Norse Mythology: Episode 12 – เทพอื่นๆ
บทนี้ผมอยากจะเก็บเทพเล็กเทพน้อยที่มีความหมายกับชาวเหนือ แต่ไม่ได้มีบทบาทอะไรในสรวงสวรรค์มากนักและโดยมาก
ก็เป็นเทพแห่งธรรมชาติไม่ได้ประจำอยู่บนสรวงสวรรค์แอสการ์ดเพียงแห่งเดียวเอามารวบรวมกันไว้เสียหน่อยครับ
อูลเลอร์ (Uller) เทพแห่งฤดูหนาว
(http://image.ohozaa.com/i/11a/lZDMRP.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oZRHEsen8cVYx)
อูลเลอร์คนนี้เป็นโอรสของซิฟกับยักษ์ไร้นาม ซึ่งสำหรับชาวเหนือแล้วนะครับยังเป็นเทพแห่งการล่าและอาวุธด้วย
ความที่ฤดูหนาวกินเวลานานนับเดือนในภูมิภาคนั้น พาเอาความตายมาสู่ชาวเหนือ อูลเลอร์ก็เลยรั้งตำแหน่งเทพแห่งความตาย
(อันนี้เป็นความตายชนิดตายซากครับ คือหนาวจนเแข็งตายไปเอง ไม่เหมือนลูกน้องของเทพีเฮล) อูลเลอร์มีเลือดครึ่งหนึ่ง
เป็นยักษ์น้ำแข็ง ฤดูหนาวที่ปกคลุมแผ่นดินชั่วนาตาปีสำหรับเขาเป็นเวลาสบายๆ เป็นเวลาที่เขามีพลังแข็งแกร่ง ชนิดที่เชื่อกันว่า
ในเวลานี้อูลเลอร์สามารถแย่งอำนาจควบคุมแอสการ์ดมาจากโอดินได้ด้วยซ้ำ โอดินจะกลับมีพลังอีกครั้งก็เมื่อแสงแรง
แห่งดวงอาทิตย์ส่องพื้นโลกให้อบอุ่น
ด้วยเหตุนี้อูลเลอร์จึงได้รับการนับถือจากคนเหนือด้วยตำแหน่งสำคัญรองมาจากโอดิน ต่างกันแต่ไม่มีใครรักเขา
เหมือนโอดินเท่านั้นละครับ ก็เทพเล่นสนใจแต่น้ำแข็งและความเย็น ซึ่งเป็นความทุกข์สาหัสของชาวโลกนี่นา
นจอร์ด (Njord, Njörðr) เทพแห่งฤดูร้อนและสายลม กับ สการ์ดิ
(Skadi, Skaði, Skadi, Skade, Skathi)
(http://image.ohozaa.com/i/f5b/fzVpgd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3t2QEvdAtPuHMp)
หลังสงครามระหว่างอีเซอร์และวาเนอร์ ก็นจอร์ดคนนี้แหละครับที่ต้องแลกตัวมาอยู่แอสการ์ดกับลูกชายลูกสาว
เขาเป็นเทพวงศ์วาเนอร์แห่งฤดูร้อน กล่าวกันว่าเขาเป็นเทพรูปงามมักสวมเสื้อทูนิคยาวสีเขียวอันเป็นตัวแทนของ
ความเจริญงอกงามในหน้าร้อน มีหงส์เป็นตัวแทนอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพ เพราะมันมักปรากฏตัวในช่วงต้นของหน้าร้อน
แมวน้ำขี้เล่นที่อาศัยอยู่ริมฝั่งก็เชื่อว่าเป็นสัตว์โปรดของเขาเช่นเดียวกัน
นจอร์ดแต่งงานครั้งแรกกับเนอร์ธัสน้องสาวของเขาเองมีลูกชายและลูกสาวคือเฟรย์และเฟรยา เมื่อนจอร์ดถูกแลก
ให้มาอยู่แอสการ์ด มันเป็นเวลาที่การแต่งงานระหว่างพี่น้องด้วยกันกลายเป็นที่รังเกียจไปเสียแล้ว ภรรยาของนจอร์ด
ก็เลยไม่มาด้วยคงปล่อยให้สามีกับลูกมาแทน
เมื่อมาถึงแอสการ์ด นจอร์ดมีวังโนอาตัน (Noatun) อยู่ที่ริมทะเลซึ่งก็อยู่ในสายตาของเทพอีเซอร์ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีเอี่ยวกับเรื่องราวของโลกิ แต่สกาดินางยักษ์คู่ชีวิตคนที่สองของเขานี่ซิครับ หาเรื่องเข้าไปยุ่งจนได้
