Show posts - muty2525
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - muty2525

#1
เก็บมาฝากและแชร์ให้เพื่อนๆในบอร์ดค่ะ สำหรับบางคนที่ใช้น้ำหอมนะคะ
 
หากเพื่อนๆไม่เคยดูส่วนผสมของน้ำหอมขวดโปรดของเพื่อนๆเลย  เราแนะนำว่าควรจะดูไว้บ้างนะคะ เพราะบางทีนักปรุงน้ำหอมทั้งหลายก็นำเอาสิ่งที่ไม่น่าจะใช้ได้มาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำหอม 
ซึ่งถ้าหากเราได้ข่าวเราอาจจะไม่อยากใช้น้ำหอมอีกเลยก็ได้ (หรืออาจจะไม่สนใจและใช้ต่อไปก็ได้ค่ะ) จากนี้ไปนี้เป็นส่วนผสมที่น่าแปลกใจและนำมาใช้ในน้ำหอมจริงๆ
 
1.กลีบกุหลาบจากห้วงอวกาศ
ไม่ใช่ว่าในอวกาศจะมีกลีบกุหลาบลอยไปลอยมาแล้วไปเก็บนะคะ แต่เป็นการต่อสู้ในการสกัดกลิ่นกุหลาบในห้วงอวกาศโดยบริษัทด้าน 
กลิ่นชั้นนำของโลกอย่าง IFF : International Flavors & Fragrances ร่วมมือกับองค์การนาซา ทำการทดลองสกัดกลิ่นอายของกุหลาบในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง 
ผลที่ได้คือกุหลาบให้กลิ่นต่างออกไปจากบนภพ กลิ่นหอมที่ได้จากการทดลองนี้ก็เอาไปใช้กับ น้ำหอม Zen by Shiseido
 

 
2. Civet Musk
กลิ่นจากสัตว์ตระกูลเสือนี้มีลักษณะประดุจดังกลิ่นวานิลลา สกัดได้จากต่อมขับกลิ่นของตัวซิเว็ต ถูกใช้ในน้ำหอมหลากหลายชนิด เป็นกลิ่นจากสัตว์ที่นิยมใช้มาก
ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นกลิ่นปิดท้ายของน้ำหอม กลิ่นน้ำหอมที่ใช้กลิ่นของมัสย์นี้มีตัวหนึ่งที่น่าสนใจคือ Obsession for men by Calvin Klein 
เนื่องจากมีการทดลองใช้กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้ในการดึงดูดเสือจากัวร์กัวแตมาลา ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้เก่งดึงดูดเสือจากัวร์ได้ถึง 11 นาที

 
 
3. เลือดและน้ำอสุจิ
มีอะไรหอมๆมากมายไม่ใช้ กลับมาใช้กลิ่นเลือดกับน้ำอสุจิ นับว่าพิลึกพิลั่นประหลาดและน่าตกใจ แต่ยังดีที่เค้าไม่ได้เอาเลือดกับอสุจิจริงๆผสมลงในน้ำหอมนะคะ
แต่ได้ทำกลิ่นเลียนแบบขึ้นมา ถึงกระนั้นนักปรุงน้ำหอมเองก็ยังบอกว่า "น่ารังเกียจ" พอๆกัน น้ำหอมที่ใช้กลิ่นเหล่านี้ย่อมเป็น Fame by Lady GaGa เจ้าแม่นักร้องสุดแปลกอิงค์นั่นเอง
 

 
4. ความบริสุทธิ์ของหญิงสาว
ในปี 1985 มีบทประพันธ์เรื่อง Perfume ของ Patrick Suskind ว่าด้วย นักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะที่สังหารหญิงสาวเพื่อนำมาบำเพ็ญน้ำหอมให้ผู้คนลุ่มหลง 
โดยมีส่วนประกอบจากพรหมจรรย์ของหญิงสาว ในปัจจุบันเองก็มีน้ำหอมที่ใช้พรหมจรรย์ของหญิงสาวด้วยเช่นกันแต่ไม่จำเป็นจำเป็นจะต้องลงมือรุนแรงอะไรเลย
เพียงใช้เข็มพอลิเมอร์ช่วยก็ได้แล้ว น้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่มีวัถุดิบตัวนี้คือ Origin No.1 by Theirry Mugler น้ำหอมตัวนี้กลายเป็นของสะสมหาแสนเข็ญไปเรียบร้อยแล้ว
 

