Show posts - nkonline108
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - nkonline108

#1
อะนิเมะ (「アニメ」 anime) เป็นคำภาษาประเทศญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า แอนิเมชัน (animation) ซึ่งมาจาก ภาษาประเทศฝรั่งเศส อานีเม่ (animé) แล้วก็จากภาษาละติน หมายความว่าขยับเขยื้อน หรือภาพเคลื่อนไหว แต่ว่าความหมายเปลี่ยนจนกระทั่งเป็นคำเฉพาะของภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า ภาพยนตร์การ์ตูน ภายนอกประเทศญี่ปุ่น อะนิเมะหมายถึงภาพยนตร์การ์ตูนเชื้อชาติญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะทางศิลป์ผิดแผกแตกต่างกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น อะนิเมะส่วนมากจะวาดขึ้นด้วยมือ แม้กระนั้นปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้างอะนิเมะอย่างมากมาย อะนิเมะจำนวนมากผลิตขึ้นเพื่อความบันเทิงเหมือนภาพยนตร์ โดยมีแนวเรื่องมากมายและครอบคลุมแนววรรณกรรมเกือบทุกแนว อะนิเมะจำนวนมากถูกผลิตขึ้นเป็นตอนๆเพื่อฉายทางโทรทัศน์ ส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ และก็อีกส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นตอนๆเพื่อขายตรงในแบบอย่างดีวีดี วีซีดี หรือวีดิโอ มองมีการทำตอนเฉพาะที่เรียกว่า โอวีเอ อะนิเมะหลายเรื่องถูกปรับเปลี่ยนมาจากมังงะ ยิ่งกว่านั้นยังมีอะนิเมะที่ถูกนำไปดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเป็นละครที่ออกอากาศทางทีวีอีกด้วย
 
 เมื่อปี 1970 นักสร้างภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นเริ่มทดสอบการใช้แนวทางการสร้างภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภาพยนตร์การ์ตูนใน อเมริกา แล้วก็ ยุโรป แม้กระนั้นไม่รับ เพื่อที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างภาพยนตร์การ์ตูนของตัวเอง ท้ายปี 1970 ภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นได้พัฒนาลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ตัวขึ้นจนถึงสามารถแยกออกมาจากภาพยนตร์การ์ตูนของประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างชัดเจน ในทศวรรษที่ 1980 อะนิเมะได้รับความนิยมกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจการสร้างอะนิเมะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งในทศวรรษที่ 1990 และก็ 2000 ชื่อเสียงของอะนิเมะได้แพร่ขยายไปยังนอกญี่ปุ่น พร้อมๆกับการขยายตัวของตลาดอะนิเมะนอกประเทศสำหรับคนที่พอใจ
 
 "อะนิเมะ" (アニメ) เป็นอักษรย่อของ アニメーション ซึ่งเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ (สังเกตได้ว่าเขียนเป็นค่ะตะขานะ) "แอนิเมชัน" (animation) ซึ่งหมายความถึงภาพยนตร์การ์ตูน คำทั้งคู่คำนี้สามารถใช้แทนกันได้ในภาษาญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามรูปย่อได้รับความนิยมใช้มากกว่า คำว่า "อะนิเมะ" มีขอบเขตกว้างครอบคลุมภาพยนตร์การ์ตูนทั้งผอง ไม่จำกัดอยู่ที่แนวหรือรูปแบบของภาพยนตร์การ์ตูนอะไรก็ตาม
 
 "เจแปนิเมชัน" (Japanimation) ซึ่งเกิดขึ้นจากการผสมคำว่า "เจแปน" (Japan) กับ "แอนิเมชัน" เป็นคำอีกคำที่มีความหมายราวกับ "อะนิเมะ" คำนี้นิยมใช้กันมากมายในทศวรรษที่ 1970 และ 1980 แต่มีคนรับใช้ลดน้อยลงตั้งแต่ปี 1990 และก็หมดความชื่นชอบลงก่อนกลางทศวรรษที่ 1990 ในตอนนี้คำนี้ถูกใช้อยู่เพียงแค่ในประเทศประเทศญี่ปุ่นเพื่อแบ่งแยกระหว่างภาพยนตร์การ์ตูนทั่วๆไป (ซึ่งคนประเทศญี่ปุ่นเรียกรวมๆว่า "อะนิเมะ") และก็ภาพยนตร์การ์ตูนที่ผลิตภายในประเทศ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เว็บดูอนิเมะ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://anime.oppasociety.com/category/anime-ending/

Tags : ดูอนิเมะ,อนิเมะใหม่,อนิเมะ
#2
ชีวิตของนักแสดง ไม่ว่าเกิดเรื่องรัก หรือ เรื่องงาน มักแสดงถึงความเป็นจริงเป็นจัง แน่วแน่ รวมทั้ง ตั้งใจ
 ช่วงสองสามปีนี้ ละคร series เกาหลี ดังมากมายในเมืองไทย คนชิดกันเยอะแยะ ในเวลานี้ก็ยังไม่มีท่าทีจะตกลง แทรกทั้งยังละครจีน ญี่ปุ่น และละครไทยสุดขอบไปเลย
 
 ที่พยา-ธิ ไม่รู้จักจะมีกี่คนที่ชอบหนังประเทศเกาหลี แต่ที่ชั้น 4 นี่ ขั้นต่ำก็มี 1 คนหละ เป็นแช้มป์ดูละครเกาหลี พลอยทำให้คนชั้น 4 คนไม่ใช่น้อย ได้ทราบเรื่องหนังเกาหลีไปด้วย รวมทั้ง บางครั้งบางคราวก็ได้รับการเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่จากเธอให้ยืมมอง DVD
 
 ตัวเองก็ถูกใจมานานแล้วเหมือนกัน แม้กระนั้นไม่ได้มองมากสักเท่าไรนัก ดูเฉพาะที่ฉายทางทีวีช่อง 7 วันเสาร์อาทิตย์ ตอนนี้ ก็ได้รับการเอื้อเฝื้อ DVD จากเธอผู้นี้บ้าง ทำให้ได้มองมากยิ่งขึ้น
 
 พวกเราสองคนคุยกันเรื่องละครเกาหลีบ่อยมาก (โดยมากตนเองจะเป็นคนฟังเธอเล่า) บางโอกาสก็คุยกับผู้อื่นด้วยในร้านอาหารมื้อเที่ยงของเรา การเสวนาเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ มีความคิดว่าทำให้อาหารมื้อเที่ยงอร่อยขึ้นเชียวหละ
 
 เราทั้งสองคนเห็นตรงกันว่า เพราะอะไร พวกเราจึงคิดว่า ละครเกาหลี เขาทำได้ดี และชวนดู เพราะว่าหลายๆต้นเหตุกลุ่มนี้ค่ะ
 