ตำนานว่านจอร์ดจะได้เมียคนนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน
ก็สกาดิคนนี้ละครับที่เป็นลูกสาวของยักษ์ธิอัลซิ (Thialzi) ซึ่งโดนเทพฆ่าเพราะดันไปลักพาเทพีแอปเปิ้ลศักดิ์สิทธิ์เข้า
เมื่อปล่อยให้นางต้องหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่คนเดียวก็เลยเดินทางมาเรียกร้อง (แต่คงไม่ถึงขั้นก่อม็อบครับ ก็มาคนเดียวนี่)
เทพแอสการ์ดก็อยากจะไถ่โทษ ยอมจะเอาทองคำจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ที่นางต้องการมาให้ สกาดิไม่สนครับ
เธอว่าเมื่อคนของเธอตาย เทพก็ต้องใช้คืนด้วยคน เว้าซื่อๆ ขอสามีก็แล้วกัน คำขอของยักษ์เนี่ยเล่นเอาเทพหัวเราะกันครืน
(http://image.ohozaa.com/i/6c9/wwxgMU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oPelbWRta1Oek)
สกาดิได้รับความอับอายไปชั้นหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเดินมาถึงเส้นที่ถอยไม่ได้เธอก็เดินหน้าต่อไป อันที่จริงตอนนั้นเธออยากได้
บาลเดอร์เป็นสามีเนื่องจากเขารูปงามที่สุด แต่ไอ้จะบอกตรงๆ เดี๋ยวก็โดนโห่หาว่าใฝ่สูง นางยักษ์เลยเสนอว่าเธอจะเลือกใคร
ก็ได้ที่มีเท้าเข้ารูปสวยที่สุด โอดินสั่งให้บรรดาเทพทั้งหลายเข้าไปอยู่หลังม่าน เรียงแถวกันตามใจชอบแล้วยกเชิงม่านขึ้น
ให้สกาดิเลือก นางมองไปมองมาแล้วเลือกได้เทพองค์หนึ่งซึ่งเท้าสวยมาก นางหวังใจเต็มเปี่ยมว่าเท้าคู่นี้ต้องเป็นของบาลเดอร์
คิดว่าเมื่อเป็นเทพที่หล่อเหลาที่สุด ร่างกายก็น่าจะสวยสมบูรณ์ตามไปด้วย โอดินสั่งให้ยกม่านขึ้นเท่านั้นละครับนางยักษ์ลมแทบใส่
ปรากฏว่าเท้าคู่ที่นางเลือกกลับเป็นของนจอร์ดเทพแห่งฤดูร้อนและสายลมอ่อน บรรดาเทพต่างหัวเราะกันถ้วนหน้าเพราะรู้ทัน
ว่านางต้องการอะไร แต่การล้อเลียนนางยักษ์ในเรื่องการเลือกคู่นี้ไม่มีใครทำน่าเกลียดเท่ากับโลกิ เขาถลกกางเกงเต้นกระหย่องกระแหย่ง
ไปมาแอ่นหน้าแอ่นหลังยั่วยวนสกาดิจนเจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ไม่มีใครคิดว่าเลยว่าสกาดิจะผูกใจเจ็บเสียจนเมื่อถึงเวลา
ที่โลกิถูกพันธนาการ ก็สกาดิคนนี้ละครับที่เป็นคนหางูพิษเอามาตรึงไว้เหนือหัวโลกิเป็นการแก้แค้น เรียกว่าการเลือกคู่ของสกาดิครั้งนี้
กลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง นางยักษ์ไม่ได้บาลเดอร์อย่างที่หวังแต่ได้เทพแห่งธรรมชาติที่แทบไม่มีความสำคัญ ทำให้การแต่งงานง่อนแง่น
ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น นางยักษ์พานจอร์ดไปอยู่ที่ดินแดนน้ำแข็งของนาง 9 คืน นจอร์ดก็ทนความหนาวเย็นไม่ไหว ขอให้สกาดิมาอยู่กับเขา
ที่ชายทะเล ปรากฏว่านางยักษ์ก็อยู่ได้ 9 คืน ชักทนเสียงรบกวนของนกทะเลและเสียงอึกทึกของอู่ต่อเรือแถววังโนอาตันไม่ไหว