 
5. อำพันสีเทา
หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ ขี้ปลาวาฬ เป็นของเสียที่ปลาวาฬขับถ่ายออกมาในทะเล โดยปกติจะมีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อทำปฏิกิริยากับสายลม แสงแดด นานวันเข้าจะให้กลิ่นที่หอมเป็นฟืนเป็นไฟ
โดยมูลแต่ละก้อนจะให้กลิ่นผิดแผกกัน ในปัจจุบันมักกจะใช้สารสังเคราะห์แทนเป็นส่วนใหญ่ มูลของปลาวาฬนี้หาได้ยากมากจึงมีราคาสูงยิ่งกว่าทองคำเสียอีก น้ำหอมที่(เข้าใจว่า)ใช้ส่วนผสมนี้คือ Chanel No.5
 

 
6. Castoreum และ Hyraceum
สารสกัดจากต่อมของตัวบีเวอร์ Castoreum ซึ่งมีกลิ่นหอมแบบวานิลลาแนวอโรมา น้ำหอมโดยมากจะใช้กลิ่นสังเคราะห์แทนเนื่องจากราคาที่สูงหาได้ยากและลดการล่าตัวบีเวอร์ลง 
ซึ่งอาจจะใช้เป็น Hyraceum แทนซึ่งได้จากตัวไฮแรกซ์เป็นสารที่อยู่ในปัสสาวะและอุจจาระ ซึ่งจะอยู่ในรูปของแข็งให้กลิ่นแบบเอิร์ทโทน
 

 
Credit: ภาพและบทความจากเวป  ohperfume.com  ค่ะ
#2
เก็บมาฝากเพื่อนๆในบอร์ดอีกแล้วนะคะ  วันนี้เกี่ยวกับการเก็บรักษาน้ำหอมให้คงสภาพที่ดีค่ะ ใครอยากรู้ไปอ่านกันได้เลยค่ะ 
 
หลายๆครั้งที่เรากังวลว่าน้ำหอมของเราที่ซื้อมาสู่ในราคาแพงนั้นจะเสื่อมสภาพลงไปไหม ควรจะเก็บน้ำหอมเก็บในตู้เย็นดีหรือเปล่า หรือว่าเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าก็พอ ซึ่งในความเป็นจริงวิธีการเก็บรักษาน้ำหอมนั้นไม่ได้ยุ่งยากมากมายแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องให้คดีใส่ใจเพิ่มเล็กน้อย เพราะน้ำหอมเองก็เป็นสารเคมีประเภทหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากตัวแปรหลายๆอย่างทั้งแสงแดด,ความร้อน,ความชิ้น,สิ่งเจือปนต่างๆ การที่จะถนอม รักษาน้ำหอม เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักกับน้ำหอมให้มากขึ่นเพื่อจะได้เข้าใจธรรมชาติของน้ำหอมว่าทนทานหรืออ่อนแอต่อสิ่งใด ด้วยกันเราจะทราบได้ว่าการเก็บรักษาแบบไหนถึงจะดีต่อน้ำหอมของเรา
 
ธรรมชาติของน้ำหอม
โดยธรรมชาตินั้นน้ำหอมครอบครองสารเคมีที่มีส่วนผสมของสารหอมระเหยกับแอลกอฮอร์ ซึ่งสารหอมระเหยนั้นมีมากมายหลายชนิดที่ผสมอยู่ใน น้ำหอม 1 ขวดแต่ทั้งหมดเป็นสารประเภทที่เรียกว่าเอสเทอร์ 
ซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นต่างได้จากทั้งในธรรมชาติและสังเคราะห์ขึ้นเอง ในวงการ น้ำหอมปัจจุบันจะใช้เป็นสารสังเคราะห์มากกว่าเนื่องจากราคาถูกและกระทำกลิ่นออกมาได้ง่ายกว่า เรียกว่าเป็นหัวใจของกลิ่นน้ำหอมเลยก็ว่าได้ เพราะหากสารเอสเทอร์ตัวนี้เสื่อมสภาพไปก็จะทำให้กลิ่นน้ำหอมของเราเพี้ยนไปนั่นเอง ฉันนั้นการที่จะทำให้กลิ่นน้ำหอมไม่เปลี่ยนแปลงไป สารเอสเทอร์ตัวนี้จึงที่เป็นสิ่งที่เราสนใจที่จะคงสภาพไว้เพื่อให้กลิ่นน้ำหอมของเรานั้นไม่ผิดเพี้ยน เรารู้ว่าน้ำหอมนั้นต่อเรือด้วยแอลกอฮอร์และสารเอสเทอร์เป็นหลัก เราทราบคุณสมบัติของแอลกอฮอร์ดีอยู่แล้ว โดยแอลกอฮอร์นั้นระเหยได้ไม่ยาก ไม่ทนต่ออากาศร้อนเพราะจะทำให้ระเหยได้เร็วมาก ทนต่อความเย็นได้พอสมควร ส่วนสารเอสเทอร์นั้นด้วยคุณสมบัติตามธรรมชาติจะระเหยได้ทันทีในอากาศร้อน ซึ่งการระเหยนี้จะเร็วยิ่งกว่าการระเหยของแอลกอร์เสียอีก อ่อนแอต่อความร้อนซึ่งความร้อนสามารถทำลาย คุณสมบัติของสารเอสเทอร์ได้ ในขณะที่ความเย็นนั้นมีผลต่อสารเอสเทอร์น้อยกว่ามาก นอกจากนี้หากสารเอสเทอร์โดนกรดอนินทรีย์อย่าง กรดกำมะถันและความร้อนมากๆ สารเอสเทอร์ก็จะถลายรูปออกเเป็นแอลกอฮอร์กับกรดอินทรีย์ได้ เพราะฉะนั้นการเก็บน้ำหอมจึงควรเก็บโดย ยึดหลักดังต่อไปนี้
 