 เป็นละครที่มีการผูกเรื่อง เป็นชีวิตคนจริงๆคือผูกกับครอบครัว ความรัก สหาย แฟน และก็ที่สำคัญวิธีการทำมาหารับประทาน หรืออาชีพนั่นเอง
 ชีวิตหลักการทำงานของนักแสดงในหนังเกาหลีนี่ มิได้เพียงแค่พูดว่า ดารานำชาย นางเอก อาชีพอะไร จากนั้นเรื่องราวก็มิได้เกี่ยวอะไรกับอาชีพนั้นอีกเลย หนังเกาหลี หลายเรื่อง เขาเจาะลึกในอาชีพอย่างเป็นจริงเป็นจัง หรือดำรงชีวิตงานการเกิดเรื่องหลักในการเดินเรื่องทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นที่เราได้มองเห็นใน แดจังกึม หรือ กฏหมายรักฉบับฮาวาร์ด
 เขามักแทรกข้อคิดดีๆสำหรับการใช้ชีวิต ในบทสนทนา แทรกแบบเนียนในเรื่องราว ไม่เวอร์จนถึงดูตั้งใจเกินความจำเป็น
 ชีวิตของนักแสดง ไม่ว่าเป็นเรื่องรัก หรือ เรื่องงาน มักแสดงถึงความมุ่งมั่น แน่วแน่ และ เป็นจริงเป็นจัง
 บทร้ายแรง ตบตีกันน้อยมาก ที่ชอบมากมายเป็น บทหญิง-ชาย มีการให้เกียรติกันมาก ไม่มีการจับมือถือแขน กอด จูบ กันกล้วยๆ จะมีก็ตอนรักกันมากๆแล้วเท่านั้น
 ละคร มีตัวเดินเรื่องไม่มากมาย แต่ว่ามีรายละเอียดให้ชวนติดตามตลอด แสดงถึงฝีมือสำหรับในการเขียนบท
 เพลงประกอบ และ ดนตรีประกอบ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำเอาชาวไทยติดไปทั่วบ้านทั่วทั้งเมือง จนกระทั่งตอนนี้คงจะ 3-4 ปีแล้วที่ series ประเทศเกาหลีมาดังประเทศไทย ก็มีเพลงดังจากเรื่องต่างๆตลอด ไม่รู้ข้อมูลแน่ชัด แต่ว่าเท่าที่พินิจ เขามีเพลง แล้วก็ ดนตรีประกอบ คราวกับอารมณ์ของละครตลอดเรื่อง หลายเพลงด้วย น่าจะเป็นเพลงรวมทั้งดนตรีประกอบที่แต่งใหม่สำหรับละครแต่ละเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ใช่ไปจับมาจากอัลบั้มเพลงที่มีอยู่แล้ว (ราวกับประเทศไหนเอ่ย)
 การแต่งหน้าทาปาก แต่งกายของผู้แสดง เขาทำเป็นแลดูอย่างเป็นธรรมชาติ หญิงก็ไม่ทาปาก วาดตาจนดูเวอร์ รวมทั้งเสื้อผ้าก็ดูเรียบร้อย มากชิ้น (บางทีอาจด้วยเหตุว่าอากาศหนาว)
 และที่เป็นข้อเด่น คือ วิว งามมากมายๆ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดูซีรี่ย์เกาหลี

เครดิต : http://www.oppasociety.com/

Tags : ซีรี่ย์เกาหลี,ซีรีย์เกาหลี
#3
อะนิเมะ (「アニメ」 anime) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า แอนิเมชัน (animation) ซึ่งมาจาก ภาษาประเทศฝรั่งเศส อานีเม่ (animé) รวมทั้งจากภาษาละติน หมายความว่าขยับเขยื้อน หรือภาพเคลื่อนไหว แต่ความหมายกลายจนกระทั่งเป็นคำเฉพาะของภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า ภาพยนตร์การ์ตูน ข้างนอกประเทศญี่ปุ่น อะนิเมะหมายความว่าภาพยนตร์การ์ตูนเชื้อชาติญี่ปุ่น ซึ่งโดยมากมีลักษณะทางศิลปะไม่เหมือนกันกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น อะนิเมะส่วนมากจะวาดขึ้นด้วยมือ แต่ว่าปัจจุบันนี้มีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้างอะนิเมะอย่างล้นหลาม อะนิเมะส่วนมากสร้างขึ้นเพื่อให้ความเพลิดเพลินราวกับภาพยนตร์ โดยมีแนวเรื่องมากมายและก็ครอบคลุมแนววรรณกรรมเกือบทุกแนว อะนิเมะส่วนมากถูกสร้างขึ้นเป็นตอนๆเพื่อฉายทางโทรทัศน์ ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นตอนๆเพื่อMLMในรูปแบบดีวีดี วีซีดี หรือวีดิโอ มองมีการทำตอนเฉพาะที่เรียกว่า โอวีเอ อะนิเมะหลายเรื่องถูกดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากมังงะ ยิ่งกว่านั้นยังมีอะนิเมะที่ถูกนำไปปรับเปลี่ยนเป็นละครทีวีอีกด้วย
 
 เมื่อปี 1970 นักสร้างภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นเริ่มทดลองใช้เทคนิคการสร้างภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภาพยนตร์การ์ตูนใน อเมริกา รวมทั้ง ยุโรป แต่ว่าไม่รับ เพื่อที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างภาพยนตร์การ์ตูนของตัวเอง ปลายปี 1970 ภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นได้พัฒนาลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ตัวขึ้นกระทั่งสามารถแยกออกจากภาพยนตร์การ์ตูนของสหรัฐอเมริกาได้อย่างเห็นได้ชัด ในทศวรรษที่ 1980 อะนิเมะเป็นที่นิยมกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจการผลิตอะนิเมะเติบโตอย่างรวดเร็ว แล้วก็ในทศวรรษที่ 1990 รวมทั้ง 2000 ความโด่งดังของอะนิเมะได้แพร่ขยายไปยังนอกญี่ปุ่น พร้อมๆกับการขยายตัวของตลาดอะนิเมะนอกประเทศสำหรับชอบพอ
 
 "อะนิเมะ" (アニメ) เป็นคำย่อของ アニメーション ซึ่งเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ (พิจารณาได้ว่าเขียนเป็นขาตะขานะ) "แอนิเมชัน" (animation) ซึ่งหมายความถึงภาพยนตร์การ์ตูน คำทั้งสองคำนี้สามารถใช้แทนกันได้ในภาษาประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ดีรูปย่อเป็นที่ชื่นชอบใช้มากยิ่งกว่า คำว่า "อะนิเมะ" มีขอบเขตกว้างครอบคลุมภาพยนตร์การ์ตูนทั้งสิ้น ไม่จำกัดอยู่ที่แนวหรือรูปแบบของภาพยนตร์การ์ตูนอะไรก็ตาม
 
 "เจแปนิเมชัน" (Japanimation) ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการผสมคำว่า "เจแปน" (Japan) กับ "แอนิเมชัน" เป็นคำอีกคำที่มีความหมายราวกับ "อะนิเมะ" คำนี้นิยมใช้กันมากในทศวรรษที่ 1970 รวมทั้ง 1980 แม้กระนั้นมีคนรับใช้น้อยลงตั้งแต่ปี 1990 รวมทั้งหมดความนิยมชมชอบลงก่อนกลางทศวรรษที่ 1990 ในตอนนี้คำนี้ถูกใช้อยู่แค่ในประเทศประเทศญี่ปุ่นเพื่อแบ่งแยกระหว่างภาพยนตร์การ์ตูนทั่วๆไป (ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกรวมๆว่า "อะนิเมะ") และภาพยนตร์การ์ตูนที่ผลิตภายในประเทศ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : อนิเมะใหม่

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://anime.oppasociety.com/category/anime-ending/

Tags : อนิเมะออนไลน์
#4
ละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลี หรือที่นิยมเรียกว่า ซีรีส์เกาหลี เป็นละครที่ออกอากาศทางทีวีในแบบคราวผลิตเป็นภาษาเกาหลี มีหลายเรื่องของละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีที่กลายเป็นที่นิยมไปทั่วเอเชียและก็เกิดเป็นการเกิดของกระแสประเทศเกาหลีหรือที่เรียกว่า "ฮัลลยู" (??) นอกจากจะได้รับความนิยมไม่ใช่แค่ที่ประเทศเกาหลีหรือเฉพาะทวีปเอเชียเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังได้รับความนิยมในส่วนอื่นๆของโลกดังเช่นว่าละตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง และที่อื่นๆในความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน ละครโทรทัศน์เกาหลีที่เนื้อหานี้อ้างถึงหมายถึงเฉพาะละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลีที่ผลิตขึ้นมาจากประเทศเกาหลีใต้แค่นั้น
 
