะแอบไปตามบ้าน แปลงกายเป็นพ่อแม่ของเธอและลักพาลูกของชาวบ้านมากิน ถึงแม้ชาวบ้านจะป้องกันด้วยวิธีใดก็ตาม


3. สุนัขหน้าคน

(http://image.ohozaa.com/i/13e/a3pCSc.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmXBgYopHggYyY8)

ครั้งที่แล้วเคยแสดงถึงปีศาจแมว "โคคิเอะ" และปีศาจหนู "คิวโซะ"ไปแล้วคราวนี้จึงเสนอปีศาจตนนี้ หากไม่เสนอแล้วคงแปลกๆ
ดูไม่สมบูรณ์อย่างไงไม่รู้ ปีศาจตนนี้คือ "สุนัขหน้าคน"


ด้วยว่าแต่อดีตมาสุนัขเป็นทั้งเพื่อนและสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์เรามานาน ด้วยนิสัยที่รักผู้เป็นนายและความกตัญญูรู้คุณที่ผิดจาก
วิสัยของสัตว์ และเป็นสัตว์ที่แต่เดิมเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายเมื่อมาอยู่ร่วมกับคนจึงมีความเชื่องผิดวิสัยของบรรพบุรุษของมัน

ปีศาจตนนี้มีรูปลักษณ์เหมือนสุนัขทั่วไป แต่กลับมีใบหน้าเป็นคน จึงเรียกกันว่า สุนัขหน้าคน มันยังเป็นปีศาจที่เป็นที่นิยมในความน่ากลัว
ไม่ต่างจาก สาวปากฉีก เพราะเป็นปีศาจที่เกิดในช่วงญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน เป็นที่หวาดกลัวของเด็กๆเช่นเดียวกับสาวปากฉีก แต่ความจริง
ปีศาจประเภทแบบนี้กลับเคยมีมาก่อนแต่อดีต เช่น อามาปิเอะ ปีศาจภูตซึ่งนำพาความสุข ก็มีลักษณะศีรษะเป็นคน และคุดันอีกที่เป็นปีศาจ
เกิดมาเพื่อทำนายนั้น ก็มีลักษณะหน้าเป็นคน เช่นกัน ซึ่งไม่แปลกหากจะมีปีศาจตัวใหม่ คือ สุนัขหน้าคน

เคยมีเหตุการณ์ของการปรากฏตัวของสุนัขหน้าคน หญิงสาวเด็กนักเรียนประถมคนหนึ่งนั่งทานไอศกรีมที่สวนสาธารณะและนั่งบนม้านั่ง
อย่างสบายใจ แต่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา "กินมั้ง...กินมั่ง..." เธอหันไปก็พบกับสุนัขที่แลบลิ้นกระดิกหางและเธอตั้งตกใจสุดขีดที่ใบหน้า
เป็นชายวัยกลางคนน่ากลัว

อีกเหตุการณ์หนึ่ง ครอบครัวหนึ่งกำลังเดินทางไปเที่ยวในช่วงหน้าร้อน เมื่อเขาขับขึ้นทางด่วนก็พบกับสุนัขตัวหนึ่งที่วิ่งตัดหน้ารถอย่างรวดเร็วมาก
แต่พบมองมันไปด้วยความโมโห "เดี๋ยวโดนชนตายเจ้าหมาบ้า" แต่ต้องชะังัดเมื่อมันหยุดมองมาจากฝั่งข้ามทางด้วยสายตาอาฆาต
"อย่ามายุ่งได้ไหมเจ้าบ้า...." ทุกคนพากันหน้าเสียเมื่อเจ้าสุนัขตัวนั้นตอบกลับมาแล้วใบหน้าของมันเหมือนใบหน้าคน

แต่มีตำนานหนึ่งที่กล่าวถึุง สุนัขหน้าคน มีผู้น้อง 3 คน ร่วมมือกันฆ่าพ่อแม่ของตนเอง และสวรรค์ก็ลงทัณฑ์สาปแช่งไอ้ลูกอกตัญญูทรพีทั้ง3
ให้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉา แต่ปรากฏว่า พี่คนโตเกิดเป็นวัว พี่คนรองเกิดเป็นสุนัข น้องคนเล็กเกิดเป็นม้า แต่ใบหน้าของพวกเขากลับไม่ใช่หน้า
ของสัตว์ทั่วไป แต่มีใบหน้าเป็นคน นี้เลยอิงสุนัขหน้าคนเลยมีความเชื่อว่า สุนัขหน้าคน คือปีศาจที่มาจากดวงวิญญาณของคนที่อกัตญญู
ทรพีผู้มีพระคุณนั่นเอง..