1.เก็บน้ำหอมในที่ที่อุณหภูมิค่อนข้างคงที่
น้ำหอมเป็นสารหอมระเหยที่ระเหยได้ง่ายมาก โดยเฉพาะความร้อนจะทำให้น้ำหอมระเหยออกมามากและรวดเร็วสิ่งที่เกิดขึ้นคือกลิ่นน้ำหอมจะ 
จางลงมากและเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอร์ที่ฉุนจมูกและกลิ่นจะติดไม่ทนทานเกี่ยวเนื่องจากมีส่วนผสมของสารให้กลิ่นที่น้อยลงมากนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากๆและรวดเร็วเกินไป
จะทำให้น้ำหอมเสื่อมสภาพ เนื่องจากสารให้กลิ่นบางชนิดที่ผสมในน้ำหอมนั้นไวต่อ การเปลี่ยนแปลงอุณภูมิทำให้คุณสมบัติบางประการชำรุดทรุดโทรมไปเป็นผลให้น้ำหอมกลิ่นเพี้ยนไปจากเดิม
 
2.เก็บให้ห่างจากสารเคมีชนิดอื่น
เนื่องจากน้ำหอมนั้นสามารถละลายรวมเข้ากับสารประเภทอื่นได้ อย่างยาทาเล็บ เซรั่มต่างๆเหตุฉะนี้การเก็บรักษาจึงควรให้ห่างจากสารเคมีตัวอื่น 
เพื่อป้องกันไม่ให้คุณสมบัติของน้ำหอมเสียไป ในปัจจุบันน้ำหอมส่วนใหญ่ใส่อยู่ในขวดสเปรย์ที่ปิดผนึกแน่นครึ้มทำให้การที่จะมีสารอื่นผสม ลงไปนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่
 
3.หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดมีผลกับน้ำหอมด้วยเช่นกัน นอกจากอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากแสงแวบแสงแดดที่ทำให้น้ำหอมระเหยออกมามากแล้ว แสงแดดยังมีผลต่อสีของ น้ำหอมด้วย 
น้ำหอมในปัจจุบันใช้สารให้สีเพื่อสร้างสีสันของน้ำหอมเป็นสีต่างๆที่ต้องการ ซึ่งโมเลกุลของสีเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับแสงแดด อย่างช้าๆ เป็นผลให้สีเหล่านั้นเปลี่ยนไปเป็นสีอื่นหรือมีสีที่จางลงเรื่อยๆ 
ทำให้สีของน้ำหอมไม่สดใสเหมือนเริ่มแรก
 
4.เก็บในที่แห้ง
ด้วยความที่น้ำหอมนั้นบรรจุอยู่ในขวดสเปรย์ซึ่งอาจจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบกับความชิ้นหรือไอน้ำในดินฟ้าอากาศ แต่หากขวดน้ำหอมนั้นมีรอยรั่วเล็กๆ 
ความชื้นก็จะสามารถเข้าไปผสมกับน้ำหอมทำให้น้ำหอมนั้นกลิ่นเจือเลือนลางและกลิ่นแปลกไปจากเดิม เพราะฉะนั้นควรเก็บในที่ๆแห้งจะดี ต่อน้ำหอมมากกว่า
 
