Show posts - postza221
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - postza221

#1
โรคกระดูกทับเส้นประสาท ภัยร้ายของคนทำงาน[color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]อาการ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวหรือตามส่วนต่างๆของร่างกาย อาจจะดูเป็นเรื่องปกติของใครหลายๆคนและดูเหมือนว่าจะ ไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงสักเท่าไหร่ เนื่องจากด้วยความคิดที่ว่า อาการปวดเมื่อยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร ทำงานมากๆก็ต้องมีการปวดเมื่อย ต้องการการพักผ่อน แต่หารู้ไม่ว่าเราอาจจะเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทก็ได้[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]อาการของโรค กระดูกทับเส้นประสาท จะแสดงอาการทั้งบริเวณหลังและขา ซึ่งอาการเมื่อยทั้ง 2 บริเวณนี้ มีความสำคัญและก็จำเพาะเจาะจงกับโรคนี้นะ เพราะว่านั่นแสดงถึงการรบกวนเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงที่ขาแล้ว และถ้าหากว่าเพิกเฉยไว้นาน จะเกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรง [/color]

[color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]โดยอาการเมื่อยที่หลัง จะแสดงอาการเมื่อยบริเวณเอวส่วนล่าง อาจจะปวดเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยจะเกิดขึ้นหลังจากที่นั่งหรือนั่งงอตัวไปทางด้าน ซึ่งทั้งสองท่านี้จะทำให้กระดูกมีการทับเส้นประสาทนะ และอาการเมื่อยที่ขาของโรคกระดูกทับเส้นประสาทจะแสดงอาการ 3 แบบ ก็คือ ปวด ชา และมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอาการชาหรือปวดเมื่อยในลักษณะนี้ ให้ระวังให้ดีนะ[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]โรค กระดูกทับเส้นประสาท มักจะเกิดกับกลุ่มคนในวัยทำงาน เพราะว่าคนวัยเหล่านี้ จะมีการถือของหนักในลักษณะท่าทางที่ไม่ถูกต้องอยู่บ่อยๆ นั่งทำงานในท่านั่งที่ไม่ถูกต้องนานๆ มักจะมีการใช้กล้ามเนื้อในลักษณะที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ และโรคกระดูกทับเส้นประสาท ก็ยังเกิดขึ้นได้มากกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติอีก ด้วยนะ ถ้าเรารู้ตัวเองว่าเรามักทำตัวในลักษณะนี้อยู่บ่อยๆ ให้รีบเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โรคกระดูกทับเส้นประสาท ก็ยังเป็นโรคที่สามารรักษาให้หายได้ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันนะ ซึ่งการรักษาโรคกระดูกทับเส้นประสาท สามารถทำได้โดยการ[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- กินยาแก้อักเสบหรือยาคล้ายกล้ามเนื้อ เพื่อที่จะได้บรรเทาอาการปวดหลังหรือปวดตามบริเวณต่างๆ[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- ทำกายภาพบำบัด เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- ฉีดยาสเตียรอยด์ โดยวิธีการนี้ถูกทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- ผ่าตัดหมอนรองกระดูกผ่านกล้องเอ็นโดสโคป [/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- ผ่าตัดหมอนรองกระดูกด้วยกล้องจุลทรรศน์[/color][color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]- ผ่าตัดเชื่อมกระดูกโดยใช้คอมพิวเตอร์นำวิถี[/color]
[color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]ซึ่ง ถึงแม้ว่า โรคกระดูกทับเส้นประสาท จะสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการกินยาหรือผ่าตัด ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะทำร้ายสุขภาพของเราโดยการนั่งหรือทำงานในลักษณะ ท่าทางที่ไม่ถูกวิธี ฉะนั้นแล้วทางที่ดี เราควรที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้น และพยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆในชีวิตประจำวันของเรา รวมถึงการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับรองว่าโรคกระดูกทับเส้นประสาท จะไม่เกิดขึ้นกับเราแน่นอน[/color]
[color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]สมุนไพรรักษาโรคกระดูกทับเส้น[/color]
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษากระดูกทับเส้น

เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=hmFCq9EiMNg

Tags :  วิธีรักษาโรคกระดูกทับเส้น, สมุนไพรจีนรักษาโรคกระดูกทับเส้น, โรคกระดูกทับเส้น
#2
โรคอัมพฤกษ์  โรคที่เราป้องกันได้
            หากจะพูดถึงโรคนี้เราเชื่อว่าเป็นโรคที่หลายคนย่อมรู้จักกันดี โรคนี้ปรากฏขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งบางครั้งเราก็รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมคนในครอบครัวของเราถึงเป็นโรคนี้ หรือในบางครั้งเราก็ไม่รู้เลยว่า ตัวเราเองนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเป็นอาการโรคนี้บางรึเปล่า และสภาพโรคนี้ก็มักจะปรากฏขึ้นในเพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ เราไม่สามารถป้องกันได้เลย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคนี้อันตรายแค่ไหน ดูแล หรือดูแล คนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากน้อยแค่ไหนวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
            สาเหตุของโรคอัมพฤกษ์
            อย่างที่เราทราบกันว่าโรคอัมพฤกษ์นี้สาเหตุสำคัญมักจะปรากฏมาจากการที่มีโรคหลอดเลือดสมอง เกิดขึ้นจากการมีไขมันเกาะอยู่ในหลอดเลือดมากเกินไป หรือมีสภาพลิ่มเลือดขนาดเล็กในหัวใจและผนังหัวใจ จึงทำให้เกิดขึ้นการไปอุดตันในหลอดเลือดบริเวณสมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคหัวใจมักจะมีอาการและความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ นอกจากนี้บุคคลที่มีการเกิดขึ้นแข็งตัวของเลือดที่เร็วเกินไป หรือมีเกล็ดเลือดมากจนเกินไป จนทำให้เริ่มเป็นหลอดเลือดอุดตันได้เร็วมากขึ้นคะ
            อาการของโรคอัมพฤกษ์
            อย่างที่เรารู้อยู่แล้ว สภาพของโรคนี้มักจะมีสภาพเตือนมาเสมอ แต่ในบางครั้งที่เราไม่รู้ตัวนั้น ทำให้เราพลาดที่จะรักษาตัวนั้นเองวันนี้เราจึงมีสภาพเบื้องต้นของโรคนี้มาบอกให้ทราบกัน

  • มีสภาพชาครึ่งซีกของร่างกาย อาจจะด้านซ้ายหรือด้านขวา
  • มีอาการอ่อนแรง สภาพแขนขาอ่อนแรง สภาพพูดจาลำบากขึ้น
  • มีอาการเวียนศีรษะ สภาพทรงตัวไม่ดี สภาพเดินไม่ตรง
  • มีสภาพพูดไม่ชัด อาการพูดไม่ออก ในทันทีเลย
  • มีอาการมองเห็นภาพซ้อน อาการตามัว มองไม่เห็น

    อาการเหล่านี้มักจะแสดงออกเป็นอาการเดียวหรือเริ่มเป็นพร้อมหลายอาการ ซึ่งเมื่อมีสภาพดังนี้ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที
    การฟื้นฟูโรคอัมพฤกษ์
    เนื่องจากโรคนี้มีสาเหตุมากจากเลือกและไขมันในเส้นเลือดเป็นหลัก สิ่งที่เราทำได้เพื่อดูแล โรคอัมพฤกษ์จึงมีเพียงการทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อ ปกป้องไขมันสะสมในเส้นเลือดมากเกินไป งดการทานอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณติดต่อกัน
                การปกป้องโรคอัมพฤกษ์
                ส่วนใหญ่แล้วหากป่วยเป็นโรคนี้การรักษา ทางเดียวคือการทานยาทำการภาพบำบัดเพื่อดูแล ให้ร่างกายสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง หรือหากสภาพยังอยู่ในระยะเริ่มต้นคุณหมอจะให้ทานยาและไปพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อตรวจอาการว่าอยู่ในระยะปกป้องได้รึเปล่านะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาอัมพฤกษ์

    เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=jonuuYHuE8w

    Tags :  โรคอัมพฤกษ์
#3
Cmxseed Market / ภูมิแพ้
28 พฤศจิกายน 2017, 17:29:00
ภูมิแพ้

ภูมิแพ้ หรือโรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นอีกโรคหนึ่งที่พบมากในประเทศไทย และมีจำนวนผู้เจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี  รวมถึงจำนวนกลุ่มผู้ป่วย ยังสามารถเป็นได้อย่างไม่จำกัดเพศ วัย และอายุ   จากรายงานทางการแพทย์พบว่า ปัจจุบันมีคนไทยเกือบ 19 ล้านคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งแบ่งเป็นภูมิแพ้ทางจมูก 20% ส่วนมากพบว่ากลุ่มผู้ใหญ่เป็นโรคนี้มากกว่าเด็ก  ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ก็คือการที่ร่างกายตอบสนองสารก่อภูมิแพ้ต่าง จากทั่วไป จึงเป็นเหตุให้เกิดโรคนี้ขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มีการคันตามผิวหนัง มีน้ำมูกไหล จาม คันจมูก คันตา หรือมีอาการบวมตามใบหน้า หรือตัว หายใจไม่ออกเมื่อมีอาการแพ้อย่างรุนแรงนอกจากนี้ภูมิแพ้ยังอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

โรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ได้แก่

1.โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ(Allergic Rhinitis)อาการของกลุ่มนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยสัมผัสฝุ่น  จากนั้นจะมีอาการจาม มีน้ำมูก บางครั้งอาจจะมีอาการคันที่ตา, คอ, หู หรือที่เพดานปากร่วมด้วย โดยจะหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ เสียงเปลี่ยน จมูกไม่ได้กลิ่น หรือมีน้ำมูก เจ็บคอ หรือหูอื้อร่วมด้วย

2.โรคตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic conjunctivitis)  หรือที่เรียกว่าอาการเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้นี้มัก จะเกิดจากการที่ผิวหนังได้พบกับสารก่อภูมแพ้จากภายนอกเช่น ฝุ่น เชื้อรา ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ หรือมลพิษในอากาศที่มาสัมผัสกับดวงตาทำเอาเกิดอาการแพ้ อาการที่พบส่วนมาก ผู้ป่วยจะมีอาการอาการคันตา ตาแดง มีขี้ตาใส น้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ เปลือกตาบวม เคืองตา เหมือนมีฝุ่นผงเข้าตามักจะมีการอักเสบของเปลือกตา  ซึ่งอาจจะมีอาการร่วมกับภูมิแพ้ชนิดอื่นเช่นที่จมูก หรือผิวหนังอักเสบ

3.โรคหอบหืด (Asthma) หรือโรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ ภาวะที่พบบ่อยในคนไทยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี อาการของโรคภัยนี้มักเกิดจากความผิดปกติของ เยื่อบุหลอดลมที่มีความไวผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ หอบ หายใจขัด แน่นหน้าอก  ความเจ็บป่วยนี้มักจะสร้างความลำบากให้กับการดำเนิน ชีวิตของผู้ป่วยเนื่องด้วยเป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตในปัจจุบันได้ตามปกติ เช่น ช่วยให้เรียน หรือทำงานไม่ได้อย่างเต็มที่ ไม่สามารถเล่นกีฬาได้ บางรายถ้าเกิดในเด็กจะช่วยให้เด็กไม่สามารถเติบโตได้อย่าง เต็มที่ นอกจากนั้นนี้ยังอาจเร่งเร้าให้เกิดความเจ็บ ป่วยแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาอีกด้วยก

4.โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง(ATOPIC DERMATITIS)ผู้เจ็บป่วยโรคนี้จะมีอาการคัน ที่ผิวหนัง อาจเป็นจุดใดจุดหนึ่งหรือมีผื่นกระจายทั่วลำตัว ลักษณะของผื่นอาจเป็นผื่นแดง หรือมีตุ่มน้ำใส เมื่อแตกออกอาจจะกลายเป็นหนองและเป็นสะเก็ด

จากบทความจะเห็นได้ว่า ผู้เจ็บป่วยที่มีอาการของโรคภูมิแพ้จะ มีลักษณะของการเกิดอาการแพ้ที่คล้ายกัน นั่นคือการได้สัมผัสสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ที่อาจจะทำให้เกิดภาวะอาการแพ้ในรูปแบบต่างๆ สิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับผู้เจ็บป่วยที่เป็นความ เจ็บป่วยนี้คือการเลี่ยงภาวะที่อาจก่อให้ เกิดภาวะที่อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้นั่นเอง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาภูมิแพ้

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=k_V8J298AJw

Tags :  สมุนไพรจีนรักษาโรคภูมิแพ้
#4
โรคเข่าเสื่อมโรคอันตรายของผู้สูงอายุ
            โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่เรามักจะพบเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุเยอะแยะกว่า 40 ขึ้นไปแล้ว เป็นโรคที่อันตรายโรคหนึ่ง แต่หากเราพบว่าเป็นโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆก็สามารถดำเนินกาดูแลให้ถูกวิธีได้ โรคเข่าเสื่อมมักพบว่าบุคคลที่เสี่ยงเป็นก็คือคนที่มีน้ำหนักหลากหลายเกินกว่ามาตรฐาน เพราะเท้าและขาของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักทั้งตัวของเราเมื่อเป็นการไม่สมดุลแล้ว หัวเข่าของเราก็ต้องทำงานหนักมากมายขึ้น มีภาระเยอะแยะขึ้น หากมีภาวะไม่ปกติเช่นน้ำหล่อเลี้ยงไขข้อน้อย ก็จะทำให้ปรากฏการเสียดสี และสึกหรอของกระดูกเข่าทำให้เป็นการขัดและกลายเป็นข้อเข่าเสื่อมในที่สุด
            สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

  • ประการแรกคงมาจากเรื่องอายุ ร่างกายของเราจะเสื่อมไปตามอายุที่มากมายขึ้น เพราะร่างกายนั้นไม่สามารถสร้างสารหล่อเลี้ยงในข้อเข่าได้เพียงพอนั้นเอง
  • เพศ หากเป็นเพศหญิงแล้วมักมีโอกาสเป็นโรคเข่าเสื่อมหลากหลายกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า เพราะเพศหญิงขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนมากมายกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเพศหญิงที่หมดประจำเดือนแล้วจะมีโอกาสเป็นได้ง่ายกว่าปกติ
  • น้ำหนัก ส่วนใหญ่แล้วเราจะพบว่า คนที่มีน้ำหนักเยอะมากกว่ามาตรฐานข้อเข่ายิ่งต้องรับภาระหนักขึ้น ทำให้เกิดสภาพข้อเข่าเสื่อมได้ง่ายกว่าคนน้ำหนักน้อย
  • ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จะมีความเสี่ยงสูงมากมายอยู่แล้ว
  • ใช้ข้อเข่าบ่อยๆ การใช้บ่อยแบบไม่ถูกต้องนั้นก็ย่อมจะเสื่อมเร็วกว่าคนปกติหลายเท่านัก

    สภาพของโรคข้อเข่าเสื่อม

  • ในช่วงแรกมักจะพบอาการปวดเมื่อยตึง ทั้งในบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง
  • มีสภาพปวดหนักมากขึ้นเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง มักบอกได้ว่าปวดบริเวณใด
  • เริ่มมีสภาพเสียงในหัวเข่า เวลาเดินรู้สึกขัดๆเดินไม่สะดวก
  • มีอาการบวมและเกิดการอักเสบอย่างเห็นได้ชัด เริ่มมีการเสียรูปร่างของหัวเข่าให้เห็นอย่างชัดเจน จนบางรายเดินไม่ได้

    วิธีปกป้องและวิธีการฟื้นฟู โรคข้อเข่าอักเสบ
    วิธีฟื้นฟู
    หมั่นออกกำลังกายแต่ไม่ควรใช้หัวเข่าหนักมากมายจนเกินไป ลดการใช้หัวเข่าในแบบที่ไม่เหมาะสม ทานอาหารบำรุงน้ำไขข้อในกระดูกให้มากมายๆ ทานแคลเซียมและวิตามิน
    สมุนไพรรักษาโรคเข่าเสื่อม
    วิธีการรักษา    ไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจว่าเป็นโรคหัวเข่าเสื่อมระดับไหนแล้ววินิจฉัยว่าโรคนั้นสามารถปกป้องให้หายได้หรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะใช้เครื่องมือตรวจสอบว่าหัวเข่านั้นเสื่อมหลากหลายขนาดไหน หากอาการเริ่มต้นอาจจะสั่งยาแก้อักเสบ และยาปกป้องในเบื้องต้นหากทานไปแล้วไม่ดีขึ้นก็จะต้องทำการผ่าตัดและกายภาพบำบัดในลำดับต่อไป ในบางครั้งโรคเข่าเสื่อมนี่ก็มาจากการหกล้มง่ายๆด้วย เราควรระมัดระวังคุณพ่อคุณแม่ที่ท่านอายุเยอะแยะแล้ว จะดีที่สุดนะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาเข่าเสื่อม

    ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=U4Gm1psd9ag

    Tags :  วิธีรักษาโรคเข่าเสื่อม, สมุนไพรจีนรักษาโรคเข่าเสื่อม, โรคเข่าเสื่อม
#5
โรคซีพี โรคสมองพิการในเด็ก
                โรคสมองพิการในเด็ก หรือโรคที่หลายๆคนเรียกว่าโรคซีพี ปรากฏจากความบกพร่องของสมองในเรื่องอาการกล้ามเนื้อ อาจจะมีอาการแตกต่างกันไป ปรากฏการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ การขยับแขนขา ลำตัวและใบหน้า และอาจจะมีการอาการทรงตัวที่ผิดปกติ เด็กที่มีปัญหาโรคนี้มักจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมกล้ามเนื้อเรื่องการกินมาก และการควบคุมลมหายใจ ทำให้ในเด็กเป็นบางรายอาจจะพูดได้ไม่ชัดมาก แต่เด็กที่ป่วยเป็นโรคซีพีนี้ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ป่วยโรคนี้จะมีIQ กว่า 70 ในบางรายอาจจะเยอะเยอะแยะกว่าเด็กปกติด้วย
            ที่มาของโรคสมองพิการ
            เป็นจากความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่ก่อนเกิดขึ้น ถึงประมาณ 7 ขวบ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนาและเติบโตเต็มที่ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่นอาการการติดเชื้อในสมอง การประสบอุบัติเหตุตอนคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่มีโรคประจำตัวอย่างโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เกิดขึ้นโรคภูมิคุ้มกันต่ำที่ส่งผลทารกในครรภ์ อาจจะเป็นเด็กที่คลอดยากเยอะแยะ  ได้รับออกซิเจนต่ำในช่วงอยู่ในครรภ์ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด เด็กที่ได้รับความกระทบกระเทือนหลังคลอดในช่วงก่อนอายุ 7 ขวบหลากหลาย
            อาการของโรคสมองพิการ

  • เริ่มเป็นมีอาการเกร็งของแขนและขาทั้งสองข้าง
  • เป็นไม่สามารถตั้งคลานได้ด้วยตัวเอง
  • มีอาการเกร็งของแขน ขา ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
  • มีอาการเกร็ง และอาการกำมือตลอดเวลา แม้เด็กจะโตขึ้นแล้วก็ตามมักจะแอบกำมือแน่นอยู่บ่อยๆ
  • เมื่อให้เด็กนั่งลง เด็กจะมีอาการคอพับไปด้านหลัง
  • เด็กไม่สามารถทรงตัวได้ด้วยตัวเอง มีอาการอ่อนปวกเปียกอยุ่ตลอด
  • สภาพเด็กไม่สามารวางเท้าราบอยู่กับพื้นได้เลย
  • มีอาการไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ยิ่งตื่นเต้นกล้ามเนื้อจะทำงานผิดปกติหนักเยอะแยะ

    ฟื้นฟูโรคสมองพิการ
          ไม่สามารถฟื้นฟูได้ แต่จะต้องดูแลคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ให้ดี หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย  อย่าให้กระทบกระทั่งช่วงตั้งครรภ์ หมั่นออกกำลังกายเบาๆตอนตั้งครรภ์ หลังเด็กคลอดมาแล้วระวังอย่าให้เค้าหกล้ม โดนกระทบกระเทือนที่สมองมาก
    ฟื้นฟูโรคสมองพิการ
          ส่วนใหญ่แล้วจะต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยว่าควรจะฟื้นฟูแบบใดดี  มีอาการอยู่ไหนระดับไหนแล้ว อาจจะมีการทานยา การปรับขนาด ย้ายเส้นเอ็น นวดแผนไทย ทานยาบำรุง ผ่าตัดกระดูก ทานยาลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำกายภาพบำบัด แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรแสดงอาการน้อยอกน้อยใจ หรือรังเกียจเค้า ควรให้กำลังใจให้เค้าพร้อมต่อสู้กับโรคภัยที่เค้าได้เจอ
          โรคนี้ไม่ใช่โรคอันตรายมากมาย เราสามารถปกป้องให้หายได้ แต่สิ่งที่เด็กๆต้องการมาก ที่สุดคือการให้กำลังต่อเด็ก ระหว่างตั้งครรภ์คุณพ่อคุณแม่ควรรักษาตัวเอง อย่างดี ทานอาหารที่มีประโยชน์เสมอนะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาซีพี

    ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=6vfZ3mfUoSA

    Tags :  สมุนไพรจีนรักษาโรคซีพี, ประสบการณ์ผู้ป่วย, รักษาโรคซีพี
#6
โรคงูสวัด โรคผิวหนังที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
            โรคงูสวัดหรือโรคเริมที่รู้จักกันมาก เป็นโรคผิวหนังที่เริ่มเป็นจากการติดเชื้อไวรัส ที่เป็นเชื้อชนิดเดียวกันกับสภาพโรคอีสุกอีใส ที่ทำให้ผิวหนังของเราเริ่มเป็นสภาพขึ้นผื่นแพ้ เป็นตุ้มน้ำใสๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเป็นขึ้นเป็นแนวยาวๆ บริเวณบั้นเอวและชายโครง เป็นตั้งแต่สะดือถึงกลางหลัง แต่ในบางคนก็เป็นได้ที่ หน้า แขนซ้าย แขนขวา ส่วนใหญ่แล้วมักเริ่มเป็นขึ้นเองแล้วก็จะหายได้เองเมื่อเวลาผ่านพ้นไป ในคนที่มีภูมิคุ้มกันสูงร่างกายแข็งแรง มักจะไม่เป็นภาวะโรคแทรกซ้อนแต่บางคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำนักมักเป็นโรคแทรกซ้อน หลายคนที่เชื่อว่าหากโรคงูสวัดนั้นพันครบรอบเมื่อไหร่จะตาย ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพราะร่างกายเกิดขึ้นโดนโรคแทรกซ้อน จนร่างกายอ่อนแอและเสียชีวิตในที่สุด
            ที่มาของโรคงูสวัด

  • เริ่มเป็นจากเชื้อไวรัส Varicella zoster virus ที่เข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปแอบซ่อนอยู่ในปมเส้นปราสาททำให้ปรากฏโรคอีสุกอีใสในตอนแรกหลังจากที่หายแล้วก็จะเริ่มเป็นเป็นโรคงูสวัด เพราะเชื้อไวรัสนั้นจะเข้าไปแอบในปมประสาทแล้วปล่อยเชื้อไวรัสออกมาทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเริ่มเป็นสภาพบวมและอาการอักเสบ
  • ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ และอายุเยอะมาก
  • ถูกกระทบกระเทือนทางด้านร่างกาย และด้านจิตใจ
  • ทำงานหนักมากมาย พักผ่อนไม่เพียงพอ และมีโรคประจำตัว
  • ติดเชื้อ HIV

