10 สตรี ผู้พลิกประวัติศาสตร์โลกไปสู่อนาคต
ผู้เคยสร้างประวัติศาสตร์ พลิกโฉมหน้ามนุษยชาติทั้งปวง ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ทำได้ แต่ผู้หญิงก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน
วันนี้จึงขอเสนอ 10 สตรี ผู้พลิกประวัติศาสตร์โลกไปสู่อนาคต ครับ
ที่มา : msn.com
10. นักคณิตศาสตร์ ผู้บุกเบิกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
(http://image.ohozaa.com/i/6a1/NuX0nG.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbD6FeGWL4z3j9)
เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Augusta Ada King, Countess of Lovelace) ค.ศ. 1815 - 1852 เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ
บุตรสาวคนเดียวของกวีดัง Lord Byron และภรรยา Anne Isabella เธอมีชื่อเสียงโด่งดังจากการร่วมงานกับเพื่อนนักคณิตศาสตร์
ชาวอังกฤษ Charles Baggage ในการบุกเบิกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปชื่อ
'เครื่องยนต์วิเคราะห์ (Analytical Engine)'
(http://image.ohozaa.com/i/ff6/NZIVYA.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbACOsHRKcptwJ)
เมื่อปี 1843 เธอเคยแปลบทความเกี่ยวกับเครื่องยนต์ของวิศวกรชาวอิตาลี Luigi Menabrea ที่เธอได้เติมแต่งโน้ตเพิ่มเติมลงไปเองด้วย
ในโน้ตดังกล่าวนั้น นับเป็นชุดคำสั่งอัลกอริธึมชิ้นแรกที่ตั้งใจให้นำไปใช้งานกับเครื่องจักร เลยทำให้เธอกลายเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรก
ของโลก ถ้าไม่ได้ผลงานของเอดา เทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่แทบทุกวันนี้คงไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้แน่นอน
9. พระจักรพรรดินีนาถ
(http://image.ohozaa.com/i/fe1/w0tN5g.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbRhOw2jpMzp1U)
บูเช็กเทียน ค.ศ. 624 – 705 คือพระจักรพรรดินีนาถในสมัยราชวงศ์โจว พระนางทรงสถาปนาราชวงศ์ของพระนางเองต่อจากพระสวามี
สมเด็จพระจักรพรรดิถังเกาจง พระนางบูเช็กเทียนทรงขยายขอบเขตของแผ่นดินจีนไปอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ก็ทรงพยายามสร้างอำนาจ
ปกครองเบ็ดเสร็จในแผ่นดินของพระนาง
พระนางทรงยกสถานะของศาสนาพุทธให้เหนือกว่าลัทธิเต๋า สร้างความยุติธรรมให้เกษตรกร ทำให้พระราชสำนักมีความแข็งแรง ใส่ใจด้าน
ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติจีน พระนางบูเช็กเทียนถูกปฏิวัติโค่นอำนาจเมื่อปี 705 และทรงเสด็จสวรรคตในปีเดียวกันนั้นเอง
8. ราชินีนักรบ
(http://image.ohozaa.com/i/576/xAqz55.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbEaBhxVIXHlaF)
บูดิกา (Boudicca) ค.ศ. 30 - 61 คือราชินีนักรบของเผ่าเซลติก ไอซีนี่ และเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวไบรตันเป็นอย่างมาก
เธอเป็นผู้นำในการยกทัพขับไล่ชาวโรมัน การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเธอเมื่อ ค.ศ. 61 แม้กองทัพชาวเซลท์ของเธอจะพ่ายแพ้ และชัยชนะ
ต้องตกเป็นของฝ่ายชาวโรมัน
แต่ราชินีบูดิกา ก็กลายเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวบริเตนหรืออังกฤษในปัจจุบันเรื่อยมา เจ้าชายอัลเบิร์ต
พระสวามีของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธได้ทรงสั่งการให้สร้างสนุสาวรีย์ของราชินีนักรบพระองค์นี้ ที่ใกล้กับรัฐสภาอังกฤษ
ริมแม่น้ำเทมส์ กรุงลอนดอน