5.การเก็บรักษาน้ำหอมในตู้เย็น
อุณหภูมิที่เหมาะกับการเก็บรักษาน้ำหอมนั้นทาง The Osmotheque ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำหอม ได้ชี้ช่องอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บ 
รักษาไว้ว่าให้ใช้อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียสกับน้ำหอมทั่วไปและน้ำหอมที่เป็นกลิ่น Citrus ให้ใช้ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส จะช่วยให้น้ำหอมนั้นมีอายุการใช้การงานยาวนานขึ้น
 
Credit : ขอบคุณที่มาจากเวป  ohperfume ค่ะ เป็นเวปที่ให้บทความดีๆเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับน้ำหอม
#3
รอบที่แล้วได้แชร์เรื่องน้ำหอมของคุณผู้ชายไป รอบนี้เก็บมาให้ใหม่นะคะเป็นน้ำหอมของคเพื่อนๆผู้หญิงบ้างค่ะ พอดีเพิ่งแปลเสร็จเลยเก็บมาฝากเพื่อนๆในบอร์ดนะคะ ^__^ ทำกิจกรรม ขับรถกันเหนื่อยพอแล้ว ก็มาอ่านอะไรเบาๆ สวยงามๆพักผ่อนขมองกันนะคะ
 
อันดับ 10 Britney Spears Midnight Fantasy EDP
เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่เรียกได้ว่า ทั้งน่ารัก ทั้งหวาน แบบลงตัว แนวกลิ่นแบบ floral fruity ที่เรียกได้ว่าคว้ามวลดอกไม้และผลไม้ตระกูลลงมาผสมกลมกลึงกันได้อย่างลงตัว  ใครที่ชอบแนวผลไม้แบบหวานน่ารักขี้เล่น ต้องยกให้เจ้าแม่แนวนี้อย่างบริทนี่ท์ค่ะ ตัวนี้กลิ่นเปิดจะออกผลไม้ป่าระบิราสเบอรี่หวาน ช่วงกลางจะออก sweet นุ่มๆจากทั้งมวลดอกไม้ค่ะ และตบท้ายด้วยแนวกลิ่นแป้งหรือ powder น่ารักดีค่ะ ส่วนการติดทนต้องยอมรับเลยค่ะว่าทนมั้กๆรุ่นนี้สรรพสิ่งบริทนีย์
 
อันดับ 9 Eternity Moment EDP
มาแรงแบบเบรคเกือบไม่อยู่ ชนิดแซงโค้งตัวรุ่นพี่อย่าง eternity รุ่นปกติกันเเบบเบียดกระเหนียดไหล่กันไปเลยที่เดียวค่ะ ด้วยแนวกลิ่นหวานแบบสดชื่นสดใส ทำให้ชนะใจสาวก CK ไปได้ง่ายๆอย่างสวยงาม เรียกได้ว่า  ดอกไม้แบบหวานไม่เลี่ยนใช่ไหมหวานแบบสดใสนั่นเอง  เปิดตัวกลิ่นแบบ หวานสดใส(sweet&fresh) สะอาด (clean)  ช่วงกลางครอบครอง woody & aquatic คือหวานพรรณไม้และเบิกบานใจดั่งได้รับความสดชื่นจากน้ำบริสุทธิ์ค่ะ เรียกได้ว่าตัวเดียวแต่หลายอารมย์ค่ะ ชอบๆ ส่วนการติดทนปานกลางค่ะ
 
อันดับ 8 Lovely Sarah Jessica Parker EDP
น่าร้าคคคคคอ่ะ!  สมคำว่า lovely จริงๆค่ะ กลิ่นหวานแบบน่ารักนุ่มๆ จริงๆค่ะ ด้วยแนวกลิ่นแบบ Floral Woody Musk  คือทั้งหวาน นุ่ม น่ารักและเซ็กซี่เบาๆ น้ำหอมตัวนี้จึงเข้ารอบไปแบบเงียบๆแต่ชนะสะบั้นค่ะ ดมแล้วเรียกได้ว่าใครเดินผ่านต้องมีแอบหันมามอง เพราะว่ากลิ่นช่างน่ารักน่าหยิกเสียเหลือเกิน การติดทนปานกลางค่ะ
 
อันดับ 7 Jessica Simpson Fancy EDP
ใครที่ชื่นชอบแนวผู้หญิงน่ารักน่ากิน ต้องยอมกับน้ำหอมรุ่นนี้เลยค่ะ สาวกกลิ่นคาราเมลน่ารักน่ากินที่เมื่อเจือปนกับมวลดอกไม้แล้ว ทำให้ยิ่งตกหลุมรักความน่ารักเข้าไปอีก ช่างน่ารักและหวานตรึงใจยิ่งนักค่ะ เป็นน้ำหอมอีกรุ่นของเจสสิก้าที่เรียกได้ว่าขายสะอาดจนขาดตลาดไปพักนึงเพราะผลิตไม่ทันกับความต้องการค่ะ ส่วนการติดทนยกนิ้วให้เลยค่ะ เรียกได้ว่าข้ามชาติกันเลยทีเดียว ทนมั้กๆค่ะ
 