4. ฮานาโกะ เด็กหญิงในห้องน้ำ

(http://image.ohozaa.com/i/e46/cXknfy.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWRxIpPGFfVRDe)


ปีศาจที่เป็นที่รู้จักอีกตน ใครคงไม่รู้จักปีศาจตนนี้ เคยปรากฏในภาพยนตร์การ์ตูนของญี่ปุ่นหลายเรื่อง และเป็นที่หวาดกลัวสยองขวัญมากๆ
เมื่อเข้าห้องน้ำถูกห้องก็ดีีไป ขับถ่ายอย่างสบายใจ แต่เมื่อห้องผิดล่ะก็จะต้องเจอเธอแน่ "ฮานาโกะ"


เมื่อพูดถึง ฮานาโกะ กับเด็กอนุบาลและเด็กประถมของญี่ปุ่น ต้องขนหัวลุกแน่ เพราะเป็นปีศาจที่อยู่ในห้องน้ำของโรงเรียน มีเรื่องเล่าจุดเหตุ
ของตำนานฮานาโกะมีอยู่ว่า โรงเรียนหนึ่งของญี่ปุ่้นที่จังหวัดนางาโงะ มีตำนานอันเป็นความเชื่อว่ามีห้องน้ำที่มีพวกวิญญาณร้ายสิงสถิตอยู่
ไม่มีใครกล้าเข้าใช้ จนอยู่มาวันหนึ่งเกิดห้องน้ำนั้นคนใช้ขึ้นและความผิดสังเกตว่าห้องน้ำห้องนี้เมื่อมีคนใช้ประตูก็ไม่ได้เปิดอีกเลย จนเด็กคิดว่า
ประตูเสียจึงช่วยกันดึงประตูเอง แต่ดูท่าจะเหลว จึงไปให้ลุงภารโรงมาช่วย พอภารโรงใช้ชะแรงแล้วประตูเปิดออก กลับพบกับ ร่างของ
เด็กผู้หญิงชุดสีแดงตายอยู่ในห้องน้ำ

จึงเป็นข่าวเล่าลือกันไปทั่ว มีเด็กผู้หญิงที่จะเจอกับวิญญาณของเด็กหญิงชุดแดง ที่มักจะชวนไปอยู่เป็นเพื่อนเขาว่าเด็กผู็หญิงคนนี้ว่า
คุณฮานาโกะ และเธอไปเดินทางไปเยี่ยมเยือนในห้องน้ำทุกโรงเรียน ระวังนะตอนนี้เธออาจจะไปอยู่ที่ห้องน้ำโรงเรียนคุณก็เป็นได้...


5. โยไก ภูตผีปีศาจอสูรกาย

(http://image.ohozaa.com/i/443/5fFHVP.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmXVtLgzRKCamVO)

ในครั้งกล่าวเริ่มเรื่องของ ตำนานภูตผีปีศาจญี่ปุุ่่น เคยกล่าวถึง โอบะเกะ ซึ่งเป็นภูตผีปีศาจประเภทนี้ ซึ่งมักจะปรากฏจากสัตว์ที่ชาวญี่ปุ่น
เชื่อว่ามีชีวิตและการดำรงชีวิตที่พิศวง กับสิ่งของที่ถูกทอดทิ้งหรือเก็บลืมจนนานเข้าจึงกลายเป็นปีศาจ แต่ในครั้งนี้ได้นำเสนอภูตผีปีศาจ
ประเภทที่น่ากลัวน่าสยดสยองยิ่งขึ้นเพราะภูตผีพวกนี่มักให้โทษมากกว่าให้คุณ...


โยไก เป็นภูตผีปีศาจในประเภทที่มีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัว เช่น โระคุโระคุบิ (ผีคอยาว) มุจินะ (ปีศาจไร้หน้า)
โอนิ (ยักษ์ :เคยกล่ีาวไว้ในตำนานปวงเทพแดนอาทิตย์อุทัย) เป็นต้น ซึ่งพอดูๆแล้วมักเป็นปีศาจที่เกิดมาจากมนุษย์หรือไม่ก็เป็นอสูรกาย
ที่เกิดมาพร้อมกับการกำเนิดของเกาะญี่ปุ่นในสมัยเทพอิซานากิกับอิซานามิสร้างเกาะญี่ปุ่น... เช่น เท็งกุ (มนุษย์นก) เป็นต้น


6. โรคุโรคุบิ ผีคอยาว

(http://image.ohozaa.com/i/295/8eATro.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmXNGeglfbT0050)

วันนี้จะมาเสนอเรื่องราวเป็นแนวทั้งอธิบาย และจะมีเรื่องเล่าอันเป็นตำนานเรื่องผีที่ชาวญี่ปุ่นมักจะเล่าสืบต่อกันมา คงจะแนวเดียวกับ
ของบ้านเราที่มักจะเรื่องแม่นาคเพราะเป็นเรื่องผีที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล แต่ผีตนนี้ไม่ได้เป็นผีประเภทเดียวกัีบแม่นาคนะ
แค่ยกตัวอย่างใ้ห้เข้าใจเท่านั้น