 ในประเทศไทย ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีได้รับความนิยมมาพร้อมกับกระแสเกาหลี โดยในบางสถานีโทรทัศน์ได้นำละครทีวีเกาหลีเข้ามาฉาย แล้วก็ได้รับความนิยมในเล็กน้อย โดยช่องแรกที่ได้ฉาย คือ ช่อง 5 จากเรื่อง Wish Upon a star (หรือ Star in My Heart; ลิขิตแห่งดวงดาว) ในปี ค.ศ. 2000 ต่อมาในปี คริสต์ศักราช 2003 เทคโนโลยีสารสนเทศวีได้ฉายละครทีวีประเทศเกาหลีมากถึง 14 เรื่อง จนถึงในต.ค. ปี ค.ศ. 2005 ช่อง 3 ได้ฉายเรื่อง Jewel in the Palace (แดจังกึม จอมนางที่วังหลวง) ละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีในแนวย้อนยุค ในขณะไพร์มไทม์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปรากฏว่าเป็นที่นิยมอย่างมากจนกลายเป็นการปรากฏหนึ่งในสังคมไทย ทำให้ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีได้รับความนิยมขึ้นมา ทำให้มีการนำเข้ามาฉายในประเด็นต่างๆในมากมายหลากหลายแนวทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆมากขึ้น และก็ทำให้ดาราหนังประเทศเกาหลีหลายๆคนโด่งดังดังเป็นที่ชื่นชอบขึ้นมา ดังเช่นว่า อี ยองแอ, อิม ยุนอา, จาง กึนซอก, ฮัน กาอิน , จอน จีฮยอน, ฮัม อึนจอง, ซง จุงกิ ฯลฯ
 
 เอกลักษณ์ของละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลีเมื่อเทียบกับละครโทรทัศน์ไทยแล้ว ได้รับการยินยอมรับว่า มีการผลิตที่เอาใจใส่ในเนื้อหามากยิ่งกว่า หากแม้จะเป็นจุดนิดๆหน่อยๆเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาด และบทละครก็ไม่มองหลุดเกินไปจากความเป็นจริงในชีวิต หรือนักแสดงไม่แสดงออกทางอารมณ์จนถึงเกินเลยข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องราวแม้ผูกได้หลายชั้นแต่ว่าไม่สลับซับซ้อน แต่ว่าข้อบกพร่องก็คือ โครงเรื่องมักจะซ้ำกัน ตัวอย่างเช่น นางเอกมักเป็นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย อ่อนแอ ทำให้น่าสงสาร แล้วก็วนเวียนอยู่กับปัญหาในครอบครัว ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ชมบางประเทศกำเนิดความเบื่อ
 
 มีการวิเคราะห์กันว่า มี 7 สิ่งที่มักปรากฏอยู่ในละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลี ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเพื่อการผลักดันความเป็นเกาหลี เป็น
 
 1. โซจู (??) เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประจำชาติของเกาหลี เทียบได้กับเหล้าสาเกของญี่ปุ่น ตัวละครมักจะดื่มกินเสมอๆในร้านข้างถนนทั้งยังชายและก็หญิง โดยไม่มีการเซนเซอร์ภาพขวดหรือแก้วแต่อย่างใด
 
 2. ของกินเกาหลี
 
 3. การขัดฟัน
 
 4. การขนส่ง หรือการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆของตัวละคร
 
 5. การท่องเที่ยว หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในประเทศ
 
 6. ตัวละครแม้จะใช้สมาร์ทโฟนล้ำสมัยเช่นไร แต่จะไม่มีไอโฟน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล
 
 7. ผู้แสดงทุกตัวจะมีอาชีพการงานที่ชัดเจน แล้วก็มีความเป็นมืออาชีพ14
 
 จวบจนกระทั่งในต้นปี คริสต์ศักราช 2014 กระแสของละครทีวีประเทศเกาหลีในไทยเริ่มซบเซาลง พร้อมๆกับกระแสเกาหลีในวัฒนธรรมร่วมยุคอันอื่นด้วย แม้กระนั้นก็ยังมีการฉายอยู่ แล้วก็เป็นที่นิยมในบางเรื่อง ดังเช่น Descendants of the Sun (ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ) ในปี คริสต์ศักราช 2016 ที่เกิดเป็นกระแสในหลายประเทศที่เข้าฉาย รวมถึงประเทศไทยด้วยที่เป็นรู้จักอย่างกว้างขวางเมื่อ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงรวมทั้งแนะนำให้รับชมเพราะเหตุว่ามีรายละเอียดที่เกี่ยวกับความรักประเทศ รวมทั้งถัดมาในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน มีการปิดตัวลงของเว็บไซต์บางเว็บไซต์ที่เผยแพร่ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีในแบบออนไลน์ แม้กระนั้นผิดกฎหมาย เนื่องจากว่าสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะเอสบีเอสแล้วก็เอ็มบีซีตั้งใจจริงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์มากยิ่งขึ้น
 
 ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็นเอชเคของประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศยุติการออกอากาศละครทีวีประเทศเกาหลี โดยให้เหตุผลว่าช่วงหลังละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลีไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน โดยมีเรื่อง Empress Ki (กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน) ออกอากาศเป็นเรื่องในที่สุด แม้กระนั้นความนิยมในจีนกลับไม่ลดน้อยลง และก็ในตอนกลางปี คริสต์ศักราช 2014 กลับมีค่าลิขสิทธิ์ที่แพงขึ้น โดยเรื่อง Fated to Love You ของสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็มบีซี ซึ่งถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่แบบออนไลน์ในจีน มีมูลค่าถึง 120 ล้านวอน หรือราว 3,800,000 บาท ต่อตอน มากยิ่งกว่าค่าลิขสิทธิ์เรื่อง My Love from the Star (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ที่มีมูลค่าถึง 1,200,000 บาท ต่อตอนเสียอีก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ซีรี่ย์เกาหลี

เครดิต : http://www.oppasociety.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C/

Tags : ซีรี่ย์เกาหลี,ซีรีย์เกาหลี,ดูซีรี่ย์เกาหลี
#5
จากสถานะการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ วัดแรงสะเทือนได้ 7.0 ริคเตอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2553 นำมาซึ่งเรื่องเศร้าครั้งใหญ่ในกรุงปอร์โต แปรงซ์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮตำหนิ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพียงแต่ 15 กิโล

แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกในลักษณะการเลื่อนตัวข้างๆระหว่างแผ่นหินแคริบเบียนแล้วก็แผ่นหินอเมริกาเหนือ ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนในเกณฑ์สูง ทำให้ได้โอกาสกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้เหมือนกับรอบๆรอยเลื่อนสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อย้อนกลับมาดูเมืองไทยพวกเรา รอยเลื่อนสำคัญที่เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดกึ่งกลาง 5-6 ริคเตอร์มาแล้ว คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์รอบๆจังหวัดกาญจนบุรี แล้วก็รอยเลื่อนแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ทำให้อาคารเกิดการสั่นไหวรวมทั้งองค์ประกอบตึกหลายข้างหลังกำเนิดรอยแตกร้าว

ความทรุดโทรมของอาคารกลุ่มนี้ เนื่องจากว่าในอดีตกาลก่อนหน้านี้ ข้อบังคับตึกไม่ได้บังคับให้มีการออกแบบยับยั้งแผ่นดินไหว เดี๋ยวนี้มีกฎหมายตึกประกาศเป็นกฎกระทรวงฉบับ พ.ศ. 2550 ที่บังคับให้อาคารต้องวางแบบให้ยับยั้งแผ่นดินไหวได้ โดยแบ่งออกเป็น 3 รอบๆ ดังเช่น 1. พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 5 จังหวัด 2. พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด และภาคตะวันตก แล้วก็ 3. พื้นที่ในภาคใต้ 7 จังหวัด

อันดับแรกของการออกแบบอาคารให้ขัดขวางแผ่นดินไหวได้ วิศวกรผู้ออกแบบต้องพินิจลักษณะของตึกก่อน โดยการจัดให้ตึกมีลักษณะที่มีคุณภาพสำหรับเพื่อการต่อต้านแผ่นดินไหวที่ดี ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้โครงสร้างตึกมีการวิบัติในแบบต่างๆ