สองคนก็เลยแยกกันอยู่ สกาดิกลับไปออกล่าสัตว์ในดินแดนน้ำแข็งที่แห้งแล้งของหล่อน ส่วนนจอร์ดกลับไปอยู่ในภูมิอากาศ
ที่สบายริมทะเลตามเดิม
(http://image.ohozaa.com/i/gc5/5JR4uk.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3otBDAEtMERRFB)
พฤติกรรมของทั้งนจอร์ดและสกาดิให้ข้อคิดอย่างหนึ่งแก่ผู้แต่งงานครับผู้อ่าน คืออย่าพยายามเปลี่ยนคนที่จะมาอยู่กับเรา
ให้เหมือนเราเลยครับ รังแต่จะพบความขมขื่น แรกๆ เขาอาจยอมเพราะความรัก แต่นานวันเข้าความเกรงใจค่อยๆ
น้อยลงนิสัยจริงปรากฏ ไอ้ตอนนี้แหละจะอยู่กันไม่ยืด ดังเช่นคู่เทพและยักษ์คู่นี้
วิดาร์ (Vidar, Víðarr) เทพสันโดษ
(http://image.ohozaa.com/i/430/i4aWCQ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3p81dkYyvM45R0)
เป็นลูกของโอดินกับนางยักษ์กริด วิดาร์รับความแข็งแกร่งมาจากโอดินเต็มเปี่ยม หากแต่บุคลิกที่ไม่เหมือนใครของวิดาร์
คือเขาเป็นเทพที่พูดน้อยมากจนถึงไม่พูดเลย อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเป็นใบ้แต่ประการใดนะครับ แต่เพราะเขาคือตัวแทนของ
พลังเงียบ-พลังที่ยิ่งใหญ่ในธรรมชาติและเขาก็ยังเป็นเทพที่รอดจากมหาสงครามแร็กนาร็อค มีความสำคัญในการสร้างจักรวาลที่สอง
(http://image.ohozaa.com/i/73b/5VaRfp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oceGaL6Tzps5M)
ภาพของวิดาร์คือชายร่างสูงหล่อเหลา แต่งกายด้วยเกราะถือดาบคมกริบ ใส่รองเท้าที่ทำจากหนังหรือเหล็กซึ่งในเวลา
ต่อมาได้ป้องกันเท้าของเขาจากคมเขี้ยวของเฟนริส หมาที่เขาต้องตามล่าแก้แค้นที่มันฆ่าโอดิน
อีเจอร์ (Aegir, Ægir) เทพแห่งท้องทะเล และรัน (Ran)
(http://image.ohozaa.com/i/3e1/jYZmd0.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3o9oQIujnqsp1Q)
เป็นเจ้าแห่งมหาสมุทร เป็นเทพที่ไม่ได้สังกัดอยู่ทั้งในวงศ์อีเซอร์และวาเนอร์ เพราะว่าเกิดก่อนชาวบ้านนานมาก จะเรียกว่า
เกิดก่อนเผ่าพันธุ์ไหนในโลกและอยู่ยั้งยืนยงขณะที่เทพอื่นตายกันหมด อีเจอร์เป็นสวามีของรัน (คนนี้เป็นทั้งเมียและน้องสาวด้วย)
เป็นพ่อของลูก 9 คน (ตำรานี้ไม่บอกว่าหญิงหรือชาย แต่ผมเดาว่าเป็นนางยักษ์แห่งคลื่น 9 ตนที่โอดินพบตั้งแต่สร้างโลกเสร็จใหม่
ซึ่งก็หมายความว่าอีเจอร์เป็นพ่อตาของโอดิน เป็นตาของไฮล์มดาลเทพอารักษ์แห่งแอสการ์ดครับ)
อีเจอร์มักปรากฏร่างเป็นชายชรารูปร่างผอม ทั้งหนวดเคราและผมยาวขาวโพลน แต่มือเป็นกรงเล็บ อีเจอร์ไม่ใช่เทพใจดี
ตรงกันข้ามกลับเป็นเทพที่อารมณ์ผันผวน (ก็เหมือนท้องทะเลละครับ) เมื่อใดทีเขาปรากฏตัวเหนือผิวน้ำ นั่นก็หมายความว่า