โระคุโระคุบิ ว่าไปถ้าเทียบกับผีบ้านเราคงมีความคล้ายกับผีกระสือ แต่ของเขาไม่ได้ถอดหัวถอดและส่องแสงเวลาไปหากิน แต่ของเขา
เป็นแบบอย่างที่เห็น คือ จะปล่อยให้คอยาวไปเรื่อยๆเหมือนงูที่เลื้อนและลอยไปจนแหล่งที่เป็นแหล่งอาหารของมัน เขามันกินคนเป็นอาหารได้
และต้องเป็นชายหนุ่มของอาหารชั้นเยี่ยมและเป็นของที่โปรดปรานเพราะมันจะได้รับพลังชีวิตของวัยหนุ่มมาเติมกำัลังของตนเองได้
(ผู้หญิงมันก็กินนะ กินไม่เลือก...) ผิดกับกระสือที่จะกินแต่ของเสียเน่าบูด

แต่ผีประเภทนี้มักจะเป็นผู้หญิง ซึ่งก็เหมือนบ้านเราที่กระสือมักเป็นผู้หญิง (มันคล้ายกันอยู่น่า...) คงเคยได้ยินเพลงว่า
"กระสือกลางวันมันเป็นหญิงมีทุกสิ่งธรรมด๊า..ธรรมดา" ซึ่งเจ้าโระคุโระคุบิก็เช่นกัน ตอนกลางวันจะเป็นเหมือนคนปกติสามัญทั่วไป
แต่พอตกค่ำพระจันทร์ขึ้นกลางฟ้าเมื่อใด มันจะยืนคอออกหาอาหารทันที และเขาว่ากันมาว่าผีพวกนี้ยังกลายพันธุ์มาอีกแบบหนึ่ง
ซึ่งดูเหมือนกระสือบ้านเรามาก ซึ่งมันจะถอดหัวลอยไปมาหาอาหารกิน แต่ไม่ได้ถอดไส้มาด้วยอย่างกระสือบ้านเรา แต่เขาว่า
มันเป็นโระคุโระคุบิเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นได้ทั้งชายและหญิง (ฟังดูแล้วดูยุติธรรมเป็นกลางๆดีจัง)

(http://image.ohozaa.com/i/g91/wFTEVQ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmVtKRndcX2xhjX)

เรื่องที่เล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของโระคุโระคุบิ ที่กลายเป็นเรื่องผีที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเล่าขานต่อๆกันมา โดยเรื่องนี้เล่าถึงผีโระคุโระคุบิ
ที่ไม่ได้เลื้อยคอไปมา แต่เป็นโระคุโระคุบิที่สามารถถอดคอเหาะไปมาได้เหมือนกระสือบ้านเราแต่ไม่ได้มีตับไตไส้พุงติดไปด้วยเท่านั้น

เรื่องนี้ถูกเล่ากันมานานกว่า 500 ปี โดยมีซามูไรคนหนึ่งนามว่า "อิไซะโก เฮดะเซมอน ทะเกซึระ" (ชื่อยากมาก...)
เขาเป็นซามูไรที่เก่งสงครามมากและมีัชื่อเสียงในสมัยเอเกียว ต่อมาราชสำนักคิกุยิล่มสลาย เขาจึงเป็นซามูไรไร้นาม(ไม่มีเจ้านาย)
ถึงเขาจะมีฝีมือที่เก่งกาจมีใครๆก็อยากได้เขามาเป็นลูกน้อง แต่เขายังคงจงรักภักดีกับราชสำนักคิกุยิอยู่จึงหันหลังให้ทางโลก
และมุ่งสู่ทางธรรม เขาบวชเป็นภิกษุฉายาว่า"ไกวเรียว"


พระไกวเรียวถึงจะเป็นพระภิกษุที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นลักษณะชายชาตินักรบจึงยังเป็นที่แกร่งของผู้คน
พระไกวเรียวจึงเลือกจะออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ (โดยเฉพาะในที่ๆทุรกันดาร)ซึ่งในสมัยนั้นไม่มีพระภิกษุรูปใดที่จะเลือกออกธุดงค์เลย
ด้วยกลัวเหตุอันตรายทั้งสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย โจรผู้ร้ายต่างๆนานา แต่พระไกวเรียวกลับไม่กลัวและมุ่งหน้าเดินทางธุดงค์แสวงหา
ที่สงบเพื่อทำจิตภาวนาสมาธิ