    สภาพของโรคงูสวัด
    ก่อนจะมีการขึ้นผื่น มักจะมีสภาพปวดแปลบๆบริเวณต้นกำเนิดของโรค อาจจะมีปรากฏสภาพคันและสภาพแสบร้อนแสบไหม้หลากหลายร่วมด้วย คล้ายกับสภาพน้ำร้อนลวกและไฟไหม้  เป็นครั้งคราวแต่ในบางรายที่แพ้หนักมากมายจะมีอาการแสบร้อนอยู่ตลอดเวลาในบริเวณที่เกิดโรคงูสวัด ร่างกายจะปรากฏมีภูมิคุ้มกันลดต่ำลง เมื่อผ่านไป 2-3 วันจะเกิดขึ้นผื่นตุ่มใสๆขึ้นเต็ม เรียงกันเป็นกลุ่มๆหรือเป็นแนวยาว หลังจากนั้นตุ่มก็จะแตก แล้วตกสะเก็ดแห้งหายไปเอง ในบางรายหลังแผลแห้งไปแล้วมักเป็นสภาพแสบร้อนแสบไหม้ก็ต้องฟื้นฟูต่อไป ระวังอย่าให้สภาพภูมิคุ้มกันลดต่ำลงจนเกินไป
    การดูแลโรคงูสวัด
    ส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันสภาพโรคอีสุกอีใส ตั้งแต่เด็กซึ่งฉีดตอนอายุ 1 ขวบ จะสามารถป้องกันได้ตลอดชีวิต หากฉีดตอนที่อายุ 13 ขวบนั้นต้องฉีด 2 เข็มเพื่อป้องกันตลอดอายุขัยนั้นเอง
    การปกป้องโรคงูสวัด
    ไปพบแพทย์เพื่อปกป้องโรคงูสวัดได้ตามอาการซึ่งเราสามารถทานยา เพื่อรักษาอาการปวด ส่วนใหญ่จะมียาทาโดยตรงเพื่อลดอาการบวมและอักเสบของผิวหนัง แต่หากมีอาการรุนแรงนั้นต้องทานยาปฎิชีวนะร่วมด้วย แต่หากในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะต้องทานยาต้านไวรัสร่วมด้วย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดสภาพแทรกซ้อนต่อไป โรคนี้สามารถดูแลได้ง่าย และยังสามารถฟื้นฟูได้อีกด้วย
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษางูสวัด

    ขอบคุณบทความจาก : https://www.google.co.th

    Tags : สมุนไพรรักษางูสวัด
#7
โรคโลหิตจาง ภัยร้ายที่เราไม่รู้ตัว
            โรคโลหิตจางโรคนี้เป็นที่รู้จักดีเลยล่ะ เพราะตอนเด็กๆเรามักจะถูกทางโรงเรียนบังคับให้กินธาตุเหล็กเสริมอยู่เสมอ โรคโลหิตจางเกิดขึ้นเริ่มเป็น จากการลดจำนวนเม็ดเลือดแดงลงอย่างรวดเร็วมากมาย หรือปรากฏปรากฏการที่ร่างกายมีอาการจำนวนฮีโมโกลบินในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้การอาการขนส่งออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ร่างกายลดน้อยลง ทำให้เริ่มเป็นภาวะสภาพเลือดขาดออกซิเจนหรือเรียกว่าโลหิตจางนั้นเอง วันนี้เราเลยถือโอกาสมาทำความรู้จักโรคโลหิตจางให้มากมายขึ้นเพื่อปกป้องอันตรายที่จะตามมากันคะ
            ต้นเหตุของโรคโลหิตจาง
            อย่างที่ทราบกันว่า โรคโลหิตจางปรากฏจากภาวะที่ที่ร่างกายของเราผลิตเลือด หรือฮีโมโกลบินในเลือดไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะโลหิตจางมักจะเป็นบุคคลที่เป็นเริ่มเป็นเสียเลือดหรือธาตุเหล็กในปริมาณมากๆติดต่อกัน  เช่นสตรีมีครรภ์หลังคลอดบุตรจะสูญเสียธาตุเหล็กในปริมาณมากมายสตรีมีประจำเดือน เด็กแรกคลอด
            อาการของโรคโลหิตจาง
            ส่วนใหญ่แล้วหากไม่ได้ป่วยเป็นโรคโลหิตจางเริ่มเป็นแบบเฉียบพลัน ก็มักจะไม่มีสภาพแสดงออกให้เห็น สภาพที่เราพบเห็นได้บ่อยในผู้ป่วยโลหิตจางคือ มีสภาพหน้ามืดบ่อย สภาพเหนื่อยอ่อนล้า อาการไม่สบายตัว อาการหายใจไม่ทั่วท้อง อาการหัวใจเต้นเร็ว อาการระบบไหลเวียนโลหิตทำงานผิดปกติ สภาพใจสั่น อาการป้วนเค้นหน้าอก  ในบางรายอาจจะสภาพหายใจลำบากเวลาใช้แรงมาก นอกจากนี้สังเกตง่ายๆตรงที่เป็นร่างกายจะมีภาวะซีด อย่างเห็นได้ชัด อาจจะมีโรคดีซ่านแทรกซ้อนด้วยในบางราย นอกจากนี้ยังพบเริ่มเป็นอาการแขนขาบวม อาการแสบร้อนหน้าอก สภาพอาเจียน อาการเหงื่ออกมาก และมีสภาพเลือดปนในอุจจาระด้วย
            การปกป้องโรคโลหิตจาง
            โรคโลหิตจางสามารถดูแล ได้โดยการหมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ มีธาตุเหล็กสูง รับประทานอาหารเสริมอย่างเหมาะสม ออกกำลังกาย ซึ่งโรคนี้เราสามารถดูแลได้ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์เลย โดยคุณแม่ฟื้นฟูควรทานอาหารที่มีธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสมตามที่คุณหมอแนะนำก็จะทำให้เด็กที่เกิดมานั้นมีภาวะร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
            การดูแลโรคโลหิตจาง
            หากพบว่าตัวเองป่วยสภาพโรคโลหิตจาง แนะนำได้เพียงให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำปรึกษา รับยาที่เหมาะกับตัวเองมาทาน การทานยาหรือวิตามินเสริม โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์อาจจะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น ควรทานธาตุเหล็กและอาหารเสริมในปริมาณที่คุณหมอแนะนำมาเท่านั้น โรคนี้ไม่ใช้โรคอันตราย หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ มีธาตุเหล็ก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้สภาพดีมากขึ้นตามลำดับ แต่ในบางครั้งเกิดขึ้นการทานธาตุเหล็กมากเกินไปก็จะทำให้ส่งผลอันตรายต่อตับและหัวใจได้นะคะ ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโลหิตจาง

เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=1kFlGYn3Lfo

Tags :  วิธีรักษาโรคโลหิตจาง
#8
โรควัยทองก่อนวัย คือโรคอะไร
            โรควัยทองก่อนวัย ไม่ใช่โรคน่ากลัว หรืออันตรายแต่อย่างใด เป็นเพียงอาการของผู้หญิงที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเข้าสู่อายุเลข 5 ขึ้นไป หรือว่าวัยหมดประจำเดือนนั้นเอง ซึ่งในผู้หญิงบางคนอาจจะมีสภาพประจำเดือนหมดก่อนวัยอันควรซึ่งไม่ได้แปลว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องหมดประจำเดือนก่อนทุกคนเสมอไป พบโรคนี้ปรากฏในผู้หญิงที่อายุ 40 แล้วมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติเท่านั้น  ซึ่งแน่นอนว่าหญิงหมดประเดือนจะมีอาการหงุดหงิดง่าย สภาพอารมณ์เสียบ่อย ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดโรควัยทองก่อนวัยในผู้หญิง วันนี้จึงมาทำความเข้าใจโรคนี้กันคะ
            สาเหตุของโรควัยทองก่อนวัย
            ไม่มีการตรวจพิสูจน์หาที่มาเกิดขึ้นที่แท้จริงที่ทำให้เกิดโรควัยทองก่อนวัยได้ แต่ปรากฏจากการสันนิษฐานว่าอาจจะปรากฏจากอาการความเครียดสะสม สภาพนอนไม่หลับ ทานอาหารไม่เพียงพอหรือไม่มีการออกกำลังกายเลย หรืออาจจะเริ่มเป็นจากความสภาพผิดปกติของมดลุก เคยทำการผ่าตัดหรือรักษาที่มดลูก หรือการฉายแสงเองก็ทำให้เกิดขึ้นความเสี่ยงที่สภาพประจำเดือนจะมาไม่ปกติ หรือหมดก่อนวัยอันควรด้วย
            สภาพของโรควัยทองก่อนวัย
            อย่างที่เราพบกันได้บ่อยๆกับผู้หญิงวัยทองมักจะเป็นมีอาการหงุดหงิดง่าย สภาพอารมณ์แปรปรวนบ่อย อาการขาดความมั่นใจ อาการวิตกกังวลง่าย สภาพเครียดบ่อย และมักจะมีอาการร้อนเนื้อร้อนตัวบ่อยๆ อาการเหงื่อออกง่าย อาการหลงลืมง่าย อาการช่องคลอดแห้งคัน สภาพเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ สภาพกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ซึ่งสภาพเหล่านี้ส่งผลต่อบุคคลในที่ทำงาน หรือบุคคลในครอบครัวด้วย อาจจะทำให้เสียงานได้ในกรณีที่ไปเหวี่ยงในที่ทำงาน มีอาการเบื่อ หรือไม่มีความสุขเพิ่มมาอีกด้วย
            การปกป้องโรควัยทองก่อนวัย
            เราไม่สามารถปกป้องโรคนี้ได้ เพราะไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนนั้นเอง ทางเดียวที่จะช่วยปกป้องได้คือ การฟื้นฟูไม่คิดมาก การรักษาไม่เครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและเต็มที่ ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดการทานยาที่เป็นอันตรายต่อฮอร์โมนของร่างกาย และที่สำคัญไปผ่อนคลายคลายเครียดซะบ้าง ก็จะช่วยให้จิตใจของเราโอเคมากขึ้น เพราะความเครียดมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และหยุดไปนั้นเองคะ
            การรักษาโรควัยทองก่อนวัย
            หากพบว่าตัวเองมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติในช่วงอายุ 40 ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อให้แพทย์ตรวจสภาพว่า ต้นเหตุที่ประจำเดือนมาไม่ปกติเพราะอะไรกันแน่ ซึ่งหากพบว่าเป็นการหยุดไปเองโดยธรรมชาติก็ไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูหรือทานยา เพียงแต่เฝ้าระวังหมั่นมาตรวจภายในเพื่อดูแลการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเท่านั้น ผู้หญิงที่เป็นโรควัยทองก่อนวัย ควรดูแลตัวเองให้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาวัยทองก่อนวัย

ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=7sRnl_FYzSY

Tags :  วิธีรักษาโรควัยทองก่อนวัย
#9
โรคกระดูกอันตรายอย่างกว่าที่เราคิด
                โรคกระดูกโรคที่หลายคนนึกว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคกระดูกนั้นเป็นได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะมองข้ามไปเพราะคาดคะเนว่ามันเป็นโรคไกลตัวบางล่ะ โรคไม่อันตรายบ้างล่ะ ถ้าคุณไตร่ตรองแบบนี้รู้ไว้เลยว่าคุณกำลังคิดผิดอย่างแน่นอนโรคกระดูกนั้นมีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคข้อกระดูกเสื่อม โรคกระดูกทับเส้น โรคเหล่านี้สามารถเป็นได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ปกป้อง

            ต้นเหตุของการเกิดโรคกระดูก
ต้นเหตุมาจากการการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะต่างๆ มีต้นเหตุหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น การบาดเจ็บ การประสบอุบัติเหตุ การทำงานหนัก การหักโหมยกของหนัก การติดเชื้อ การเสื่อมตามอายุขัย และโรคกระดูกยังมีที่มาจากกรรมพันธุ์ด้วยในส่วนหนึ่ง หลายคนไม่ทราบว่าโรคกระดูกนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการขยับร่างกาย ของเราแบบผิดๆ ทำให้กระดูกต้องรับแรงกระแทกหนักๆ เช่นจากการทำงาน ที่เราต้องเคลื่อนไหว ร่างกายตลอดเวลา และมักจะขยับร่างกาย ส่วนใดส่วนหนึ่งซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ การออกแรงหนักๆฝืนยกของหนักทั้งๆที่ยกไม่ไหว การบิดข้อมืออย่างแรงเพื่อการขยับร่างกาย ที่รวดเร็ว พฤติกรรมความเสี่ยงเหล่านี้มักก่อให้เกิดอันตรายต่อกระดูกเราเสมอ แต่สาวๆที่นั่งทำงานในออฟฟิศอย่างเราๆก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยจากโรคนี้เพราะ การที่เราต้องนั่งในท่าเดียวนานๆ ก็อาการที่จะเกิดโรคกระดูกได้เช่นเดียวกัน และหากเราทำงานแบบที่ต้องออกแรงเยอะๆ หรือมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะพื้น ตออกเสาเข็ม หรืออยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแรงสั่นสะเทือนบ่อยๆก็ควรระวัง เพราะแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้จะไปกระแทกต่อระบบกระดูกในร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน
สภาพของโรคกระดูก
เรามักจะพบว่ามีสภาพเจ็บปวด หรืออักเสบ มีสภาพบวมตามบริเวรกล้ามเนื้อและข้ออยู่บ่อย เจ็บแบบเบาๆหรือเจ็บแบบเสียวๆก็เสี่ยงต่อโรคนี้ได้ ซึ่งอาการอาจจะมีมากมายว่านี้ขึ้นอยู่กับโรคที่เราเป็นด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่ามีระบบประสาทมาร่วมด้วย

การรักษา และการป้องกัน
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าสภาพของโรคนั้นอยู่ในขั้นที่เท่าไหร่ หากไม่รุนแรงก็สามารถใช้ยารักษาสภาพอักเสบได้ การผ่าตัดก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพของโรค การใช้วีธีทางการแพทย์เฉพาะทางเช่นการกายภาพบำบัด การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าไปในระบบกระดูก หากพบอาการกระดูกเสื่อม  ซึ่งเมื่อเราพบว่าตัวเองมีสภาพผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ก่อนที่อาการจะลุกลาม และเกิดเป็นโรคกระดูกเรื้อรัง เพราะจะทำให้เราต้องเสียเวลาในการไปดูแลนานมากมายขึ้น
เห็นไหมล่ะค่ะว่าโรคกระดูกนั้นปรากฏได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ต้องปกป้องสุขภาพตัวเองให้มากนะคะ เพราะสุขภาพของเราไม่มีขายนั้นเองค่ะ
สมุนไพรรักษาโรคกระดูก

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษากระดูก

เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=L2kw_pblF2c

Tags : สมุนไพรรักษาโรคกระดูก, สมุนไพรจีนรักษาโรคกระดูก, ประสบการณ์ผู้ป่วย
#10
การรักษาโรคไตด้วยสมุนไพร
สมุนไพรกับการใช้รักษาโรคไต เป็น{ทางเลือกโอกาสที่ดีพอสมควรสำหรับ{ผู้ป่วยคนป่วยจากโรคไตในระยะ{เริ่มต้นหนึ่งและระยะ{กลางปานกลาง ไม่ถึงขั้นต้องฟอกไต สมุนไพรไทยจริงแล้วเป็นที่{ต้องการจำเป็นในวงการแพทย์{มากเยอะแยะเนื่องจากทุกตัว จะมี{สรรพคุณคุณสมบัติที่ช่วย{รักษาประคองอาการป่วย ต่างได้ และหาง่าย{มากหลากหลายในประเทศไทยของเราจากงาน{วิจัย ค้นหา {มากหลากหลาย ทำให้สมุนไพรนั้นเป็นที่ยอมรับในวงการนานาชาติ เพราะ{สรรพคุณความสามารถที่โดดเด่นในตัวของสมุนไพรเอง และยังสามารถนำมา{ประยุกต์ปรับใช้ เพื่อเป็นยา{รักษาประคองโรคต่างได้ดี และเรื่องที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ได้รับการ{วิจัย ค้นคว้า มานานพอสมควรกับ สมุนไพรรักษาโรคไต สมุนไพรที่ใช้รักษาโรคไตนั้นต้องแยกเป็น2 ประเภทคือ
1.สมุนไพรรักษาโรคไตประเภทบำรุงไต สมุนไพรประเภทนี้จะเหมาะกับโรคไตทุกประเภทเลย เพราะจะช่วย{บำรุงรักษาไตทำให้ไตทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ไตสามารถกรองของ{เสียเน่าได้ดี{มากเยอะ แยะขึ้น สมุนไพรประเภทนี้ได้แก่ กระชายเหลืองหรือกระชายที่ใช้แกง ซังข้าวโพด ไหมข้าวโพด เห็ดหลินจือ ลูกหม่อน ถั่วเหลือง และหญ้าใต้ใบซึ่งสามารถนำมา{ผสมรวม กับน้ำต้ม{ดื่มทานได้ หรอจะบดเป็นผงนำมาชงเป็นชาก็ได้ ซึ่งจากผลการ{วิจัยศึกษา สามารถ{ดื่มกินได้ไม่มีผลข้างเคียงเนื่องจากเป็นสมุนไพร ธรรมชาติ และสามารถ{ดื่มกินติดต่อกันได้เพื่อรักษาโรคไตได้ดี และในปัจจุบันเองก็มีผลิตภัณฑ์ยาแคปซูล เครื่องดื่ม ต่างๆ{มากหลากหลาย ที่ผลิตออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ไม่สามรถหาซื้อสมุนไพรเหล่ามา ต้ม{ดื่มกินได้เองคะ
2.สมุนไพรรักษาโรคไตประเภทขับปัสสาวะ สมุนไพรประเภทนี้จะไม่เหมาะกับโรคไตประเภทไตวายฉับพลัน หรือโรคไตที่ห้ามการขับถ่ายเกลือแร่ออกจากร่างกาย สมุนไพรรักษาโรคไตประเภทขับปัสสาวะนี้เหมาะกับโรคไตที่มีอาการบวมเนื่องจาก ไตไม่สามารถขับของเสียออกได้ทันก็ควรจะ{ดื่มกินสมุนไพร ประเภทนี้ ได้แก่ หญ้าหนวดแมว และตะไคร้ ซึ่งสมุนไพรสองตัวนี้จะช่วยในเรื่องการขับของ{เสียเน่าออกทาง ปัสสาวะได้ดี{มากเยอะแยะ และก็ไม่มีผลข้างเคียง  เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตทุกประเภทยกเว้นประเภท ไตวายฉับพลัน ซึ่งก็มีทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูป หรือแบบชง
ซึ่งสมุนไพรทั้งสองแบบนี้สามารถช่วยรักษาโรคไตได้ดี แม้จะไม่หายขาด แต่สามารถ{ทุเลาลดอาการของโรคไตได้ เชื่อว่าในอนาคตคงมียาที่ทำจากสมุนไพร{รักษาดูแลโรคต่างได้อย่าง แน่นอน แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเองนอกจากจะต้องทานยาตามหมอสั่ง ทานยาสมุนไพรแล้วก็ควรต้องดูแลสุขภาพงดอาหาร หวาน มันเค็ม ตามที่คุณหมอสั่งกันด้วยนะคะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่สนใจและกำลังป่วยเป็นโรคไตกัน อยู่ด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาไต

เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=q6maWjdtNDY

Tags : สมุนไพรรักษาโรคไต, วิธีรักษาโรคไต, รักษาโรคไต
#11
โรคเครียด ปัญหาของคนรุ่นใหม่
            โรคเครียดเป็นโรคที่เป็นขึ้นในสังคมสมัยใหม่นี่ ในประเทศไทยพบว่ามีอัตราผู้ป่วยโรคเครียดสูงกว่าปกติ โรคเครียดนี้เราเชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากเป็นกันนักหรอก โรคเครียดเกิดขึ้นการที่คนเราต้องมีภาระเยอะแยะ ต้องคิดหนัก และตัดสินใจ เรื่องราวต่างๆในชีวิตล้วนนำพามาซึ่งความเครียดให้คนหนึ่งได้มากมายเพราะหากเราเครียดขึ้นมาจะยิ่งทำให้จิตใจย่ำแย่ลงไปหลากหลาย จนบางคนถึงขั้นตัดสินใจอะไรผิดลงไป จิตใจย่ำแย่ไม่พอร่างกายของเราก็จะทรุดโทรมลงไปด้วย เพราะนอนไม่หลับ คิดวนไปวนมา จนปวดหัว โรคเครียดเป็นต้นเหตุของโรคมากตามมา
            ที่มาของโรคเครียด
            โรคเครียดส่วนใหญ่มักจะมีเกิดขึ้นสาเหตุมาจากเรื่องในครอบครัว เรื่องงาน เรื่องลูก เรื่องเงิน สารพัดเรื่องที่ที่ปรากฏโดนรุมเร้าในแต่ละวัน ที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้จิตใจของเราวิตกกังวล และไม่พร้อมที่จะคิดและตัดสินใจอะไรต่ออีก ในบางครั้งเราเครียดก็อาจจะไม่รู้ตัวมากมายนัก โรคเครียดไม่ได้ปรากฏขึ้นจากเรื่องใหญ่โตเสมอไป เรื่องเล็กก็เป็นบ่อปรากฏแห่งความเครียดได้ ความเครียดมักเริ่มเป็นจากปัญหาที่เราไม่รู้ว่าต้องจัดการมันอย่างไรนั้นเอง
            สภาพของโรคเครียด
            ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยโรคเครียดมักจะเป็นมีอาการปวดหัว สภาพนอนไม่หลับ สภาพกระสับกระส่าย อาการรู้สึกอึดอัด ไม่มีสมาธิ อาการปวดท้อง สภาพทานอาหารไม่ค่อยได้ อาการอาหารไม่ย่อย อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จิตใจอยู่ไม่นิ่ง อาการหายใจหอบเหนื่อยมากมาย หัวใจเต้นเร็วมากมายขึ้น อาการมื้อเย็นเท้าเย็น สภาพร่างกายเริ่มตึง เมื่อยกล้ามเนื้อทุกส่วน และหากคิดมากจะยิ่งทำให้ร่างกายสภาพช๊อคได้ ที่สำคัญเรื่องอารมณ์ที่เกิดขึ้นขึ้นลงๆ ทำให้คนรอบข้างกลัวหรือไม่กล้าคุยด้วย และอาจจะมีนิสัยที่เริ่มเปลี่ยนไป อาจจะขี้บ่นมากขึ้น สร้างความกดดันให้คนในครอบครัว จนทำให้คนอื่นๆเครียดตามไปด้วย เป็นปัญหาที่อาจจะทำให้คนในครอบครัวแตกแยกกัน
            การปกป้องโรคเครียด
            หมั่นพูดคุยกับคนในครอบครัว มีปัญหาอะไรก็ปรึกษากัน อย่าคิดมาก หมั่นนั่งสมาธิ ปล่อยให้จิตใจสงบ ทานอาหารที่มีประโยชน์ที่มีผลช่วยน้อยความเครียด หัดมองโลกในแง่บวก อย่าไปคิดในแง่ลดลงจนเกินไป หมั่นไปคลายเครียดให้สม่ำเสมอ ไปวัดทำบุญ ออกกำลังกายเพื่อทำให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์อย่าปล่อยให้ตัวเองว่างเพื่อที่จะได้ไม่มีลดลงเวลาคิดฟุ้งซ่าน
            การดูแลโรคเครียด
            เราสามารถรักษาโรคได้โดยตัวเราเอง คือจัดการปัญหาทั้งหมดของตัวเองให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเผชิญกับปัญหา สู้จนกว่าจะหมดปัญหาน้อยลงไป การหนีปัญหา เพื่อน้อยความเครียดทั้งหมดให้หายไป เมื่อเราแก้ปัญหาได้แล้วเรื่องราวที่ทำให้เราเครียดก็จะน้อยลงลงไป ควรฟื้นฟูสุขภาพจิตไม่ให้กังวลและเครียดอยู่เสมอนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาเครียด

ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=wPOI3pdQPso

Tags :  วิธีรักษาโรคเครียด, รักษาโรคเครียด
#12
สมุนไพรรักษาโรคเกาต์สมุนไพรรักษาโรคเกาต์ที่สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการ ได้แก่ ชาตะไคร้ มะกรูด กระเทียม มะละกอดิบ ใบมะรุม ใบย่านาง มะตูม มะเฟือง ใบรางจืด ใบยอ ผู้ที่เป็นโรคเกาต์หรือมีอาการของโรคเกาต์สามารถหาสมุนไพรเหล่านี้มารับ ประทานได้โรคเกาต์          โรคเกาต์เป็นโรคที่เป็นในผู้ชายโดยส่วนมาก เพราะว่าผู้ชายมีอัตราการเป็นโรคนี้มากกว่า ผู้หญิง 20 เท่า โดยโรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดสูง ทำให้มีอาการบวมที่ข้อต่อในร่างกายซึ่งผู้ป่วยส่วน ใหญ่จะมีอาการบวมที่นิ้วหัวแม่เท้าเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากกรดยูริกตกตะกอนมาและไปรวมกันที่บริเวณข้อต่อและเส้น เอ็นต้นตอและปัจจัยเสี่ยงของโรคเกาต์โรคเกาต์มีต้นเหตุการเกิดโรค ดังข้อต่อไปนี้1.มีกรดยูริกในเลือดทำให้ตกผลึกและไปสะสมในข้อต่อและเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆส่งผลให้เกิดอาการข้อต่ออักเสบเฉียบพลันและเจ็บปวดอย่างรุนแรง2.ไตมีการขับกรดยูริกออกจากร่างกายน้อยลง3.มีต้นตอเกิดจากทางพันธุกรรม4.ร่างกายทำการสร้างกรดยูริกมากเกิน        ธรรมดา เนื่องจากความผิดปกติของเอนไซม์ในสารพิวรีน5.ได้รับยาที่ส่งผลต่อการขับกรดยูริกเป็นเวลานาน6.มีโรคประจำตัวเช่นเช่น เบาหวาน หรือโรคอ้วนอาการของโรคเกาต์   1.ปวดบริเวณข้อต่อ และบริเวณนิ้วหัวแม่เท้ามีอาการ บวม แดง และปวดแสบปวดร้อน ที่อาการปวดมักเป็นๆหายๆ2.ข้อต่อแดงบวม และแสบร้อน3.ตัวร้อนและมีไข้ขึ้นสูง4.มีปุ่มเนื้อ โผล่ออกมาจากผิวหนังที่บริเวณ นิ้วมือ นิ้วเท้า หรือตาตุ่มรวมถึงข้อศอกโดยปุ่มที่โผล่ออกมาจะกัดกินกระดูกบริเวณนั้นและอาจเป็นผลให้พิการได้ซึ่งข้อนี้จะเกิดแก่ผู้ที่เป็นโรคเกาต์นานกว่า 5 ปีเท่านั้น5.มีอาการนิ่วในไตร่วมด้วย


วิธีการรักษาโรคเกาต์                    ในตอนนี้ทางการแพทย์ได้รักษาผู้ป่วยโรคเกาต์หลายวิธีการ ดังนี้1. รักษาโดยการกินยาเพื่อระงับอาการปวด2.รักษาโดยการควบคุมอาหารบางอย่าง3.รักษาโดยการใช้ยาลดอาการอักเสบเฉียบพลัน4.รักษาโดยให้ยาลดกรดยูริกโดยนอกจากวิธีการเหล่านี้ยังมีการรักษาแบบอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงร่วมด้วยวิธีปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เป็นโรคเกาต์ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรระมัดระวังเรื่องอาหารการกินและต้องปฏิบัติตนดังนี้

  • ละเว้นการเดินหรือวิ่งเมื่อมีอาการปวดข้อต่อกำเริบ
  • ละเว้นอาหารที่มี พิวลีน ไขมัน กรดยูริกสูง
  • ละเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดสูบบุหรี่

    4.ระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุตรงบริเวณข้อต่อต่างๆเพื่อป้องกันการกำเริบของโรค5.ดื่มน้ำมากๆ

  • งดการรับประทานอาหารทะเล และควรทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง
  • ลดอาหารที่มีแคลอรี่สูง


    สมุนไพรรักษาโรคเกาต์สมุนไพรรักษาโรคเกาต์ที่สามารถ  ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการ ได้แก่ ชาตะไคร้ มะกรูด กระเทียม มะละกอดิบ ใบมะรุม ใบย่านาง มะตูม มะเฟือง ใบรางจืด ใบยอ บุคคล  ที่เป็นโรคเกาต์หรือมีอาการของโรคเกาต์มีวิธีหาสมุนไพรพวก  นี้มารับประทาน  ได้

    สมุนไพรรักษาโรคเก๊าต์
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาเก๊าต์

    ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=IlTRG9wHV4I

    Tags :  วิธีรักษาโรคเก๊าต์, สมุนไพรจีนรักษาโรคเก๊าต์, โรคเก๊าต์
#13
สมุนไพรบ้านๆ ก็บอกลาโรคไมเกรนได้
โรค ไมเกรน ถือได้ว่าเป็นอีกโรคหนึ่งที่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนอย่างมากเลย ล่ะ เพราะว่าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายจากสภาพแวดล้อมทั่วไปรอบ ตัวของเรา จากพฤติกรรมของเราและยังสามารถติดต่อผ่านทางกรรมพันธุ์ได้อีกด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าเราอาจจะคิดแค่ว่าโรคไมเกรน ก็คือการปวดหัวข้างเดียวธรรมดาๆ เป็นไม่บ่อยมากเท่าไหร่สามารถหายได้เอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคไมเกรนเป็นอีกโรคหนึ่งที่น่ากลัวนะ
อาการของโรคไมเกรน เกิดจากการหดตัวและขยายตัวของหลอดเลือดในสมองของเราอย่างรวดเร็วและฉับ พลัน ซึ่งจะสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป และจะมีโอกาสที่เป็นมากกับคนอายุตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป โดยจะมีอาการปวดหัวตุบๆข้างเดียวหรือทั้งสองข้างเป็นจังหวะ ซึ่งใครที่เป็นมาก ก็จะปวดหัวจนไม่สามารถทำงานได้เลยล่ะ โรคไมเกรนสามารถเกิดได้หลายสาเหตุดังนี้
- นอนน้อย นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
- เกิดจากความเครียดที่ได้รับ
- มองแสงในที่ที่มีความสว่างจ้ามากเกินไป
- อากาศต่างๆที่เราได้สูดดมเข้าไป
- ฯลฯ
การ รักษาโรคไมเกรน สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นทั้งกินยาบรรเทาต่างๆที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย ยาทั่วไป ยาบรรเทาอาการปวดไมเกรนโดยเฉพาะ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพ และอื่นๆอีกมากมายรวมไปถึงการทานสมุนไพรรักษาโรคด้วยนะ โดยในปัจจุบันนี้นิยมสมุนไพรรักษาโรคไมเกรนอย่างมากเลยล่ะ และสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคไมเกรนก็มีคร่าวๆ ดังนี้
ดอกแค
มีคุณสมบัติ ในการดูแลร่างกายอย่างมาก มีทั้งแก้โรคบิด แก้มูกเลือด ลดอาการท้องร่วง อีกทั้งยังช่วยดูแลประสาท แก้ปวดศีรษะ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคไมเกรนได้อีกด้วย
ใบบัวบก
มีคุณสมบัติ ในการบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย รักษาแผล ช่วยห้ามเลือด ลดความดันและอื่นๆอีกมากมายรวมไปถึงลดอาการเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆของร่างกาย รวมไปถึงระบบประสาทอีกด้วย
กระเทียม
มีคุณสมบัติใน การบำรุงประสาทโดยตรง ช่วยบรรเทาและรักษาอาการปวดไมเกรนได้อย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และอื่นๆอีกด้วย
ซึ่งจากสมุนไพรเหล่านี้ เราจะเห็นได้ว่าไม่เพียงแต่ลดอาการปวดหัวจากโรคไมเกรนเท่านั้น ยังมีส่วนช่วยในการดูแลเส้นประสาทโดยตรงเพื่อลดความเสี่ยง การเกิดโรคไมเกรนรวมไปถึงดูแลส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อลดอัตราการเกิดโรคอื่นอีกด้วย การเลือกใช้สมุนไพรรักษาโรค ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สามารถทำได้ง่ายในชีวิตประจำวันของเรานะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาไมเกรน

เครดิตบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=um1fILxLJKY

Tags : สมุนไพรรักษาโรคไมเกรน, สมุนไพรจีนรักษาโรคไมเกรน, รักษาโรคไมเกรน
#14
ยาเยียวยารักษาโรคสะเก็ดเงิน

ในการเยียวยารักษาโรคสะเก็ดเงินเป็น อีกโรคภัยหนึ่งที่สร้างความไม่มั่นใจในการดำเนินชีวิต ให้กับผู้เจ็บป่วย ซึ่งในการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยโรคนี้ เนื่องจากโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคภัยเรื้อรัง ผู้เจ็บป่วยควรจะหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อ ให้เกิดความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลจากยาบางชนิด สภาพอากาศ หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ ก็ส่งผลให้เกิดโรคนี้ได้

วิถีทางในการดูแลรักษาความเจ็บ ป่วยนี้จึงสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มยาทา กลุ่มยาบริโภค และกลุ่มของยาฉีด ซึ่งการพิจารณาใช้ยาเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับอาการอักเสบทางผิวหนังของผู้ ป่วย ซึ่งแต่ละกลุ่มสามารถอธิบายได้ ดังต่อไปนี้

  • ยาทา แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่

    1) ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์  เป็นยาที่นิยมใช้ในการบำบัดรักษาโรคสะเก็ดเงินอาจมีรูปแบบของขี้ผึ้ง ครีม สารละลาย ซึ่งการเลือกใช้ยานั้นก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของผู้ป่วย ว่ามีอาการมากหรือน้อยเพียงใด เช่น หากผู้เจ็บป่วยเป็นผื่นหน้าตามร่างกาย มักใช้ยาในรูปแบบของขี้ผึ้ง หากผู้ป่วยมีลักษณะเป็นผื่นบางบริเวณหน้า หรือข้อพับต่างๆ  มักใช้ยาในรูปแบบของครีม หากมีผื่นหนาที่ศีรษะ มักใช้ยาในรูปแบบของครีมเหลว หรือครีมน้ำนมเพื่อให้ซึมเข้าสู่หนังศรีษะได้เป็นอย่างดี ข้อดี
    2) ยาทากลุ่มน้ำมันดิน (crude coal tar or wood tars)  เป็นสารเคมีที่สกัดได้จากธรรมชาติเช่น ถ่านหิน หรือซากต้นไม้ที่ทับถมกันเป็นเวลานาน ที่มีชื่อเรียกว่า ไฮโดรคาร์บอน (hydrocarbon)  ซึ่งจะสามารถออกฤทธิ์ช่วยให้ผื่นของโรคสะเก็ดเงินนี้หายได้ ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันดินให้เลือกใช้ได้อย่างง่าย ๆ เช่น แชมพูผสมน้ำมันดิน (tar shampoo)           
    3) ยาทากลุ่มแอนทราลินหรือดิทรานอล (anthralin or dithranol)เป็นสารเคมีที่สกัดจากผลไม้ตระกูลถั่วที่มีในทวีปอเมริกาใต้และ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราสามารถบำบัด รักษาผื่นสะเก็ดเงินได้ ซึ่งสามารถสกัดมาใช้ได้ทั้งในรูปแบบขี้ผึ้งและครีม ข้อสมควรระวังไม่พึงจะใช้ ยานี้กับบริเวณผิวหนังที่บอบบาง หรือผิวหนังปกติ เป็นยานำเข้าและยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
    4) ยาทากลุ่มกรดซาลิซิลิก (salicylic acid)เป็นยาในรูปแบบครีมหรือขี้ผึ้ง มีฤทธิ์ทำเอาสะเก็ดหรือขุยของ สะเก็ดเงินลอกออก ยาชนิดนี้สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี เหมาะกับการใช้บริเวณศีรษะ ข้อน่าจะระวังคือไม่ควรจะ ใช้ยานี้ในเด็กเล็ก
                    5) ยาทากลุ่มแคลซิโพทริออล (calcipotriol)เป็นยาในรูปแบบครีม ขี้ผึ้ง และสารละลายช่วยให้ไม่มีกลิ่นเหม็น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และกดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง
    6) ยาทากลุ่มเรทินอล (retinol)สารในกลุ่มวิตามิน A อยู่ในช่วงทดลองใช้กับผู้เจ็บป่วยสะเก็ดเงิน เป็นยาที่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
    7) ยาทาให้ผิวชุ่มชื้นยาทาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง เพื่อลดการระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง

  • ยาบริโภค

    1.) ยากินเมโทเทร็กเซต (methotrexate)  เป็นยาที่เหมาะกับผู้เจ็บป่วยที่เป็นผิวหนังรุนแรงและร่างกายไม่ ตอบสนองกับการทายาหรือเป็นผื่น แต่มีข้อเสียคือจะส่งผลต่อเซลล์ตับและไตของผู้ป่วยด้วย ยานี้จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นความเจ็บ ป่วยตับ ไต วัณโรคปอด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรง มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือห้นมบุตร
    2) ยาบริโภคเรทินอยด์ (retinoids)ยากลุ่มเดียวกับเรทินอล คืออยู่ในกลุ่มวิตามินเอ มีฤทธิ์ในการควบคุมผื่นสะเก็ดเงินที่เป็นตุ่มหนองั่วตัวและผื่นหนาตามฝ่ามือ ฝ่าเท้าได้ดี ยานี้มีผลข้างเคียงคือจะเป็นเหตุให้ริม ปากแห้ง แตก ผิวแห้งคัน ผมร่วงทั้งศีรษะ สตรีที่ตั้งครรภ์ไม่น่าจะรับประทาน
    3) ยาทานไซโคลสปอริน (cyclosporin)ยากลุ่มนี้จะลดการอักเสบที่ผิวหนัง เนื่องจากมีฤทธิ์ในการกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่จะไปกระตุ้นเซลล์ผิวหนัง ให้เพิ่มจำนวน ไม่ควรจะใช้กับผู้เจ็บป่วยที่มีไตพิการ เป็นความดันโลหิตสูง มีประวัติเป็นความเจ็บป่วยมะเร็ง หญิงมีครรภ์ให้นมบุตร ผู้มีความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และผู้มีประวัติแพ้ยานี้มาก่อน
    3) ยาฉีดกลุ่มชีวสาร (biologic agents)
                    เป็นยาฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือใต้เส้นเลือด เป็นกลุ่มที่จะออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผื่น ผิวหนังอักเสบ และอาการปวดข้อของผู้ป่วยดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็มีราคาแพง เมื่อหยุดใช้ยาแล้วอาจกลับมาเป็นอีก
                    ไม่ว่าจะอย่างไรในตาม  การให้กำลังใจผู้เจ็บป่วยที่กำลังประสบกับความเจ็บ ป่วยนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ  คนรอบข้าง และคนในสังคมที่อยู่รอบตัวควรที่ใช้ความเข้าใจ ความเห็นใจ และให้กำลังใจ กับผู้ป่วยให้มาก แต่ถึงอย่างไรตัวของผู้เจ็บป่วยก็เป็นกลไกสำคัญในการดูแลตัว เองทั้งทางด้านสุขภาพ สุขอนามัยและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้โรคภัยที่เป็นอยู่ทุเลาเบาบางลงได้เช่นกัน
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาระบบภายในไม่สมบูรณ์

    ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=_etvAVOkynk

    Tags : สมุนไพรรักษาโรคระบบภายในไม่สมบูรณ์
#15
โรคริดสีดวงทวารไม่ใช่โรคน่าอาย แต่เป็นโรคอันตราย

  • หากพูดถึงโรคริดสีดวงทวารล่ะก็ เชื่อว่าคนไทยเกินครึ่งรู้จักโรคนี้ แต่หลายคนรู้จักโรคนี้เพียงพื้นฐานเท่านั้น ไม่รู้ว่าโรคริดสีดวงทวารนี้อันตรายขนาดไหน แม้ว่ามันจะไม่อันตรายเยอะแยะแต่เราก็ไม่ควรจะปล่อยให้ปรากฏอาการของโรคกำเริบและลุกลามต่อไปเรื่อยๆ โรคริดสีดวงทวารคือโรคที่เกิดขึ้นจากการอักเสบของหลอดเลือดบริเวณรอบทวารหนักและรอบๆปากทวารหนัก โรคริดสีดวงทวารหนักเป็นโรคที่เราพบได้ทั่วไป ซึ่งพบมากในช่วงอายุ 45-65 ปี วันนี้เราจึงมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวารกันค่ะ

                ที่มาของโรคริดสีดวงทวารหนัก
                อย่างที่ทราบกันเลยว่าโรคนี้เป็นโรคที่ปรากฏเกี่ยวข้องกับระบบอวัยวะที่ใช้ในระบบขับถ่าย ซึ่งหากเราใช้แบบไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้เริ่มเป็นโรคริดสีดวงทวารขึ้นมาได้ ที่มาที่ทำให้เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่มักจะมีดังนี้
    1.มีอาการท้องผูกบ่อยครั้ง ทำให้เราต้องเพิ่มแรงเบ่งอุจจาระออกมา ทำให้ปรากฏอาการหลอดเลือดหรือกล้ามเนื้อบริเวณทวารหนักบาดเจ็บได้ง่ายเยอะแยะ ขึ้น
    2.มีอาการท้องเสีย ทำให้ร่างกายต้องเพิ่มแรงดัน และเพิ่มการเสียดสีบ่อยครั้งมากขึ้น ทำให้เป็นอวัยวะบริเวณทวารหนักมีโอกาสเสียหายได้
    3.อายุ หากมีช่วงอายุ 45-60 ปีก็มีความเสี่ยงที่กล้ามเนื้อบริเวณทวารหนักนั้นจะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน
    4.พันธุกรรม หากพบว่ามีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มมาก ขึ้นตามไปด้วย
    5.มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ทำให้ปรากฏการกด เบียด ทับต่อกล้ามเนื้อและหลอดเลือดบริเวณนั้น ทำให้เกิดขึ้นการอักเสบและโป่งพองได้ง่ายหลากหลาย
    6.มีสภาพโรคประจำตัวอย่างสภาพโรคเบาหวานและอาการโรคอ้วน ก็จะทำให้อุ้งเชิงกรานต้องรับน้ำหนักเยอะแยะ ขึ้น เลือดมีโอกาสคลั่งในบริเวณกล้ามเนื้อและหลอดเลือดทวารหนักได้สูง
    สภาพของโรคริดสีดวงทวารหนัก

  • ส่วนใหญ่มักจะพบว่ามีติ่งเนื้อสีชมพูยื่นออกมา อาจจะพบว่ามีสภาพปวด หรืออาการระคายเคืองบริเวณทวารหนักเยอะแยะตามมาด้วย อาจจะพบอาการอุจาระปนเลือดออกมาด้วย ซึ่งหากมีอาการแบบนี้ควรไปพบแพทย์

                การฟื้นฟูโรคริดสีดวงทวารหนัก
                หมั่นปกป้องสุขภาพเรื่องการกิน ระวังอย่าให้เป็นอาการท้องผูก หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ขยับตัวบ่อยๆ ฝึกรักษาการเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอาการอุจจาระ
                การฟื้นฟูโรคริดสีดวงทวาร
                ส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และทานอาหารที่มีกากใยสูง ทานยาควบคู่กันไป ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ ซึ่งหากพบว่าอยู่ในระยะเรื้อรังอาจจะต้องทำการผ่าตัด ฉายแสง ฟื้นฟูตามอาการ แต่โรคริดสีดวงทวารหนักไม่ใช่โรคอันตรายถึงชีวิต แต่หากเราเป็นโรคนี้ก็ควรรีบรักษาตั้งแต่เนิ่น เพื่อดูแลการเป็นเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆนะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาริดสีดวงทวาร

    เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=Sg5V5FHA5Aw

    Tags :  ประสบการณ์ผู้ป่วย
#16
Cmxseed Market / โรคไทรอย
19 ตุลาคม 2017, 23:15:18
โรคไทรอย               
       โรคไทรอยเป็นโรคที่ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็น โรคอัตรามากกว่าผู้ชายโดยโรคไทรอยเมื่อเป็นแล้วจะมีผลกระทบให้เป็นโรคอื่นๆตามมาคราวหลัง เช่น โรคไทรอยเป็นพิษ โรคต่อมไทรอยด์เสื่อม โรคคอพอก เป็นต้น โดยถ้ามีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาจำนวนมากอาจทำให้ ผู้ที่เป็นโรคนี้เสียชีวิตลงได้ โดยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไทรอย มีต่างๆดังนี้
ต้นตอและปัจจัยเสี่ยงของโรคไทรอย
โรคไทรอยเป็นโรคที่ไม่มีสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่เป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยและ จำแนก ออกเป็นหลายโรค ซึ่งโรคไทรอยที่พบบ่อยคือ ต่อมไทรอยทำงานเกิน โรคขาดไทรอยฮอร์โมน และโรคคอพอก ซึ่งโรคพวกนี้ล้วนเป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมไท รอยทั้งสิ้น
อาการของโรคไทรอย
ผู้ที่ป่วยเป็นไทรอยจะมีอาการต่างๆแสดงออกมา ดังนี้
1.มีอารมณ์แปรปรวน ขี้หงุดหงิดและกระวนกระวาย
2.มีอาการเหนื่อยง่ายและใจสั่นผิดปกติ
3.มีอาการหายใจไม่สะดวก
4.คอพออย่างเห็นได้ชัด
5.ถ่ายบ่อย น้ำหนักลด แต่รับประทานเยอะ
6.มีอาการน้ำหนักลดแบบฉับพลัน
7.กลืนอาหารลำบาก ทำให้กินอาหารได้น้อย
8.นิ่วมือสั่น อย่างชัดเจน
9.นอนหลับไม่สนิท หลับยากและมีอาการขาบวม
10.กล้ามเนื้ออ่อนแรง