อันดับ 6 Lanvin Marry Me EDP
น้ำหอมที่หลายๆคนให้ชื่อว่า "น้ำหอมละมุนรัก" เพราะฉีดแล้วจะรู้สึกถึงความอบอุ่น หวานความรักตลบอบอวลเลยค่ะ เหมือนได้กลิ่นอายความโรแมนติกสรรพสิ่งการแต่งงาน ต่างประเทศมักใช้ฉีดกันในงานแต่งค่ะ แนวกลิ่นแบบ Floral fruity เปิดกลิ่นด้วยความหวานจากมวลหมู่ดอกไม้ ดั่งมีช่อมาลัยรายเรียงอยู่รอบตัว ไม่ไม่เลี่ยนเพราะได้กลิ่นแนว
citrus ที่เข้ามาช่วยดึงให้ออกหวานสดใสสดชื่น ช่วงกลางนุ่มนวล ละมุนจากดอกไม้ตระกูล white floral ค่ะ ยอมรับเลยค่ะ ว่าน้ำหอมตัวนี้โรแมนติกเสียจริงๆ! การติดทนปานกลางค่ะ
 
อันดับ 5 DKNY be Delious Fresh Blossom EDT
ติดอันดับได้ไม่ยากสำหรับน้ำหอมตัวนี้ ด้วยความหอมแบบหวาน ใส สดชื่น จึงปราบใจสาวชอบน้ำหอมแนวหวานสดชื่นได้อย่างง่ายดาย เปิดกลิ่นด้วยความหอมแบบสดชื่นๆอย่างcitrus ตามมาด้วยความหอมหวานชนิดสดใสอย่างดอกไม้กลุ่ม pink floral ช่วยปรับอารมย์ให้สดชื่น สดใสจริงค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแรงก็ไม่ควรฉีดเยอะนะคะ เพราะตัวตนนี้การกระจายของกลิ่นค่อนข้างแรงค่ะ( Sillage) ส่วนการติดทนปานกลางค่ะ 
 
อันดับ 4 Bvlgari Omnia Amethyste EDT (อมเนียม่วง)
หวาน นุ่ม คลาสสิค คงเป็นคำนิยามของน้ำหอมตัวนี้ แนวกลิ่น Floral woody musk เป็น 3 แนวกลิ่นที่ปนเปกันแล้ว หวานกลมกลึง นุ่มนวลจริงๆค่ะ ทั้งดอกไม้ ทั้งพรรณไม้ป่า แล้วก็ความนุ่มเย้ายนจาก musk บอกได้เลยค่ะ ว่าหวาน นุ่ม คลาสสิคจริงๆ ส่วนการติดทนปานกลางค่ะ
 
อันดับ 3 Burberry Brit Sheer EDT
น้องใหม่มาแรงแซงรุ่นพี่ต้องยกให้เธอ  สดใส น่ารัก หวานเบาๆพอเป็นพิธี บอกเลยว่า สดชื่นสดใสมากๆค่ะ ใครถูกน้ำหอมแนวสดใสสดชื่นไม่ควรพลาดตัวนี้นะคะ ช่วงกลางจะหวานเบาๆนุ่มๆ แบบที่เรียกว่า fresh powdery น่ารักเบาๆค่ะ แบบการติดทนปานกลางค่ะ
 
อันดับ 2 Juicy Couture Viva La Juicy Noir 
เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่มาแรงยอดนิยมแห่งปีของอเมริกาเลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับแบรนด์ Juicy Couture เพราะนอกจากน้ำหอม แบรนด์นี้ยังโด่งดังเป็นอย่างมากในวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า ฯลฯ  ส่วนน้ำหอมนั้นไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่า คอนเซ็ปสาวหวานน่ากิน ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ ใครที่เป็นสาวกน้ำหอมแนวหวานคาราเมล น่ารักน่ากิน(Gourmand) และพลอยเข้าด้วยกับมวลดอกไม้ บอกได้คำเดียวว่า ฟิน น่ารักน่ากินจริงๆค่ะ ที่สำคัญ ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องติดทนข้ามชาติกันเลยทีเดียวเชียวค่ะ 
 