พระไกวเรียวท่านธุดงค์มาถึงจังหวัดไค อันเป็นจังหวัดที่ทุรกันดารมากๆอยู่ในป่าเขา ตอนนั้นก็มืดมากท่านจึงแวะพักค้างแรมในป่า
(ไม่เข้าใจว่าพระญี่ปุ่นกับพระบ้านเราคงไม่เหมือนกันและอีกอย่างการธุดงค์ของเขานั้น ไม่ทราบเป็นแบบที่ปัดกลดเหมือนกันหรือเปล่า....)
ในขณะีที่พระไกวเรียวกำลังจะล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนที่เหนื่อยจากการเดินทางมาไกล ชายตัดฟืนเดินทางพามาและนิมนต์พระไกวเรียว
ไปพักค้างแรมที่บ้านของตน

พระไกวเรียวไปที่บ้านของชายตัดฟืนตามที่ชายตัดฟืนนิมนต์ พอพระไกวเรียวเข้าไปภายในบ้านก็พบกับครอบครัวของชายตัดฟืน
พวกเขาที่ความเคารพก้มศีรษะอย่างอ่อนน้อมและมีมารยาท ท่าทีเหมือนเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี พอไปๆมาๆชายตัดฟืน
ได้พูดถึงประวัติความหลังของตนเองและครอบครัวขึ้นว่า

"เดิมทีตนเองรับงานราชการมีสมบัติและบริวาร แต่ด้วยพอสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นจงกิเลศความโลภเข้าตาจึงโกงแผ่นดิน
และตนเองได้ฆ่าผู้คนที่บริสุทธิ์ตายไปมากมาย พอมาสำนึกได้ก็รู้ว่าตนทำบาปอย่างมหันต์จึงทิ้งทุกอย่างมาอยู่กัน
ในที่ห่างไกลและปลอดผู้คน จึงมีความเป็นอยู่อย่างสงบยึดอาชีพตัดฟืนหาเงินเลี้ยงชีพ บางทีสวดมนต์ทำบุญยึดพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง
มีโอกาศจะช่วยใครได้ก็ช่วยเผื่อสามารถจะลบล้างบาปที่ตนได้ก่อไว้..."


พระไกวเรียวก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพบกับคนที่เรียกว่า โจรกลับใจ ท่านได้ค้างคืนที่บ้านหลังนี้โดยชายตัดฟืนและภรรยา
จัดห้องและที่นอนให้แก่พระไกวเรียว ทุกคนในบ้านหลับกันหมดเว้นแต่พระไกวเรียวที่ยังคงบริกรรมสวดมนต์อยู่ พอท่านสวดมนต์เสร็จ
ก็หวังจะออกไปสูบอากาศที่นอกบ้าน ระหว่างออกจากห้องท่านก็เดินผ่านห้องนอนของเจ้าของบ้านคือชายตัดฝืนและครอบครัว
อยู่ๆท่านต้องตกใจกับภาพที่เหตุ...คือร่างทั้ง5ของครอบครัวชายตัดฝืนไม่มีหัว...!!!

ท่านคิดว่า
"น่าสงสารจริงๆ สงสารมีคนใจร้ายใจดำมาสังหารครอบครัวนี้ เอะทำไมเราไม่ได้ยินเสียงของความเจ็บปวดหรือเสียของ
ผู้บุกรุกทั้งๆที่เราก็สวดมนต์อยู่น่าจะได้ยินนี่ และอีกอย่างนี้จะเป็นฆาตกรรมจริงเหรอ ก็ไม่มีรอยคราบเลือดอะไรเลย
และร่างนั้นก็ดูนิ่งเหมือนนอนหลับอยู่เฉยๆ... หรือว่าเราจะ....เจอเข้ากับโระคุโระคุบิเสียแล้ว....!!!!"


(http://image.ohozaa.com/i/67f/Bg9t5z.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmVKLQ6P70P8MXB)

พระไกวเรียวทราบดังนั้นก็คิดขึ้นได้ว่า หากพบร่างของโระคุโระคุบิเช่นนี้ ให้จับร่างหันไปยังอีกข้างหนึ่ง ท่านทราบว่าเมื่อเจ้าหัวกลับมา
เข้าร่างและ้เห็นว่าร่่างของมันถูกกลับข้างล่ะก็มันจะเข้าร่างมันไม่ได้และจะร่วงลงมาดิ้นไปมาและตายไปในที่สุด พอท่านออกไปนอกบ้าน
และได้ยินเสียงเหมือนคนพูดกัน ท่านแอบเข้าไปหลังพุ่มไม้ก็พบว่าเป็นผีโระคุโระคุบิที่เป็นหัวลอยไปมาและมันกำลังสนทนากัน
สรุปว่ามันจะกินพระไกวเรียว ซึ่งหัวของภรรยาชายตัดฟืนลอยเข้าไปในนอนและออกมาอย่างหน้าตาตื่น

"ท่านพี่พระนั้นไม่อยู่แล้วและร่างของพวกเราถูกจับหันข้างกันหมดเลย"