  • มีอาการตาโปน หรือนัยน์ตาตาเหลือง
  • มีอาการผมร่วงผิดปกติ

    13.สมาธิสั้น จดจ่อกับอะไรนานๆไม่ได้

  • หัวใจเต้นเร็ว

    สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นโรคไทรอยแต่มีอาการพวกนี้หลายข้อ ต้องจะให้รีบไปพบแพทย์
    วิธีการรักษาโรคไทรอย
    วิธีรักษาโรคไทรอยของแพทย์ มีวิธีการต่างๆดังนี้
    1.ใช้ยาต้านไทรอยในการรักษา
    2.รักษาโดยใช้วิธีผ่าตัดในกรณีที่ต่อมไทรอยไม่ยุบ
    3.ให้ยาชะลอการทำงานของต่อมไทรอย
    4.ให้ยาไทรอยฮอร์โมน
    5.รักษาโดยใช้สารกัมมันตรังสี
    6.รักษาตามอาการที่คนไข้เป็น เพื่อลดอาการ
    ที่การรักษาที่แพทย์เลือกแต่ละวิธีนั้นขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้ รายบุคคล เนื่องจากคนไข้บางรายจะมีอาการที่ต่างกันเช่น คนไข้บางรายขายไทรอยฮอร์โมน แต่คนไข้อีกรายไทรอยทำงานหนักเกินไป แพทย์ก็จะเลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรักษาคนไข้นั่นเอง
    วิธีป้องกันโรคไทรอย
          การป้องกันตัวเองจากโรคไทรอย สามารถทำได้โดยการรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยไอโดดีน อาทิ อาหารทะเล อย่างสม่ำเสมองดทานที่มีไขมันสูง งดกินอาหารหมักดอง หน่อไม้ และที่มีรสหวาน รสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และขยันรักษาสุขภาพอนามัยให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    สมุนไพรรักษาโรคไทรอย
    สมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาโรคที่เกี่ยวกับไทรรอย มีดังนี้
    1.มะรุม
    2.หญ้าปักกิ่ง
    3.ย่านาง
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาไทรอยด์

    เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=OEShi6dG2Nc

    Tags : สมุนไพรรักษาโรคไทรอยด์, สมุนไพรจีนรักษาโรคไทรอยด์, ประสบการณ์ผู้ป่วย
#17
เป็นโรคมะเร็งก็สามารถรักษาได้
เมื่อพูด ถึงโรคมะเร็ง แน่นอนว่าเป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็นแน่นอน เพราะด้วยอาการต่างๆที่มาจากโรคมะเร็ง ทั้งในเรื่องของความกังวลต่างๆที่มาจากโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นระยะของโรคมะเร็งที่เราเป็น และตัวเราสามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้หรือเปล่า ซึ่งโรคมะเร็งจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ระยะ สำหรับใครที่ตรวจเจอโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกๆ การรักษาโรคมะเร็งก็สามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้อย่างไม่ยาก แต่ถ้าหากใครที่ตรวจพบเจอโรคมะเร็งในระยะหลังๆหรือสุดท้าย การรักษาโรคมะเร็งก็จะเป็นไปได้ยากนะ ฉะนั้นแล้วคงไม่มีใครอยากเป็นโรคมะเร็งแน่นอน
โรคมะเร็งนั้น เกิดจากการที่อวัยวะของเราถูกรุกรายจากเซลล์ที่มีการขยายตัวที่ผิดปกติ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการกินอาหารที่ผิดต่อ สุขภาพเป็นประจำ ยืนที่มีแดดที่แรงมากหรือการได้รับสารเคมีต่างๆไม่ว่าจะ จากอาหารที่กิน จากการสูบบุหรี่ หรือจากที่อื่นๆ เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจนทำให้เซลล์ในร่างกายของเรา มีการขยายตัวอย่างผิดปกติ โดยจะมีการแสดงอาการผิดปกติดังนี้
1.การขับถ่ายของเสียไม่ว่าจะเป็นอุจจาระหรือปัสสาวะ เกิดอาการผิดปกติเช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบและไอเรื้อรัง
4. มีเลือดออกไม่ปกติ ไม่ว่าจะจากอาการไอหรืออื่นๆ
5. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
6. มีก้อนหรือตุ่มแข็งๆ บนร่างกายกาย
ซึ่ง อาการต่างๆที่มาจากโรคมะเร็ง ก็อาจจะเหมือนกับอาการผิดปกติตามร่างกายทั่วไป แต่ถ้าหากอาการไม่ปกติเหล่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายได้จากการกินยาหรือปฏิบัติตามที่หมอบอกแล้ว ให้เราเตรียมคิดไว้ได้เลยว่าอาจจะเป็นมะเร็งนะ และยิ่งเรารอให้อาการผิดปกติในร่างกายของเรา เป็นมากเท่าไหร่ก่อนไปตรวจ เราก็อาจจะเป็นมะเร็งระยะหลังๆได้มากขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีเราควรจะรีบไปหาหมอตั้งแต่อาการเบาๆนะ
แต่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความสามารถทางการแพทย์สามารถรักษาโรคมะเร็งได้แล้วนะ โดยจะมีการรักษาตามอาการของผู้ป่วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งจะสามารถรักษาได้ทุกคนเสมอไป ซึ่งมีการรักษาอยู่ 2 แบบคือ
1.แพทย์แผนปัจจุบัน โดยจะมีการรักษาโรคมะเร็งด้วยการ ผ่าตัด การฉายแสง ฉายรังสี ฝังแร่ การใช้ฮอร์โมนเพศ และอื่นๆ การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการเหล่านี้ อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่มากตามความยากในการรักษา
2. แพทย์แผนทางเลือก โดยจะมีการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้สมุนไพรต่างๆเข้ามาช่วยหยุดการเจริญเติบโต ซึ่งจะต้องรักษาพร้อมกับปรึกษาผู้เชี่ยวชาญไปด้วย ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ เหมาะกับคนที่เริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังเริ่มเป็นมะเร็งระยะแรกๆ หรือสำหรับคนที่เลือกที่จะใช้สมุนไพรรักษาโรคเสียมากกว่า
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็ง

เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=no5N1blDyIM

Tags :  สมุนไพรจีนรักษาโรคมะเร็ง, โรคมะเร็ง
#18
Cmxseed Market / โรคหัวใจ
19 ตุลาคม 2017, 06:29:32
โรคหัวใจ
   โรคหัวใจเป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจโดยตรง ซึ่งถ้าหากเป็นโรคนี้ จะส่งผลกระทบภายในหัวใจในหลายด้านและเกิดผลร้ายในหลาย ด้าน ดังเช่น การตีบตันของหลอดเลือดในหัวใจ ,การอักเสบของชั้นในของหัวใจ , อาการหัวใจล้มเหลว ,การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ  จะส่งผลให้ผู้ที่เป็นโรคนี้เสียชีวิตได้และโรคหัวใจเป็นโรคที่ทำ ให้ประชาชนทั่วโลกเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ โดยข้อมูลโดยทั่วไปของโรคหัวใจสามารถแจกแจงเป็นข้อมูลได้ ดังต่อไปนี้
ต้นเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ มีด้วยกันหลายเหตุ ต่างๆดังนี้
1.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
2.ไม่ออกกำลังกายเป็นเวลาเนิ่นนาน
3.อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษเป็นเวลาเนิ่นนาน
4.สูบบุหรี่จัดในระยะเวลาต่อเนื่องมายาวนาน
5.มีปริมาณไขมันในเลือดสูง
6.เป็นโรคเบาหวาน
โดยโรคประจำตัวการใช้ชีวิตประจำวันเฉพาะตัว เหล่านี้ส่งผลเสียและเป็นปัจจัย  เสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา
อาการของโรคหัวใจ
ซึ่งผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ สามารถเฝ้าดูอาการได้ดังนี้

  • มีอาการเจ็บแน่นๆ และรู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกเยื้องทางซ้าย
  • ใจสั่น เต้นผิดจังหวะ บางคราวก็หยุดเต้นไปเฉยๆ หรือเต้นเร็วผิดปกติ
  • มีอาการบวมที่ขาอย่างเห็นได้ชัดเจน
  • มีอาการเป็นลม หน้ามืด หรือวูบ บ่อยๆ
  • ที่มือและเท้ามีสีคล้ำผิดปกติ
  • เหนื่อยง่ายและมีอาการหอบหืดบ่อยๆเวลาที่ออกกำลังกายหรืออยู่เฉยๆ

        โดยที่ผู้ที่มีอาการเหล่านี้หลายข้อ ถ้าผู้ใดสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจก็ควรเข้า พบแพทย์เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดได้ว่าตนเองโรคหัวใจเป็นหรือไม่เพื่อประโยชน์ในการรักษาต่อไป
    วิธีการรักษาโรคหัวใจ
    โรคหัวใจสามารถจำแนก ชนิดออกไปได้อีกตามอาการโดยชนิดของโรคหัวใจได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งโรคต่างๆที่เกิดขึ้นตามอาการเหล่านี้ ในส่วนของวิธีการรักษาโรคหัวใจ แพทย์จะรักษาตามอาการที่ผู้ป่วยเป็นและให้ยาที่ผู้ป่วยได้ตอบสนองได้ดีเพื่อช่วยกระตุ้นให้มีอาการดีขึ้น
    วิธีป้องกันโรคหัวใจ
    โรคหัวใจสามารถป้องกันได้โดยจัดการตามวิธีป้องกันโรคหัวใจ ดังต่อไปนี้
    1.ดูแลตัวเองอยู่เสมอและหมั่นตรวจดูความผิดปกติของหัวใจ
    2.ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ
    3.ทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่ทานฟาสฟู้ดส์หรืออาหารแช่แข็งมากเกินไป
    4.ไม่สูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
    5.อยู่ห่างจากสภาพแวดล้อมและอากาศที่เป็นพิษ
    6.ตรวจสุขภาพปีละครั้ง
    7.ไม่ทานอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลสูง
    8.กำจัดความเครียดต่างๆ

    สมุนไพรรักษาโรคหัวใจ
    สมุนไพรรักษาโรคหัวใจและช่วยบำรุงหัวใจมีหลายชนิด ดังนี้
    1.เห็ดหลินจือ
    2.กระเทียม
    3.ต้นหอม
    4.ขึ้นฉ่าย
    5.บัว
    6.กระเจี๊ยบ
    7.ลูกท้อ

    โรคหัวใจเป็นโรคที่จะป้องกันได้ด้วยการออก กำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มแอลกอฮอล์  ถ้าหาก ได้กระทำตนเรื่องพฤติกรรมการ กินสามารถบังคับตนเองให้ออกกำลังกายได้ก็จะห่างไกลจากโรคนี้
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาหัวใจ

    ขอบคุณบทความจาก : https://www.youtube.com/watch?v=HjPOeRDfqbI

    Tags : สมุนไพรรักษาโรคหัวใจ, สมุนไพรจีนรักษาโรคหัวใจ, โรคหัวใจ
#19
โรคมะเร็งเต้านม โรคที่คุณผู้หญิงควรระวัง
            อาการโรคมะเร็งเต้านมเป็นโรคที่สาวในสมัยใหม่คงต้องหมั่นตรวจกันแล้ว เพราะพบว่าผู้หญิงไทยมีโอกาสเสี่ยงเริ่มเป็นโรคนี้มากขึ้น และมีดาราหลายท่านที่ปรากฏป่วยเป็นโรคนี้หลายท่าน โรคนี้ปรากฏจากการพัฒนาของเนื้อเยื่อเต้านมแบบผิดปกติ ซึ่งระหว่างเริ่มเป็นการพัฒนาอาจจะมีอาการเกิดขึ้นก้อนเนื้อในเต้านม สภาพรูปทรงเต้านมแปลก สภาพผิวหนังมีรอยบุ๋มลงไป อาการมีสารน้ำแปลกๆไหลออกมาจากเต้านม ซึ่งหากเราตรวจสอบ ตรวจเต้านมด้วยตัวเองแล้ว พบว่าเกิดขึ้นมีสภาพผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง
            สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

  • พบว่าผู้หญิงทีมีอายุหลากหลาย 40 ปีขึ้นไปนั้น จะเริ่มเป็นมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ แต่ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่อายุหลากหลาย 50 ปี
  • พันธุกรรม หากพบว่ามีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม จะมีความเสี่ยงมากปกติถึง 2 เท่าเลย
  • สูบบุหรี่จัดๆเยอะแยะในปริมาณที่ติดต่อกันมาหลายปี
  • ทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานานมากมาย
  • คนที่มีประจำเดือนมาก่อนอายุ 12 ปีจะมีความเสี่ยงสูงเยอะแยะ
  • ผู้ที่มีบุตรหลังอายุ 30 ปี หรือหญิงที่ไม่เคยมีบุตรเลย

                สภาพของโรคมะเร็งเต้านม

  • เริ่มมีอาการก้อนเนื้อที่เต้านม ซึ่งเราตรวจได้เอง
  • สภาพรูปร่างของเต้านมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
  • สภาพผิวหนังรอบเต้านมมีอาการผิดปกติ รอยบุ๋ม ย่น เหี่ยว
  • อาการหัวนมมีการหดตัว คัน หรือแดง ผิดจากปกติ
  • รักแร้มีสภาพบวม และมีสภาพต่อมน้ำเหลืองโต
  • มีสภาพเจ็บที่เต้านม
  • มีสภาพเลือดหรือน้ำออกจากหัวนม อย่างไม่ทราบต้นเหตุ

    การรักษามะเร็งเต้านม
                ไม่พบการฟื้นฟูที่ดีที่สุดเพราะโรคนี้ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน แต่เราสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยการหมั่นตรวจเต้านมด้วยตัวเอง หากพบสภาพผิดปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น เพื่อที่เราจะได้ฟื้นฟูได้อย่างทันท่วงทีนั้นเองค่ะ
    การดูแลโรคมะเร็งเต้านม
                หากเราตรวจพบก็อาจจะต้องทำอาการเคมีบำบัดหรือการผ่าตัด ในกรณีที่เจอเป็นระยะแรกเราสามารทานยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่หากพบในชั้นที่เชื้อมะเร็งลุกลามไปทั่วเต้านมแล้วนั้นต้องทำการตัดนมทิ้งและทำการบำบัด ทำคีโม อีหลายครั้ง เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่ลุกลามไปตามท่อน้ำเหลืองของเรา การตัดเต้านมอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายวันเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อในกระแสเลือด และต้องไปพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อรับยา และตรวจสภาพอยู่เสมอ
                โรคนี้เป็นโรคอันตราย แต่สาวๆทุกคนก็สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ ไม่อยากให้สาวๆนิ่งนอนใจหมั่นตรวจเต้านมด้วยตัวเองอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้สุขภาพดีมากขึ้นคะ

    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็งเต้านม

    เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=GpapbNCxsHs

    Tags :  วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านม, รักษาโรคมะเร็งเต้านม
#20
โรคความดัน โรคอันตรายในทุกวัย
            โรคความดันที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ไม่ใช่โรคความดันทุรังนะคะ แต่เป็นโรคความดันโลหิต โรคที่หลายๆคนคิดว่าไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอะไร แต่ในความจริงแล้วหลายคนที่ปรากฏ อาการช๊อคเพราะความดันโลหิตขึ้นสูงหรือต่ำ เยอะแยะ กว่า ปกติ และโรคนี้ก็เป็นกันได้ทุกเพศทุกวัยเลยด้วยอาจจะแตกต่างกันตามสภาพร่างกาย อาจจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายเรามีความเสี่ยงแบบไหน แม้จะไม่ใช่โรคที่อันตรายมากนัก และก็เป็นโรคที่เราสามารถฟื้นฟู ได้ เรามาทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้นกันเถอะคะ
            ต้นเหตุของโรคความดัน

  • ร่างกายมีภาวะโลหิตจาง ทำให้ความเข้มข้นของเลือดน้อยลงทำให้เริ่มเป็นสภาวะความดันเลือดลดลงต่ำลง
  • ปริมาณน้ำหรือของเหลวในเลือดลดลงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง ทำให้เกิดขึ้นหัวใจเต้นช้าลดลง
  • เกิดขึ้นการแพ้อาหาร หรือแพ้ยาบางชนิด ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวเร็วเกินไปเลือดจึงมีความดันที่ลดลงลงไป
  • ปรากฏจากโรคหัวใจทำงานผิดปกติส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตน้อยลงลงไป

    อาการของโรคความดัน

  • มีสภาพหน้ามืด เป็นลม สภาพตาลาย วิงเวียนในบ่อยครั้ง
  • มีสภาพคลื่นไส้ และอาการอาเจียนบ่อยๆ
  • มีสภาพมือและเท้าเย็นบ่อยครั้งเยอะแยะขึ้นเนื่องจากเลือดเดินไม่เพียงพอ
  • เกิดสภาพการกระหายน้ำ ตัวแห้ง น้ำในร่างกายไม่พอหล่อเลี้ยง
  • ชีพจรเบาแต่หัวใจเต้นเร็วมาก ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
  • สภาพหายใจเร็วและเหนื่อยง่ายมาก
  • เหงื่ออกหลากหลายกว่าปกติ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุอย่างหนัก

    การรักษาโรคความดัน

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • นอนหลับผักผ่อนตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
  • ระมัดระวังท่าทางในการเคลื่อนที่ หรือขยับตัว อย่างลุกหรือนั่งไวจนเกินไป
  • ระมัดระวังการใช้ยาต่างๆที่มีผลต่อความดันโลหิต งดการไปซื้อยามาทานเอง
  • ระวังคอยควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดโรคความดัน

    การดูแลโรคความดัน

  • ให้ยาหรือน้ำและแร่ธาตุเพิ่มขึ้นในกรณีที่เราเป็นความดันโลหิตต่ำเพื่อปรับให้ความดันโลหิตอยู่ในเกรณฑ์มาตรฐาน
  • กรณีเป็นความดันดลหิตสูงต้องทานยาต่อเนื่องเพื่อควบคุมไม่ให้ความดันโลหิตสูงเกินค่ามาตรฐาน
  • ควบคุมการทานยาอย่างต่อเนื่อง และต้องมาพบหมอทุกเดือนเพื่อตรวจวัดอาการว่าคงที่หรือรุนแรงขึ้นในรายที่รุนแรงมากอาจจะต้องมานอนโรงพยาบาลจนร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ

    โรคความดันเราสามารถป้องกันไม่ให้มันเป็นขึ้นได้โดยหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นดื่มน้ำและทานผลไม้เยอะเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองนะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาความดัน

    เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.youtube.com/watch?v=VkNjRJTuzhs

    Tags : สมุนไพรรักษาโรคความดัน, วิธีรักษาโรคความดัน, โรคความดัน
#21
โรคมะเร็งมดลูก สาวๆต้องระวัง
            สาวๆอย่ามองข้ามว่าอาการโรคมะเร็งมดลูก เพราะสาวไทยของเราพบว่าอัตราความเสี่ยงสูงรองลงมาจากมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกเป็นโรคที่ปรากฏเราสามารถดูแลและรักษาให้หายได้ มะเร็งมดลูกมักจะเริ่มเป็นในผู้หญิงช่วงอายุ 35-60 ปี ซึ่งปรากฏจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา หรือเรียกง่ายๆสั้นว่า HPV นั้นเอง ซึ่งเจ้าเชื้อตัวนี้เกิดขึ้นติดต่อผ่านกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าเชื้อนี้หากมันฝังตัวอยู่ในมดลูกก็จะเริ่มเกิดขึ้นการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นกลายเป็นเชื้อมะเร็งหากเรารักษาไม่ทันท่วงที
            ที่มาของโรคมะเร็งมดลูก

  • ปรากฏจากมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • เกิดขึ้นจากพันธุกรรม
  • เริ่มเป็นจากสูบบุหรี่จัดๆ หรือในครอบครัวมีคนสูบบุหรี่
  • ปรากฏจากการมีภูมิคุ้มกันต่ำ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ปรากฏจากการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ปรากฏจากการขาดสารอาหารบางชนิด
  • เป็นจากการมีสามีหรือคู่นอนสำส่อนทางเพศ
  • เริ่มเป็นจากการทนยาคุมกำเนิดนานติดต่อกัน
  • เริ่มเป็นจากการคลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง

    สภาพของโรมะเร็งมดลูก

  • พบว่ามีสภาพตกเลือดในช่องคลอด มีสภาพเลือดออกในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาการตกเลือดจะมีเลือดออกกระปิดกระปอย และมีสภาพเลือดออกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ในบางครั้งก็มีน้ำผสมออกมาด้วย
  • มีอาการตกขาวผสมเลือด และมีอาการกลิ่นเหม็น อาจจะมีสภาพปวดแสบปวดร้อน หรืออาการอักเสบรวมอยู่ด้วย  มีหนองและเลือดอกมาจากช่องคลอด
  • มีอาการบวมและอักเสบอย่างเห็นได้ชัด เวลาขยับเริ่มมีสภาพปวด ขาบวม สภาพปวดหลัง สภาพติดเชื้ออักเสบ

    การปกป้องโรคมะเร็งมดลูก
    โรคนี้เราสามารถฟื้นฟูได้ แม้จะไม่ฟื้นฟูได้เต็มที่ก็ตาม เป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้วยตัวเอง คือการลดความเสี่ยงลดปัจจัยที่ส่งผลต่อเชื้อมะเร็ง ลดพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลายที่จะทำให้เราติดเชื้อมะเร็งได้  งดการสูบบุหรี่จัดๆ งดการเปลี่ยนคู่นอน หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ใช้อุปกรณ์ปกป้องทุกครั้งที่มีเพสสัมพันธ์ ไม่ใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีวิธีไปฉีดวัคซีนซึงรักษาได้นานถึง 1 ปี
    การรักษาโรคมะเร็งมดลูก
    เราต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษามะเร็งมดลูกว่าอยู่ในระยะไหนแล้ว หากพบว่าอยู่ในระยะแรกอาจจะทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออกมา หรือทำการรักษาด้วยสารเคมี ซึ่งคุณหมอแต่ละท่านจะให้คำปรึกษาไม่เหมือนกัน เราสามารถเลือกบำบัดแบบที่เหมาะกับตัวเองได้ การบำบัดอาจจะกินเวลานาน และเมื่อเราบำบัดหายแล้วก็ควรลดเลิกพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลายด้วยนะคะ
    โรคมะเร็งมดลูกแม้จะเป็นโรคอันตรายแต่เราหมั่นไปตรวจสุขภาพภายใน กันบ่อยๆก็สามารถฟื้นฟู และรักษาได้อย่างทันท่วงที ก็อยากจะฝากให้สาวๆทุกคนหมั่นฟื้นฟูสุขภาพตัวเอง หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ค่ะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็งมดลูก

    เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.youtube.com/watch?v=Dl77dj6Bs4c

    Tags :  สมุนไพรจีนรักษาโรคมะเร็งมดลูก, โรคมะเร็งมดลูก, รักษาโรคมะเร็งมดลูก
#22
โรคกระดูกอันตรายอย่างกว่าที่เราคิด
                โรคกระดูกโรคที่หลายคนคาดคะเนว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคกระดูกนั้นปรากฏได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะมองข้ามไปเพราะนึกว่ามันเป็นโรคไกลตัวบางล่ะ โรคไม่อันตรายบ้างล่ะ ถ้าคุณคิดแบบนี้รู้ไว้เลยว่าคุณกำลังคาดคะเนผิดอย่างแน่นอนโรคกระดูกนั้นมีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคข้อกระดูกเสื่อม โรคกระดูกทับเส้น โรคเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ป้องกัน