อันดับ 1   J`adore EDP จาก Christian Dior
เป็นน้ำหอมยอดฮิตและขายดีตลอดกาลไปซะแล้ว และหอมพรรค์ที่ฝรั่งร้องว่า  "absolutely perfect" กันเลยที่เดียว  แต่ราคาก็สมกับความหอมจริงๆค่ะ เรียกได้ว่าสำหรับสาวออฟฟิสอย่างเราๆต้องขอเก็บเงินนีสนึงกว่าจะได้เป็นเจ้าของ Y_Y  ด้วยความหอมแบบนุ่ม หรู มีระดับ เรียกได้ว่าเดินผ่านนี่คิดว่าเจ้าหญิงไฮโซที่ไหนหลุดมาหรือไม่เปล่า เพราะทั้งนุ่ม หวาน หรู มีระดับเสียเหลือเกินค่ะ 
ฝรั่งบางคนบรรยายว่า beautyful , sexy , hi class  แนวกลิ่นหลักๆคือดอกไม้ตระกูล  white&pink floral ค่ะ เรียกได้ว่า หวานนุ่มกลมกลึงฟุดๆเลยค่ะ แถมการติดทนดียิ่ง ชนะขาดลอยไปเลยค่ะ




 
#4
คุยกับเค้าหน่อยY_Y
#5
เก็บมาฝากเพื่อนค่ะ น้ำหอมผู้ชายยอดนิยมปี 2015 มาดูกันนะคะว่ามีตัวไหนในดวงใจตัวไหนเข้าวินกันบ้าง อิอิ
 
อันดับ 10  Versace Blue Jeans EDT for men
ถูกและดีมีที่ไหน?? คำๆนี้คงต้องหลบไปเมื่อเห็นรุ่นนี้ของเวอซาเช่ ! ด้วยความหอมที่เกินราคา ทำให้น้ำหอมตัวนี้เข้าวิน ไปอย่างง่ายดาย 
กับแนวกลิ่นที่เรียกได้ว่าผู้ใหญ่ชดใช้ได้ เด็กๆใช้ดี กลิ่นหอมหวานกลางๆ โดยแนวกลิ่นไปทาง Oriental woody  หรือแนวธรรมชาติ 
พรรณไม้หอม เปลือกไม้หอมนั่นเอง ทำให้คุณเหมือนได้แตะความหวานแบบเท่ห์ อารมย์หนุ่มแมนอบอุ่นๆ รักธรรมชาติ ที่สำคัญตัวนี้ได้รับเสียงตอบรับเรื่องความติดทนเป็นเลิศ
 
อันดับ 9 Polo Red for men EDT
น้ำหอมที่เรียกได้ว่า ทั้งเข้ม ทั้งหวาน ทั้งน่ารักขี้เล่น เร้าใจจริงๆ ด้วยกระบวนกลิ่นแบบ woody spice ที่เปิดตัวด้วยแนวกลิ่น citrus 
ทำให้คุณรู้สดชื่น ตามมาด้วยความหวานอมเข้ม จาก spice และพรรณไม้ป่าหอมนานาพรรณ ทั้งเท่ห์ทั้งเข้ม ทั้งอบอุ่น จึงเข้ารอบเงียบๆไปแบบค่อยๆๆค่ะ 
แม้ว่าเสียงตอบรับเรื่องความติดทนจะยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่เรื่องความหอมของกลิ่นไม่เป็นรับตัวไหนค่ะ
 
อันดับ 8 Versace  Man Eau Fraiche EDT
น้ำหอมผู้ชายที่มาแรงแซงโค้งไปแบบเงียบๆอีกตัวของปีนี้  ด้วยความหอมแบบสดชื่น  refreshๆ ตามคอนเซ็ปต์ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน 
พร้อมกลิ่นอายความเท่ห์ขี้เล่นของหนุ่มละติน น้ำหอมตัวนี้จะช่วยปรับอารมย์ให้คุณผ่องใสพร้อมกับเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ เป็นกลิ่นแนว  woody aquatic 
ทั้งสดชื่น ทั้งหอมหวาน เข้ารอบจากแบบชิลล์ๆเลยค่ะ  เป็นน้ำหอมที่ไม่ฉุนนักเหมาะกับคนที่ไม่ชอบแนวฉุนค่ะ ส่วนการติดทนปานกลาง
 