เจ้าหัวผีของนายตัดฟืนตกตะลึงกลัว "หากเป็นเช่นนี้เราก็ตายกันหมดซิแย่แล้ว...เราต้องหาพระนั้นไม่พบและกินมันเป็นการแก้แค้น"

(http://image.ohozaa.com/i/fe7/o3l9AM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmW4CEiHAdY1ZEu)

เจ้าหัวผีทั้ง 5 หัวก็ลอยไปมาเสียงเหมือนแมลงบินไปมา และมันก็พบเข้ากับพระไกวเรียวที่ซ่อมอยู่หลังพุ่มไม้ พระไกวเรียว
ใช้ท่อนไม้ที่พบในแถวนั้นไล่ตีเจ้าหัวผี หัวผีคนตัดฟืนเข้ากัดแขนของพระไกวเรียวท่านตีทุบหัวของมันจนมันตาย พระไกวเรียว
ก็พยายามจะเเกะไม่ออกฟันยังคงฝังในแขนเสื้อพอแสงอาทิตย์เริ่มส่องบนท้องฟ้า หัวผีอีก 4 หัวพากันกรีดร้องและลอยหนีเข้าไปในบ้าน

(http://image.ohozaa.com/i/477/P3uezT.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWiNNA2ZKlNmzw)

พระไกวเรียวเห็นของชายตัดฟืนที่กัดติดกับแขนเสื้อกลายเป็นหัวที่มีเลือดไหลออกมา
"มันตายแล้ว...ดีจริงการธุดงค์ทั้งนี้ได้ของที่ระลึกเป็นหัวปีศาจ...ฮา...ฮา...ฮา.."

พอท่านเข้าไปในบ้านเพื่อจะเก็บของเพื่อที่จะเดินทางต่อไป ภรรยาและบุตรของชายตัดฟืนที่คืนสภาพเป็นคนธรรมดา ทั้งตาย
มีแต่รอยเลือดทั้งหูตาและหน้า พอได้เห็นพระไกวเรียวเท่านั้นก็กรีดร้องด้วยความกลัวและร้องไห้พากันวิ่งหนีท่านออกไปจากบ้าน
ท่านเก็บของสัมภาระเสร็จก็ออกเดินทางโดยมีเจ้าหัวปีศาจคงเกาะแขนเสื้อของท่านอยู่ และท่านก็ออกธุดงค์ต่อไป

(http://image.ohozaa.com/i/6a0/6DJYV7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWpxoxqX1aE753)

ท่านเดินทางผ่านมาถึงตำบลซุวะ เมืองชินะโนะ คนที่พบเห็นท่านกับหัวคนที่กัดติดแขนเสื้อที่เวลาท่านเดินไปมาหัวมันก็จะเกว่งไปมา
เป็นภาพที่สร้างความกลัวสยดสยองต่อผู้ที่พบเห็น จนกระทั่งตำรวจท้องที่เข้ามาจับตายไปข้อหาเป็นผู้ร้ายใจโหด..
(เพราะเขายังไม่ทราบว่าเจ้าหัวที่ห้อยอยู่มันเป็นหัวโระคุโระคุบิ) ท่านถูกจำึคุกและสืบสวนเป็นเวลานาน จนสามารถลงข้อสรุปได้ว่า
เจ้าหัวนั้นเป็นหัวของผีโระคุโระคุบิ เพราะเป็นหัวที่ไม่มีลักษณะของการถูกตัดขาดด้วยอาวุธของมีคม แต่คล้ายกับผลไม้ที่ถูกเด็ดออกจากต้น
คือ ออกมาจากตัวอย่างนั้น ท่านจึงพ้นข้อกล่าวหา เหล่าเจ้าหน้าที่จึงกล่าวว่า

(http://image.ohozaa.com/i/374/4k3DGu.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWlDD2jruj9PBK)

"ท่านช่างเป็นพระที่น่าเกรงขามว่าได้ไม่น่าจะเป็นพระทรงศีลเลยน่าจะเป็นนักรบเสียมากกว่า"
พระไกวเรียวจึงบอกว่า "จริงๆแล้วเราในอดีตเคยเป็นซามูไรรับใช้ราขสำนักคิกุยิ "

(http://image.ohozaa.com/i/339/o1oFuY.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWgjWO3Yq8nQrt)

จากนั้นข่าวนี้เป็นที่ทราบ เหล่าซามูไรที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก็เข้ามาเยี่ยมเยือนนำของมาถวายมากมาย พยายามจะให้ท่านกลับเข้า
วงการซามูไรอีกครั้ง แต่ท่านปฎิเสธและท่านยังคงเดินทางธุดงค์ต่อไป เรื่องของท่านที่เผชิญกับผีโระคุโระึุคุบิกลายเป็นเรื่องที่โด่งดัง
เป็นเรื่องที่เล่ากันปากต่อปากเป็นข่าวคราวของ"พระผู้กล้าที่เผชิญกับผีโระคุโระคุบิที่จังหวัดไค"
และเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องผีที่นิยมในญี่ปุ่นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน


แต่เรื่องนี้ยังไม่จบลงเท่านี้ พระไกวเรียวได้เดินทางผ่านไปยังที่เป็นทางโจร ท่านจึงถูกโจรปล้น และท่านได้มอบหัวปีศาจตนนี้
แก่โจรพร้อมเงินที่เพื่อนซามูไรถวายมาให้ด้วย เ้จ้าโจรก็ไม่เชื่อว่าหัวที่ติดแขนเสื้อมานั้น เป็นหัวผีโระคุโระคุบิ ท่านก็เตือนโจร
แล้วว่าหากเก็บหัวนั้นไว้กับคนธรรมดาวิญญาณร้ายของมันจะตามมาแก้แค้น แต่โจรมันยังไม่เชื่อ ยังหาว่าท่านปั้นน้ำเป็นตัว
แต่งเรื่องมาหลอก แต่ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรจึงปล่อยเลยตามเลย

(http://image.ohozaa.com/i/562/e1KMGU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmVyIyVbiVMTTdD)

เจ้าโจรก็หวังใช้หัวคนนี้เป็นเครื่องมือใช้ขู่ในคนกลัวเพื่อง่ายต่อการปล้น แต่มันได้รู้ความจริงว่าหัวที่มันได้มาเป็นของผีโระคุโระคุบิจริงๆ
ก็เมื่อเพื่อนโจรด้วยกันที่เมืองชินะโนะมาเยี่ยมและบอกว่าหัวนั้นเป็นหัวผีจริงๆ เจ้าโจรถึงกลับหน้าถอดสี มันแย่แน่ถ้ายังเอาหัวนั้นไว้
มันจึงไปยังบ้านของชายตัดฟืนแล้วจะเอาร่างของมันไปฝังไว้กับหัวของมันเพราะเป็นความเชื่อว่า ศพที่อวัยวะไม่ครบจะไม่ได้ไปสู่สุคติ
มันก็พยายามหาร่างแต่ไม่พบ มันจึงเอาเพียงหัวนั้นไปฝังไว้ในบริเวณใกล้ๆกระท่อมและเอาก้อนหันวางทับไว้เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า
เป็นหลุมฝังหัวของผีโระคุโระคุบิ และหลุมนั้นยังคงมีอยู่ถึงปัจจุบัน...

เรื่องผีเรื่องถ้าจะเป็นจริงเพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์และช่วงเวลาที่แน่นอนรวมถึงหลักฐานและสถานที่
ที่มีอยู่จริงจนกระทั่งถึงปัจจุบัน...


7. ฟุทาคุชิอนนะ สาวสองปาก

(http://image.ohozaa.com/i/505/kWzpsu.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWMA0RRB8BhVRI)

ผีตนนี้เป็นคนธรรมดาแต่กลับมีปากอีกอันซ่อนอยู่หลังศีรษะภายใต้การปิดบังจากเส้นผมของเธอเอง ผีตนนี้มีความคล้ายกับโระคุโระคุบิที่เป็นผี
ทั้งๆที่เป็นคนธรรมดาและเจ้าตัวมักจะไม่ทราบได้เลยว่าตนเองเป็นผีสองปาก เพราะมันจะเผยออกมาในเวลาที่เธอไม่รู้ตัว บางทีจะเป็นตัวที่
นอนอย่างสนิทแล้ว และมันจะโผล่ออกมาจากผมและผมนั้นเปลี่ยนสภาพเสมือนเป็นมือแทนและจะยาวขึ้นเลื่อนๆจนกลายจะเจอกับอาหารอย่าง
เช่นอาหารที่ถูกเก็บไว้ในตู้หรือวางไว้ในห้องครัว สาวสองปาก มีความเชื่อว่า คนที่จะเป็นผีตนนี้ต้องเป็นคนที่เคยทำบาปอย่างมหันต์
เลยมีเรื่องเล่าถึงผีตนนี้ว่า...


มีหญิงคนหนึ่งแต่งเข้าบ้านที่สามีตนเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ภรรยาคนก่อนเสียชีวิต และสามีกลับมีลูกติดมาอายุได้ 2-3 ขวบ
กำลังน่ารักน่าชัง แต่หญิงสาวกลับมีนิสัยไม่เหมาะกับน่าตา ด้ยใบหน้าที่สวยงามและนิสัยกลับใจจืดใจดำอำมหิต ด้วยสามีเป็นพ่อค้า
มักต้องเดินทางไปค้าขายนานๆทีจะได้กลับมาบ้าน เธอก็อยู่เพียงกับคนใช้และลูกของสามี พอเธออยู่โดยปราศจากสามี เธอก็ทำอะไรได้ตามใจ
เธอเกลียดลูกของภรรยาเก่า เธอจึงทำการห้ามคนใช้ไม่ให้อาหารลูกของภรรยาเก่า แม้แต่เด็กกำลังจะเรียกร้องเพียงแค่น้ำนมบรรเทาความหิวโหย
เธอก็ไม่สนใจ เพราะใช้คติว่า