ผังอาคารที่มีการวางส่วนประกอบที่ดี น่าจะวางตำแหน่งเสาให้มีความสมมาตรในแกนหลักทั้งตามยาวและตามทางขวางของอาคาร ถ้าเป็นอาคารสูง จะต้องมีกำแพงรับแรงเฉือน (Shear wall) หลายชิ้น วางในตำแหน่งที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอตลอดแผนผังตึก โดยไม่กลุ่มตัวอยู่ในบริเวณเดียว แนวทางการวางแนวฝาผนัง ควรจะหันด้านยาวของฝาผนังให้สามารถรับแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหวได้ทั้งสองแนวทางทั้งยังตามทางยาวและตามแนวขวางของอาคาร ดังตัว อย่างตึกที่มีการจัดวางตำหน่งเสาแล้วก็กำแพงรับแรงเชือดที่ดี

ปัญหาที่มักจะพบในแบบอย่างตึกทั่วไปคือ ระดับความสูงของเสาในชั้นล่างของอาคารจะมีความสูงมากยิ่งกว่าเสาในชั้นสองขึ้นไป เนื่องจากสิ่งที่ต้องการให้ชั้น ข้างล่างเป็นห้องโถงสารพัดประโยชน์ หรือเป็นหลักที่จอดรถรวมทั้งมีการวางจำนวนเสาน้อยกว่าในชั้นสูงขึ้นไป เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย กว้างใหญ่
อาคารลักษณะนี้ จะได้โอกาสที่จะเกิดการพินาศแบบชั้นอ่อนได้เนื่องมาจากเสาตึกในด้านล่างมีความอ่อนตัวต่อการโยกไหวทางข้างๆได้มากกว่าในชั้นสูงขึ้นไป ประกอบกับแรงแผ่นดินไหวที่ปฏิบัติต่อเสาชั้นล่างจะมีค่าสูงมากมาย

การแก้ไขปัญหาลักษณะตึกแบบนี้ บางทีอาจทำได้หลายวิธี ถ้าเป็นการออกแบบอาคารใหม่ บางทีอาจเลือกดังนี้

1. จะต้องมีการจัดให้ความสูงของเสาด้านล่างไม่แตกต่างจากชั้นสูงขึ้นไปมากเท่าไรนักการออกแบบที่ดี ควรจัดให้เสาด้านล่างไม่สูงชะลูดมากจนถึงทำให้เสาชั้นล่างมีค่าความต้านทานสำหรับการเคลื่อนข้างๆน้อยกว่าเสาชั้นสองเกิน 80%

2. จัดให้เสาชั้นล่างมีหลายชิ้นขึ้น

3. ขยายขนาดหน้าตัดเสาด้านล่างให้ใหญ่ขึ้น

4. เสริมค้ำจนถึงข้างๆทางแนวทแยงเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในการต้านการเคลื่อนตัวทางด้านข้าง เป็นต้น

ภายหลังที่รูปแบบของอาคารมีความเหมาะสม ลำดับต่อไปเป็นการออกแบบความแข็งแรงของส่วนประกอบ ตึกที่ทำหน้าที่หลักสำหรับเพื่อการขัดขวางแรงข้างๆจากแผ่นดินไหวเป็นต้นว่า เสา นอกเหนือจากที่จะรับน้ำหนักบรรทุกปกติ ซึ่งเป็นน้ำหนักของอาคารรวมทั้งน้ำหนักบรรทุกจรตามการออกแบบทั่วไปแล้ว เสาควรจะมีกำลังรับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในขณะกำเนิดแผ่นดินไหว สามารถต่อต้านแรงเฉือนจากแรงแผ่นดินไหวที่กระทำทางข้างๆต่อเสาได้ รวมทั้งต้องมีขนาดหน้าตัดใหญ่พอที่จะไม่เคลื่อนตัวมากกระทั่งเกินกฎระเบียบในข้อบังคับ ซึ่งกำหนดให้การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างชั้นไม่เกิน 0.5%

ทั้งนี้การเคลื่อนที่ของเสาที่มากเกินความจำเป็น จะก่อให้ฝาผนังอาคารมีการผิดใจได้ ดังนั้น เมื่อเปรียบขนาดเสากับอาคารทั่วๆไปแล้ว เสาตึกต้านแผ่นดินไหว จะมีขนาดใหญ่กว่า และก็มีปริมาณเหล็กเสริมตามทางยาวของเสามากกว่า เพื่อรับน้ำหนักบรรทุกและก็การดัดตัวที่เยอะขึ้นเรื่อยๆและก็ต้านการเคลื่อนที่ทางด้านข้างด้วยนอกจากนี้ จำนวนเหล็กปลอกในเสาต้องพอเพียงในการขัดขวางแรงเฉือนอีกด้วย

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเป็น การจัดเนื้อหาการเสริมเหล็กให้องค์ประกอบมีความเหนียวเพียงพอสำหรับเพื่อการยับยั้งแรง ทำแบบไปกลับของแรงแผ่นดินไหว โดยการจัดปริมาณการเสริมเหล็กตามทางยาวและก็เหล็กปลอกที่โอบรัดรอบเหล็กเสริมตามแนวยาวของเสาและก็คานให้เพียงพอ

โดยเฉพาะรอบๆใกล้รอยต่อระหว่างเสาแล้วก็คาน เนื่องจากว่าบริเวณนี้ เสารวมทั้งคานมีการดัดตัวในลักษณะไปกลับหลายรอบ เหล็กปลอกในบริเวณนี้ก็เลยต้องจัดวางให้แน่นเป็นพิเศษ และการต่อเหล็กเสริมตามยาวจะต่อในบริเวณใกล้รอยต่อของเสาแล้วก็คานไม่ได้ เพราะแรงแผ่นดินไหว จะทำให้เหล็กเสริมเหล่านี้เลื่อนหลุดจากรอยต่อได้ง่าย การเสริมเหล็กให้เสาและคานมีความเหนียวยังมีรายละเอียดอีกมาก ก็เลยขอกล่าวแต่อย่างย่อเพียงเท่านี้ก่อน

หากว่าอาคารที่ดีไซน์ตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว พุทธศักราช 2550 จะได้มีการพิจารณาถึงแรงแผ่นดินไหวในระดับที่ สูงเพียงพอแล้ว แม้กระนั้นความสามารถของตึกแต่ละหลัง สำหรับในการต้านทานแรงแผ่นดินไหวในเหตุ การณ์จริง ยังนานับประการตามลักษณะ จำพวก และรูปแบบของอาคารต่างๆหากต้องการทราบว่า อาคารที่ดีไซน์ตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2550 แต่ละข้างหลังมีความยั่งยืนมั่นคงปลอดภัยแค่ไหน ต้องใช้ขั้นตอนการ พินิจพิจารณาพฤติกรรมสำหรับในการต่อต้านแรงแผ่นดินไหวของโครงสร้างอย่างรอบคอบ.

ที่มา : http://999starthai.com/th/home-2/

Tags : ออกแบบอาคาร
#6
อะนิเมะ (「アニメ」 anime) เป็นคำภาษาประเทศญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า แอนิเมชัน (animation) ซึ่งมาจาก ภาษาประเทศฝรั่งเศส อานีเม่ (animé) แล้วก็จากภาษาละติน หมายความว่าเคลื่อนไหว หรือภาพเคลื่อนไหว แม้กระนั้นความหมายเปลี่ยนกระทั่งเป็นคำเฉพาะของภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า ภาพยนตร์การ์ตูน ข้างนอกประเทศญี่ปุ่น อะนิเมะซึ่งก็คือภาพยนตร์การ์ตูนชนชาติประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่วนมากมีลักษณะทางศิลป์ต่างกันกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น อะนิเมะจำนวนมากจะวาดขึ้นด้วยมือ แต่ปัจจุบันนี้มีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้างอะนิเมะอย่างมากมาย อะนิเมะโดยมากทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเหมือนภาพยนตร์ โดยมีแนวเรื่องมากมายแล้วก็ครอบคลุมแนววรรณกรรมแทบทุกแนว อะนิเมะส่วนมากถูกผลิตขึ้นเป็นตอนๆเพื่อฉายทางโทรทัศน์ ส่วนหนึ่งส่วนใดถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ แล้วก็อีกส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทำเป็นตอนๆเพื่อในแบบอย่างดีวีดี วีซีดี หรือวีดิโอ ดูมีการทำตอนเฉพาะที่เรียกว่า โอวีเอ อะนิเมะหลายเรื่องถูกปรับเปลี่ยนมาจากมังงะ นอกนั้นยังมีอะนิเมะที่ถูกนำไปดัดแปลงแก้ไขเป็นละครโทรทัศน์อีกด้วย
 