อันดับ 7 Mont Blanc Legend Intense EDT
เป็นน้ำหอมที่ขายดีอีกรุ่นหนึ่งของมองบลังค์ ด้วยความโดดเด่นในเรื่องความหอมและความติดทนนาน  จึงไม่พิลึกกึกกือที่จะเป็นน้ำหอมอีกหนึ่งรุ่น
ที่คุณๆผู้ชายมักจะมีไว้เข้าใกล้บ้าน แนวกลิ่นจะเด่นทั้งหวานทั้งสดชื่น (Refresh& sweet)  เรียกได้ว่ากลิ่นเปิดนี้สดชื่นประทับใจ ตามมาติดๆกับหวานหอมพรรณไม้ป่า 
ตัวนี้ทั้งความติดทนและความแรงของกลิ่นเรียกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์เค้าเลย หากใครที่ไม่ชอบแนวเดินผ่านแล้วน้ำหอมทุบหน้าไม่ควรใช้ตัวนี้นะคะ
 
อันดับ 6 Polo Safari EDT
น้ำหอมแนวหวานคลาสสิค สำหรับหนุ่มใหญ่ บอกได้ว่า สดชื่น หวาน นุ่ม อบอุ่น สุขุม ทำให้คุณรู้สึกเป็นผู้นำ น้ำหอมรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้คุณมองเบิ่ง
อบอุ่นและเป็นผู้นำโดยเฉพาะ  เป็นน้ำหอมที่กลิ่นไม่ฉุนมาก การติดทนโดยมากดี บอกได้เลยว่า สดชื่น หวานนุ่ม และแอบมีแนว citrus เบาๆที่จะช่วยปรับอารมย์ให้สดชื่นได้ด้วยค่ะ
 
อันดับ 5 Givenchy Play EDP
เป็นน้ำหอมที่เลิศมากๆอีกตัวของจีวองชี!  น่ารัก น่ากิน ขี้เล่น เข็ม เท่ห์ มาเต็มค่ะ ที่สำคัญติดทนพอตัวเลย กลิ่นโดดเด่นหลักคือเมล็ดกาแฟเป็น
ที่เป็นตัวชูโรง อ่ะๆอย่างเพิ่งตกใจไปนะคะ ว่าบ้าหรือเปล่า เมล็ดกาแฟเนี่ยนะ! ใช่เลยค่ะ ถูกแล้วได้ยินไม่ผิด ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อปรุงปนเปกับเครื่องเทศและพรรณไม้นานาพรรณ 
จะทำให้น้ำหอมตัวนี้กลายเป็นเซ็กซี่ตัวพ่อ! เลยก็ว่าได้ค่ะ  ของแบบนี้ควรลองเอง ว่ามีสาวๆแอบมองขึ้นมั้ย อิอิ
 
อันดับ 4 Bvlgari Aqva Pour Homme EDT
น้ำหอมชายที่ขายดียอดนิยม สดชื่น หวาน สำอางค์ๆ ต้องยกให้เค้า โดยแนวกลิ่นเป็นแนว Aromatic Aquatic ที่หวาน สดชื่น เปิดกลิ่นแบบเบิกบานๆ ด้วยแนวกลิ่น citrus 
คอนเซ็ปต์แนวสดชื่นไปชายทะเล สะอาด สดใสค่ะ bright จริงๆตัวนี้ บางคนจะเรียกว่าแนว watery หรือ aqua scent คือสดชื่นเหมือนได้รับพลังๆจากน้ำตลอดเวลา การติดทนปานกลาง น้ำหอม
 
อันดับ 3 Davidoff Cool Water EDT 
หนีไม่พ้นเลยจริงๆน้ำหอมตัวนี้  เนื่องด้วยเป็นกลิ่นแนวยอดนิยมตกว่าสดชื่น เย็น สะอาด ทำให้คุณรู้สึกสดใส ร่าเริง แนวกลิ่นหวาน เย็น สดใส สดชื่น สมกับชื่อ cool water เลยค่ะ 
กลิ่นไม่ฉุนมาก การติดทนกลางๆ 
 
อันดับ 2 Guy Laroche รุ่น Drakkar Nior EDT
หอมมากกกกก ติดทนมากกกกก ไม่ผิดหวังและไม่เสียชื่อจริงๆสำหรับแบรนด์กีราโรช ฝ่ายนี้ถึงน้ำหอมไม่เยอะและไม่ขยันออกพร่ำเพรื่อ 
แต่ออกแต่ละตัวย้ำคุณภาพทั้งนั้น รุ่นนี้กลายเป็นรุ่นคลาสสิคไปเลยตั้งแต่ปี 1982 (นับเองนะคะว่ากี่ปีแล้ว) ความนิยมก็ยังไม่เคยตกเลย 
แนวกลิ่นแบบ  Aromatic Fougere คือ หวาน เซ็กซี่ อบอุ่นมาเต็ม อย่ารอช้าค่ะ รีบไปหาดมกันเลย
 
