
ปัจจุบันมั่นใจว่าผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนหลายชิ้นที่มีความเชื่อเรื่องเลขโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นเลขงามหรือเลขมงคล ต่างก็ยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าปกติเพื่อให้ได้หมายเลขสวยหรือเลขมงคลมาใช้ รวมทั้งเมื่อไม่นานมานี้ทางที่ทำการคณะกรรมการธุรกิจการค้าโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ก็ได้ออกประกาศให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายเปิดให้บริการคงจะสิทธิหมายเลข (Mobile Number portability) หรือที่เรียกกันว่าเบอร์เดียวทุกระบบ คือให้ผู้ใช้บริการมีสิทธิเป็นเจ้าของเลขหมาย ไม่ว่าจะย้ายค่ายไปเป็นลูกค้าของผู้ให้บริการรายใดก็ตาม ซึ่งทำให้ธุรกิจ "เบอร์งาม" หรือ "เบอร์มงคล" มีการแข่งกันค่อนข้างจะสูง ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีให้หลังพบว่าคนที่มาแปลงเบอร์โทรศัพท์จำนวนมาก 80-90% พบว่า ดวงหรือชีวิตของตนไม่ดีด้วยเหตุว่าใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่เป็นมงคล ก็เลยต้องการทำการแปลงเบอร์โทรศัพท์เพื่อเสริมดวง ด้วยเหตุนั้น ธุรกิจการค้าขาย "เบอร์สวย" หรือ "เบอร์มงคล" ในปัจจุบันจึงนับได้ว่ามีการเติบโตขึ้น อย่างเร็ว เนื่องจากความปรารถนาของผู้รับบริการที่นิยมมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการเก็งกำไรโดยผู้ประกอบการ จึงทำให้ราคา ของ "เบอร์สวย" หรือ "เบอร์มงคล" มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีการนำเลขโทรศัพท์ไป เชื่อมโยงกับเรื่องดวง จึงทำให้คนขายสามารถได้กำไรจากการจำหน่ายเบอร์งามหรือเบอร์มงคลได้มากขึ้น นอกเหนือจากกำไรจากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ

เบอร์สวย กับ เบอร์มงคล ต่างกันอย่างไร?
เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูก จึงขอนำเสนอนิยามความหมายของคำว่า "เบอร์สวย" กับ "เบอร์มงคล" ซึ่งบางท่านอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ว่าเรื่องจริงแล้ว "เบอร์สวย" กับ "เบอร์มองคล" มีความแตกต่างกันออกจะมาก และมีความซับซ้อนของตัวเลขที่แตกต่าง โดยเหตุนี้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ควรทำการศึกษาเบอร์โทรศัพท์แต่ละจำพวก เพื่อใช้เบอร์โทรศัพท์ให้ตรงกับความอยากได้ของเรา ซึ่ง "เบอร์งาม" กับ "เบอร์มงคล" นั้น มีความไม่เหมือนกันดังนี้
"เลขหมายสวย" หรือ "เบอร์งาม" หมายถึง เลขหมายโทรศัพท์มือถือที่ที่มีคุณสมบัติที่ถูกเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ยุ่งยากต่อการจดจำ มีความสะดุดตาการจัดเรียงลำดับของตัวเลข หรือเป็นตัวเลขที่มีการเรียงกันอย่างเรียบร้อย และมักเป็นเลขหมายที่มีลักษณะเฉพาะพิเศษที่หายาก จึงทำให้มีมูลค่าราคาที่ถูกกำหนดตามสิ่งที่จำเป็นไว้สูงขึ้นยิ่งกว่าเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนทั่วไปในตลาด รวมทั้งผู้ที่มีความชำนาญด้านการดูเบอร์โทรศัพท์มือถือได้แนะนำแนวทางการดู "เบอร์สวย" ในเบื้องต้นว่า เริ่มจากดูเลข 4 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์เป็นขั้นแรก ต่อจากนั้นจึงดูเลข 4 ตัวหน้า แล้วจึงมองโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วข้อพิเคราะห์การเป็น "เบอร์งาม" มีต้นเหตุจากการนำตัวเลขทั้งผองในเบอร์โทรศัพท์เขยื้อนมารวมกันแล้วเห็นผลลัพธ์มีความหมายที่ดี ยกตัวอย่างเช่น บวกกันได้ 41 หรือ (4+1=5) 41 ซึ่งสื่อความหมายถึง ความสำเร็จในชีวิต หรือถ้าหากบวกแล้ว ได้ 45 หมายถึง จะซึ่งก็คือ ดี จะนำมาซึ่งการทำให้เจ้าของเบอร์มีความเจริญ คิดทำสิ่งใดย่อมเป็นการก้าวไปสู่การบรรลุเป้าหมายในชีวิต หรือ (4+5= 9 อันหมายความว่าความเจริญรุ่งเรือง) ฯลฯ

ปัจจุบันผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ เริ่มหันมานิยมแนวทางในการเลือกซื้อ "เบอร์มงคล" มากกว่า "เบอร์สวย" เพราะว่ามีความเชื่อในประเด็นการคัดสรรตัวเลขที่เป็นมงคล ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความรักและก็ความสุข ให้กับตัวเองได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ "เบอร์งาม" ซึ่งบางทีอาจผิดโฉลกกับดวงหรือวันเวลาเกิด เพราะฉะนั้นธุรกิจการค้าขาย โทรศัพท์มือถือที่เป็นเลขหมายงามก็เลยเริ่มเห็นเว็บไซต์แนะนำ "เบอร์มงคล" ที่มีเพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาแพงซื้อกันโดยเฉลี่ย ตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไปจนถึงหลักแสนบาท ดังนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจรวมทั้งความไม่กังวลใจของผู้ใช้บริการ ตราบใดที่ยังไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ทำซื้อขายแลกเปลี่ยน ธุรกิจ "เบอร์สวย" หรือ "เบอร์มงคล" ก็ยังเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สามารถทำกำไรให้กับผู้ประกอบธุรกิจได้มหาศาล