Messages

ดันนอีกนะ

ดันนอีกนะ

ดันอีกนะครับนะครับ

up

ภายในสมัยเก่าเราอาจเคยได้ยินมาว่า เมื่อใดก็ตามที่ถูกไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำพร้อมกับใช้น้ำมันมะพร้าว ยาสีฟัน ปูนกินกับหมากมาทาบริเวณแผล ซึ่งนั่นคือความเชื่อที่ผิดมหันต์เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะไม่สามารถรักษาแผลได้แล้วยังอาจทำให้แผลติดเชื้อได้ ในขณะที่มีบางศาสตร์บางกระแสบอกว่าให้ใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็งในการปฐมพยาบาลแผลลักษณะนี้ เหลือแหล่สามัญชนคงจะงงงวยว่าน้ำแข็งจะช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้จริงหรือ วันนี้เรามีข้อเท็จจริงมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกันครับ น้ำแข็ง
   การรักษาแผลไฟไม้ น้ำร้อนลวกด้วยความเย็นหรือน้ำแข็งนี้ เป็นการรักษาด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านในประเทศไอซแลนด์ (Iceland) ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในเขตหนาว ราว ๆ ปี พ.ศ. 2503 ได้มีรายงานทางวารสารการแพทย์ทางศัลยกรรมตกแต่งของอังกฤษว่า มีผู้ป่วยรายหนึ่งเคยประสบอุบัติเหตุเมื่ออายุได้เพียง 2 ขวบ ข้างในคราวนั้นเธอหกล้มแล้วแขนข้างหนึ่งจุมลงไปในหม้อน้ำนมที่กำลังเดือดจนถึงรักแร้ ขณะที่เกิดเหตุมีหญิงคนหนึ่งอุ้มเธอขึ้นแล้วเอาแขนจุ่มลงไปในน้ำเย็นทันที (น้ำอุณหภูมิปกติของที่นั่นเย็นพอ ๆ กับน้ำแช่น้ำแข็งในบ้านเรา) แต่เนื่องจากจุ่มไปถึงแค่ระดับข้อศอกจึงส่งผลให้แขนส่วนที่ไม่จุ่มเป็นแผลเป็นและลีบเล็ก แต่ส่วนที่สัมผัสกับน้ำเย็นกลับมีสภาพปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงสรุปได้ว่าความเย็นสามารถป้องกันความร้อนเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยอีกหลายฉบับที่สนับสนุนการใช้น้ำแข็งปฐมพยาบาลบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
   ในการปฏิบัติงานการพยาบาลเบื้องต้นด้วยน้ำแข็งนั้น บาดแผลอยู่ในตำแหน่งที่สามารถจุ่มน้ำได้อย่างแขน ขา นิ้ว ให้เอาแช่น้ำที่มีน้ำแข็งแช่ไว้ให้เย็นและเป็นเวลายาวนานตกขอบเท่าที่จะทนได้ หากรู้สึกว่าเย็นมากให้เอาออกก่อนแล้วค่อยแช่ใหม่ ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนกว่าอาการปวดแสบปวดร้อนจะหมดไป สำหรับบาดแผลที่แช่หรือจุ่มไม่ได้ ให้นำน้ำแข็งทุบใส่ถุงพลาสติกหรือห่อผ้าสะอาดนุ่ม ๆ แล้วประคบไว้เช่นเดียวกับการแช่ หากบาดแผลฉกรรจ์ถึงขึ้นผิวหนังแหว่งไป ให้ใช้วิธีการประคบแล้วรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์
   ปัจจุบันการใช้น้ำแข็งปฐมพยาบาลเป็นที่การตั้งกฎเกณฑ์ห้ามปรามตึดตื๋อรุ่งโรจน์ เพราะความเย็นจะไปช่วยลดการบวมพอของเนื้อเยื่อ รวมถึงสามารถทำให้การทำลายของเนื้อเยื่อจากความร้อนน้อยลง ดังนั้นเวลาที่เราถูกของร้อนลวกแล้วรู้สึกปวดแสบปวดร้อนนั่นเป็นเพราะเนื้อเยื่อกำลังถูกความร้อนทำลาย และเมื่อถูกความเย็นก็จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวข้างต้นจนหายเป็นปลิดทิ้ง