Messages

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

upp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

uppp

upp

uppp

upp

uppp

uppp

มีใครในที่นี้เคยได้ยินคำว่าทุเรียนเทศบ้าง ยกมือขึ้น ส่วนใหญ่จะรู้จักกันแต่ทุเรียน ตั้งแต่หมอนทอง ก้านยาว ชะนี แล้วทุเรียนเทศคืออะไร เพิ่งจะเคยรู้จักก็ครั้งนี้แหละ ใช่มั้ยคะ
ทุเรียนเทศหรือทุเรียนน้ำ (Soursop) เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่มีผลสีเขียว มีเนื้อด้านในสีขาว มีเมล็ดใหญ่ๆ มีรสเปรี้ยวๆหวานๆเหมือนน้อยหน่า ผู้คนส่วนใหญ่นำมารับประทานเป็นผลไม้ เนื่องมีรสชาติที่คล้ายน้อยหน่านั่นเอง ปลูกกันมากในแถบภาคใต้ของไทย
ในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย รับประทานกันเป็นผลไม้ และชอบทานน้ำจากผลไม้นี้เหมือนน้ำผลไม้ในบ้านเรา และประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ทุเรียนเทศเริ่มเป็นที่รู้จัก เนื่องจากมีผลการวิจัยจากต่างประเทศยืนยันว่า ใบของทุเรียนเทศ มีคุณสมบัติที่ต้านเซลมะเร็งได้ เป็นคีโมธรรมชาติที่ไม่ทำลายเซลดี แต่ยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็ง ดังนั้นใบทุเรียนเทศจึงเป็นความหวังใหม่ของการรักษาแบบทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็ง
ผลผลิตจากทุเรียนเทศมีหลายประเภทและหลายแบบ แล้วแต่การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น 
• ใบทุเรียนเทศ ที่นำไปตากแห้ง สามารถเอามาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กๆและต้มกับน้ำ จากนั้นกรองเอาใบออกและเก็บน้ำไว้ทานเหมือนเป็นน้ำชา วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น 
• ชาใบทุเรียนเทศสำเร็จรูป เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาและไม่สะดวกที่จะนำใบทุเรียนเทศมาต้มทานเอง จึงมีการนำไปผ่านขั้นตอนการผลิตใส่ซอง ทำให้สามารถชงทานได้ง่ายๆเหมือนชาสำเร็จรูปทั่วไปและยังคงการออกฤทธิ์ในการต้านเซลมะเร็งเอาไว้
• ผลทุเรียนเทศสด สามารถเอาเปลือกและเมล็ดออกจากผลที่สุกพอดีทาน เพื่อทานแต่เนื้อผลไม้ โดยสามารถจะรับประทานสดๆเหมือนรับประทานเนื้อผลไม้ทั่วไป หรือจะนำไปปั่นเป็นน้ำผลไม้ กับผลไม้อื่นก็เป็นทางเลือกที่ดีและเพิ่มความสนุกในการรับประทาน ทั้งนี้ส่วนใหญ่ผู้ที่ทานผลสดเพื่อการต้านเซลมะเร็ง มักจะรับประทานควบคู่กับใบด้วย เพื่อผลในการรักษาที่ดียิ่งขึ้น
• แคปซูล มีทั้งแคปซูลใบและแคปซูลเนื้อ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกในการทานได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ทั้งนี้ราคาของสินค้าเหล่านี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ เนื่องจากผลไม้นี้มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ทำให้มีความต้องการสูง แต่ผลผลิตค่อนข้างน้อยและไม่เพียงพอกับความต้องการ ราคาจึงปรับตัวสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามอยากแนะนำให้ค่อยๆทานผลผลิตเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรจะรับประทาน ในปริมาณน้อยๆลองดูก่อนเพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นให้เหมาะกับอาการและระยะการรักษาค่ะ
ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษามะเร็งแบบทางเลือก ที่ไม่ใช้สารเคมีแต่รักษาด้วยผลิตภัณฑ์ทุเรียนเทศที่เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติ 