Show posts - Calla Lily
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Calla Lily

#1

อยากเปิดคลินิกทันตกรรมเป็นของตัวเอง อย่าลืมวางแผนวิธีการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ให้ดีก่อนเปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำวิธีการวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรม มาแชร์ให้ทุกคนในบทความนี้!
อยากเปิดคลินิกทันตกรรม หาที่ปรึกษาด้าน บัญชี แนะนำ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม


1. กำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) - ด้วยการจัดหมวดหมู่รายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกและตรวจสอบ ซึ่งผังบัญชีที่ควรมีสำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่
  • ต้นทุนสินค้าและบริการ (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)
  • รายได้ (Revenue)
2.  บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ  - คือการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
  • บันทึกรายรับ
  • บันทึกรายจ่าย
  • การจัดการสต็อก
3. จัดทำรายงานทางการเงิน  - เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
4. การจัดการภาษี  - คลินิกทันตกรรมต้องมีการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ทำความเข้าใจรายละเอียด การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจบัญชีคลินิกทันตกรรม


1. ต้นทุนของบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ตัวอย่างเช่น
  • ค่าวัสดุและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรง
  • ค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการ (Dental Lab)
  • ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์
2. ค่าใช้จ่ายบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
  • ค่าใช้จ่ายคงที่
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร


3. รายได้ของบัญชีคลินิกทันตกรรม - มาจากการให้บริการและขายสินค้า ซึ่งควรมีการแยกประเภทรายได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์
  • รายได้ค่ารักษาทางทันตกรรม
  • รายได้จากการขายสินค้า
  • รายได้อื่นๆ

การเก็บเอกสาร
1.  หมวด "ข้อมูลกิจการ" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน และเอกสารการจดทะเบียนบริษัท
  • งบการเงินของปีก่อน
  • ภ.ง.ด.50 / ภ.ง.ด.51 ของปีก่อน
  • ภ.พ.01 , ภ.พ.09 , ภ.พ.20
  • สัญญาต่างๆ

2. หมวด "เอกสารขาย" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญรับเงิน Receipt Voucher
  • สำเนาใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษีขาย
  • สำเนาใบลดหนี้ขาย กรณีราคาผิด คืนสินค้า
  • หลักฐานการรับชำระเงิน สำเนาเช็ครับ สลิปการโอน
  • ธุรกิจบริการ สำเนาหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ (ถ้ามี)
3. หมวด "เอกสารซื้อ" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญจ่าย ต้องมีลายเซ็นผู้รับเงิน
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / สำเนาใบกำกับภาษี
  • ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
  • หลักฐานการจ่ายเงิน สลิปโอนเงิน สำเนาเช็ค
  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50ทวิ)
  • สำเนาบัตรประชาชน (กรณีจ้างบุคคล)
  • ใบรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน (กรณีผู้ขายไม่ออกใบเสร็จรับเงิน)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ หนังสือจัดจ้าง (ถ้ามี)
4. หมวด "ภาษีขาย" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • สำเนาใบกำกับภาษีขาย
  • รายงานภาษีขาย
5. หมวด "ภาษีซื้อ" ซึ่งประกอบด้วย


  • ต้นฉบับใบกำกับภาษีซื้อ

  • รายงานภาษีซื้อ
6. หมวด "ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย" เมื่อมีผู้เข้ารับบริการในคลินิกโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางคลินิกจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการให้แก่คลินิก พร้อมให้ต้นฉบับกับสำเนาหนังสือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ต้นฉบับเก็บแฟ้มภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • สำเนาชุดใบสำคัญรับชำระหนี้
7. หมวด "งานภาษี (Tax File)" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่น ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53
  • สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียน VAT ต้องเก็บ ภ.พ.30
  • รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ของปีปัจจุบัน
  • ประกันสังคมและกองทุนทดแทนต่างๆ
8. หมวด "เงินเดือนและประกันสังคม" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • แบบยื่นภาษี ภ.ง.ด.1
  • แบบนำส่งเงินสมทบประกันสังคม (สปส.1-10)
  • ตารางสรุปการจ่ายเงินเดือน


9. หมวด "ทะเบียนสินทรัพย์" สินทรัพย์จะต้องมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี และมีมูลค่าขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือตามนโยบายของคลินิก ซึ่งประกอบไปด้วย
  • เอกสารการซื้อ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี
  • ทะเบียนทรัพย์สิน

อ่านตัวอย่างเคส การบันทึกบัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

จัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม อย่างมืออาชีพ ป้องกันปัญหาภาษีในอนาคต เลือก นรินทร์ทอง!

อันที่จริงแล้วการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นจากการวางแผนและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณบริหารคลินิกได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#2

หากใครที่มีแนวโน้มอยากปิดบริษัท หรือต้องการเลิกทำกิจการ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหน? แล้วการ จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้ กับ นรินทร์ทอง
จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่?


  • กรณีบริษัทไม่มี VAT - ค่าบริการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชี อาจอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท
  • กรณีบริษัทมี VAT - ค่าบริการอาจอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียม - ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชีที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประมาณ 1,260 บาท
  • ค่าโฆษณาหนังสือพิมพ์ - อาจมีค่าใช้จ่ายในการประกาศโฆษณาเลิกบริษัทในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
  • ค่าบริการอื่นๆ - อาจมีค่าบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าจัดทำบัญชี, ค่าตรวจสอบบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อยาก จดเลิกบริษัท ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่
ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัทราคา


1. การจดทะเบียนเลิกบริษัท - ขั้นตอนแรกเพื่อประกาศเจตนาอย่างเป็นทางการว่าจะเลิกบริษัท
  • มีมติเลิกบริษัท
  • แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
  • ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท
2. การจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี - ดำเนินการหลังจากบริษัทได้เลิกกิจการและชำระบัญชีเรียบร้อยแล้ว
  • ชำระบัญชี
  • ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์
  • จัดทำงบการเงินฉบับสุดท้าย
  • ประชุมอนุมัติงบการเงิน
  • ยื่นจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี


จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
เอกสารที่ลูกค้าจะได้รับในการจดเลิกบริษัท
1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกบริษัท (เลิกกิจการ)
2. หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีที่บริษัทจด Vat)
3. หนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชีบริษัท
ศึกษา ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัท กับ นรินทร์ทอง แบบละเอียดคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

อยาก จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผน

จะเห็นว่า "การจดเลิกบริษัท" เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และรวดเร็ว สำหรับใครที่กำลังมองหาที่จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม เราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#3
นรินทร์ทอง จะพาทุกท่านไปเรียนรู้ การวางแผนทําบัญชีร้านขายเสื้อผ้า พร้อมเรียนรู้แนวทางโครงสร้างของธุรกิจ การเก็บเอกสาร และตัวอย่างการบันทึกบัญชีในแต่ละเคสที่น่าสนใจ สำหรับใครต้องการแนวทางเหล่านี้ต้องห้ามพลาด!
เปิดร้านขายเสื้อผ้า ยังไงให้ราบรื่น ให้ นรินทร์ทอง ช่วยแนะนำอ่านเพิ่มเติมคลิก

การวางแผน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า


1. ทำความเข้าใจประเภทของบัญชี - คุณต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจบัญชีพื้นฐาน 3 ประเภท
  • รายได้ (Revenue)
  • ต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)

2. เลือกระบบการทำบัญชี
  • บัญชีมือ (Manual Accounting)
  • โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
  • จ้างนักบัญชี (Accountant)

3. บันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย
  • บัญชีรายรับ
  • บัญชีรายจ่าย
4. การจัดการต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
  • บันทึกการซื้อสินค้า
  • บันทึกการขายสินค้า
  • ตรวจสอบสต็อก
5. การจัดทำรายงานทางการเงิน - การบันทึกบัญชีอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องนำข้อมูลมาสรุปเป็นรายงานเพื่อดูผลประกอบการ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบดุล (Balance Sheet)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)

6. การจัดการภาษี
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • ภาษีอื่นๆ
เรียนรู้การวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า แบบละเอียดอ่านเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจเสื้อผ้า

- ต้นทุน (Cost) 
  • คือค่าใช้จ่ายจากต้นทุนจริง ที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตสินค้าหรือบริการ เช่น แรงงาน, วัสดุ, ค่าการตลาดและโฆษณา เป็นต้น
- รายได้ (Revenue)
  • รายได้จากการขายปลีก - การขายเสื้อผ้าให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านหน้าร้าน, ร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่างๆ
  • รายได้จากการขายส่ง - ขายเสื้อผ้าให้กับร้านค้าอื่นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายในปริมาณมาก
  • รายได้จากการรับจ้างผลิต - รับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์อื่นๆ หรือลูกค้าที่สั่งผลิตในปริมาณมาก
- ค่าใช้จ่าย (Expenses)
คือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ได้แก่
  • ค่าสาธารณูปโภค - ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเช่า - ค่าเช่าพื้นที่สำหรับหน้าร้าน, โกดัง, หรือสำนักงาน
  • ค่าขนส่ง - ค่าจัดส่งสินค้า, ค่าขนส่งวัตถุดิบ
  • ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม - ค่าธรรมเนียมในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ค่าบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์

การเก็บเอกสาร
1. เอกสารการซื้อขาย
2. เอกสารการผลิต
3. เอกสารการเงิน
4. เอกสารทางการตลาด
5. เอกสารอื่นๆ
ซึ่งวิธีการจัดเก็บเอกสารสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า สามารถทำได้ดังนี้
1. แบ่งแยกประเภทเอกสาร - แบ่งเอกสารตามประเภท เช่น เอกสารการเงิน, เอกสารการขาย, เอกสารการผลิต และเอกสารการตลาด เป็นต้น
2.จัดเก็บให้เป็นระบบ - คุณสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง แฟ้มเอกสาร, ตู้เก็บเอกสาร หรือระบบจัดเก็บดิจิทัล (Cloud storage) เพื่อจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ
3. ระบุหมวดหมู่ให้ชัดเจน - ติดป้ายชื่อหรือใช้ระบบการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกสาร
4. จัดทำสำเนา - จัดเก็บเอกสารต้นฉบับและสำเนาไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายหรือการสูญหาย
5. รักษาความปลอดภัย - จัดเก็บเอกสารไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึง เพื่อป้องกันการถูกขโมยหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. ทำลายเอกสารที่หมดอายุ - ทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็นหรือหมดอายุตามที่กฎหมายกำหนด โดยใช้เครื่องทำลายเอกสารเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
7. จัดเก็บเอกสารดิจิทัล - สแกนเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลและจัดเก็บในระบบคลาวด์ หรือฮาร์ดไดรฟ์สำรอง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงและป้องกันความเสียหาย

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี ในแต่ละเคสที่น่าสนใจ
เคสที่ 1: ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ขนาดเล็ก (ทำบัญชีแบบง่ายใน Excel)
ลักษณะธุรกิจ: ซื้อเสื้อผ้าจากตลาดขายส่ง มาขายต่อผ่าน Instagram,  Shopee หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
การบันทึกบัญชี: ใช้ตาราง Excel ในการบันทึกข้อมูลหลัก 3 ส่วน ได้แก่ รายได้, ต้นทุนสินค้า, และค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างการบันทึก: อันดับแรกต้องกำหนดคอลัมพ์ Excel ให้ละเอียดเลยว่า แต่ละคอลัมพ์มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยเริ่มต้นกำหนดคอลัมพ์แรกให้เป็น วัน เดือน / ปี >> รายละเอียดค่าใช้จ่าย >> ช่องทางขาย >> จำนวนเงิน (รายได้) >> จำนวนเงิน (ต้นทุน) >> จำนวนเงิน (ค่าใช้จ่าย) >> หมายเหตุ
เคสที่ 2: ร้านเสื้อผ้าที่มีหน้าร้าน (ใช้โปรแกรม POS และโปรแกรมบัญชี)
ลักษณะธุรกิจ: มีหน้าร้านและขายผ่านช่องทางออนไลน์ มีการจดทะเบียนบริษัท มีการจ้างพนักงาน
การบันทึกบัญชี: สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ณ จุดขาย (Point of Sale - POS) - ใช้ระบบ POS ในการบันทึกยอดขายทันทีที่ลูกค้าชำระเงิน ระบบจะบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น วันที่ขาย, จำนวนเงิน, วิธีชำระเงิน, และตัดสต็อกสินค้าอัตโนมัติ
2. โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป - นำข้อมูลยอดขายจากระบบ POS มาบันทึกในโปรแกรมบัญชี เช่น FlowAccount หรือ PEAK ซึ่งโปรแกรมจะช่วยจัดการ
  • บันทึกรายจ่าย - บันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน, ค่าไฟ, ค่าการตลาด
  • การจัดการสต็อก - โปรแกรมจะเชื่อมโยงกับระบบ POS เพื่อควบคุมสต็อกได้อย่างแม่นยำ
  • ภาษี - โปรแกรมจะคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้
  • การจัดทำรายงาน - โปรแกรมจะสร้างงบกำไรขาดทุนและงบดุลให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างการบันทึก:
  • บันทึกยอดขาย  - โปรแกรมดึงข้อมูลจากระบบ POS เช่น ยอดขายวันที่ 15 ส.ค. จำนวน 15,000 บาท
  • บันทึกค่าใช้จ่าย  - บันทึกค่าเช่าร้าน 30,000 บาท
  • บันทึกต้นทุนสินค้า  - บันทึกการซื้อเสื้อผ้าล็อตใหม่ 100 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท
สนใจวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า กับผู้เชี่ยวชาญอย่าง นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

