Show posts - ksumai701
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - ksumai701

#1
กระแสเคลือบแก้ว  กำลังมาแรงแซงโค้งการเคลือบสีรถแบบปกติทั่วไป เรามาทำความรู้จักกับคำนี้กันก่อนครับ โดยเฉพาะคนที่ซื้อรถมาใหม่ แน่นอนคุณจะต้องศึกษา และคัดเลือกข้อมูลการเคลือบมาว่าคุณจะนำรถไปเคลือบเลยดีไหม หรือใช้ไปซักระยะก่อนเอาไปเคลือบ ส่วนรถใครที่มีอายุใช้งานแล้วอยากจะเคลือบบ้าง จะทำได้หรือไม่และต้องทำอย่างไร ทั้ง2ประเด็นกูรูขอแนะนำในที่นี้เลยว่า การเคลือบแก้วปัจจุบัน เราสามารถทำเองได้อย่างง่ายๆเพียงเลือกใช้น้ำยา ที่มีคุณภาพ และออกแบบประยุกต์ให้ใช้งานอย่างง่ายๆโดยสำหรับรถใหม่ป้ายแดง การเคลือบก็จะไม่ยากกว่ารถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว เนื่องจากรถใหม่ยังไม่เกิดริ้วรอยขนแมวบนผิวสีรถ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเปลืองเวลาเก็บรอยต่างๆก่อนเคลือบ ตรงข้ามกับรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว มีความขาดไม่ได้อย่างยิ่งที่ต้องขัดสีลบรอยขนแมว และคราบเลอะเทอะบนผิวรถให้หมดจดก่อนจึงจะลงน้ำยาได้
น้ำยา เคลือบแก้ว จะมีระดับความหนาของชั้นเคลือบที่ผิดแผกแตกต่างกัน มีตั้งแต่ระดับ 1-9 H น้ำยาจะมีส่วนผสมหลักคือนาโน Silica ครับ ระยะเวลาความทนทานก็ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นเคลือบแก้ว และก็สูตรน้ำยาของแต่ละยี่ห้อนั้นและครับ อีกอย่างก็คือราคาก็จะแตกต่างกันไปแต่ละระดับของความหนานะครับ แต่ที่การกำหนดปัจจุบันคือรุ่น 7H และ9H ครับ
ทำไมเราจึงควรเคลือบแก้วสีรถ ลองมาดูผลดี และข้อดีของการ เคลือบแก้ว กันบ้าง
ทำให้รถคุณเงางามอยู่สม่ำเสมอ แต่จะไม่แวววับขนาดเหมือนกระจกครับ บางครั้งความหนาของชั้นเคลือบแก้วก็ทำให้การตกกระทบของแสงน้อยไปหรือเพี้ยนไปทำให้รถดูไม่ค่อยเงาเหมือนตอนที่เคลือบใหม่ๆ
ปกป้องรักษาสีรถคุณจากแสงแดดได้สวยงาม เพราะชั้นของการเคลือบแก้วจะช่วยสะท้อนรังสียูวีทำให้สีรถไม่ซีดจางเร็ว  รถคุณก็จะยืดระยะเวลาของการเสื่อมคุณภาพของสีรถไปอีก สีก็จะไม่ค่อยหมองเร็วนั้นแหละครับ
เช็ดฝุ่นผง เช็ดคราบสกปรก คราบไคลน้ำ คราบมูลนก ยางมะตอย ออกได้สะดวก ถ้าเคลือบแก้วแล้วคราบต่างๆพวกนี้จะไม่เข้าไปฝังแน่นในชั้นของแล็คเกอร์รถ ทำให้หลุดออกง่ายเวลาทำความเกลี้ยง แต่ไม่ใช่เห็นว่ารถเคลือบแก้วมาแล้วปล่อยไว้ก่อนแล้วค่อยล้างทำความสะอาด อันนี้ไม่ถูกต้องนะครับ คราบสกปรกสามารถฝังเข้าไปได้เหมือนกัน แต่มันใช้เวลาและยากหน่อยเท่านั้นเอง เพราะน้ำยาเคลือบแก้วไม่ได้แข็งเหมือนแก้วเหมือนกระจกนะครับ เขาพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นของน้ำยาเคลือบด้วย ไม่อย่างนั้นเคลือบไปบนรถชั้นเคลือบก็จะแตกนะครับ
ป้องกันการเกิดรอยขนแมว รอยขีดข่วน ได้ยิ่งกว่าปกติ บางคนเข้าใจผิดว่าไปเคลือบมาแล้ว รถต้องไม่เป็นร่องรอยเวลาโดนเฉี่ยว โดนสะเก็ดหิน หรือกิ่งไม้เกี่ยว มีโอกาสเป็นรอยได้ครับ แต่ยากกว่าปกติมากหน่อยเท่านั้นเองครับ ดังนั้นหลังเคลือบแก้วแล้วจึงต้องมีการปกปักรักษาเป็นระยะๆ ทุกๆ3-6 เดือน ด้วยการเติมน้ำยาสูตรReload  ก็จะทำการเคลือบง่ายๆขึ้นและออมงบประมาณ ทุ่นเวลาอีกด้วยครับ