Show posts - joffc1681
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - joffc1681

#2
เรารู้ไม่ก็เปล่าว่าฟิล์มรถยนต์ มีความจำเป็นกับรถยนต์อย่างยิ่งที่จะต้องมีอุบายระแวดระวังคลื่นความร้อน ด้วย
กันให้ในรถยนต์มีความเย็นสะดวก ในขณะขับขี่รถยนต์
จากที่เราใช้รถยนต์อยู่ทุกวันแสงแดดในตอนกลางวัน ไม่ใช่หรือ แม้ในยามค่ำคืนหากขับรถยนต์
โดยไม่เปิดกระจก ก็ไม่ทำเป็นจะขับได้นาน เพราะความ อบอ้าวในรถอันเกิด 
จากแสงแดด พร้อมทั้งอากาศภายใน ดังนั้น รถยนต์จำเป็นจะต้องมีฟิล์มกรองแสง ใช่ไหม ฟิล์มลดความร้อน พร้อมกับเครื่องปรับอากาศ ใช้งานกับรถ
ในส่วนของฟิล์มกรองแสง หรือไม่ฟิล์มลดความร้อน นั้น มีความเหมือนพร้อม
ด้วยมีความแตกต่างกันอยู่ในตัวเองในอดีตผู้คนมักจะเรียก วัสดุ
สีดำๆ ที่เป็นพลาสติก มาติดกระจกรถ ว่าเป็นฟิล์มกรองแสง ต่อมาก็จะมีการเรียกฟิล์มลดความร้อนบ้าง ซึ่งในอย่างหลังนั้น ก็คือฟิล์มกรองแสง ที่มี
คุณสมบัติ ในการลดคลื่นความร้อนได้มากกว่า ฟิล์มกรองแสงแบบแต่ก่อนนั่นเอง ทั้งนี้ จากการที่ได้วิวัฒนาการผลิต ด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ 
ฟิล์มกรองแสงที่จำหน่ายอยู่ในตลาดมีมากมาย ฟิล์มรถยนต์
หลายวิธส่วน
ใหญ่เป็นฟิล์มรถยนต์ย้อมสีมีคุณภาพต่ำ กันความร้อนน้อย พร้อมทั้งไม่มีเคลือบสารป้องกันรังสีอุลต้าไวโอ
เลท แต่ปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดได้กำเนิดฟิล์มกรองแสงยุคใหม่ ซึ่งเป็นฟิล์มรถยนต์แห่งอนาคต เรียกกว่า "สปัทเตอร์ฟิล์ม" (Sputter-Coated 
Metallized films) ซึ่งศักยนำเอา
โลหะวิธาต่าง ๆ 
มาเคลือบเป็นเนื้อเดียวกับฟิล์มรถยนต์ ทำให้ฟิล์มรถยนต์มีความคงทนพร้อมด้วยกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม
ในปัจจุบันฟิล์มรถยนต์หลายยี่ห้อ ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตหรือว่า UV จากแสงอาทิตย์ได้
เกือบ 100% ซึ่งมีคุณสมบัติปกป้องสิ่งของภายในรถของท่านไม่ให้ซีดจางใช่ไหมเสื่อมสภาพ
เร็วกว่ากำหนด พร้อมทั้งลดอันตรายจากการเกิดมะเร็งผิวหนังกับฝ้าบนใบหน้าฟิล์มกรองแสงในยุค
ปัจจุบันเคลือบด้วยสารเคลือบแข็งป้องกันรอยขูดขีด ทำให้มีความคงทนให้ความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูงกว่าฟิล์มรถยนต์ย้อมสีที่มีคุณภาพต่ำ
เราสามารถแบ่งฟิล์มกรองแสงได้ 2 ประเภท คือ
1. ฟิล์มย้อมสี เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสว่าง ที่ผ่านเข้ามาทางกระจกเท่านั้น
2. ฟิล์มกรองแสงลดความร้อน หรือไม่ก็ ฟิล์มเคลือบโลหะ เป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติใน
การลดความร้อนที่ผ่านเข้ามาทางกระจกได้ดีกว่าแบบแรก    
ฟิล์มกรองแสงมี 2 คุณสมบัติหลัก คือ
1. ความเข้ม ไม่ก็ความทึบแสง ซึ่งมีผลต่อการกรองแสง
2. การกรองรังสีความร้อน
ข้อควรปฏิบัติในการดูแลรักษาฟิล์มกรองแสง
1. กันเลื่อนกระจกขึ้น - ลง หรือไม่ เช็ด ถูฟิล์มรถยนต์ ภายใน 7 วัน หลังจากติดตั้ง เนื่องจาก
ฟิล์มรถยนต์ยังมีความชื้น
ซึ่งจะระเหยหมดไปเอง
2. หากมีโจทย์อื่นใด เช่น มีฟองอากาศ หรือว่า ฟิล์มรถยนต์อ้า ฯลฯ ให้รีบติดต่อศูนย์บริการภายในระยะเวลารับประกัน
3. ในการทำความสะอาดฟิล์มรถยนต์ ควรใช้ผ้าสะอาด ผ้านุ่มไม่ก็ฟองน้ำ ร่วมกับน้ำยาทำ
ความสะอาดฟิล์มรถยนต์ เพื่อกำจัดคราบมัน
4. ปิดกั้นใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือไม่สารเคมีที่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย (NH4) เพราะอาจทำให้ 
ชั้นกันรอยของฟิล์มรถยนต์เสียหายได้
วิธีการดูแลฟิล์มกรองแสงหลังติดตั้ง
  โดยทั่วไปวิธีการการติดตั้งฟิล์มกรองแสงจะต้องใช้น้ำผสมกับแชมพูแบบ
อ่อนๆ ฉีดลงไปบนด้านแผ่นกาวของฟิล์มรถยนต์ด้วยกันกระจกที่จะติดตั้งเพื่อช่วยให้ขยับฟิล์มรถยนต์ให้เข้า
ที่แล้วจึงรีดน้ำพร้อมด้วยอากาศออกด้วยเครื่อง
มือส่วนต่างๆ 
ดังนั้นภายหลังจะพบว่าจะมีคราบน้ำขัง, กระจกมัว ไม่ก็เป็นฝ้าที่กระจก ก่อนที่อาการเหล่านี้
จะหายไปเอง ภายในเวลา 1-4 สัปดาห์. ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียเช็ดทำความถูกอย่าง เพราะในการดูแลเอาใจใส่ฟิล์มรถยนต์ที่ติดตั้งมาใหม่อย่างถูกวิธีนั้น จะทำให้ฟิล์มรถยนต์ที่เราติดตั้งมานั้นอยู่คู่กับรถไปได้ทนทานนาน 7-10 ปีทีเดียว