อันดับ 1 Polo Blue EDT
เข้ารอบไปแบบเงียบๆแต่มีชัยขาดรอย สำหรับ Polo blue ด้วยความหอมแบบหวาน เบาๆ สบายๆ ปรับอารมย์ให้คุณสดใส ผ่อนคลาย กันเอง 
แล้วจึงเป็นอีกกลิ่นที่คุณๆผู้ชายทั้งหลายเลือกเฟ้นจับจองไปแบบง่ายๆสบายๆด้วย ด้วยกลิ่นหวานละมุนแต่ไม่เลี่ยน เพราะได้กลิ่นแนว fruity เข้ามาช่วยปรับให้เป็นความหวานแบบสบายๆผ่อนคลาย 
กลิ่นหลักคือ ozonic คือ สดชื่น สะอาดๆ อมหวานละมุน นุ่มๆ ได้ใจไปเต็มๆเลยค่ะ ตัวนี้กลิ่นจะไม่กริ้วมาก การติดทนกลางๆค่อนไปทางทนค่ะ 
 
#7
วันนี้มีข้อมูลดีๆเอามาแชร์และแบ่งปันให้เพื่อนๆจร้า เกี่ยวกับเรื่องน้ำหอมจร้า
ช่วงนี้น้ำหอมแบรนด์เนมปลอมระบาดเหลือเลยค่ะ ถึงไม่ปลอมก็เป็น Mirror grade ที่แอบอ้างตัวว่าเป็นน้ำหอมแบรนด์เนมของจริงของแท้ 
ซึ่งวันนี้ดิฉันจะขอแนะนำข้อมูลแรก
สำหรับการเช็คน้ำหอมแบรนด์เนมเบื้องต้นว่าจริงหรือปลอมดูกันยังไงนะคะ 
ทำนองเช็คเบื้องต้นน้ำหอมแบรนด์เนม
1.เช็คเลข S/R ของน้ำหอมแบรนด์เนมวิธีก็จะตามทัศนียภาพ
ประกอบเลยนะคะ เนื่องจากเลข S/R คือเลขที่กำหนด
 Batch การผลิตของน้ำหอมแบรนด์เนม
- ภาพหมายเลข 1 หาเลข S/R ที่ขวดของน้ำหอมแบรนด์(ไม่ใช่เลข Bar codeนะคะ)
อย่างที่
ภาพคือเบอร์
 4034 ค่ะ
- ภาพหมายเลข 2 เข้าไปที่เวป http://checkcosmetic.net/ ซึ่งเป็นเวปที่ไว้เช็คเครื่องมือสำอางค์
เกือบทุกยี่ห้อทั่วโลกค่ะ
- ภาพที่ 3 เมื่อใส่ยี่ห้อ และเลข S/R ของน้ำหอมแบรนด์เนม ที่หวัง
เช็ค จะขึ้นวันผลิตและวันหมดอายุค่ะ
หมายเหตุ: - ถ้าเป็น Mirror grade จะไม่มีเลข S/R ถึงมีก็จะไม่ขึ้นค่ะ
- วิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้ 100% เพราะมีการ นำขวดมาใช้
ใหม่เอี่ยม
หรือวิธีการใดก็ตามที่ทำให้เราไม่สามารถรู้เลขได้ 
2. ราคา  ถ้าราคาน้ำหอมแบรนด์เนมถูกเกินไป ชนิดที่ว่าต่ำกว่าเวปต่างบ้านเมือง
อีก อันนี้ก็ไม่ต้องพิศวง
เลยค่ะ ใครจะค้า
ต่ำกว่าทุนละคะจริงมั้ย? น้ำหอมแบรนด์เนม
3. กลิ่นอาย อันนี้แนะนำให้ไปเดินดมน้ำหอมแบรนด์เนมของจริงในห้างก่อนค่ะ เพราะทั้งของปลอมหรือ Mirror grade จะคล้ายๆ
ๆ แต่ยังไงก็ไม่เหมือนค่ะ ขยัน
เทียบกับเคาท์เตอร์ อย่าไปเปรียบที่ซื้อมาจากแหล่งที่คุณก็ไม่รู้ว่าเค้าจริงแท้แน่นอนหรือเปล่า เพราะยังไงถึงเค้าปลอมเค้าก็บอกคุณว่าแท้ค่ะ 
ทางที่ดีคุณต้องรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไรมากกว่าที่จะไปถามเค้าว่า "ใช่น้ำหอมแบรนด์เนมจริงมั้ยคะ แท้มั้ยครับ" เพราะมันไม่เกิดผลดี