7. นักฟิสิกส์ นักเคมี เจ้าของรางวัลโนเบล
(http://image.ohozaa.com/i/7c9/CBedZo.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbIMk9elN0y8pq)
มารี กูรี (Marie Curie) ค.ศ. 1867 – 1934 คือผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 สาขา (สาขาหนึ่งเธอได้ร่วมกับสามี ปีแอร์
ซึ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุไปอย่างน่าเสียดาย) เธอเป็นผู้ค้นพบธาตุ 2 ธาตุ ซึ่งก็คือ 'เรเดียม' กับ 'โปโลเนียม' และตั้งความหมายของคำว่า
'กัมมันตภาพรังสี' รวมกับสามี
และเธอก็ยังเป็นคนแรกที่คิดเอารังสีไปใช้รักษาโรคมะเร็ง มารี กูรี มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน มนุษยชาติสู่ยุคพลังงานนิวเคลียร์
เป็นผู้ปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์เคมี, ฟิสิกส์, และวงการแพทย์ พร้อมๆกับที่ต้องต่อสู้กับอคติที่มีต่อผู้หญิงในวงการวิทยาศาสตร์ด้วย
6. วีรสตรีชาวฝรั่งเศส และนักบุญนิกายโรมันคาทอลิก
(http://image.ohozaa.com/i/g4e/MqT4Zs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbHmpq5VwY9TyX)
โจนออฟอาร์ก (Joan of Arc) ค.ศ. 1412 – 1431 เกิดที่เมืองทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เธอได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรี
ของชาวฝรั่งเศสหลังจากนำกองทัพฝรั่งเศสเอาชนะฝ่ายอังกฤษได้ที่เมืองออร์เลอองส์เมื่อเธออายุได้ 18 ปี
(http://image.ohozaa.com/i/259/EUVe39.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbPRTMU3hOeRdb)
แต่ปีถัดมา เธอก็ถูกชาวอังกฤษที่ได้ความช่วยเหลือจากชาวฝรั่งเศสจับเผาทั้งเป็นในข้อหาเป็นพวกนอกรีต 500 ปีต่อมา
เธอก็ได้รับการประกาศแต่งตั้งให้เป็นนักบุญหลังจากการพิพากษาครั้งใหม่ที่ศาลสรุปว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์
5. นักบิน
(http://image.ohozaa.com/i/f66/NFNMlU.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbC2JbQnewF0DJ)
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต (Amelia Earhart) ค.ศ. 1897 – 1937 เป็นนักบินหญิงคนแรกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตลิกติก จนได้รับ
กางเขนกล้าหาญ (Distinguished Flying Cross) จากรัฐสภาอเมริกัน เธอเป็นสมาชิกพรรคสตรีแห่งชาติ (National Woman's Party)
และเป็นคนกลุ่มแรกๆที่เรียกร้องสิทธิความเท่าเที่ยมกันระหว่างชาย-หญิง แต่น่าเศร้าที่เธอหายสาบสูญไปในปี 1937 ในระหว่างการเดินทาง
สร้างสถิติบินรอบโลก และแม้ภารกิจของเธอจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสามารถของผู้หญิงนั้นมีมากแค่ไหน
4. จิตรกร
(http://image.ohozaa.com/i/67f/vCarDE.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbFWuGXNtaaWVj)
ฟรีดา คาห์โล (Frida Kahlo) ค.ศ. 1907-1954 เป็นที่รู้จักในฐานะจิตรกรที่โด่งดังที่สุดของชาวเม็กซิกัน เธอเป็นสัญลักษณ์ของพลัง
ความคิดสร้างสรรค์จากสตรี ฟรีดาเริ่มวาดภาพหลังจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุถูกรถบัสชน ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยบาดเจ็บที่กระดูก
สันหลังและกระดูกเชิงกรานของเธอเรื่อยมา
(http://image.ohozaa.com/i/f2f/op3X7T.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbyuWn0ttxGddP)
เธอเริ่มต้นวาดภาพในช่วงพักฟื้น จนกระทั่งสามารถวาดภาพตัวเองภาพแรกได้สำเร็จในปีต่อมา เธอยังมีบทบาททางด้านการเมือง
ด้วยการเข้าร่วมกลุ่มเยาวชนคอมมิวนิสต์ ต่อด้วยการร่วมพรรคเม็กซิกันคอมมิวนิสต์ และแต่งงานกับเพื่อนจิตรกรคอมมิวนิสต์ Diego Rivera
3. นักเขียน, นักปรัชญา, นักเรียกร้องสิทธิสตรี
(http://image.ohozaa.com/i/49a/tS4Ezf.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbKceSmHdM3hB9)
นักปราชญ์หญิงชาวอังกฤษ แมรี วอลสโตนคราฟท์ (Mary Wollstonecraft) ค.ศ. 1759 - 1797 เป็นหนึ่งในนักปรัชญาผู้ออกมาเรียกร้อง
สิทธิสตรีคนแรกๆในประวัติศาสตร์ ความคิดที่แหวกยุคของเธอถูกแสดงผ่านผลงานขึ้นชื่อต่างๆมากมาย อย่างเช่นผลงานชื่อ
A Vindication of the Rights of Women เมื่อปี 1792 ของเธอที่ส่งผลผลักดันกระบวนการเรียกร้องสิทธิสตรีไปทั่วโลก
เธอต่อต้านความคิดที่ว่าผู้หญิงต้องยึดติดอยู่กับหน้าที่ทำงานบ้านเท่านั้น เธอชี้ว่าหากเพศหญิงได้รับโอกาสทางการศึกษาเช่นเดียวกับเพศชาย
ก็จะไม่ได้ด้อยกว่าเพศชายตามกฎธรรมขาติแต่อย่างใด ความคิดของเธอจุดประกายและสร้างประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันเรื่อยมาแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้
หลังจากใช้ชีวิตผิดยุคผิดสมัยเรื่อยมา พอปี 1797 เธอก็เสียชีวิตลงหลังจากให้กำเนิดลูกสาวคนที่ 2 Mary Wollstonecraft-Godwin
ได้เพียง 10 วัน ผู้ที่ต่อมาได้ให้กำเนิดนิยายสุดคลาสสิคเรื่อง Frankenstein นั่นเอง
2. นักเรียกร้องสิทธิพลเมืองชาวแอฟริกัน-อเมริกัน
(http://image.ohozaa.com/i/4ea/toLrsM.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbLY8hMx9p9P88)
ในปี 1955 ช่างเย็บผ้ารายนี้ปฏิเสธไม่สละที่นั่งของเธอให้คนผิวขาวในรถบัสจนกลายเป็นเรื่องโด่งดัง เธอถูกจับตั้งข้อหาละเมิดกฎหมาย
แบ่งแยกสีผิวที่เป็นที่รู้จักในชื่อของกฎหมาย 'จิมโครว์' พาร์คส์ ต่อสู้คดีและลุกขึ้นท้าทายกฎหมายเหยียดผิว
การจับกุมเธอส่งผลให้คนผิวสีพร้อมใจกันแบน ไม่ขึ้นรสบัสที่มอนโกเมอรี่ นำโดย มาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์
นับเป็นจุดเริ่มต้นของการประท้วงแบบไร้ความรุนแรง เรียกร้องสิทธิพลเมืองครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
1. ฟาโรห์องค์สุดท้ายของอียิปต์โบราณ
(http://image.ohozaa.com/i/6c8/nGSN0F.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xCEbNK1Hcw4WyVmh)
69 - 30 ปีก่อนคริสตกาล หนึ่งในผู้หญิงที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกยุคก่อน และยังเป็นหนึ่งในสตรีผู้ปกครองที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
พระราชประวัติของพระนางคลีโอพัตรายังคงทำให้ใครหลายๆคนต้องทึ่งอยู่เสมอๆ ด้วยการที่ทรงปกครองในราชวงศ์ปโตเลมีร่วมกับพระบิดา
และต่อมาร่วมกับเหล่าพระอนุชา (ที่พระนางทรงอภิเษกสมรสด้วยตามประเพณีของชาวอียิปต์) ก่อนจะทรงก้าวขึ้นปกครองแต่เพียงพระองค์เดียว
พระนางคลีโอพัตรามีชื่อเสียงจากการเชื่อมสัมพันธ์กับจักรพรรดิโรมัน จูเลียส ซีซาร์ ที่ช่วยรวบรวมอำนาจของพระนาง กลายเป็นประเด็นในหน้า
ประวัติศาสตร์ที่ 2 อารยธรรมยิ่งใหญ่แต่แตกต่าง สามารถหันมาเป็นมิตรกันได้ ในช่วงที่อำนาจของพระนางเจริญถึงขั้นสูงสุด พระนางได้แผ่อำนาจ
ปกครองขยายไปไกลจนเกือบทั่วชายฝั่งทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน เป็นราชอาณาจักรสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าที่ฟาโรห์พระองค์ไหนทรงเคย
ทำได้เลยทีเดียว
ผู้หญิง เก่งๆในประวัติศาสตร์ยังมีอีกเยอะครัช นี่ก็ความรู้ๆ
eta08 ยินดีเน้อครับ
ขอบคุณครับ..
pongz