 เมื่อปี 1970 นักสร้างภาพยนตร์คนญี่ปุ่นเริ่มตรวจสอบและลองใช้เทคนิคการสร้างภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภาพยนตร์การ์ตูนใน อเมริกา รวมทั้ง ยุโรป แต่ว่าไม่รับ เพื่อที่ญี่ปุ่นสามารถสร้างภาพยนตร์การ์ตูนของตนเอง สิ้นปี 1970 ภาพยนตร์การ์ตูนประเทศญี่ปุ่นได้ปรับปรุงลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ตัวขึ้นจนกระทั่งสามารถแบ่งแยกออกจากภาพยนตร์การ์ตูนของสหรัฐฯได้อย่างเห็นได้ชัด ในทศวรรษที่ 1980 อะนิเมะได้รับความนิยมกว้างใหญ่ในญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจการผลิตอะนิเมะเติบโตอย่างเร็ว และในทศวรรษที่ 1990 และ 2000 กิตติศัพท์ของอะนิเมะได้ขยายไปยังนอกประเทศญี่ปุ่น พร้อมๆกับการขยายตัวของตลาดอะนิเมะนอกประเทศสำหรับคนที่พอใจ
 
 "อะนิเมะ" (アニメ) เป็นอักษรย่อของ アニメーション ซึ่งเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ (พิจารณาได้ว่าเขียนเป็นค่ะตะคะนะ) "แอนิเมชัน" (animation) ซึ่งหมายความถึงภาพยนตร์การ์ตูน คำทั้งคู่คำนี้สามารถใช้แทนกันได้ในภาษาประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามรูปย่อได้รับความนิยมใช้มากยิ่งกว่า คำว่า "อะนิเมะ" มีขอบเขตกว้างครอบคลุมภาพยนตร์การ์ตูนทั้งผอง ไม่จำกัดอยู่ที่แนวหรือลักษณะของภาพยนตร์การ์ตูนอะไรก็ตาม
 
 "เจแปนิเมชัน" (Japanimation) ซึ่งเป็นผลมาจากการผสมคำว่า "เจแปน" (Japan) กับ "แอนิเมชัน" เป็นคำอีกคำที่มีความหมายราวกับ "อะนิเมะ" คำนี้นิยมใช้กันมากมายในทศวรรษที่ 1970 แล้วก็ 1980 แต่มีสาวใช้น้อยลงตั้งแต่ปี 1990 แล้วก็หมดความชื่นชอบลงก่อนกึ่งกลางทศวรรษที่ 1990 ในปัจจุบันคำนี้ถูกใช้อยู่แค่ในประเทศประเทศญี่ปุ่นเพื่อแบ่งแยกระหว่างภาพยนตร์การ์ตูนปกติ (ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกรวมๆว่า "อะนิเมะ") แล้วก็ภาพยนตร์การ์ตูนที่ผลิตภายในประเทศ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เว็บดูอนิเมะ

ขอบคุณบทความจาก : http://anime.oppasociety.com/category/anime-update/

Tags : อนิเมะออนไลน์,การ์ตูนอนิเมะ
#7
ละครทีวีเกาหลี หรือที่นิยมเรียกว่า ซีรีส์ประเทศเกาหลี เป็นละครโทรทัศน์ในรูปแบบหนผลิตเป็นภาษาเกาหลี มีหลายเรื่องของละครทีวีประเทศเกาหลีที่แปลงเป็นที่นิยมไปทั่วเอเชียแล้วก็กำเนิดเป็นการปรากฏของกระแสประเทศเกาหลีหรือที่เรียกว่า "ฮัลลยู" (??) นอกจากจะเป็นที่นิยมไม่ใช่แค่ที่เกาหลีหรือเฉพาะทวีปเอเชียแค่นั้น แต่ยังเป็นที่นิยมในส่วนอื่นๆของโลกเช่นละตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง และก็ที่อื่นๆในความเข้าใจที่ตรงกัน ละครโทรทัศน์เกาหลีที่เนื้อหานี้อ้างถึงเป็นเฉพาะละครทีวีประเทศเกาหลีที่ผลิตจากประเทศเกาหลีใต้เพียงแค่นั้น
 
 ในประเทศไทย ละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีได้รับความนิยมมากับกระแสประเทศเกาหลี โดยในบางสถานีโทรทัศน์ได้นำละครโทรทัศน์เกาหลีเข้ามาฉาย และได้รับความนิยมในเล็กน้อย โดยช่องแรกที่ได้ฉายเป็นช่อง 5 จากเรื่อง Wish Upon a star (หรือ Star in My Heart; ลิขิตแห่งดวงดาว) ในปี คริสต์ศักราช 2000 ถัดมาในปี ค.ศ. 2003 เทคโนโลยีสารสนเทศวีได้ฉายละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีมากถึง 14 เรื่อง จนตราบเท่าในต.ค. ปี คริสต์ศักราช 2005 ช่อง 3 ได้ฉายเรื่อง Jewel in the Palace (แดจังกึม จอมนางที่วังหลวง) ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีในแนวย้อนยุค ในช่วงเวลาไพร์มไทม์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปรากฏว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งจนถึงกลายเป็นการเกิดหนึ่งในสังคมไทย ส่งผลให้ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีได้รับความนิยมขึ้นมา ทำให้มีการนำเข้ามาฉายในประเด็นต่างๆในมากมายหลากหลายวิธีสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่องต่างๆมากเพิ่มขึ้น แล้วก็ทำให้นักแสดงเกาหลีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยโด่งดังเลื่องลือเป็นที่ชื่นชอบขึ้นมา ได้แก่ อี ยองแอ, อิม ยุยงนอา, จาง กึนซอก, ฮัน กาอิน , จอน จีฮยอน, ฮัม อึนจอง, ซง จุงกิ ฯลฯ
 
 เอกลักษณ์ของละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีเมื่อเทียบกับละครโทรทัศน์ไทยแล้ว ได้รับการยินยอมรับว่า มีการผลิตที่ใส่ใจในรายละเอียดมากยิ่งกว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆน้อยๆเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาด แล้วก็บทละครก็ไม่มองหลุดเหลือเกินจากความจริงในชีวิต หรือผู้แสดงไม่แสดงออกทางอารมณ์จนถึงเกินเลยความจริง ทั้งยังเนื้อเรื่องถึงแม้ผูกได้หลายชั้นแต่ไม่ซับซ้อน แม้กระนั้นข้อบกพร่องก็คือ โครงเรื่องมักจะซ้ำกัน ดังเช่น นางเอกมักเป็นผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เจ็บไข้ อ่อนแอ ทำให้น่าสงสาร รวมทั้งวนเวียนอยู่กับปัญหาในครอบครัว ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ชมบางประเทศกำเนิดความเบื่อหน่าย
 
 มีการพินิจพิจารณากันว่า มี 7 สิ่งที่มักปรากฏอยู่ในละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลี ซึ่งทั้งหมดเพื่อการผลักดันความเป็นเกาหลี เป็น
 
 1. โซจู (??) เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประจำชาติของประเทศเกาหลี เปรียบเทียบได้กับเหล้าสาเกของประเทศญี่ปุ่น ผู้แสดงชอบดื่มรับประทานบ่อยๆในร้านข้างถนนอีกทั้งชายรวมทั้งหญิง โดยไม่มีการเซนเซอร์ภาพขวดหรือแก้วแต่อย่างใด
 
 2. ของกินเกาหลี
 
 3. การขัดฟัน
 
 4. การขนส่ง หรือการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆของผู้แสดง
 