"ไม่ใช่ลูกฉันสักหน่วยจะสนมันทำไม"

เด็กน้อยที่น่าสงสารอดข้าวอดน้ำอดนมที่เป็นอาหารที่สำคัญจนทนต่อไปในโลกใบนี้ไม่ไหว วิญญาณที่หิวกระหายจึงเข้าสิงร่างของหญิงสาว
ผู้เป็นแม่เลี้ยง เธอก็ตกใจเมื่อเธอน้ำหนักมากขึ้นทุกทีทุกที เธอก็ประหลาดที่อาหารที่เธอชอบและคิดจะเก็บไว้กินในตอนอื่นกลับหายไป
โดยไว้ร่องรอย และเธอจากสาวสวยกลายเป็นหญิงที่เริ่มอ้วน เธอประหลาดที่เธออายุยังไม่มากแต่กลับน้ำหนักมากขึ้นโดยไม่น่าเชื่อ
เธอจึงพยายามหาสาเหตุ

(http://image.ohozaa.com/i/764/QlneNO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwmWGcoALj1JfjHB)

จนอยู่มาวันหนึ่ง เธอเริ่มเห็นความผิดปกติ จึงให้คนใช้มานอนเป็นเพื่อนเธอ แต่แล้วคนใช้ก็ได้ยินเสียงของการเคี้ยวอย่างตะกละ
และกลิ่นของอาหารที่อยู่ไม่ห่างจากเธอ เธอตื่นขึ้นมาปากที่กำลังเคี้ยวภายใต้เส้นผมที่มักอาหารไว้กำลังถูกส่งเข้าปากนั้น
เธอตกใจกรี๊ดกับภาพที่เห็น หญิงผู้เป็นนายตื่นก็รู้ว่าตนเองเป็นผีสองปากไปแล้ว เธอรับไม่ได้เธอกลับตัวอยู่แต่ในห้องของเธอ และเธอต้องทน
กับการที่ปากที่สองของเธออยู่ข้างหลังศีรษะของเธอ และเสียงเคี้ยวอย่างตระกะทุกคืน สามีของเธอจึงไล่เธอที่เป็นผีออกจากบ้าน
และเธอก็ถูกชาวบ้านขับไล่จนออกจากเมือง เธอไม่มีที่ไปและอดอยากไม่มีอาหารกิน เธอรู้ถึงความรู้สึกของการที่อดอยากหิวกระหาย
ที่เธอเคยทำไว้กับลูกของสามีกับภรรยาเก่า... และเธอก็ตายทั้งๆที่ร่างเป็นสาวสองปาก

จากเรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องที่มักจะเล่ากันในบรรดาของคนญี่ปุ่น และสรุปได้ว่าผีตนนี้เป็นเพราะกรรมที่ตนได้ทำไว้และอีกอย่างคือการถูกผี
อดอยากเข้าสิง... โดยเฉพาะผีเด็กที่อดอยากแม้แต่น้ำนม...

เรื่องเล่าอีกอย่างที่แตกต่างกันเล่าว่า คำสาปนี้จะเกิดกับผู้หญิงที่เปลี่ยนวิธีการกินของตนเองอย่างเฉียบพลัน
โดยลดปริมาณอาหารลงอย่างมาก เพราะอยากลดน้ำหนักพยายามอดสิ่งที่ตนเองชอบ แต่ว่าร่างกายกลับ
ต้องการมากจนกลายเป็นว่าตนเองต้องคำสาปมี ปากที่สอง ที่ควบคุมไม่ได้มาแทน

ดังเช่นตำนานเรื่องนี้ในสมัยเอโดะมีหมู่บ้านอยู่แห่งหนึ่ง ที่หมู่บ้านนั้นมีชายหนุ่มยากจนคนหนึ่งวันๆได้อาศัยตัดไม้แบกฟืนเลี้ยงชีพไปวันๆ
ตกเย็นวันหนึ่งชายหนุ่มได้ขึ้นเขาไปตัดฟืนกับเพื่อนสามคน พวกเขาได้คุยกันอย่างสนุกสนานและไปๆมาๆก็เข้าเรื่องผู้หญิง เพื่อนเขาทุกคน
ล้วนแต่มีภรรยาด้วยกันทั้งนั้นยกเว้นแต่ชายหนุ่มคนเดียวที่ไม่มีภรรยา

เขาถอนหายใจเฮือกแล้วครุ่นคิดว่าเรามันไม่มีคุณสมบัติอะไรเลยที่จะทำให้หญิงมาหลงอีกทั้งถานะที่ยากจนต้องหาเช้ากินค่ำไปวันๆ
คงไม่มีปัญญาจะไปเลี้ยงเมียหรอก ด้วยความท้อแท้เขาจึงตะโกนดังลั่นออกมาว่า

"ถ้ามีผู้หญิงที่ไม่กินข้าวเลยก็ดีสิ ข้าจะได้รับนางเป็นภรรยา..."