            ต้นเหตุของการเกิดโรคกระดูก
ต้นเหตุมาจากการการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะต่างๆ มีสาเหตุหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น การบาดเจ็บ การประสบอุบัติเหตุ การทำงานหนัก การหักโหมยกของหนัก การติดเชื้อ การเสื่อมตามอายุขัย และโรคกระดูกยังมีที่มาจากกรรมพันธุ์ด้วยในส่วนหนึ่ง หลายคนไม่ทราบว่าโรคกระดูกนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการเคลื่อนที่ ของเราแบบผิดๆ ทำให้กระดูกต้องรับแรงกระแทกหนักๆ เช่นจากการทำงาน ที่เราต้องเคลื่อนที่ ร่างกายตลอดเวลา และมักจะเคลื่อนไหว ส่วนใดส่วนหนึ่งซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ การออกแรงหนักๆฝืนยกของหนักทั้งๆที่ยกไม่ไหว การบิดข้อมืออย่างแรงเพื่อการเคลื่อนไหว ที่รวดเร็ว พฤติกรรมความเสี่ยงเหล่านี้มักก่อให้เกิดอันตรายต่อกระดูกเราเสมอ แต่สาวๆที่นั่งทำงานในออฟฟิศอย่างเราๆก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยจากโรคนี้เพราะ การที่เราต้องนั่งในท่าเดียวนานๆ ก็อาการที่จะเกิดโรคกระดูกได้เช่นเดียวกัน และหากเราทำงานแบบที่ต้องออกแรงเยอะๆ หรือมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะพื้น ตออกเสาเข็ม หรืออยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแรงสั่นสะเทือนบ่อยๆก็ควรระวัง เพราะแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้จะไปกระแทกต่อระบบกระดูกในร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน
อาการของโรคกระดูก
เรามักจะพบว่ามีสภาพเจ็บปวด หรืออักเสบ มีอาการบวมตามบริเวรกล้ามเนื้อและข้ออยู่บ่อย เจ็บแบบเบาๆหรือเจ็บแบบเสียวๆก็เสี่ยงต่อโรคนี้ได้ ซึ่งอาการอาจจะมีมากว่านี้ขึ้นอยู่กับโรคที่เราเป็นด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่ามีระบบประสาทมาร่วมด้วย

การปกป้อง และการป้องกัน
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าสภาพของโรคนั้นอยู่ในขั้นที่เท่าไหร่ หากไม่รุนแรงก็สามารถใช้ยารักษาอาการอักเสบได้ การผ่าตัดก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพของโรค การใช้วีธีทางการแพทย์เฉพาะทางเช่นการกายภาพบำบัด การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าไปในระบบกระดูก หากพบอาการกระดูกเสื่อม  ซึ่งเมื่อเราพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ก่อนที่สภาพจะลุกลาม และเกิดเป็นโรคกระดูกเรื้อรัง เพราะจะทำให้เราต้องเสียเวลาในการไปฟื้นฟูนานหลากหลายขึ้น
เห็นไหมล่ะค่ะว่าโรคกระดูกนั้นเริ่มเป็นได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ต้องปกป้องสุขภาพตัวเองให้มากนะคะ เพราะสุขภาพของเราไม่มีขายนั้นเองค่ะ
สมุนไพรรักษาโรคกระดูก

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษากระดูก

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=L2kw_pblF2c

Tags :  วิธีรักษาโรคกระดูก, ประสบการณ์ผู้ป่วย, โรคกระดูก
#23
ถ้าคิดว่าการเลือกรองเท้าแฟชั่นเป็นเรื่องปกติ
ของที่คุณได้มาก็จะธรรมดาด้วยเหมือนกัน
แต่หากคุณต้องการรองเท้าแฟชั่นแบ
บที่ชิคๆสักหน่อย
เราก็ต้องมีทริกการเลือกรองเท้าแฟชั่นที่พิเศษด้วยเหมือนกัน
แล้วการเลือกรองเท้ามันยากขนาดนั้นเลยห
รือ จริงๆแล้วไม่ยากเลย เพียงแค่คุณมี 5
ข้อในการเลือกรองเท้าคุณก็จะได้รองเท้าแฟชั่นที่ดีที่สุดมาไว้ในมือแล้ว
เริ่มต้นทริปง่ายๆด้วย
1.ดูของดูสายตาธรรมดา
ถ้าหากคุณเลือกรองเท้าแฟชั่นที่ถูกใจด้วยสายตาที่อยากได้ คุณก็จะได้ของดีที่มีราคาแพง
แต่ถ้าคุณเลือกให้นานสักหน่อยแล้วไม่แสดงอาก
ารอยากได้ คุณก็จะได้ของดีในราคาที่ถูกลง
เพราะเราจะมีอัตราต่อรองที่เหนือกว่า
2.หากชอบต้องไม่สนใจ
เมื่อคุณได้ทดลองรองเท้าแฟชั่นคู่ที่โดนใจแต่อาจจะบ่ายเบี่ยง
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องรูปทรง
คุณก็จะได้ของดีในราคาเบาๆอีกเช่นกัน

3.อย่าเพิ่งตอบตกลง
เมื่อคุณมีทางเลือกเลือกรองเท้าแฟชั่นจากพ่อค้
าอีกเยอะแยะที่ขายสินค้าที่คล้ายๆกัน
ถ้าคุณตัดสินใจซื้อตั้งแต่ตอนแรก
เกิดคุณไปเจอร้านที่ชอบมากกว่า
คุณก็จ่ายแพงโดยใช้เหตุ
4.เน้นซื้อรองเท้าที่สามารถใส่ได้กับหลายๆ
เลือกรองเท้าแฟชั่นที่สามารถเข้าได้กับเสื้อผ้าที่หลากหลายของคุณ
ซึ่งคุณอาจเลือกลวดลายแบบไหนก็ได้แต่การเ
ลือกสีควรคำนึงชุดที่ต้องใส่ด้วย
รองเท้าของคุณจะได้ใช้ได้กับหลายๆโอกาส
5.เลือกรองเท้าที่สามารถเพิ่มลูกเล่นได้
ถ้าคุณเลือกรองเท้าแฟชั่นที่สามารถเพิ่มของตกแต่งได้
เช่นรองเท้าที่สามารถเพิ่ม
ของตกแต่ง หรือดัดแปลงเล็กน้อยได้จะเป็นการดีที่สุด
แล้วรองเท้าแฟชั่นของคุณก็จะโดดเด่นและดีกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน



ที่มา : http://www.siamsubaru.com/subaruboard/index.php/topic,500067.new.html#new

Tags : รองเท้าแฟชั่น,รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#24
เลือกรองเท้าแฟชั่นอย่างไร ให้ทนทาน และใช้ได้นานที่สุด

สุภาพสตรีกับรองเท้าแฟชั่นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดกันเป็นอย่างมาก ที่ไหนที่มีของใหม่มาลง หรือมีสินค้าให้เลือกหลายแบบละก็ มันก็จะเป็นเหมือนแม่เหล็กที่เรียกหาเธอให้เข้าไปเลือกซื้อได้อย่างง่ายดาย เช่นร้านSHopnichaที่เป็นร้านรองเท้าแฟชั่นที่โดนใจที่สุด และมีสินค้าหมุนเวียนปรับเปลี่ยนเป็นจำนวนมากตลอดเวลา ใครที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ก็ลองเข้ามาเลือกดูจากร้าน SHopnicha กันได้เลย
แล้วข้อสังเกตสำหรับรองเท้าแฟชั่นที่สวยงาม สิ่งที่คุณๆต้องเลือก มีอะไรบ้างมาดูกัน
1.รองเท้าติดกาว
ถ้าเป็นรองเท้าแฟชั่นที่ติดกาวก็ให้ดูรอยกาวว่า ใส่กาวมารอบบริเวณหรือไม่ และมีส่วนใดไม่ได้ทากาวหรือป่าวให้หาคู่ใหม่ทันทีอย่ามองว่าเล็กน้อย เพราะเรื่องเล็กน้อยนี่แหละคือการเริ่มต้นของการเสียหาย
2.รองเท้าเย็บ
รองเท้าแฟชั่นชนิดนี้ก็คงต้องดูที่ตะเข็บว่าเย็บมาเนียบหรือไม่ รอยต่อของตะเข็บนั้นเสียหายหรือป่าว และเย็บด้วยด้ายที่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า ซึ่งทุกกรณีนี้เราสามารถใช้มือจับบริเวณที่มีรอยต่อและตะเข็บดูได้
3.รองสวมใส่แล้วเดิน

หลายๆคนที่ทดลองใส่รองเท้าแฟชั่นแล้ว แต่ไม่ได้ลองใส่เดินทำให้พลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะไม่รู้เลยว่าเวลาเดิน เดินสบายหรือไม่ บางทีทดลองเดินไม่กี่ก้าวรองเท้าก็ขาดก่อนซื้อด้วยซ้ำ
4.เลือกรองเท้าให้รับน้ำหนักคุณได้
รองเท้าแฟชั่นส้นสั้นเกินไป หรือรองเท้าที่คับเกินไป ถ้าคุณเลือกซื้อรองเท้าแฟชั่นแล้วเน้นแต่รูปร่าง แต่ไม่เลือกการใช้งาน คุณก็อาจมีแผลจากร้องเท้าได้ ซึ่งลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นแล้วนับไม่ถ้วน
รองเท้าส้นสูง รองเท้าส้นเตารีด รองเท้าส้นแบน
5.ราคาสมเหตุผล

รองเท้าแฟชั่นถ้าไม่ได้แบรนด์เนมต้องมีราคาเหมาะสม ถ้าราคามันสูงเกินไป หลายคนคงเลือกซื้อรองเท้า[ยี่ห้อ|แบรนด์}ดังมากกว่าอย่างไม่ต้องสงใส เพราะได้ยี่ห้อไว้โชว์เพื่อนๆ ที่สำคัญยังได้รองเท้าแฟชั่นที่มีการรับประกันคุณภาพมาแล้วด้วย


ที่มา : http://www.shopnicha.com/

Tags : รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#25
ปลากับน้ำขาดกันไม่ได้
เหมือนกับรองเท้าแฟชั่นกับสุภาพสตรีที่ไม่มีทางขาดกันเช่น
แต่หลายคนอาจ
ไม่มีหลักในการเลือกรองเท้าแฟชั่นที่
โดนใจกันเลย
หากอยากเลือกซื้อกันแบบถูกใจใช่เลยแบบนี้ก็ต้องบอกว่า
เจอคราใดต้องตัวเ
บากันเป็นแน่แท้
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้บางทีรองเท้าแฟชั่นที่คุณได้เลือกซื้อมาคุณอาจไม่เคยได้ใส่มันเลยก็มี
ด้วยสาเหตุหลายประการ
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเวลาสถาน
ที่ไม่เหมาะต่อใช้งาน
วันนี้เราจึงมีวิธีค้นหารองเท้าแฟชั่นแบบราคาเบาๆ
และสวยสะดุดตามาเสนอกัน
ซึ่งมีหลักง่ายๆ เพียง 3 ข้อไม่ต้องจดแค่จำก็พอนั้นคือ
1.เลือกให้แมตช์ต้องจำชุดเก่งตัวเองให้ได้
คุณจะต้องจำชุดเก่งต่างๆ ของคุณให้ได้อย่างแม่นยำ
หรือถ้ามันยากเกินไปก็เน้นไปที่การจดจำสีของชุดให้แม่นยำแล้วค่อยเลือกรองเท้าแฟชั่นให้มิกซ์กับชุดที่มีอยู่
ยิ่งเสื้อผ้าของคุณมีเฉดสีที่ใกล้เคียงกันคุณก็จะซื้อรองเท้าได้ง่ายขึ้นเล่นกัน



2.เน้นสวยราคาไม่แพง
ของถูกใจไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
เพราะเรายังคงต้องมีอีกหลายคู่เพื่อให้
สอดคล้องกับชุดที่คุณมีอยู่
จุดนี้ขอสั้นๆว่าประหยัดไว้ก่อนเพื่อคู่ต่อไป
3.เน้นใสสบายจะได้ไม่เสียของ
เมื่อเลือกสีและแบบที่โดนใจแล้ว
ก็ต้องหาแบบที่ใส่สบายๆด้วยจะได้ใช้ได้
ยาวนาน
เลือกจำเพียงแค่ 3 จุดนี้
คราวนี้รองเท้าแฟชั่นของสาวน้อยสาวใหญ่
ก็จะไม่เหว่ว้าอยู่แต่ในชั้นวางอีกต่อไป
สำหรับคู่ที่เลือกซื้อมาแล้วหาเสื้อผ้าใส่เข้ากันไม่ได้ต้องเ
สียเงินซื้อเพิ่ม
บางครั้งการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมาปรับเปลี่ยนส
ไตล์ที่แตกต่างออกไปบ้าง
ก็จะทำให้รองเท้าแฟชั่นที่มีอยู่เด่นขึ้นด้วยเช่นกัน
หากคนที่ยังหาซื้อรองเท้าที่โดนใจไม่ได้ก็ลองเข้า
ไปดูที่ร้านSHopnichaได้เลย
ของดีของถูกเขาเยอะรับลองได้เลย




ขอบคุณบทความจาก : http://postza221.edublogs.org/2016/02/02/เทคนิคการเลือกซื้อ-รองเ/

Tags : รองเท้าแฟชั่น,รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#26
I-PNK (PINK) ไอพิงค์ อาหารเสริม อกฟู รูฟิต ผิวขาวอมชมพู

I-PNK (PINK) ไอพิงค์   I PNK (PINK) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยปรับสภาพผิวของคุณให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 
ควบคุมสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสม ผิวพรรณเปล่งปลั่ง จึงสามารถบอกได้เลยว่า 
I PNK เป็นอาหารเสริมที่ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องความสวยงามความงามได้อย่างตรงจุด และครบถ้วน 
บวกกับ I PNK เป็นสินค้าคุณภาพมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจได้ว่า I PNK 
ปลอดภัยสำหรับผู้รับประทาน และได้รับแต่สารอาหารที่มีคุณค่าที่สุด สู่ร่างกายของคุณเอง I PNK เป็นอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง ที่มีสรรพคุณต่างๆ ตรงตามที่คุณผู้หญิงต้องการในผลิตภัณฑ์เพียงแค่ตัวเดียว 
มาพร้อมรสชาติที่อร่อย สรรพคุณพร้อม ราคาที่ไม่แพงจนเกินไป 
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม I PNK จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายของคุณผู้หญิงให้เป็นปกติ 
ช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับฮอร์โมนไม่ว่า
จะเป็น ผิว ผม เล็บ กลับมาดูมีชีวิตชีวา ร่างกายไม่โทรมเร็ว 
อีกทั้งในผลิตภัณฑ์  I PNK ยังมีส่วนผสมของกรดอะมิโน และแอลกลูต้าไธโอน (L-Glutathione) 
ซึ่งจะเข้าไปช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
ในบางรายด้วยฮอร์โมนที่มีมากขึ้น ยังไปส่งผลให้มีขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นอีกด้วย  สรรพคุณ และคุณประโยชน์ของ I PNK 1. L-Glutathione ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาว กระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัดเจน 
2. ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น 
3. บำรุงสภาพผิว ผม เล็บ ให้ดูมีชีวิตชีวาด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ ทั้ง Vitamin B, ALA 
และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก 
4. เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ช่วยลดความเหนื่อยล้า ทำให้คุณดูสดชื่นตลอดทั้งวัน 
5. ในบางรายมีขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ผิวขาวใส อมชมพู ดูเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์
เหมือนสาววัยใส เพิ่มพลังงานในการทำงานแต่ละวัน เห็นผลชัดเจนตั้งแต่กล่องแรกที่รับประทาน วิธีใช้ : - ช่วงเดือนแรก ทานวันละ 3 ครั้ง คือ เช้า เที่ยง ก่อนนอน (ตอนท้องว่าง มันจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี) หลังจาก 1 เดือน ให้ทานวันละ 2 ครั้ง คือ เช้า ก่อนนอน (ตอนท้องว่างเหมือนเดิมจ้า)  * แนะนำให้ไอพิ้งทานกับน้ำเย็น ประมาณครึ่งแก้ว เพื่อการทานที่ง่ายขึ้นและเห็นผลเร็วด้วย  เลขที่จดแจ้ง อย. 10-3-07754-1-0001 1 กล่อง = 30 ซอง     
#27
 
ต่อมลูกหมาก (อังกฤษ: Prostate gland) เป็นอวัยวะในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ที่อยู่ตรงด้านหลังของคอ กระเพาะปัสสาวะ ในอุ้งเชิงกรานหลังกระดูกหัวหน่าว ลักษณะต่อมมี 5 กลีบ หนักประมาณ 20 กรัม[1] ทำหน้าที่สร้างของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม ที่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ มีกลิ่นเฉพาะตัว สารที่หลั่งออกมาเป็นเบสอ่อนๆ ช่วยให้เกิดสภาพเหมาะสมกับตัวอสุจิ ลดสภาพความเป็นกรดของท่อปัสสาวะและช่วยให้อสุจิแข็งแรงและว่องไวขึ้น



ของอุปสรรคโรคต่อมลูกหมากโตฉะนั้นจะครอบคลุมในรายละเอียดที่นี่เพื่อเขียนความยาวสวย โรคแรกที่ต้องการที่จะครอบคลุมคือเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (อ่อนโยน Prostatic Hyperplasia) นี้นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็น \"โรคต่อมลูกหมากโตโต\" โรคนี้จะถูกจัดให้อยู่ใน 3  Category ที่ไม่เหมือนกันออกไปเล็กน้อยขยายขยายปานกลางและขยายอย่างรุนแรง โรคนี้สามารถกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัยและการแข่งขัน โรคต่อมลูกหมากโตของผู้ชายคนเติบโตขึ้นกับอายุ

อ่านต่อคลิก!!
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/

Tags : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต,โรคต่อมลูกหมากโต
#28
โรคเส้นเลือดในสมองตีบ  โรคนี้อันตรายแค่ไหน

            หากจะพูดถึงโรคนี้เราเชื่อว่าทุกคนย่อมรู้จักกันดี เพราะในเมืองไทยมีอัตราผู้ป่วยโรคนี้ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว อาการโรคเส้นเลือดในสมองตีบมักจะเป็นที่มาสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดขึ้นสภาพอัมพฤต อาการอัมพาต หรือเกิดขึ้นสภาพแขนขาอ่อนแรง ซึ่งหลายคนที่คิดว่าไม่เป็นไรหรอก คงเป็นสภาพนอนทับแขนทับขาเฉยๆทำให้เลือดไม่เดินก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะเป็นอาการแจ้งเตือนของโรคเส้นเลือดในสมองตีบก็ได้  ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคนี้กันให้มากขึ้นนะคะ
            ต้นเหตุของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
            ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยอาการโรคหลอดเลือดในสมองตีบมักจะมีความเสี่ยงหลายอย่างทั้งจากสุขภาพ การรับประทานอาหาร  ซึ่งต้นเหตุหลักที่จะทำให้เป็นความเสี่ยงมากขึ้นมีดังนี้

  • มีสภาพเป็นโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคประจำตัว
  • มีอาการปรากฏโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว
  • มีสภาพเริ่มเป็นโรคไขมันในเลือดสูงกว่าคนปกติ
  • สภาพสูบบุหรี่จัดดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • เป็นสภาพโรคหัวใจอยู่แล้ว ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น
  • มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
  • เป็นโรคอ้วน มีสภาพไขมันสะสมในร่างกาย


    สภาพของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

  • อย่างที่พบในการผู้ป่วยมักจะมีอาการแขนขาชา อาการแขนขาอ่อนแรง ซึ่งอาจจะอาการเป็นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเสมอ เป็นติดต่อกันบ่อยครั้ง
  • มีสภาพลิ้นแข็ง พูดไม่ออก สภาพพูดไม่รู้เรื่อง และอาการสำลักบ่อยครั้ง
  • มีอาการมองไม่เห็นด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
  • มีอาการเวียนศีรษะ สภาพปวดหัว อาการหน้ามืด

    สภาพเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบที่เราไม่ตั้งตัว ซึ่งอาการมักจะเกิดก่อนหรือหลังการนอนอยู่เสมอ ซึ่งสภาพมักจะกำเริบแบบที่เราไม่รู้ตัว
                การรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
                เนื่องจากโรคนี้ปรากฏมาจากการไม่ฟื้นฟูสุขภาพ การรักษาที่ดีคือการรักษาสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดการสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป งดทานอาหารที่มีไขมันสูง
                การรักษารคเส้นเลือดในสมองตีบ
                โรคนี้สามารถฟื้นฟูให้หายขาดได้ เพียงแต่การต้องไปพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคว่าอยู่ในอาการระดับไหนแล้วสามารถรักษาแบบบำบัดได้ไหม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะให้ลดอาการ ทานยาอย่างสม่ำเสมอ หากไม่ได้มีสภาพรุนแรงจนแบบเฉียบพลันเส้นเลือดตีบจนไม่สามารถรักษาให้หายได้ก็ตองใช้การผ่าตัด การขยายหลอดเลือดแบบอลลูนมาแทน ซึ่งอันตรายและมีความเสี่ยงสูง โรคเส้นเลือดในสมองตีบส่วนใหญ่มักจะต้องดูแลสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ ออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อลดไขมันในเส้นเลือดค่ะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รักษาเส้นเลือดในสมองตีบ

    เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=L6qbCdtq6xk

    Tags : สมุนไพรรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ, สมุนไพรจีนรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ, รักษาโรคเส...
#29
โรคมะเร็งมดลูก สาวๆต้องระวัง

            สาวๆอย่ามองข้ามว่าสภาพโรคมะเร็งมดลูก เพราะสาวไทยของเราพบว่าอัตราความเสี่ยงสูงรองลงมาจากมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกเป็นโรคที่เกิดขึ้นเราสามารถรักษาและดูแลให้หายได้ มะเร็งมดลูกมักจะเป็นในผู้หญิงช่วงอายุ 35-60 ปี ซึ่งเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา หรือเรียกง่ายๆสั้นว่า HPV นั้นเอง ซึ่งเจ้าเชื้อตัวนี้เกิดขึ้นติดต่อผ่านกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าเชื้อนี้หากมันฝังตัวอยู่ในมดลูกก็จะเริ่มปรากฏการเปลี่ยนแปลง เริ่มเป็นกลายเป็นเชื้อมะเร็งหากเรารักษาไม่ทันท่วงที
            สาเหตุของโรคมะเร็งมดลูก

  • เกิดขึ้นจากมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ปรากฏจากพันธุกรรม
  • เป็นจากสูบบุหรี่จัดๆ หรือในครอบครัวมีคนสูบบุหรี่
  • เกิดขึ้นจากการมีภูมิคุ้มกันต่ำ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ปรากฏจากการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • เริ่มเป็นจากการขาดสารอาหารบางชนิด
  • เกิดขึ้นจากการมีสามีหรือคู่นอนสำส่อนทางเพศ
  • ปรากฏจากการทนยาคุมกำเนิดนานติดต่อกัน
  • ปรากฏจากการคลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง

    สภาพของโรมะเร็งมดลูก

  • พบว่ามีสภาพตกเลือดในช่องคลอด มีสภาพเลือดออกในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาการตกเลือดจะมีเลือดออกกระปิดกระปอย และมีอาการเลือดออกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ในบางครั้งก็มีน้ำผสมออกมาด้วย
  • มีสภาพตกขาวผสมเลือด และมีสภาพกลิ่นเหม็น อาจจะมีสภาพปวดแสบปวดร้อน หรือสภาพอักเสบรวมอยู่ด้วย  มีหนองและเลือดอกมาจากช่องคลอด
  • มีสภาพบวมและอักเสบอย่างเห็นได้ชัด เวลาขยับเริ่มมีสภาพปวด ขาบวม อาการปวดหลัง สภาพติดเชื้ออักเสบ