 5. การท่องเที่ยว หรือสถานที่เที่ยวต่างๆในประเทศ
 
 6. ตัวละครแม้จะใช้สมาร์ทโฟนทันสมัยอย่างไร แม้กระนั้นจะไม่มีไอโฟน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล
 
 7. นักแสดงทุกตัวจะมีอาชีพงานการที่กระจ่าง แล้วก็มีความเป็นมืออาชีพ14
 
 จนตราบเท่าในต้นปี คริสต์ศักราช 2014 กระแสของละครทีวีประเทศเกาหลีในไทยเริ่มซบเซาลง พร้อมๆกับกระแสประเทศเกาหลีในวัฒนธรรมร่วมยุคอย่างอื่นด้วย แม้กระนั้นก็ยังมีการฉายอยู่ แล้วก็ได้รับความนิยมในบางเรื่อง อย่างเช่น Descendants of the Sun (ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ) ในปี คริสต์ศักราช 2016 ที่เกิดเป็นกระแสในหลายประเทศที่เข้าฉาย รวมถึงประเทศไทยด้วยที่เป็นรู้จักอย่างกว้างขวางเมื่อ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงแล้วก็ชี้แนะให้รับชมเพราะว่ามีรายละเอียดที่เกี่ยวกับความรักประเทศ และก็ถัดมาในช่วงเวลากลางเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน มีการปิดตัวลงของเว็บไซต์บางเว็บที่เผยแพร่ละครทีวีประเทศเกาหลีในแบบออนไลน์ แม้กระนั้นผิดกฎหมาย เนื่องด้วยสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะเอสที่ปรึกษาความงามสและก็เอ็มบีซีเป็นจริงเป็นจังหัวข้อการละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น
 
 ในต.ค. ค.ศ. 2015 สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น ได้ประกาศยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์เกาหลี โดยบอกเหตุผลว่าระยะหลังละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีไม่ได้รับความนิยมเหมือนก่อน โดยมีเรื่องมีราว Empress Ki (กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน) ถ่ายทอดเกิดเรื่องท้ายที่สุด แม้กระนั้นความนิยมในจีนกลับไม่ลดน้อยลง แล้วก็ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2014 กลับมีค่าลิขสิทธิ์ที่แพงขึ้น โดยเรื่อง Fated to Love You ของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี ซึ่งถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่แบบออนไลน์ในจีน มีมูลค่าถึง 120 ล้านวอน หรือราว 3,800,000 บาท ต่อตอน มากกว่าค่าลิขสิทธิ์เรื่อง My Love from the Star (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ที่มีมูลค่าถึง 1,200,000 บาท ต่อตอนเสียอีก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ซีรีย์เกาหลี

ขอบคุณบทความจาก : http://www.oppasociety.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C/

Tags : ซีรีย์เกาหลี
#8
อะนิเมะ (「アニメ」 anime) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า แอนิเมชัน (animation) ซึ่งมาจาก ภาษาประเทศฝรั่งเศส อานีเม่ (animé) รวมทั้งจากภาษาละติน หมายความว่าเคลื่อนไหว หรือภาพเคลื่อนไหว แต่ความหมายเปลี่ยนจนเป็นคำเฉพาะของภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ภาพยนตร์การ์ตูน ภายนอกญี่ปุ่น อะนิเมะหมายถึงภาพยนตร์การ์ตูนสัญชาติประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดยมากมีลักษณะทางศิลป์ไม่เหมือนกันกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น อะนิเมะส่วนใหญ่จะวาดขึ้นด้วยมือ แม้กระนั้นตอนนี้มีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้างอะนิเมะอย่างล้นหลาม อะนิเมะโดยมากผลิตขึ้นเพื่อให้ความสนุกสนานเสมือนภาพยนตร์ โดยมีแนวเรื่องนานาประการและครอบคลุมแนววรรณกรรมเกือบทุกแนว อะนิเมะส่วนมากถูกผลิตขึ้นเป็นตอนๆเพื่อฉายทางโทรทัศน์ ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเพื่อฉายในโรงหนัง รวมทั้งอีกส่วนใดส่วนหนึ่งถูกผลิตเป็นตอนๆเพื่อMLMในแบบอย่างดีวีดี วีซีดี หรือวีดิโอ ดูมีการทำตอนเฉพาะที่เรียกว่า โอวีเอ อะนิเมะหลายเรื่องถูกดัดแปลงมาจากมังงะ นอกนั้นยังมีอะนิเมะที่ถูกนำไปดัดแปลงแก้ไขเป็นละครที่ออกอากาศทางทีวีอีกด้วย
 
 เมื่อปี 1970 นักสร้างภาพยนตร์คนญี่ปุ่นเริ่มตรวจสอบและลองใช้แนวทางการสร้างภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจาก ภาพยนตร์การ์ตูนใน สหรัฐฯ รวมทั้ง ยุโรป แต่ว่าไม่ยอมรับ เพื่อที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถสร้างภาพยนตร์การ์ตูนของตนเอง ท้ายปี 1970 ภาพยนตร์การ์ตูนประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ตัวขึ้นกระทั่งสามารถแยกออกมาจากภาพยนตร์การ์ตูนของประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างเห็นได้ชัด ในทศวรรษที่ 1980 อะนิเมะได้รับความนิยมกว้างใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจการผลิตอะนิเมะเจริญเติบโตอย่างเร็ว แล้วก็ในทศวรรษที่ 1990 รวมทั้ง 2000 ความโด่งดังของอะนิเมะได้แพร่ไปยังนอกญี่ปุ่น พร้อมๆกับการขยายตัวของตลาดอะนิเมะนอกประเทศสำหรับคนที่ถูกใจ
 
 "อะนิเมะ" (アニメ) เป็นคำย่อของ アニメーション ซึ่งเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ (พิจารณาได้ว่าเขียนเป็นขาตะคะนะ) "แอนิเมชัน" (animation) ซึ่งหมายความถึงภาพยนตร์การ์ตูน คำทั้งคู่คำนี้สามารถใช้แทนกันได้ในภาษาประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็แล้วแต่รูปย่อเป็นที่นิยมใช้มากกว่า คำว่า "อะนิเมะ" มีขอบเขตกว้างครอบคลุมภาพยนตร์การ์ตูนทั้งปวง ไม่จำกัดอยู่ที่แนวหรือลักษณะของภาพยนตร์การ์ตูนอะไรก็ตาม
 
 "เจแปนิเมชัน" (Japanimation) ซึ่งมีเหตุมาจากการผสมคำว่า "เจแปน" (Japan) กับ "แอนิเมชัน" เป็นคำอีกคำที่สื่อความหมายราวกับ "อะนิเมะ" คำนี้นิยมใช้กันมากมายในทศวรรษที่ 1970 และก็ 1980 แม้กระนั้นมีสาวใช้ลดน้อยลงตั้งแต่ปี 1990 รวมทั้งหมดความนิยมชมชอบลงก่อนกลางทศวรรษที่ 1990 ในปัจจุบันคำนี้ถูกใช้อยู่เพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อแยกระหว่างภาพยนตร์การ์ตูนทั่วๆไป (ซึ่งคนประเทศญี่ปุ่นเรียกรวมๆว่า "อะนิเมะ") รวมทั้งภาพยนตร์การ์ตูนที่ผลิตภายในประเทศ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : อนิเมะ

เครดิต : http://anime.oppasociety.com/category/anime-ending/

Tags : เว็บดูอนิเมะ
#9
ละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลี หรือที่นิยมเรียกว่า ซีรีส์ประเทศเกาหลี คือละครทีวีในแบบอย่างครั้งผลิตเป็นภาษาเกาหลี มีหลายเรื่องของละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีที่กลายเป็นที่นิยมไปทั่วเอเชียและก็กำเนิดเป็นปรากฏการณ์ของกระแสประเทศเกาหลีหรือที่เรียกว่า "ฮัลลยู" (??) นอกจากจะได้รับความนิยมไม่ใช่แค่ที่เกาหลีหรือเฉพาะทวีปเอเชียเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังได้รับความนิยมในส่วนอื่นๆของโลกยกตัวอย่างเช่นละตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง และก็ที่อื่นๆในความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน ละครที่ออกอากาศทางทีวีประเทศเกาหลีที่เนื้อหานี้อ้างถึงหมายถึงเฉพาะละครโทรทัศน์เกาหลีที่ผลิตขึ้นจากประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น
 