เสียงตะโกนของเขานั้นดังก้องไปทั่วเชิงเขา กลุ่มเพื่อนๆพากันหัวเราะอย่างสนุกสนานและโอบไหล่ปลอบใจเขา
ทั้งสี่คนพากันลงจากเขากลับบ้านไป วันรุ่งขึ้นชายหนุ่มตื่นแต่เช้า แต่เมื่อเขาเปิดประตูบ้านออกมาเขาก็ต้องแปลกใจ...
เมื่อพบหญิงสาวคนหนึ่งหอบผ้าหอบผ่อนมายืนรออยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มถามหญิงสาวว่าเขาพอจะช่วยอะไรได้ไหม หญิงสาวยิ้มแล้วตอบว่า

" เมื่อเย็นวายท่านป่าวประกาศออกไปว่าถเมีหญิงสาวที่ไม่กินข้าวเลยท่านจะรับไว้เป็นภรรยาใช่หรือไม่...
ตั้งแต่นี้ไปข้าจะมาเป็นภรรยาของท่าน"


ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้นถึงกับดีใจมากเขารีบรับหญิงสาวคนนั้นเป็นภรรยาโดยด่วน ทั้งคู่พากันเข้าบ้านและถามทุกข์สุขพูดคุยกันตามประสา
ช่วงสายชายหนุ่มพาภรรยาของเขาไปยกหน้าชูตาให้เพื่อนๆยลโฉม เพื่อนๆต่างก็ดีใจทีชายหนุ่มมีภรรยาเป็นของตนเองแล้ว
ตกเย็นหญิงคนนั้นเตรียมจัดโกบข้าวรอชายหนุ่ม ชายหนุ่มเข้ามานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยและชมว่าฝีมือปลายจวักนางดีมาก
ชายหนุ่มเกิดสงสารหญิงสาวที่นั่งเรียบร้อยมองเขากินข้าวอยู่เขาจึงเอ่ยถามว่า

" ที่ข้าพูดไปน่ะข้าไม่ถืออะไรนักหรอก เจ้าหิวเจ้าก็เข้ามากินกับข้าสิข้าไม่ว่าหรอก"

หญิงสาวยืนกรานเสียงแข็งว่ายังไงนางก็ไม่กินข้าวเด็ดขาดคำไหนเป็นคำนั้น ตกดึกขณะที่ชายหนุ่มกำลังหลับอยู่ฉับพลันเขาก็ต้องตื่น
เพราะได้ยินเสียงดังกุกกักมาจากทางด้านห้องครัว เขาแปลกใจจึงลุกขึ้นไปดูต้นเสียงเพราะหวั่นว่าจะเป็นขโมยขึ้นบ้านเขาค่อยๆย่องไป
จนถึงหน้าต่างห้องครัวและเห็นไฟเปิดทิ้งไว้ เมื่อชายหนุ่มมองลอดช่องหน้าต่างเข้าไปเขาก็ต้องแปลกใจเพราะเห็นภรรยานั่งพับเพียบเรียบร้อย
อยู่ทางด้านหน้ามีกับข้าวมากมายไม่ว่าจะเป็นซุปเต้าเจี้ยวและข้าวปั้น ชายหนุ่มมองดูพฤติกรรมาน่าสงสัยของภรรยา

(http://image.ohozaa.com/i/fb2/qmuiwS.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xwn0l4N4eT8Y70NJ)

ฉับพลันนางผู้นั้นก็ค่อยๆแกะผมที่รวบไว้ด้าหลังออก ผมที่ยาวสยายของนางเริ่มพลิ้วไหวและสะบัดไปมาเหมือนมีชีวิต เผยให้เห็น
ปากใหญ่โตอัปลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ ชายหนุ่มมองถึงกับตาค้าง และแล้วผมที่ยาวสบัดไปมาของนางก็ตรงเข้ารัดอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า
เอาเข้าไปใส่ปากอัปลักษณ์ทีละคำจนหมด...เสร็จแล้วนางก็รวบผมไว้เช่นเดิม ชายหนุ่มแทบช็อคเม่อรู้ว่าเมยตนเองเป็นปิศาจ
เขารีบเข้าห้องนอนและห่มผ้าคลุมโปรงตั่วสั่นทันใด...
ชื่อ: Re: ตำนานผีญี่ปุ่น Part5
โดย: wanchalearm147 เมื่อ 01 พฤษภาคม 2014, 16:00:25
 eta20 eta20 eta20 eta20 eta20