    การรักษาโรคมะเร็งมดลูก

    โรคนี้เราสามารถฟื้นฟูได้ แม้จะไม่รักษาได้เต็มที่ก็ตาม เป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้วยตัวเอง คือการลดความเสี่ยงลดปัจจัยที่ส่งผลต่อเชื้อมะเร็ง ลดพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลายที่จะทำให้เราติดเชื้อมะเร็งได้  งดการสูบบุหรี่จัดๆ งดการเปลี่ยนคู่นอน หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ใช้อุปกรณ์ฟื้นฟูทุกครั้งที่มีเพสสัมพันธ์ ไม่ใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีวิธีไปฉีดวัคซีนซึงดูแลได้นานถึง 1 ปี
    การรักษาโรคมะเร็งมดลูก
    เราต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจปกป้องมะเร็งมดลูกว่าอยู่ในระยะไหนแล้ว หากพบว่าอยู่ในระยะแรกอาจจะทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออกมา หรือทำการบำบัดด้วยสารเคมี ซึ่งคุณหมอแต่ละท่านจะให้คำปรึกษาไม่เหมือนกัน เราสามารถเลือกปกป้องแบบที่เหมาะกับตัวเองได้ การฟื้นฟูอาจจะกินเวลานาน และเมื่อเราดูแลหายแล้วก็ควรลดเลิกพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลายด้วยนะคะ

    โรคมะเร็งมดลูกแม้จะเป็นโรคอันตรายแต่เราหมั่นไปตรวจสุขภาพภายใน กันบ่อยๆก็สามารถฟื้นฟู และบำบัดได้อย่างทันท่วงที ก็อยากจะฝากให้สาวๆทุกคนหมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ค่ะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็งมดลูก

    เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=Dl77dj6Bs4c

    Tags :  วิธีรักษาโรคมะเร็งมดลูก, สมุนไพรจีนรักษาโรคมะเร็งมดลูก, รักษาโรคมะเร็งมดลูก
#30
โรคลูปัสSLE คือโรคอะไร อันตรายแค่ไหน
            โรคนี้ไม่ใช่โรคที่คนไทยจะรู้กันกันดีในสมัยก่อน แต่ตอนนี้เชื่อว่าหากบอกว่าโรคนี้คือโรคพุ่มพวง หรือโรคภูมิแพ้ตัวเองล่ะก็ เชื่อว่าทุกคนย่อมรู้จักกัน โรคลูปัสSLE นี้เป็นโรคที่เป็นอยู่ในหมวดภูมิคุ้มกันผิดประเภท ทำให้ร่างกายของเราเกิดขึ้นการผลิต แอนติบอดี้ ขึ้นมามากจนเกินไป ทำให้ร่างกายเริ่มเป็นได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งในคนปกติแล้วภูมิคุ้มกันมักจะป้องกันและต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย แต่คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ภูมิคุ้มกันร่างกายนั้นเริ่มเป็นจะต้านร่างกายของตัวเอง ทำให้เริ่มเป็นการอักเสบของอวัยวะอื่นๆและทำลายอวัยวะภายในของตัวเอง วันนี้เราจึงมาแนะนำโรคนี้ให้ได้รู้จักกันแบบดีขึ้นค่ะ
            สาเหตุของโรคลูปัส SLE
            ยังไม่มีการทราบที่มาที่ชัดเจนของการปรากฏโรคนี้ได้ เพราะเป็นโรคที่มีผู้ป่วยค่อนข้างน้อย มีเพียงการสันนิษฐานว่าอาจจะมีสาเหตุดังนี้

  • พันธุกรรม พบว่าอาจจะเริ่มเป็นในการที่เป็นฝาแฝดกันก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่า หรือมีบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้คนในครอบครัวก็มีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วย
  • แสงแดดและสารเคมี เพราะสารเคมีบางชนิดส่งผลทำให้ร่างกายเริ่มเป็นปัจจัยการกลายพันธ์
  • ติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เกิดขึ้นจากการที่เราไม่คาดได้ว่าไวรัสตัวใดทำให้เกิดขึ้นโรคนี้ได้อย่างแน่นอน
  • ฮอร์โมนเพศ ปรากฏจากการที่มีเยอะเกินไปจนทำให้ก็จะกระตุ้นอาการทำให้กำเริบขึ้นมาได้

    อาการของโรคลูปัสSLE
          สภาพที่เรามักพบได้ทั่วไปในผู้ป่วยโรคนี้ มักจะแสงอาการออกมาแบบเฉียบพลัน และค่อนข้างจะรุนแรง หรือในบางรายอาจจะมีอาการแบบเรื่อยๆนานหลายปี ซึ่งสภาพข้างต้นมีดังนี้

  • มีสภาพอ่อนเพลีย มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดแบบไม่มีสาเหตุ เป็นสภาพที่พบได้บ่อยที่สุด
  • มีสภาพทางผิวหนังและเยื่อบุช่องปาก เป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน พบได้บ่อยที่สุดด้วย มักจะสภาพขึ้นผื่นในปาก หรือบริเวณผิวหนังที่โดนแสงแดดบ่อยๆ
  • มีสภาพอ่อนเพลียหน้ามืด มีสภาพภาวะซีด อาการเม็ดเลือดขาวต่ำ
  • มีอาการอักเสบ มีอาการปัสสาวะเป็นฟอง มีอาการความดันโลหิตสูงตามมาด้วย

    การฟื้นฟูโรคลูปัสSLE
          เนื่องจากที่มาที่ไม่ชัดเจนทำให้ไม่สามารถหาแนวทางปกป้องที่ดีที่สุดได้
    การดูแลโรคลูปัสSLE
          เนื่องจากโรคนี้ไม่มีแนวทางที่ทำให้ปกป้องให้หายขาดได้จึงมีเพียงการทานยาเพื่อรักษาประคองอาการและหมั่นไปพบแพทย์เพื่อรับยาและคำแนะนำ ซึ่งโรคนี้จะไม่สามารถขาดยาได้เลย เพราะสภาพจะกำเริบทันที ทำให้ผู้ป่วยจะต้องมีคนดูแลเพื่อให้ทานยาตรงเวลาและปริมาณเท่ากับที่คุณหมอแนะนำ หากครอบครัวใดมีผู้ป่วยโรคนี้ก็แนะนำให้ปกป้องกันดีๆนะคะ
    คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รักษา SLE

    เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.youtube.com/watch?v=bED5QIibjAM

    Tags : สมุนไพรรักษาโรค SLE, วิธีรักษาโรค SLE, โรค SLE
#31
โรคริดสีดวง
คือโรคที่พบบ่อย โดยมี สาเหตุมาจากหลายปัจจัย และเมื่อเกิดอาการก็เพิ่มความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันมากพอสมควร ดังนั้นเมื่อใครกำลังมองหาวิธีแก้โรคริดสีดวงทวารกันอยู่ อย่าปล่อยให้โรคริดสีดวงอยู่กับเรานานเกินไปค่ะ จัดการด่วน  โรคริดสีดวงทวารเกิดขึ้นได้กับทุกท่านนะคะ ดังนั้นใครที่ยังไม่เป็นโรคนี้ก็ควรใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้ดีตามคำแนะนำเบื้องต้น หรือหากใครก็ตามที่เป็นโรคริดสีดวงแล้วก็พยายามเอาใจใส่ตัวเองรวมทั้งรักษาริดสีดวงให้ถูกวิธีด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคริดสีดวง
โดยมากแล้วที่ บริเวณทวารหนักจะมีเลือดมาเลี้ยงมาก และมีลักษณะพิเศษอีก คือ มีกลุ่มหลอดเลือดดำสานเป็นร่างแหที่บริเวณเยื่อบุทวารหนัก 3 กลุ่มใหญ่ โดยรอบทวารหนัก เลือดภายในกลุ่มหลอดเลือดดำเหล่านี้จะไหลถูกเทขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่ภาย ในช่องท้อง แต่ถ้าหลอดเลือดไหลถ่ายเทไม่สะดวก และเป็นบ่อย ๆ มักจะเกิดการคั่งขึ้นภายในร่างแหหลอดเลือดดำ เกิดเป็นหลอดเลือดขอดโป่งพองขึ้นได้ เรียกว่า ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงทวารหนักจะเกิดเป็นแบบภายในหรือภายนอก ขึ้นกับว่าอาจจะที่หลอดเลือดภายใน หรือนอกทวารหนัก ส่วนมากมักจะเป็นแบบภายใน ที่พบบ่อยที่สุด คือ อุปนิสัยในการขับถ่ายอุจจาระ และการรับประทานอาหาร
ท้องผูก คือ การถ่ายอุจจาระลำบาก หลายๆ วันถ่ายครั้งหนึ่ง พวกนี้อาจจะมีอุจจาระแข็ง ต้องเบ่งอยู่นานขณะขับถ่าย นั่งถ่ายอุจจาระนาน การทานอาหาร ที่ไม่ค่อยมีผัก และผลไม้ จะทำให้อุจจาระมีกากอาหารน้อย ทำให้ถ่ายยากได้มากก็ส่งผลให้เกิดการยืดขยายตัวของกล้ามเนื้อทางเดินอาหารและการกดทับของลำไส้ เนื่องจากมดลูกที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออาการถ่ายลำบากถูกปล่อยไว้นานก็กลายเป็นสาเหตุของภาวะริดสีดวงได้
{ต้นเหตุ|สาเหตุ|ปัจจัย|เรื่องอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก ได้แก่ การตั้งครรภ์ เพราะมดลูกเพิ่มใหญ่ขึ้น กดทับทำให้เลือดดำไหลถูกเทลำบาก เกิดการคั่งได้ง่าย นอกจากนั้นยังกดลำไส้ใหญ่ทำให้ถ่ายลำบากบ่อย ๆ ยิ่งทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักมากขึ้น หรือมีเนื้องอกอยู่ภายในลำไส้ใหญ่ อุจจาระออกลำบาก ต้องใช้แรงเบ่งมากก็มีโอกาสเกิดได้ง่ายขึ้น
อาการของโรคริดสีดวง
ผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารหนัก โดยมากมักจะมีอาการถ่ายเป็นเลือด เลือดที่ออกจะเป็นเลือดสดๆ เบื้องต้นอาจสังเกตว่ามีเลือดติดกระดาษชำระหลังอุจจาระ หรือเคลือบอุจจาระออกมา ต่อมาอาจออกมากจนมีเลือดหยดลงในโถส้วมขณะถ่ายอุจจาระ ถ้าเป็นมากขึ้นอาจจะพบว่ามีก้อนโผล่ออกมาทางทวารหนัก โดยเฉพาะหลังถ่ายอุจจาระโดยมากอาจจะไม่มีอาการเจ็บปวด (นอกจากถ้ามีการอักเสบร่วมด้วย) ยกเว้นในพวกที่เป็นริดสีดวงทวารหนักแบบภายนอก ซึ่งมักพบก้อนที่ทวารหนักตั้งแต่เริ่มแรกและโดยมากจะเจ็บปวดที่ก้อนริดสีดวง




คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุุนไพรรักษาโรคริดสีดวง

เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=XtqBsYoqFTM&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9

Tags : รักษาโรคริดสีดวง, ริดสีดวง
#32
ปลากับน้ำขาดกันไม่ได้
เสมือนกับรองเท้าแฟชั่นกับหญิงสาวที่ไม่มีทางขาดกันเช่น
แต่หลายคนอาจไม่มีหลักการในการเลือกรองเท้าแฟชั่นที่ตรงใจกันเลย
หากต้องการเลือกซื้อกันแบบสะดุดตาคน
แบบนี้ก็ต้องบอกว่า
พบตอนไหนต้องอดค่าขนมกันเป็นแน่แท้
ยังไม่หมดบางทีรองเท้าแฟชั่นที่คุณได้ซื้อมาคุณอาจไม่เคยได้ใช้งานมันเลยก็มี
ด้วยสาเหตุมากมาย
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเวลาสถาน
ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อใช้งาน
วันนี้เราจึงมีวิธีเลือกรองเท้าแฟชั่นแบบราคาเบาๆ
และสวยสะดุดตามาแนะนำกัน
ซึ่งมีวิธีปฏิบัติง่ายๆ เพียง 3 ข้อไม่ต้องจดแค่จำก็พอนั้นคือ
1.จำชุดที่มีของเราให้ได้
คุณจะต้องพยายามจำเสื้อตัวเก่งต่างๆ ของคุณให้ได้อย่างแม่นยำ
หรือถ้าเป็นเรื่องยากเกินไปก็เน้นไปที่การจำสีของชุดให้แม่นยำแล้วจึงซื้อรองเท้าแฟชั่นให้เข้ากับเ
สื้อผ้าที่มีอยู่
ยิ่งเสื้อผ้าของคุณมีโทนสีที่คล้ายๆกันคุณก็จะคัดสรรรองเท้าได้ง่ายขึ้นเล่นกัน


2.ราคาก็สำคัญ
ของล้ำค่าไม่จำเป็นต้องแ
พง
เพราะเราจำเป็นต้องเลือกหาอีกหลายคู่เพื่อให้
สอดคล้องกับชุดที่คุณมีอยู่
ข้อนี้ขอสั้นๆว่าประหยัดไว้ก่อนเพื่อคู่ต่อไป
3.ใส่ง่ายสบายๆได้ทุกโอกาส
เมื่อเจอเฉดสีและสไตล์ที่โดนใจแล้ว
ก็ต้องดูแบบที่ใส่สบายๆด้วยจะได้ใช้ได้
นานๆ
เลือกจำเพียงแค่ 3 ข้อนี้
คราวนี้รองเท้าแฟชั่นของคุณสาวๆ
ก็จะไม่เหว่ว้าอยู่แต่ในชั้นวางอีกต่อไป
สำหรับคู่ที่เลือกซื้อมาแล้วหาเสื้อผ้าใส่เข้ากันไม่ได้ต้องเ
สียเงินซื้อเพิ่ม
ในบางครั้งการเลือกชุดที่ใส่แล้วมาปรับเปลี่ยนส
ไตล์ที่ต่างออกไปบ้าง
ก็จะทำให้รองเท้าแฟชั่นที่มีอยู่เด่นขึ้นด้วยเช่นกัน
หากคนที่ยังหาซื้อรองเท้าที่ถูกใจ
ไม่ได้ก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมที่ร้านSHopnichaได้เลย
ของดีของถูกเขาเยอะการันตีได้เลย


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รองเท้าแฟชั่นเกาหลี

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://postza221.tumblr.com/post/138458871765

Tags : รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#33
 ดูแลเอาใจใส่โรคต่อมลูกหมาก ความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตได้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากและมีความเครียดมากในหมู่คนในโลกมีประชากรมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนข้ามอายุ 40 มีความอ่อนไหวต่อความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตสำหรับและความเป็นไปได้ของความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตมีมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ข้าม 50 ปีของอายุ บัตรประจำตัวของปัญหาโรคต่อมลูกหมากโตในตอนแรกเป็นความอยากที่สำคัญที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงของโรคมะเร็งนี้ คนใกล้วัย 40 และ 50 จะได้รับคำบอกที่จะไปตรวจสุขภาพประจำปีประจำสำหรับการใด ๆ ของการเกิดความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโต DRE สแกนและ PSA การทดสอบเป็นเครื่องมือที่ปกติสำหรับการวินิจฉัย

อ่านเพิ่มคลิก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/2016/02/blog-post_27.html

Tags : โรคต่อมลูกหมากโต
#34
Cmxseed Market / รักษาโรคกระเพาะ
20 เมษายน 2016, 19:18:04
โรคกระเพาะ
เวลาตอนกลางวันมาถึงแล้ว แม้จะชวนเพื่อน ๆ ร่วมงานไปกินข้าว ก็เหมือนกับไม่มีใครอยากลุก หันไปทางซ้าย หัวหน้าก็สนใจกับงานตรงหน้า ไม่กล้าเรียก หันทางขวาเพื่อนร่วมงานก็กำลังเครียดกับเอกสารสารพันบนโต๊ะ สรุปว่าไม่มีใครไปกินข้าวเลยหรอ? นี่หรือเปล่าที่ทำให้คนทั้ง 2 บ่นปวดท้อง ไม่ว่าจะก่อนกิน หรือหลังกิน


สาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะ
ผู้ร้ายตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะเรียกว่า "เชื้อโรค" ที่ชื่อว่า เอช.ไพโลไร (Helicobacter pylori)* มันเป็นแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มันจะอยู่ภายในกระเพาะอาหารของผู้ติดเชื้อไปตลอดชีวิต โดยจะอยู่บริเวณด้านล่างของกระเพาะอาหาร โดยเชื้อนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดถูกขับออกมามากขึ้น จนเกิดการอักเสบตรงเยื่อบุกระเพาะ นำไปสู่การเกิดภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนบนนั่นเอง
ปวดหรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ เวลาท้องว่าง หรือเวลาหิว แต่แก้ได้ได้ด้วยการทานอาหารหรือยาลดกรด แต่ในบางกรณีจะยิ่งปวดมากขึ้นหลังกินอาหาร โดยเฉพาะทานอาหารในรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด มักปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ มานานนับปี โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น ปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ และไม่แสดงอาการหลายๆ เดือน จึงกลับมาปวดอีก ปวดแน่นท้องกลางคืนหลังจากหลับไปแล้ว
บางกรณีอาจมีอาการแสดงเวลากินยาแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ ดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ของมันๆ ของหวานๆ ของกินที่ย่อยยาก หรือกำเริบในช่วงที่กินอาหารผิดเวลาหรือปล่อยให้หิวนานๆ หรือเวลามีความเครียด ทั้งนี้ บางรายจะไม่มีอาการปวดท้อง แต่จะแสดงอาการแน่นท้อง หรือรู้สึกไม่สบายในท้อง มักจะเป็นตรงใต้ลิ้นปี่ หรือกลางท้องรอบสะดือ มักมีอาการท้องอืดผสมด้วย โดยเฉพาะหลังทานอาหารท้องจะอืดขึ้นชัดเจน มีลมมากในท้อง ท้องร้องโกรกกราก ต้องเรอและผายลมจะดีขึ้น อาจมีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยเฉพาะหลังอาหารแต่ละมื้อ หรือรุ่งสางคนไข้อาจมีอาการอิ่มง่ายกว่าปกติ ทำให้กินได้ลดลง และน้ำหนักลดลงบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ แม้บางกรณีจะมีอาการเรื้อรังเป็นปี แต่สุขภาพโดยทั่วไปจะไม่เสื่อมสภาพ น้ำหนักตัวไม่ลด ไม่มีภาวะซีด แต่ในบางคนอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้ป่วยอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเหลวสีดำเหนียวคล้ายน้ำมันดิน หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ


รักษาโรคกระเพาะ สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุุนไพรรักษาโรคกระเพาะ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://herbsgood224.blogspot.com

Tags : สมุุนไพรรักษาโรคกระเพาะ,รักษาโรคกระเพาะ,โรคกระเพาะ
#35
โรคมะเร็งเต้านม
เชื่อเลยว่าโรคมะเร็งนั้นเป็นโรคอันตรายที่หลายคนก็ไม่อยากเป็น เพราะ{เมื่อ|หาก|ว่า|เป็นแล้วจะต้องรักษาตลอดและการรักษาทำได้ยากมากมีไม่บางรายเท่านั้นที่รักษาได้หายสนิท ส่วนใหญ่เมื่อ เป็นโรคมะเร็งแล้วจะต้องเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งมะเร็งที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ คือโรคมะเร็งเต้านม ดังนั้นลองมาอ่านข้อมูลเพื่อป้องกันตนเองเอาไว้ก่อนดีกว่า

อาการมะเร็งเต้านม
ก้อนกลมๆที่เต้านม ไม่เจ็บสิน่ากลัว
บ่อยครั้งสาเหตุที่ คนไข้มาหาหมอ มาจากก้อนที่เต้านม คืออันดับหนึ่ง รองลงมา คือ อาการเจ็บเต้านม ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อมีอาการปวดเต้านม จะเริ่มสังเกตและคลำที่เต้านม ส่วนหนึ่งจะพบก้อนร่วมด้วย อีกส่วนหนึ่งไม่พบก้อนหรือไม่แน่ใจ แต่ อาจจะลงเอยด้วยการพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นมะเร็งเต้านม ซึ่ง มักจะมาพบหมอค่อนข้างเร็ว ผิดกับผู้ที่มีก้อนที่เต้านม คลำได้ แต่ไม่รู้สึกเจ็บ อาจจะปล่อยเอาไว้เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
ซีส จะเจ็บ ส่วนมะเร็ง มักจะไม่เจ็บ
ในกลุ่มก้อนที่เต้านมนั้น มีโรคกลุ่มหลัก ๆ อยู่ 3 กลุ่ม คือ 1) ซีสเต้านม 2) เนื้องอกเต้านม (ไม่ร้าย) 3) มะเร็งเต้านม ซีสที่เต้านม มักจะมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน โตก่อนรอบเดือนมาคือเล็กลงหลังรอบเดือนมาแล้ว ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่มีซีส อาจจะเจ็บที่ก้อน ซึ่งผิดกับกลุ่มเนื้องอกหรือมะเร็ง ซึ่ง มักจะไม่ค่อยเจ็บ พบว่าร้อยละ 90 ของคนไข้เป็นมะเร็งเต้านม ระยะเริ่มแรกคนป่วยมีแต่ก้อน ไม่มีอาการเจ็บ สาวๆหลายๆ คนมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดว่าก้อนที่ไม่เจ็บคงไม่เป็นไรและปล่อยทิ้งไว้จนเป็นก้อนมะเร็งใหญ่โตขึ้นมากแล้วจึงรู้สึกเจ็บได้
สิ่งที่เกี่ยวกับฮอร์โมน ที่พบว่าจะมีความสัมพันธ์ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสูงขึ้นได้แก่
การมีประจำเดือนครั้งแรกเร็ว คือมีครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หมดประจำเดือนช้ากว่าควรจะเป็นคือหมดหลังอายุ 55 ปี ไม่เคยมีบุตร ไม่เคยมีน้ำนมหรือไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมตนเอง เคยได้รับฮอร์โมนจากภายนอกเช่น ยาคุมกำเนิดมากกว่า 10 ปี ได้รับการเสริมด้วยฮอร์ดมนเอสโตรเจน หรือ diethylstilbestrol หรือได้รับฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้มีการเจริญพันธ์ ได้รับฮอร์โมนทดแทนวัยทองมากกว่า 5 ปี ปัจจัยเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นการได้รับรังสีที่ทรวงอกตั้งแต่เด็ก การดื่มแอลกอฮอลการบริโภคอาหารมัน หรือเนื้อแดง เป็นต้น   

การประเมินว่าหญิงคนใดจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยประวัติครอบครัว และหากวิเคราะห์แล้วความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเท่ากับประชาชน การเริ่มการตรวจคัดกรองจะเริ่มที่อายุ 50 ปี ในการดูจากความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมจะแบ่งความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร 081-722-1523
VDO ประสบการณ์ผู้ป่วย (คุณ ฉลวย นิลวงศ์)
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร T.081-7221523
สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม
https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY&index=3&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9

Tags : สมุุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม, โรคมะเร็งเต้านม
#36
 รักษาโรคต่อมลูกหมาก ความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตได้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากและมีความเครียดมากในหมู่คนในโลกมีประชากรมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนข้ามอายุ 40 มีความอ่อนไหวต่อความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตสำหรับและหนทางของความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตมีมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ข้าม 50 ปีของอายุ บัตรประจำตัวของปัญหาโรคต่อมลูกหมากโตในระยะแรกเป็นความปรารถนาที่สำคัญที่จะหลบหลีกผลกระทบที่รุนแรงของโรคมะเร็งนี้ คนใกล้วัย 40 และ 50 จะได้รับคำกล่าวที่จะไปตรวจสุขภาพประจำปีประจำสำหรับการใด ๆ ของการเกิดความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโต DRE สแกนและ PSA การทดสอบเป็นเครื่องมือที่ปกติสำหรับการวินิจฉัย