 ในประเทศไทย ละครทีวีประเทศเกาหลีได้รับความนิยมมากับกระแสเกาหลี โดยในบางสถานีโทรทัศน์ได้นำละครทีวีประเทศเกาหลีเข้ามาฉาย แล้วก็ได้รับความนิยมในนิดหน่อย โดยช่องแรกที่ได้ฉายหมายถึงช่อง 5 จากเรื่อง Wish Upon a star (หรือ Star in My Heart; ลิขิตที่ดวงดาว) ในปี คริสต์ศักราช 2000 ถัดมาในปี คริสต์ศักราช 2003 ไอทีวีได้ฉายละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีมากถึง 14 เรื่อง กระทั่งในต.ค. ปี ค.ศ. 2005 ช่อง 3 ได้ฉายเรื่อง Jewel in the Palace (แดจังกึม จอมนางที่วังหลวง) ละครที่ออกอากาศทางทีวีเกาหลีในแนวย้อนยุค ในขณะไพร์มไทม์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปรากฏว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งกระทั่งกลายเป็นการเกิดหนึ่งในสังคมไทย ทำให้ละครทีวีประเทศเกาหลีได้รับความนิยมขึ้นมา ทำให้มีการนำเข้ามาฉายในหัวข้อต่างๆในมากมายหลายแนวทางสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่องต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ผู้แสดงเกาหลีคนไม่ใช่น้อยเป็นที่รู้จักดังเป็นที่ชื่นชอบขึ้นมา เช่น อี ยองแอ, อิม ยุนอา, จาง กึนซอก, ฮัน กาอิน , จอน จีฮยอน, ฮัม อึนจอง, ซง จุงกิ เป็นต้น
 
 เอกลักษณ์ของละครโทรทัศน์เกาหลีเมื่อเทียบกับละครทีวีไทยแล้ว ได้รับการยินยอมรับว่า มีการผลิตที่เอาใจใส่ในเนื้อหามากกว่า ถึงจะเป็นจุดเล็กๆน้อยๆเพื่อไม่ให้มีจุดบกพร่อง และบทละครก็ไม่ดูหลุดเกินความจำเป็นจากความเป็นจริงในชีวิต หรือตัวละครไม่แสดงออกทางอารมณ์จนถึงเกินเลยข้อเท็จจริง ทั้งเนื้อเรื่องถึงแม้ผูกได้หลายชั้นแม้กระนั้นไม่สลับซับซ้อน แต่ข้อเสียก็คือ พล็อตเรื่องมักจะซ้ำกัน อย่างเช่น นางเอกมักเป็นคนที่มีร่างกายอ่อนแอ ป่วยไข้ อ่อนแอ ทำให้น่าเห็นใจ และก็วนเวียนอยู่กับปัญหาในครอบครัว ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ชมบางประเทศกำเนิดความน่าเบื่อ
 
 มีการวิเคราะห์กันว่า มี 7 สิ่งที่มักปรากฏอยู่ในละครทีวีเกาหลี ซึ่งทั้งปวงเพื่อการสนับสนุนความเป็นเกาหลี คือ
 
 1. โซจู (??) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติของประเทศเกาหลี เปรียบเทียบได้กับเหล้าสาเกของญี่ปุ่น ตัวละครชอบดื่มกินเสมอๆในร้านค้าข้างถนนทั้งยังชายและก็หญิง โดยไม่มีการเซนเซอร์ภาพขวดหรือแก้วแต่อย่างใด
 
 2. อาหารประเทศเกาหลี
 
 3. การแปรงฟัน
 
 4. การขนส่ง หรือการเดินทางด้วยยานพาหนะต่างๆของนักแสดง
 
 5. การท่องเที่ยว หรือสถานที่เที่ยวต่างๆในประเทศ
 
 6. ผู้แสดงแม้จะใช้สมาร์ทโฟนนำสมัยยังไง แต่ว่าจะไม่มีไอโฟน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล
 
 7. ผู้แสดงทุกตัวจะมีอาชีพการงานที่แจ่มชัด แล้วก็มีความเป็นมืออาชีพ14
 
 จนกระทั่งในต้นปี คริสต์ศักราช 2014 กระแสของละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีในไทยเริ่มซบเซาลง พร้อมๆกับกระแสประเทศเกาหลีในวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างอื่นด้วย แม้กระนั้นก็ยังมีการฉายอยู่ และเป็นที่นิยมในบางเรื่อง เป็นต้นว่า Descendants of the Sun (ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อคุณ) ในปี คริสต์ศักราช 2016 ที่เกิดเป็นกระแสในหลายประเทศที่เข้าฉาย รวมทั้งประเทศไทยด้วยที่เป็นรู้จักอย่างมากมายเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯได้กล่าวถึงรวมทั้งชี้แนะให้รับดูเนื่องจากว่ามีเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักประเทศ และก็ต่อมาในช่วงเวลากลางเดือนพ.ย. ปีเดียวกัน มีการปิดตัวลงของเว็บบางเว็บไซต์ที่เผยแพร่ละครโทรทัศน์เกาหลีในแบบออนไลน์ แม้กระนั้นผิดกฎหมาย เพราะเหตุว่าสถานีโทรทัศน์ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศเกาหลีใต้ โดยยิ่งไปกว่านั้นเอสบีเอสรวมทั้งเอ็มบีซีขมักเขม้นหัวข้อการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น
 
 ในตุลาคม คริสต์ศักราช 2015 สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็นเอชเคของประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลี โดยให้เหตุผลว่าพักหลังละครโทรทัศน์ประเทศเกาหลีไม่ได้รับความนิยมเหมือนเก่า โดยมีเรื่อง Empress Ki (กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน) กระจายเสียงเป็นเรื่องสุดท้าย แต่ว่าความชื่นชอบในจีนกลับไม่ลดน้อยลง รวมทั้งในช่วงกลางปี คริสต์ศักราช 2014 กลับมีค่าลิขสิทธิ์ที่แพงขึ้น โดยเรื่อง Fated to Love You ของสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็มบีซี ซึ่งถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่แบบออนไลน์ในจีน มีมูลค่าถึง 120 ล้านวอน หรือราว 3,800,000 บาท ต่อตอน มากกว่าค่าลิขสิทธิ์เรื่อง My Love from the Star (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ที่มีมูลค่าถึง 1,200,000 บาท ต่อตอนเสียอีก
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ซีรี่ย์เกาหลี

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.oppasociety.com/

Tags : ซีรี่ย์เกาหลี,ซีรีย์เกาหลี
#10
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ วัดแรงสะเทือนได้ 7.0 ริคเตอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2553 นำไปสู่เรื่องเศร้าครั้งใหญ่ในกรุงปอร์โต แปรงซ์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐเฮตำหนิ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพียงแต่ 15 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกในลักษณะการเลื่อนตัวข้างๆระหว่างแผ่นหินแคริบเบียนแล้วก็แผ่นหินอเมริกาเหนือ ซึ่งมีอัตราการขับเคลื่อนในกฏเกณฑ์สูง ทำให้มีโอกาสกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้เหมือนกับบริเวณรอยเลื่อนเกะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย

เมื่อย้อนกลับมาดูเมืองไทยพวกเรา รอยเลื่อนสำคัญที่เคยกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดกลาง 5-6 ริคเตอร์มาแล้วหมายถึงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์รอบๆจังหวัดกาญจนบุรี และก็รอยเลื่อนแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ทำให้ตึกเกิดการสั่นไหวและก็ส่วนประกอบอาคารหลายหลังกำเนิดรอยแตกร้าว