เขามีจุดประสงค์ประการเดียวคือล่มเรือและสังหารลูกเรือ เลยเป็นประเพณีของคนเหนือให้ต้องมีการบูชายัญแก่อีเจอร์เสียก่อนเดินทาง
(http://image.ohozaa.com/i/386/Xo40Fl.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oHMMRZxLiSHeF)
ข้างรันเมียของเขาซึ่งก็คือวิญญาณแห่งพายุท้องทะเลนั่นก็ไม่เบาเหมือนกันครับ เจ้าหล่อนเป็นตัวแทนของอารมณ์อันปรวนแปร
เธอมีแหวิเศษที่คอยลากวิญญาณลูกเรือเอาไปรวมกันไว้ในถ้ำปะการังซึ่งเต็มไปด้วยทองคำเรืองรอง รันชอบทองถึงขนาดเรียกมันว่า
ไฟแห่งท้องทะเล ความชอบของรันทำให้ลูกเรือชาวเหนือมักเอาทองคำก้อนเล็กๆ ติดไว้ในกระเป๋าเพื่อให้รันชอบ จะได้ไม่ต้องมาเอาชีวิต
อันที่จริงอีเจอร์ไม่น่าจะเข้ามาเกี่ยวกับวงศ์เทวัญของชาวแอสการ์ด จนกระทั่งธอร์สั่งให้เทพแห่งทะเลทำหน้าที่ต้มเหล้า
ให้ชาวแอสการ์ด ด้วยความที่ไม่ชอบให้ใครมาสั่งแต่ก็ไม่อยากยุ่งกับพวกเทพเลือดใหม่ เขาแก้ตัวว่าไม่มีหม้อใหญ่ (Cauldron)
ขนาดใหญ่พอสำหรับจะต้มให้ ธอร์จึงไปยึดหม้อใหญ่ของยักษ์ไฮเมียร์มาให้ คราวนี้อีเจอร์ปฏิเสธไม่ได้ครับ ต้องทำหน้าที่ต้มเหล้า
ให้เทพไปจนวันสิ้นโลก
ฟอร์เซ็ตติ (Forsetti) เทพแห่งกฎหมายและความยุติธรรม
(http://image.ohozaa.com/i/6b1/ylyq8i.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oguqma1RaNjm8)
เป็นลูกของบาลเดอร์กับนันนา-เทพีแห่งการเพาะปลูก ความที่เขาเป็นลูกของเทพผู้ทรงเกียรติทั้งคู่ ฟอร์เซ็ตติจึงได้ที่นั่งในแกลดสไฮล์ม
โดยอัตโนมัติ ครั้นโตเป็นผู้ใหญ่ฟอร์เซ็ตติก็รั้งตำแหน่งเทพแห่งการตัดสิน เขาอยู่ในวังกลิตเนียร์ (Glitnir) เป็นวังที่คล้ายเบรดาบลิค
ของบาลเดอร์ ต่างกันแต่ว่าหลังคากลิดเนียร์ดาดด้วยเงิน ส่วนเสาค้ำเป็นทองทั้งสิ้น
หน้าที่ของฟอร์เซ็ตติ คือนั่งบัลลังก์ภายในวังกลิตเนียร์ตัดสินคดีความหากเทพเกิดทะเลาะกัน ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยตัดสิน สติปัญญา
ของเทพหนุ่มองค์นี้ว่ากันว่ามีไหวพริบดีจนคู่กรณีรายไหนรายนั้นกลับออกไปแล้วเลิกทะเลาะกัน หันมาให้ความเคารพกันด้วยซ้ำ
เหตุนี้ละครับฟอร์เซ็ตติจึงได้รับการสวดอ้อนวอนก่อนจะมีการตัดสินคดีความในแผ่นดินมนุษย์ด้วยเหตุที่เขาเป็นเทพที่ยุติธรรมที่สุด
วาลี (Vali, Váli) ผู้แก้แค้น
(http://image.ohozaa.com/i/gf1/Qy3ZtU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3p5xmyZDGiC9Nf)
โอรสของโอดินกับรินด้า เขาไม่ได้เกิดมาเป็นผู้แก้แค้นให้แก่บาลเดอร์อย่างเดียว แต่เป็นคนที่ปรากฏตัวคู่กันกับวิดาร์เสมอ
ถ้าวิดาร์เป็นตัวแทนพลังเงียบของธรรมชาติ วาลิก็เป็นตัวแทนของวิญญาณที่ไม่ตาย-แสงแห่งชีวิตที่ไม่มีวันดับ
ซึ่งจะสร้างความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติหลังความแห้งแล้งเสมอ วาลีมักถือคันธนูอันเป็นตัวแทนของพลังความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง
เฮอร์มอด (Hermod) ภูตนิมฟ์ผู้สื่อสาร
(http://image.ohozaa.com/i/f75/Ok5MY0.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3onVYG772nhTQ0)
ลูกของโอดินกับฟริกก้า เฮอร์มอดนับเป็นทูตสื่อสารที่ซื่อสัตย์ของพ่อ ความเร็วและความว่องไวของเขาไม่มีใครทาบ
มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันครับที่เวลาโอดินยุ่งมากๆ โอดินก็จะใช้เฮอร์มอดให้เอาหอกกุงเนอร์ ไป ณ จุดที่สงครามกำลังก่อตัว
แล้วเอาหอกศักดิ์สิทธิ์นั่นโบกเหนือทุ่งสงคราม พลังของมันทำให้ความกระหายเลือดในอกของนักรบแต่ละฝ่ายปะทุถึงขั้น
สุดตามมาด้วยการเข่นฆ่ากันอย่างเมามัน
เมื่อเฮอร์มอดได้เป็นผู้ช่วยให้เกิดสงครามภายใต้คำสั่งของโอดินอยู่บ่อยๆ เขาจึงกลายเป็นหัวหน้าพวกเอนเฮเรียร์ไปโดยปริยายครับ
นอร์น (The Norns) เหล่าเทพีแห่งโชคชะตา
(http://image.ohozaa.com/i/f7f/yNG9ek.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oVXW9l0VJ1A4D)
นอร์นที่ว่านี้ก็คือเทพีสามพี่น้อง (คล้ายๆ เทพีแห่งชะตากรรมของกรีกเลยนะครับนี่) ผู้ชี้ความเป็นไปของบรรดาเทพและมนุษย์
นอร์นพี่ใหญ่มีชื่อว่า เอิร์ด (Urd) ผู้รู้เรื่องอดีต ภาพของนางเป็นหญิงชราที่เหลียวหลังมองอดีต คนกลางชื่อเวอร์ดานดี (Verdandi)
ผู้รู้เรื่องปัจจุบัน ภาพของนางเป็นหญิงสาวผู้มองไปข้างหน้า เผชิญกับปัจจุบันอย่างไม่กลัวเกรง ทั้งเอิร์ดและเวอร์ดานดี
นับเป็นนอร์นที่ช่วยเหลือมนุษย์มากที่สุด
ผิดกับสกัลด์ (Skuld) ผู้รู้เรื่องอนาคต น้องเล็กคนสุดท้ายซึ่งมีท่าทีตรงกันข้ามกับพี่ๆ ทั้งสอง เพราะว่าเธอคือตัวแทนของพลัง
ที่ทำนายไม่ได้ ไม่มีความรักต่อทั้งมนุษย์และเทพ ยิ่งกว่านั้นสกัลด์ยังเป็นพวกอารมณ์ไม่แน่นอนมีฤทธิ์สามารถลบคำทำนาย
ของเอิร์ดและเวอร์ดานดีได้ เนื่องจากเธอเท่านั้นที่กุมความลับของอนาคต ภาพของสกัลด์เป็นหญิงสวมผ้าคลุมหน้าตลอดเวลา
ในมือมีหนังสือหรือม้วนกระดาษที่ไม่เปิดเผย สายตาของสกัลด์จ้องไปในทางตรงกันข้ามกับพี่น้องเสมอ
(http://image.ohozaa.com/i/59f/l20Zps.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xz3oS4aEduLPYvPB)
เทพีนอร์นทั้งสามมีหน้าที่ทอเส้นใยแห่งชะตากรรมทุกวัน ตกเย็นสกัลด์จะเป็นผู้ถอดปมบางปมที่เอิร์ดและเวอร์ดานดีทอไว้
ทำให้อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจเห็นชัด นอกจากนี้นอร์นทั้งสามยังมีหน้าที่ดูแลรักษาต้นอิกดราซิล เก็บกิ่งหักและดูแลราก
ความที่นอร์นกุมชะตากรรมนี่ละครับ พวกเธอจึงกลายเป็นที่ปรึกษาของเทพโดยปริยาย
ที่มา: ต้นข้าว. http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=226138&chapter=12