อ่านเพิ่มคลิก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

ที่มา : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/

Tags : โรคต่อมลูกหมากโต
#37
รองเท้าแฟชั่นเป็นรองเท้าที่นิยมกันมากที่สุด
ยิ่งเป็นสาวๆวัยทำงานด้วยแล้ว
รองเท้าก็คือประเด็นร้อนอีกจุดที่เป็นเรื่องไว้สนทนากับเพื่อนที่ทำงาน
แต่การจะหารองเท้าแฟชั่นให้ถูกใจสักคู่เป็นเรื่องเด็กๆ
อยากได้{แบบ|สไตล์|รูปแบบ|ไหนก็สามารถซื้อมาใส่ได้ทันที่
แต่หารู้ไม่ว่ารองเท้าแฟชั่นนั้นมีแบบและรวดลายที่ไม่
ต่างกันมากนัก บางครั้งรองเท้าแฟชั่นที่เราซื้อมานั้น
ก็อาจจะไปซ้ำกับเพื่อนที่ทำงานก็เป็นได้
ทั้งนี้เราจะสรรหารองเท้าแฟชั่นอย่างไรไม่ใช้เฉ
ยหรือไปซ้ำกับเพื่อนที่มีอยู่แล้ว
เราจึงมีวิธีมาแนะนำ 3 ข้อง่ายๆ ดังนี้
1.สีสันต้องมาก่อน
การเลือกสีที่ฉูดฉาดก็จะเป็นจุดเด่นในการสวมใส่
ซึ่งเพื่อนของคุณหลายๆคนก็อาจไม่ชอบใส่เราจึงใช้จุดนี้แหละเพื่อทำให้เกิดจุดเด่น
2.ลองถามดูว่ามีใครเคยซื้อหรือยัง
การเอ่ยแบบนี้ก็เป็นการบอกกับเพื่อนๆให้รู้เพื่อที่ว่ารองเท้าแฟชั่นที่จะไปถอยใหม่จะได้ไม่
ซ้ำกับเพื่อนที่ทำงานบางคนที่จัดม
าก่อนหน้านี้แล้ว
คุณก็จะได้ไม่เลือกซื้อรองเท้าแฟชั่นซ้ำกับเ
พื่อนของคุณ

3.พาเพื่อนไปด้วยเลย
การที่คุณชักชวนเพื่อนไปเลือกด้วยกันคือการบอกถึ
งว่าว่ารองเท้าของเรามีรูปแบบแบบนี้ สีแบบนี้
จะได้ซื้อไม่เหมือนกัน
และยังให้เพื่อนช่วยดูรองเท้าแฟชั่นที่เราถูกใจด้วยว่าเหมาะกับเราหรือ
ดังนั้นเรื่องซ้ำ{ไม่ต้องพูดถึง|ไม่เกิดขึ้นแน่นอน|ไม่มีแน่นอน
เรื่องของรองเท้าซ้ำกับผู้อื่นก็จะเป็นเรื่องเล็กและหมดปัญหากวนใจ
โดยหลักการง่ายๆเพียง 3 ข้อ
เท่านั้นเพียงเท่านี้คุณก็จะได้ของที่สะดุดตากว่าค
นอื่นอย่างแน่นอน


เครดิต : http://faithfulwordpress.com/index.php?topic=139435.new#new

Tags : รองเท้าแฟชั่น,รองเท้า
#38
 
ต่อมลูกหมาก (อังกฤษ: Prostate gland) เป็นอวัยวะในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ที่อยู่ตรงด้านหลังของคอ กระเพาะปัสสาวะ ในอุ้งเชิงกรานหลังกระดูกหัวหน่าว ลักษณะต่อมมี 5 กลีบ หนักประมาณ 20 กรัม[1] ทำหน้าที่สร้างของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม ที่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ มีกลิ่นเฉพาะตัว สารที่หลั่งออกมาเป็นเบสอ่อนๆ ช่วยให้เกิดสภาพเหมาะสมกับตัวอสุจิ ลดสภาพความเป็นกรดของท่อปัสสาวะและช่วยให้อสุจิแข็งแรงและว่องไวขึ้น



ของปัญหาโรคต่อมลูกหมากโตฉะนั้นจะครอบคลุมในรายละเอียดที่นี่เพื่อเขียนความยาวสวย โรคแรกที่อยากที่จะครอบคลุมคือเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (อ่อนโยน Prostatic Hyperplasia) นี้นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็น \"โรคต่อมลูกหมากโตโต\" โรคนี้จะถูกจัดให้อยู่ใน 3 ลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อยขยายขยายปานกลางและขยายอย่างรุนแรง โรคนี้สามารถกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัยและการแข่งขัน โรคต่อมลูกหมากโตของผู้ชายคนเติบโตขึ้นกับอายุ

อ่านต่อคลิก!!
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

เครดิต : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/2016/02/blog-post.html

Tags : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต,วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
#39
โรคมะเร็งเต้านม
เชื่อเลยว่าโรคมะเร็งนั้นเป็นโรคอันตรายที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็น เพราะ{เมื่อ|หาก|ว่า|เป็นแล้วจะต้องรักษาตลอดและการรักษาทำได้ยากมากมีไม่กี่รายเท่านั้นที่รักษาได้หายสนิท ส่วนใหญ่เมื่อ นั้นเป็นโรคมะเร็งแล้วจะต้องเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งมะเร็งที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ นั้นเป็นโรคมะเร็งเต้านม ดังนั้นลองมาอ่านข้อมูลเพื่อป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อนดีกว่า

อาการมะเร็งเต้านม
ก้อนกลมๆที่เต้านม ไม่เจ็บสิน่ากลัว
บ่อยครั้งสาเหตุที่ ผู้ป่วยมาหาหมอ มาจากก้อนที่เต้านม เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ อาการเจ็บเต้านม ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อมีอาการเจ็บร้าวเต้านม จะเริ่มสังเกตและคลำที่เต้านม ส่วนหนึ่งจะพบก้อนร่วมด้วย อีกส่วนหนึ่งไม่พบก้อนหรือไม่แน่ใจ แต่ จะลงเอยด้วยการพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นมะเร็งเต้านม ซึ่ง อาจจะมาพบหมอค่อนข้างเร็ว ผิดกับผู้ที่มีก้อนที่เต้านม คลำได้ แต่ไม่รู้สึกเจ็บ อาจจะปล่อยเอาไว้เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
ซีส อาจจะเจ็บ ส่วนมะเร็ง จะไม่เจ็บ
ในจำพวกก้อนที่เต้านมนั้น มีโรคกลุ่มหลัก ๆ อยู่ 3 กลุ่ม คือ 1) ซีสเต้านม 2) เนื้องอกเต้านม (ไม่ร้าย) 3) มะเร็งเต้านม ซีสที่เต้านม อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน โตก่อนรอบเดือนมาและเล็กลงหลังรอบเดือนมาแล้ว ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่มีซีส อาจจะเจ็บที่ก้อน ซึ่งผิดกับกลุ่มเนื้องอกหรือมะเร็ง ซึ่ง จะไม่ค่อยเจ็บ พบว่าร้อยละ 90 ของคนไข้เป็นมะเร็งเต้านม ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยมีแต่ก้อน ไม่มีอาการเจ็บ ผู้หญิงหลายๆ คนมีความเข้าใจผิดคิดว่าก้อนที่ไม่เจ็บคงไม่เป็นไรและปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นก้อนมะเร็งใหญ่โตขึ้นมากแล้วจึงรู้สึกเจ็บได้
สิ่งที่เกี่ยวกับฮอร์โมน ที่พบว่ามักจะมีความสัมพันธ์ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสูงขึ้นได้แก่
การมีประจำเดือนครั้งแรกมาไว คือมีครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หมดประจำเดือนช้ากว่าปกติคือหมดหลังอายุ 55 ปี ไม่เคยมีบุตร ไม่เคยมีน้ำนมหรือไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมตนเอง เคยได้รับฮอร์โมนจากภายนอกเช่น ยาคุมกำเนิดมากกว่า 10 ปี ได้รับการเพิ่มด้วยฮอร์ดมนเอสโตรเจน หรือ diethylstilbestrol หรือได้รับฮอร์โมนเพื่อเร่งเร้าให้มีการเจริญพันธ์ ได้รับฮอร์โมนทดแทนวัยทองมากกว่า 5 ปี เรื่องที่เสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นการได้รับรังสีที่ทรวงอกตั้งแต่เด็ก การดื่มสุราการบริโภคอาหารมัน หรือเนื้อแดง เป็นต้น   

การประเมินว่าผู้หญิงคนใดมักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยประวัติครอบครัว และหากดูจากแล้วความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเท่ากับประชาชน การเริ่มการตรวจคัดกรองจะเริ่มที่อายุ 50 ปี ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมจะแบ่งความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร 081-722-1523
VDO ประสบการณ์ผู้ป่วย (คุณ ฉลวย นิลวงศ์)
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร T.081-7221523
สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม
https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY&index=3&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม

เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9

Tags :  โรคมะเร็งเต้านม
#40
Cmxseed Market / รักษาโรคกระเพาะ
13 เมษายน 2016, 04:56:09
โรคกระเพาะ
เวลาพักกลางวันมาถึงแล้ว อยากจะชวนเพื่อน ๆ ร่วมงานไปกินข้าว ก็เหมือนกับไม่มีใครอยากลุก หันไปทางซ้าย หัวหน้าก็ขะมักเขม้นกับงานตรงหน้า ไม่กล้าเรียก หันทางขวาเพื่อนร่วมงานก็กำลังเครียดกับเอกสารสารพันบนโต๊ะ สรุปว่าไม่มีใครไปกินข้าวเลยหรอ? นี่หรือเปล่าที่ทำให้คนทั้ง 2 บ่นปวดท้อง ไม่ว่าจะก่อนกิน หรือหลังกิน


สาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะ
สาเหตุตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะนั่นคือ "เชื้อโรค" ที่ชื่อว่า เอช.ไพโลไร (Helicobacter pylori)* มันเป็นแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มันจะอยู่ภายในกระเพาะอาหารของผู้ติดเชื้อไปตลอดชีวิต โดยจะอยู่ในส่วนด้านล่างของกระเพาะอาหาร โดยเชื้อนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของกระเพาะอาหาร ทำให้กรดถูกขับออกมามากขึ้น จนเกิดการอักเสบตรงเยื่อบุกระเพาะ นำไปสู่การเกิดภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนบนนั่นเอง
ปวดหรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ เวลาท้องว่าง หรือเวลาหิว แต่แก้ได้ได้ด้วยการทานอาหารหรือยาลดกรด แต่ในบางคนจะยิ่งปวดมากขึ้นหลังทานอาหาร โดยเฉพาะทานอาหารตรงรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด มักปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ มานานเป็นปี โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น ปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ และไม่แสดงอาการหลายๆ เดือน จึงกลับมาปวดอีก ปวดแน่นท้องยามดึกหลังจากหลับไปแล้ว
บางกรณีอาจมีอาการแสดงเวลากินยาแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ ดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ของมันๆ ของหวานๆ ของกินที่ย่อยยาก หรือแสดงในช่วงที่กินอาหารผิดเวลาหรือปล่อยให้หิวนานๆ หรือเวลามีความเครียด ทั้งนี้ บางกรณีจะไม่มีอาการปวดท้อง แต่จะแสดงอาการแน่นท้อง หรือรู้สึกมวนในท้อง มักจะเป็นที่ใต้ลิ้นปี่ หรือกลางท้องรอบสะดือ มักมีอาการท้องอืดผสมด้วย โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารท้องจะอืดขึ้นชัดเจน มีลมมากในท้อง ท้องร้องโกรกกราก ต้องเรอหรือผายลมจะดีขึ้น อาจมีคลื่นไส้อาเจียนผสมด้วย โดยเฉพาะหลังอาหารแต่ละมื้อ หรือช่วงเช้ามืดคนไข้อาจมีอาการอิ่มง่ายกว่าปกติ ทำให้กินได้ลดลง และน้ำหนักลดลงบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ แม้บางกรณีจะมีอาการเรื้อรังเป็นปี แต่สุขภาพโดยทั่วไปจะไม่แย่ลง น้ำหนักตัวไม่ลด ไม่มีอาการซีด แต่ในบางคนอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้ติดเชื้ออ้วกเป็นเลือด ถ่ายเหลวสีดำเหนียวคล้ายน้ำมันดิน หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ


รักษาโรคกระเพาะ สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ

ขอบคุณบทความจาก : https://herbsgood224.blogspot.com

Tags : สมุุนไพรรักษาโรคกระเพาะ,รักษาโรคกระเพาะ,โรคกระเพาะ
#41
ปลากับน้ำขาดกันไม่ได้
เสมือนกับรองเท้าแฟชั่นกับผู้หญิ
งที่ไม่มีทางแยกจากกันเช่น
แต่หลายๆคนอาจไม่มีเซ้นส์ในการเลือกซื้อรองเท้าแฟชั่นที่ถูกใจกันเลย
หากอยากเลือกซื้อกันแบบโดนใจสุดๆแบบนี้ก็ต้องบอกว่า
เห็นเมื่อไหร่ต้องกระเป๋าฉีกกันเป็นแน่แท้
ยังไม่พอบางทีรองเท้าแฟชั่นที่คุณได้ซื้อมาคุณอาจไม่เคยได้ใส่มันเลยก็มี
ด้วยสาเหตุหลายประการ
อาทิเรื่องเวลาสถาน
ที่ไม่เหมาะกับใช้งาน
วันนี้เราจึงมีวิธีค้นหารองเท้าแฟชั่นแบบราคาส
บายๆ
และสวยสะดุดตามาแนะนำกัน
ซึ่งมีหลักการง่ายๆ เพียง 3 ข้อไม่ต้องจดแค่จำก็พอนั้นคือ
1.เสื้อผ้าที่เราชอบ
ต้องจำให้ได้
คุณจะต้องสามารถจดจำเสื้อตัวเก่งต่างๆ ของคุณให้ได้อย่างแม่นยำ
หรือถ้ามันยากเกินไปก็เน้นไปที่การจำสีของชุดให้แม่นยำแล้วจึงเลือกซื้อรองเท้าแฟชั่นให้มิกซ์กับเ
สื้อผ้าที่มีอยู่
ยิ่งเสื้อผ้าของคุณมีเฉดสีที่คล้ายๆกันคุณก็จะคัดสรรรองเท้าได้ง่ายขึ้นเล่นกัน


2.ราคาก็สำคัญ
ของพิเศษไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
เพราะเรายังคงต้องมีอีกหลายคู่เพื่อให้แมตช์กับเสื้อผ้าที่คุณมีอยู่
นี้ขอสั้นๆว่าประหยัดไว้ก่อนเพื่อคู่ต่อไป
3.ใส่ง่ายสบายๆได้ทุกโอกาส
เมื่อได้สีและแบบที่โดนใจแล้ว
ก็ต้องหาแบบที่ใส่สบายๆด้วยจะได้ใช้ได้
ยาวนาน
จดจำเพียงแค่ 3 สิ่งนี้
คราวนี้รองเท้าแฟชั่นของสาวน้อยสาวใหญ่
ก็จะไม่เหงาอยู่แต่ในชั้นวางอีกต่อไป
สำหรับคู่ที่ซื้อมาแล้วหาเสื้อผ้าใส่เข้ากันไม่ได้ต้องเ
สียเงินซื้อเพิ่ม
ในบางครั้งการเลือกเสื้อผ้าที่เคยใส่แล้วมาปรับเปลี่ยนส
ไตล์ที่ต่างออกไปบ้าง
ก็จะทำให้รองเท้าแฟชั่นที่มีอยู่เด่นขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับสาวๆที่ยังหาซื้อรองเท้าที่สะดุดตาไม่ได้ก็ลองแวะเข้าไปที่ร้านSHopnichaได้เลย
ของดีของถูกเขาเยอะรับลองได้เลย



ที่มา : http://shopwomen-shoes.blogspot.com/2016/02/blog-post_3.html

Tags : รองเท้าแฟชั่น,รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#42
โรคไทรอย
พูดถึงโรคไทรอย บางคนก็คงรู้ว่าอวัยวะนี้อยู่ตรงคอ แต่ถ้าถามว่า แล้วรู้ไหมว่าโรคไทรอยมีหน้าที่อะไร แล้วถ้าป่วยขึ้นมาจะมีอาการอย่างไรให้สังเกตเห็นได้ ทุกคนอาจจะสั่นหัว รู้จักแต่ชื่อ แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าอาการของโรคไทรอยเป็นอย่างไร  "ใจสั่น น้ำหนักลด เหงื่อออกมือมาก เหมือนมีไข้ต่ำ ๆ กลัวอาจจะเป็นโรคไทรอย" ประโยคแบบนี้คือสิ่งที่เคยได้ยินเป็นครั้งคราวจากคนไข้ที่มาขอคำปรึกษาเรื่องโรคไทรอย บางคนมาด้วยอาการเหล่านี้อย่างสงสัย แต่หลายคนก็มาด้วยต้องการตรวจเลือดเรื่องโรคไทรอยโดยเฉพาะเลยก็มี
ต่อมโรคไทรอย จัดว่าเป็นต่อมไร้ท่อใหญ่ที่สุดในร่างกาย อยู่ที่ส่วนหน้าของลำคอ ใต้ลูกกระเดือกลงมา มีรูปร่าง มีหน้าที่สร้าง และหลั่ง โรคไทรอยฮอร์โมน ออกมาสู่กระแสเลือด ฮอร์โมนนี้ ต่อมโรคไทรอย สร้างเองโดยอาศัย ไอโอดีน จากอาหาร ที่ทานเข้าไป เป็นวัตถุดิบ หน้าที่ของโรคไทรอยฮอร์โมนเกี่ยวกับการพัฒนาการของร่างกายและอวัยวะต่างๆและที่สำคัญได้แก่การเผาผลาญอาหารการกินเพื่อให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย ออกฤทธิ์แสดงอาการทั่วร่างกาย ทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานเหมือนเดิม อวัยวะที่กระตุ้นมากที่สุด คือหัวใจ กับประสาท
โรคไทรอย คือชื่อของต่อมไร้ท่อที่เรียกว่าเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งภายในร่างกาย อยู่บริเวณลำคอใต้ ลูกกระเดือก มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อ อวัยวะชิ้นนี้เรียกว่า "ต่อมโรคไทรอย" ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมน โรคไทรอยเพื่อควบคุมกลไกการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เรียกว่า เมตาบอลิซึม (Metabolism) อวัยวะที่อยู่ภายในร่างกายจำเป็นมักจะต้องใช้ฮอร์โมนโรคไทรอยในการทำงาน แทบทั้งสิ้น ทั้งนี้โรคของต่อมโรคไทรอยส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 5-10 เท่า

อาการของโรคไทรอย
ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคไทรอยเป็นพิษจะแสดงอาการของการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ หัวใจถูกเร้าการทำงาน ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ใจสั่น ในบางรายที่เป็นมาก ๆ มักจะมีภาวะหัวใจเต้นเร็วแบบผิดปกติได้ การกระตุ้นระบบที่เกี่ยวกับการเผาผลาญอาจจะใช้พลังงาน เหงื่อออกง่ายกว่าปกติ มือสั่น ไม่สดชื่น น้ำหนักลดลง นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ท้องเสียบ่อย จากการที่ทางเดินอาหารถูกเร้าให้ทำงานมากขึ้น ตาโปนกว่าปกติ โดยเนื้อเยื่อหลังนัยน์ตาขยายขนาดขึ้นจากการเป็นโรคไทรอยเป็นพิษประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีทั้งประจำเดือนขาด หรือมาไม่ตรงช่วยมาแบบน้อยมากกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน พอในคนที่โรคไทรอยเป็นพิษแล้วเกิดเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำอย่างเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการคล้ายกับเป็นอัมพาต ขยับแขนขาหรือลำตัวไม่ได้
สาเหตุของโรคไทรอย
โรค Grave's disease เกิดภาวะที่มีภูมิของร่างกายมีการรบเร้าต่อมโรคไทรอยให้สร้างฮอร์โมนออกมามาก ผู้ป่วยมักจะมีต่อมโรคไทรอยโต
โรค Multinudular toxic goiter หมายถึงการเป็นที่ก้อน [nodule] ในต่อมโรคไทรอยทำงานสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น มักจะเป็นก้อนเดียว หรือหลายก้อน

Thyroiditis เป็นการอักเสบของต่อมโรคไทรอย ช่วงแรกของการอักเสบอาจจะมีอาการของคอพอกเป็นพิษ แต่ระยะหลังจะเป็นต่อมโรคไทรอยทำงานน้อย

สมุนไพรรักษาโรคไต

รักษาโรคไต ด้วยสมุนไพร 081-7221523
VDO ประสบการณ์ผู้ป่วย พ่อหนูปัน จันทะเรือง
รักษาโรคไต ด้วยสมุนไพร
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร T.081-7221523
สมุนไพรรักษาโรคไต
https://www.youtube.com/watch?v=l3gRUOebFT8&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9&index=10


ขอบคุณบทความจาก : http://xn--12cg1dfzqmeabc2eg7czcs8g2i4ak.blogspot.com

Tags : สมุนไพรรักษาโรคไทรอย, โรคไทรอย
#43
 ดูแลเอาใจใส่โรคต่อมลูกหมาก ความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตได้กลายเป็นเรื่องปกติมากและมีความเครียดมากในหมู่คนในโลกมีประชากรมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนข้ามอายุ 40 มีความอ่อนไหวต่อความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตสำหรับและความเป็นไปได้ของความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโตมีมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ข้าม 50 ปีของอายุ บัตรประจำตัวของอุปสรรคโรคต่อมลูกหมากโตในช่วงแรกเป็นอุปสงค์ที่สำคัญที่จะหลบหลีกผลกระทบที่รุนแรงของโรคมะเร็งนี้ คนใกล้วัย 40 และ 50 จะได้รับคำแนะนำที่จะไปตรวจสุขภาพประจำปีประจำสำหรับการใด ๆ ของการเกิดความผิดปกติของโรคต่อมลูกหมากโต DRE สแกนและ PSA การทดลองเป็น Tool ที่ปกติสำหรับการวินิจฉัย

อ่านเพิ่มคลิก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

ขอบคุณบทความจาก : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/2016/02/blog-post_27.html

Tags : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต,วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
#44
รองเท้าแฟชั่นเป็นรองเท้าที่นิยมกันมากที่สุด
ยิ่งเป็นหญิงสาวทำงานด้วยแล้ว
รองเท้าก็คือของใช้จำเป็นอีกข้อที่เป็นเรื่องไว้เมา
ท์กับเพื่อนที่ทำงาน
แต่การจะสรรหารองเท้าแฟชั่นให้โดดเด่นสักคู่เป็นเรื่องที่ไม่ยาก
อยากได้{แบบ|สไตล์|รูปแบบ|ไหนก็สามารถเลือกซื้อมาใส่ได้ทันที่
แต่หารู้ไม่ว่ารองเท้าแฟชั่นนั้นมีแบบและรวดลายที่ไม่
ต่างกันมากนัก บางทีรองเท้าแฟชั่นที่เราซื้อมานั้น
ก็อาจจะไปซ้ำกับเพื่อนที่ทำงานก็เป็นได้
ดังนั้นเราจะคัดสรรรองเท้าแฟชั่นอย่างไรไม่ให้ซ้ำเพื่อนที่มีอยู่แล้ว
เราจึงมีวิธีมาแนะนำ 3 ข้อง่ายๆ ดังนี้
1.สีสันต้องมาก่อน
การเลือกสีที่สะดุดตาก็จะเป็นเป้าสายตาในการสวมใส่
ซึ่งเพื่อนที่ทำงานของคุณหลายๆคนก็อาจจะไม่กล้าใส่เราจึงใช้จุดนี้แหละเพื่อทำให้เกิดจุดเด่น
2.ลองถามดูว่ามีใครเคยซื้อหรือยัง
การบอกกล่าวแบบนี้ก็เป็นการบอกกับเพื่อนๆให้รู้เพื่อที่ว่ารองเท้าแฟชั่นที่จะไปถอยใหม่จะได้ไม่
คล้ายกับเพื่อนที่ทำงานบางคนที่จัดม
าก่อนหน้านี้แล้ว
คุณก็จะได้ไม่จัดรองเท้าแฟชั่นซ้ำกับเ
พื่อนของคุณ