ความเสื่อมโทรมของอาคารกลุ่มนี้ เพราะว่าในอดีตก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ข้อบังคับตึกมิได้บังคับให้มีการวางแบบขัดขวางแผ่นดินไหว เวลานี้มีข้อบังคับอาคารประกาศเป็นกฎกระทรวงฉบับ พ.ศ. 2550 ที่บังคับให้ตึกจะต้องวางแบบให้ต่อต้านแผ่นดินไหวได้ โดยแบ่งได้เป็น 3 รอบๆ ดังเช่น 1. พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครแล้วก็ละแวกใกล้เคียง รวม 5 จังหวัด 2. พื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด รวมทั้งภาคตะวันตก แล้วก็ 3. พื้นที่ในภาคใต้ 7 จังหวัด

ขั้นตอนแรกของการออกแบบอาคารให้ต่อต้านแผ่นดินไหวได้ วิศวกรผู้ออกแบบจะต้องพินิจลักษณะของตึกก่อน โดยการจัดให้อาคารมีลักษณะที่มีคุณภาพสำหรับการยับยั้งแผ่นดินไหวที่ดี ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้องค์ประกอบตึกมีการวอดวายในแบบต่างๆ

ผังอาคารที่มีการวางส่วนประกอบที่ดี ควรวางตำแหน่งเสาให้มีความสมมาตรในแกนหลักทั้งยังตามทางยาวและก็ตามขวางของอาคาร ถ้าหากเป็นอาคารสูง ควรมีกำแพงรับแรงเชือด (Shear wall) จำนวนมาก วางในตำแหน่งที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอตลอดแผนผังตึก โดยไม่กลุ่มตัวอยู่ในรอบๆเดียว แนวทางการวางแนวฝาผนัง ควรหันด้านยาวของผนังให้สามารถรับแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหวได้ทั้งคู่ทิศทางตามยาวรวมทั้งตามทางขวางของตึก ดังตัว อย่างตึกที่มีการจัดวางตำหน่งเสาแล้วก็กำแพงรับแรงเฉือนที่ดี

ปัญหาที่มักจะพบในรูปแบบตึกทั่วๆไปคือ ระดับความสูงของเสาในชั้นล่างของอาคารจะมีความสูงมากกว่าเสาในชั้นสองขึ้นไป เพราะว่าความอยากให้ชั้น ล่างเป็นห้องโถงอเนกประสงค์ หรือเป็นหลักที่จอดรถและก็มีการวางจำนวนเสาน้อยกว่าในชั้นสูงขึ้นไป เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอย กว้างขวาง
ตึกลักษณะนี้ จะได้โอกาสที่จะเกิดการพินาศแบบชั้นอ่อนได้เพราะว่าเสาตึกในชั้นล่างมีความอ่อนตัวต่อการโยกไหวทางด้านข้างได้มากกว่าในชั้นสูงขึ้นไป ประกอบกับแรงแผ่นดินไหวที่ปฏิบัติต่อเสาชั้นล่างจะมีค่าสูงมากมาย

การจัดการกับปัญหาลักษณะอาคารอย่างงี้ บางทีอาจทำเป็นหลายวิธี ถ้าเกิดเป็นการออกแบบอาคารใหม่ บางทีอาจเลือกดังต่อไปนี้

1. ควรจะมีการจัดให้ความสูงของเสาด้านล่างไม่ได้แตกต่างจากชั้นสูงขึ้นไปมากเท่าไรนักการออกแบบที่ดี ควรจะจัดให้เสาชั้นล่างไม่สูงชะลูดมากจนกระทั่งทำให้เสาด้านล่างมีค่าแรงต้านทานในการเคลื่อนด้านข้างน้อยกว่าเสาชั้นสองเกิน 80%

2. จัดให้เสาด้านล่างมีจำนวนมากขึ้น

3. ขยายขนาดหน้าตัดเสาชั้นล่างให้ใหญ่ขึ้น

4. เสริมค้ำยันข้างๆทางแนวทแยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานการเคลื่อนทางด้านข้าง เป็นต้น

ภายหลังที่รูปแบบของตึกมีความเหมาะสม ลำดับต่อไปเป็นการออกแบบความแข็งแรงของโครงสร้าง อาคารที่ปฏิบัติภารกิจหลักในการต้านทานแรงข้างๆจากแผ่นดินไหวเป็นต้นว่า เสา นอกเหนือจากที่จะรับน้ำหนักบรรทุกธรรมดา ซึ่งเป็นน้ำหนักของตึกและน้ำหนักบรรทุกจรตามการออกแบบทั่วไปแล้ว เสาจะต้องมีกำลังรับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในขณะเกิดแผ่นดินไหว สามารถขัดขวางแรงเชือดจากแรงแผ่นดินไหวที่ทำทางด้านข้างต่อเสาได้ และควรมีขนาดหน้าตัดใหญ่พอที่จะไม่เคลื่อนมากมายจนถึงเกินกฎเกณฑ์ในกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างชั้นไม่เกิน 0.5%

ทั้งนี้การเคลื่อนที่ของเสาที่มากเหลือเกิน จะทำให้ฝาผนังอาคารมีการบาดหมางได้ ดังนั้น เมื่อเปรียบขนาดเสากับอาคารทั่วไปแล้ว เสาอาคารต้านแผ่นดินไหว จะมีขนาดใหญ่กว่า และก็มีปริมาณเหล็กเสริมตามแนวยาวของเสามากกว่า เพื่อรับน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งการดัดตัวที่มากยิ่งขึ้นและก็ต้านทานการเคลื่อนที่ทางข้างๆด้วยนอกนั้น ปริมาณเหล็กปลอกในเสาต้องเพียงพอสำหรับเพื่อการต่อต้านแรงเฉือนอีกด้วย

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเป็น การจัดเนื้อหาการเสริมเหล็กให้ส่วนประกอบมีความเหนียวพอเพียงในการขัดขวางแรง ทำแบบไปกลับของแรงแผ่นดินไหว โดยการจัดจำนวนการเสริมเหล็กตามแนวยาวรวมทั้งเหล็กปลอกที่โอบรัดรอบเหล็กเสริมตามทางยาวของเสาและคานให้พอเพียง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆใกล้จุดต่อระหว่างเสาแล้วก็คาน เหตุเพราะบริเวณนี้ เสารวมทั้งคานมีการดัดตัวในลักษณะไปกลับหลายรอบ เหล็กปลอกในรอบๆนี้จึงจำต้องจัดวางให้แน่นเป็นพิเศษ รวมทั้งการต่อเหล็กเสริมตามยาวจะต่อในบริเวณใกล้จุดต่อของเสารวมทั้งคานไม่ได้ เพราะว่าแรงแผ่นดินไหว จะทำให้เหล็กเสริมพวกนี้เลื่อนหลุดจากรอยต่อได้ง่าย การเสริมเหล็กให้เสารวมทั้งคานมีความเหนียวยังมีรายละเอียดอีกมาก ก็เลยขอกล่าวแต่โดยย่อเพียงเท่านี้ก่อน

ถึงแม้ว่าตึกที่ดีไซน์ตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว พุทธศักราช 2550 จะได้มีการคิดถึงแรงแผ่นดินไหวในระดับที่ สูงพอเพียงแล้ว แต่ความสามารถของอาคารแต่ละหลัง สำหรับการขัดขวางแรงแผ่นดินไหวในเหตุ การณ์จริง ยังต่างๆนาๆตามลักษณะ ชนิด รวมทั้งลักษณะของอาคารต่างๆถ้าหากอยากรู้ว่า ตึกที่ดีไซน์ตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2550 แต่ละหลังมีความยั่งยืนและมั่นคงไม่เป็นอันตรายแค่ไหน จะต้องใช้กรรมวิธีการ พินิจพิจารณาความประพฤติในการต่อต้านแรงแผ่นดินไหวของโครงสร้างให้ละเอียด.

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://999starthai.com/th/home-2/

Tags : ออกแบบอาคาร