3.ชวนเพื่อนไปซื้อด้วยกัน
การที่คุณชวนเพื่อนไปซื้อด้วยกันคือการแสดงออกว่ารองเท้าของเรามีรูปทรงแบบนี้ สีสันแบบนี้
จะได้ไม่ซื้อเหมือนกัน
และยังให้เพื่อนช่วยดูรองเท้าแฟชั่นที่เราคิดด้วยว่าเหมาะกับเราหรือ
ดังนั้นเรื่องซ้ำ{ไม่ต้องพูดถึง|ไม่เกิดขึ้นแน่นอน|ไม่มีแน่นอน
เรื่องของรองเท้าซ้ำกันก็จะเป็นเรื่องง่ายและหมดปัญหากวนใจ
โดยแนวคิดง่ายๆเพียง 3 ข้อ
เท่านั้นเพียงเท่านี้คุณก็จะได้ของที่โดดเด่นกว่าค
นอื่นอย่างแน่นอน



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.forum.roietweb.com/?topic=71320.new#new

Tags : รองเท้าแฟชั่น,รองเท้าแฟชั่นเกาหลี,รองเท้า
#45
 
ต่อมลูกหมาก (อังกฤษ: Prostate gland) เป็นอวัยวะในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ที่อยู่ตรงด้านหลังของคอ กระเพาะปัสสาวะ ในอุ้งเชิงกรานหลังกระดูกหัวหน่าว ลักษณะต่อมมี 5 กลีบ หนักประมาณ 20 กรัม[1] ทำหน้าที่สร้างของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม ที่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ มีกลิ่นเฉพาะตัว สารที่หลั่งออกมาเป็นเบสอ่อนๆ ช่วยให้เกิดสภาพเหมาะสมกับตัวอสุจิ ลดสภาพความเป็นกรดของท่อปัสสาวะและช่วยให้อสุจิแข็งแรงและว่องไวขึ้น




ของอุปสรรคโรคต่อมลูกหมากโตเพราะฉะนั้นจะครอบคลุมในรายละเอียดที่นี่เพื่อเขียนความยาวสวย โรคแรกที่ต้องการที่จะครอบคลุมคือเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (อ่อนโยน Prostatic Hyperplasia) นี้นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็น \"โรคต่อมลูกหมากโตโต\" โรคนี้จะถูกจัดให้อยู่ใน 3 ลักษณะที่ไม่เหมือนกันออกไปเล็กน้อยขยายขยายปานกลางและขยายอย่างรุนแรง โรคนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัยและการแข่งขัน โรคต่อมลูกหมากโตของผู้ชายคนเติบโตขึ้นกับอายุ


อ่านต่อคลิก!!
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/2016/02/blog-post.html

Tags : วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
#46
โรคริดสีดวง
เป็นโรคที่พบบ่อย โดยมี เรื่องมาจากหลายปัจจัย และเมื่อเกิดอาการก็เพิ่มความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันมากพอสมควร ดังนั้นหากใครกำลังมองหาวิธีแก้โรคริดสีดวงทวารกันอยู่ อย่าปล่อยให้โรคริดสีดวงอยู่กับตนเองนานเกินไปค่ะ จัดการด่วน  โรคริดสีดวงทวารเกิดขึ้นได้กับทุกท่านนะคะ ดังนั้นใครที่ยังไม่เป็นโรคนี้ก็ควรเอาใจใส่สุขภาพของตัวเองให้ดีตามคำแนะนำเบื้องต้น หรือหากใครที่เป็นโรคริดสีดวงแล้วก็พยายามเอาใจใส่ตัวเองรวมทั้งรักษาริดสีดวงให้ถูกวิธีด้วย


สาเหตุของการเกิดโรคริดสีดวง
โดยปกติแล้วที่ บริเวณก้นจะมีเลือดมาเลี้ยงมาก และมีรูปลักษณ์พิเศษอีก คือ มีกลุ่มหลอดเลือดดำสานเป็นร่างแหที่บริเวณเยื่อบุทวารหนัก 3 กลุ่มใหญ่ โดยรอบทวารหนัก เลือดภายในกลุ่มหลอดเลือดดำเหล่านี้จะไหลเวียนขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่ภาย ในช่องท้อง แต่ถ้าหลอดเลือดไหลถ่ายเทไม่สะดวก และเป็นบ่อย ๆ จะเกิดการคั่งขึ้นภายในร่างแหหลอดเลือดดำ เกิดเป็นหลอดเลือดขอดโป่งพองขึ้นได้ เรียกว่า ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงทวารหนักจะเกิดเป็นแบบภายในหรือภายนอก ขึ้นกับว่ามักจะที่หลอดเลือดภายใน หรือนอกทวารหนัก ส่วนมากจะเป็นแบบภายใน ที่พบบ่อยที่สุด คือ อุปนิสัยในการขับถ่ายอุจจาระ และการรับประทานอาหาร
ท้องผูก คือ การถ่ายอุจจาระยาก หลายๆ วันถ่ายครั้งหนึ่ง พวกนี้จะมีอุจจาระแข็ง ต้องเบ่งอยู่นานขณะขับถ่าย นั่งถ่ายอุจจาระนาน การรับประทานอาหาร ที่ไม่ค่อยมีผัก และผลไม้ จะทำให้อุจจาระมีกากอาหารน้อย ทำให้ถ่ายลำบากได้มากก็ส่งผลให้เกิดการยืดขยายตัวของกล้ามเนื้อทางเดินอาหารและการกดทับของลำไส้ เนื่องจากมดลูกที่ขยายมากขึ้น เมื่ออาการท้องผูกถูกปล่อยไว้นานก็กลายเป็นเรื่องของภาวะริดสีดวงได้
{ต้นเหตุ|สาเหตุ|ปัจจัย|เรื่องอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก ได้แก่ การตั้งครรภ์ เพราะมดลูกเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น กดทับทำให้เลือดดำไหลเวียนลำบาก เกิดการคั่งได้ง่าย นอกจากนั้นยังกดลำไส้ใหญ่ทำให้ถ่ายยากบ่อย ๆ ยิ่งทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักมากขึ้น หรือมีเนื้องอกอยู่ภายในลำไส้ใหญ่ อุจจาระถ่ายลำบาก ต้องใช้แรงเบ่งมากก็มีโอกาสเกิดได้ง่ายขึ้น
อาการของโรคริดสีดวง
คนไข้เป็นริดสีดวงทวารหนัก โดยมากมักมีอาการถ่ายเป็นเลือด เลือดที่ออกมักจะเป็นเลือดสดๆ เบื้องต้นอาจสังเกตว่ามีเลือดติดกระดาษชำระหลังอุจจาระ หรือเคลือบอุจจาระออกมา จนกระทั่งอาจออกมากจนมีเลือดหยดลงในโถส้วมขณะถ่ายอุจจาระ ถ้าเป็นมากขึ้นจะพบว่ามีก้อนโผล่ออกมาทางทวารหนัก โดยเฉพาะหลังถ่ายอุจจาระโดยมากอาจจะไม่มีอาการเจ็บปวด (นอกจากถ้ามีการอักเสบร่วมด้วย) ยกเว้นในพวกที่เป็นริดสีดวงทวารหนักแบบภายนอก ซึ่งมักจะพบก้อนที่ทวารหนักตั้งแต่เบื้องต้นและโดยมากจะเจ็บปวดที่ก้อนริดสีดวง






เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://herbsgood24.blogspot.com/

Tags : รักษาโรคริดสีดวง
#47
โรคไทรอย
พูดถึงโรคไทรอย หลายคนก็คงรู้ว่าอวัยวะนี้อยู่ตรงคอ แต่ถ้าถามว่า แล้วรู้ไหมว่าโรคไทรอยมีหน้าที่อะไร แล้วถ้าป่วยขึ้นมาจะมีอาการอย่างไรให้สังเกตเห็นได้ หลายคนอาจจะสั่นหัว รู้จักแต่ชื่อ แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าอาการของโรคไทรอยเป็นอย่างไร  "ใจสั่น น้ำหนักลด เหงื่อออกมือมาก เหมือนมีไข้ต่ำ ๆ กลัวจะเป็นโรคไทรอย" ประโยคแบบนี้คือสิ่งที่เคยได้รับรู้เป็นครั้งคราวจากผู้ติดเชื้อที่มาขอคำปรึกษาเรื่องโรคไทรอย ทุกคนมาด้วยอาการเหล่านี้อย่างสงสัย แต่บางคนก็มาด้วยต้องการตรวจเลือดเรื่องโรคไทรอยโดยเฉพาะเลยก็มี
ต่อมโรคไทรอย จัดว่าเป็นต่อมไร้ท่อใหญ่ที่สุดในร่างกาย อยู่ในส่วนหน้าของลำคอ ใต้ลูกกระเดือกลงมา มีรูปร่าง มีหน้าที่สร้าง และหลั่ง โรคไทรอยฮอร์โมน มาสู่กระแสเลือด ฮอร์โมนนี้ ต่อมโรคไทรอย สร้างเองโดยใช้ ไอโอดีน จากอาหาร ที่ทานเข้าไป เป็นวัตถุดิบ หน้าที่ของโรคไทรอยฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกายและอวัยวะต่างๆและที่สำคัญคือการเผาผลาญอาหารเพื่อให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย ออกฤทธิ์ไปทั่วร่างกาย ทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานเหมือนเดิม อวัยวะที่กระตุ้นมากที่สุด คือหัวใจ กับประสาท
โรคไทรอย คือชื่อของต่อมไร้ท่อที่เรียกว่าเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งภายในร่างกาย อยู่บริเวณลำคอใต้ ลูกกระเดือก มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อ อวัยวะชิ้นนี้เรียกว่า "ต่อมโรคไทรอย" ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมน โรคไทรอยเพื่อควบคุมการทำงานการเผาผลาญพลังงานภายในร่างกาย เรียกว่า เมตาบอลิซึม (Metabolism) อวัยวะที่อยู่ภายในร่างกายจำเป็นจะต้องใช้ฮอร์โมนโรคไทรอยในการทำงาน แทบทั้งสิ้น กระทั่งนี้โรคของต่อมโรคไทรอยส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 5-10 เท่า


อาการของโรคไทรอย
ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคไทรอยเป็นพิษอาจจะแสดงอาการของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ หัวใจถูกรบเร้าการทำงาน ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ใจสั่น ในบางรายที่เป็นมาก ๆ มักจะมีภาวะหัวใจเต้นเร็วแบบผิดปกติได้ การกระตุ้นระบบที่เกี่ยวกับการเผาผลาญอาจจะใช้พลังงาน เหงื่อออกเยอะ มือสั่น ไม่สดชื่น น้ำหนักลดลง นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ท้องเสียได้ง่าย จากการที่ทางเดินอาหารถูกเร้าให้ทำงานมากขึ้น ตาโปนกว่าปกติ โดยเนื้อเยื่อหลังนัยน์ตาขยายขนาดขึ้นจากภาวะโรคไทรอยเป็นพิษประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีทั้งประจำเดือนขาด หรือมาไม่ตรงช่วยมาแบบกะปริบกะปรอยกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน พอในคนที่โรคไทรอยเป็นพิษแล้วเกิดเกลือแร่โพแทสเซียมต่ำอย่างเฉียบพลัน ทำให้เกิดอาการคล้ายกับเป็นอัมพาต ขยับแขนขาในลำตัวไม่ได้
สาเหตุของโรคไทรอย
โรค Grave's disease เกิดการเป็นที่มีภูมิของร่างกายมีการกระตุ้นต่อมโรคไทรอยให้สร้างฮอร์โมนออกมามาก ผู้ป่วยอาจจะมีต่อมโรคไทรอยโต
โรค Multinudular toxic goiter หมายถึงภาวะที่ก้อน [nodule] ในต่อมโรคไทรอยทำงานสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น มักจะเป็นก้อนเดียว หรือหลายก้อน


Thyroiditis เป็นการอักเสบของต่อมโรคไทรอย ช่วงแรกของการอักเสบมักจะมีอาการของคอพอกเป็นพิษ แต่ระยะหลังอาจจะเป็นต่อมโรคไทรอยทำงานน้อย

สมุนไพรรักษาโรคไต

รักษาโรคไต ด้วยสมุนไพร 081-7221523
VDO ประสบการณ์ผู้ป่วย พ่อหนูปัน จันทะเรือง
รักษาโรคไต ด้วยสมุนไพร
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร T.081-7221523
สมุนไพรรักษาโรคไต
https://www.youtube.com/watch?v=l3gRUOebFT8&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9&index=10

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รักษาโรคไทรอย

ที่มา : http://xn--12cg1dfzqmeabc2eg7czcs8g2i4ak.blogspot.com

Tags :  รักษาโรคไทรอย, โรคไทรอย
#48
โรคมะเร็งเต้านม
เชื่อเลยว่าโรคมะเร็งนั้นเป็นโรคอันตรายที่หลายคนก็ไม่อยากเป็น เพราะ{เมื่อ|หาก|ว่า|เป็นแล้วจะต้องรักษาตลอดและการรักษาทำได้ยากมากมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รักษาได้หายสนิท ส่วนใหญ่เมื่อ นั้นเป็นโรคมะเร็งแล้วจะต้องเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งมะเร็งที่เกิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ เป็นโรคมะเร็งเต้านม ดังนั้นลองมาอ่านข้อมูลเพื่อป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อนดีกว่า


อาการมะเร็งเต้านม
ก้อนเนื้อที่เต้านม ไม่เจ็บสิน่ากลัว
บ่อยครั้งสาเหตุที่ คนไข้มาหาหมอ มาจากก้อนที่เต้านม นั้นเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ อาการเจ็บเต้านม ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อมีอาการเจ็บร้าวเต้านม อาจจะเริ่มสังเกตและคลำที่เต้านม ส่วนหนึ่งจะพบก้อนร่วมด้วย อีกส่วนหนึ่งไม่พบก้อนหรือไม่แน่ใจ แต่ มักจะลงเอยด้วยการพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ชัวร์ว่าไม่เป็นมะเร็งเต้านม ซึ่ง อาจจะมาพบหมอค่อนข้างเร็ว ผิดกับผู้ที่มีก้อนที่เต้านม คลำได้ แต่ไม่รู้สึกเจ็บ จะปล่อยเอาไว้เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
ซีส อาจจะเจ็บ ส่วนมะเร็ง จะไม่เจ็บ
ในจำพวกก้อนที่เต้านมนั้น มีโรคกลุ่มหลัก ๆ อยู่ 3 กลุ่ม คือ 1) ซีสเต้านม 2) เนื้องอกเต้านม (ไม่ร้าย) 3) มะเร็งเต้านม ซีสที่เต้านม จะมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน โตก่อนรอบเดือนมาคือเล็กลงหลังรอบเดือนมาแล้ว ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่มีซีส อาจจะเจ็บที่ก้อน ซึ่งผิดกับกลุ่มเนื้องอกหรือมะเร็ง ซึ่ง มักจะไม่ค่อยเจ็บ พบว่าร้อยละ 90 ของคนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ระยะเริ่มแรกคนไข้มีแต่ก้อน ไม่มีอาการเจ็บ ผู้หญิงหลายๆ คนมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดว่าก้อนที่ไม่เจ็บคงไม่เป็นไรและปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นก้อนมะเร็งใหญ่โตขึ้นมากแล้วจึงรู้สึกเจ็บได้
ปัจจัยเกี่ยวกับฮอร์โมน ที่พบว่าอาจจะมีความสัมพันธ์ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสูงขึ้นได้แก่
การมีประจำเดือนครั้งแรกเร็ว คือมีครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หมดประจำเดือนช้ากว่าที่เป็นคือหมดหลังอายุ 55 ปี ไม่เคยมีบุตร ไม่เคยมีน้ำนมหรือไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง เคยได้รับฮอร์โมนจากภายนอกเช่น ยาคุมกำเนิดมากกว่า 10 ปี ได้รับการเพิ่มด้วยฮอร์ดมนเอสโตรเจน หรือ diethylstilbestrol หรือได้รับฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้มีการเจริญพันธ์ ได้รับฮอร์โมนทดแทนวัยทองมากกว่า 5 ปี เรื่องที่เสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นการได้รับรังสีที่ทรวงอกตั้งแต่เด็ก การดื่มเหล้าการบริโภคอาหารมัน หรือเนื้อแดง เป็นต้น   


การประเมินว่าผู้หญิงคนใดอาจจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยประวัติครอบครัว และหากประเมินแล้วความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเท่ากับประชาชน การเริ่มการตรวจคัดกรองจะเริ่มที่อายุ 50 ปี ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมจะแบ่งความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร 081-722-1523
VDO ประสบการณ์ผู้ป่วย (คุณ ฉลวย นิลวงศ์)
รักษาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยสมุนไพร
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โทร T.081-7221523
สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม
https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY&index=3&list=PLfSrHBr0afe7__aoLN2Rt_9u8LG3MKzQ9


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม

เครดิต : https://www.youtube.com/watch?v=z6OETXKwRfY

Tags : สมุุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม
#49
 
ต่อมลูกหมาก (อังกฤษ: Prostate gland) เป็นอวัยวะในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ที่อยู่ตรงด้านหลังของคอ กระเพาะปัสสาวะ ในอุ้งเชิงกรานหลังกระดูกหัวหน่าว ลักษณะต่อมมี 5 กลีบ หนักประมาณ 20 กรัม[1] ทำหน้าที่สร้างของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม ที่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ มีกลิ่นเฉพาะตัว สารที่หลั่งออกมาเป็นเบสอ่อนๆ ช่วยให้เกิดสภาพเหมาะสมกับตัวอสุจิ ลดสภาพความเป็นกรดของท่อปัสสาวะและช่วยให้อสุจิแข็งแรงและว่องไวขึ้น



ของปัญหาโรคต่อมลูกหมากโตฉะนั้นจะครอบคลุมใน Detail ที่นี่เพื่อเขียนความยาวสวย โรคแรกที่อยากที่จะครอบคลุมคือเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (อ่อนโยน Prostatic Hyperplasia) นี้นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็น \"โรคต่อมลูกหมากโตโต\" โรคนี้จะถูกจัดให้อยู่ใน 3 ประเภทที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อยขยายขยายปานกลางและขยายอย่างรุนแรง โรคนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศทุกวัยและการแข่งขัน โรคต่อมลูกหมากโตของผู้ชายคนเติบโตขึ้นกับอายุ

อ่านต่อคลิก!!
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

เครดิต : http://xn--23-lqian6hc7gbpz7ewa9e3ergm2h.blogspot.com/

Tags : วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
#50
 
            ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนไป แม้ในสมัยก่อนสาวๆจะยอมรับ สวมรองเท้าส้นสูงเยอะแยะกว่า เพื่อความสวยงามต่างๆแต่ในยุคนี้สมัยนี้รองเท้าส้นสูงต้องหลีกทางให้กับรองเท้าผ้าใบแฟชั่นที่กำลังมาแรงมากมายในตอนนี้ เราจะได้เห็นสาว ๆดาราคนดังต่างพากันสวมรองเท้าผ้าใบแบรนด์ต่างๆมาเดินอวดกันหรือโพสต์ลงไอจี ทำให้กระแสตอบรับค่อนข้างดีหลากหลายสำหรับรองเท้าผ้าใบในปีนี้ มีข่าวแว่วมาเหมือนกันว่ารองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังๆหลายแบรนด์กำลังแข่งกันทำรองเท้าผ้าใบคอลเล็กชั่นใหม่ให้เหล่าผู้ติดตามสะสมกันอีกอย่างแน่นอน วันนี้ เลยขอยกเหตุผล 4 ข้อว่าทำไมสาวๆควรใส่รองเท้าผ้าใบมาฝากกันค่ะ
1.ความปลอดภัย
รองเท้าผ้าใบมีการดีไซน์มาให้เหมาะกับทุกกิจกรรม ทำให้เราสามารถสวมทำกิจกรรมทุกอย่างได้ รองเท้าผ้าใบในแต่ละบริษัทจะมีการดีไซน์ให้เหมาะกับผู้สวมใส่ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุและไม่มีการบาดเจ็บระหว่างการใส่รองเท้าผ้าใบในการทำกิจกรรม
2.ความหลากหลาย
รองเท้าผ้าใบแต่ละยี่ห้อมีเอกลักษณ์และออกแบบที่แตกต่างกัน ทำให้สาวๆสามารถเลือกรองเท้าผ้าใบให้เหมาะกับความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคลได้เลย สาวที่รักการมิกซ์แอนด์แมทซ์ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีรองเท้าผ้าใบติดตู้ไว้เพื่อการรวมให้เข้ากับเสื้อผ้าสวยๆ รับรองเด่นค่ะ
3.ความทะมัดทะแมง
รองเท้าผ้าใบ[/url] เป็นที่หนึ่งเรื่องความทะมัดทะแมงคล่องราบรื่นและเคลื่อนไหวได้ง่ายกว่ารองเท้าส้นสูงทั่วไป ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วยหลายๆคนคงเคยเจอเคสรองเท้าส้นหักกันมาก่อนใช่ไหมค่ะ คงรู้ว่ามันอาจจะทำให้เราข้อเท้าแพลงหรือพลิกได้ แต่รองเท้าผ้าใบทำมาเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ราบรื่นกว่ามาก
4.ราคา
รองเท้าผ้าใบราคาไม่แพงมาก สามารซื้อใส่ได้ทุกคน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแบรนด์ดังหรือไม่ การเข้าถึงตลาดของรองเท้าผ้าใบที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาเบาๆเท่านั้น จึงทำให้กระแสความชมชอบ มีหลากหลายขึ้น
สาวๆหลายคนที่ใส่ส้นสูงคงเคยบ่นปวดเมื่อย น่อง ขา ทำไมเราไม่รักสุขภาพกันบ้างลองคิดดูว่าบางครั้งการหันมาสวมใส่รองเท้าผ้าใบบ้างก็ดีนะคะสะดวก สบาย กะทัดรัด ไปไหนค่อนข้างคล่อง และเป็นการผ่อนคลายฝ่าเท้าจากความเมื่อยล้า จากการสวมร้องเท้าส้นสูงเยอะๆลองดูนะคะ รองเท้าผ้าใบจะช่วยให้ฝ่าเท้าผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นสัก2 ครั้งต่ออาทิตย์ก็ยังดีนะคะ เพื่อสุขภาพขาที่ดีของเราจะได้ใส่รองเท้าสวยๆไปนานๆ มีขาสวยๆไร้เส้นเลือดขอด ขาเรียวสวยต้องหมั่นสวมรองเท้าเพื่อสุขภาพตัวเองกันบ้างนะคะ

ขอบคุณบทความจาก : http://www.shopnicha.com/c,258_253_99

Tags : รองเท้าผ้าใบ,รองเท้าผ้าใบแฟชั่น