เริ่มต้นทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ให้ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้าน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า พร้อมต่อยอดธุรกิจ
การเลือก ทำบัญชีขายเสื้อผ้า โดยสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก หากคุณสนใจขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#4
สิ่งแรกที่นักธุรกิจพิจารณา คือ การวางแผนแนวคิด รวมไปถึงความเข้าใจด้าน บัญชี และ ภาษี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ถ้าคุณอยากเปิดร้านนวดแผนไทย นรินทร์ทอง จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่องการทำ บัญชี ร้าน นวด ที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ
อยากเปิดร้านนวดแผนไทย ต้องเริ่มยังไงนรินทร์ทอง ยินดีให้คำปรึกษา

การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด


1. การทำบัญชีด้วยตนเอง (Manual Accounting / Spreadsheet)
  • วิธีการ คือ ใช้สมุดบัญชีสำเร็จรูป หรือสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (เช่น สมุดรายวันรับ, สมุดรายวันจ่าย) เพื่อบันทึกรายการ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดเล็กที่มีรายการไม่มากนัก เจ้าของกิจการมีความรู้พื้นฐานด้านบัญชี หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

2. การใช้โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
  • วิธีการ คือ ใช้โปรแกรมบัญชีที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ และแบบออนไลน์ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดกลางถึงใหญ่ หรือร้านที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำ ประหยัดเวลา

3. การจ้างนักบัญชี/สำนักงานบัญชี (Outsourcing to Accountant/Accounting Firm)
  • วิธีการ คือ มอบหมายงานบัญชีทั้งหมดหรือบางส่วนให้นักบัญชีอิสระ หรือสำนักงานบัญชีเป็นผู้ดูแล เหมาะสำหรับร้านนวดทุกขนาดที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำสูงสุด, ประหยัดเวลาของเจ้าของกิจการ, และต้องการคำแนะนำด้านภาษี

ศึกษา การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด แบบละเอียดคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

โครงสร้างธุรกิจร้าน นวด


1. ต้นทุนของธุรกิจขายร้านนวด
  • สำหรับธุรกิจบริการอย่างร้านนวด อาจเรียกได้ว่าเป็น ต้นทุนการให้บริการ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละครั้ง ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ การจ้างแรงงานเป็นหลัก (ต้นทุนค่าจ้าง-หมอนวด) และมีค่าวัสดุอุปกรณ์
2. รายได้ของธุรกิจขาย ร้าน นวด
  • รายได้หลักของธุรกิจนวดแผนไทย มาจากค่าบริการต่างๆ และอาจมีรายได้เสริมจากการขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น รายได้จากการนวดไทยแบบดั้งเดิม (อาจแยกเป็น 1 ชม., 1.5 ชม., 2 ชม.),  รายได้จากการนวดที่ใช้น้ำมันหอมระเหย, รายได้จากการนวดบริเวณเท้า หรือ รายได้จากการขายแพ็กเกจระยะยาว
3. ค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวด
  • ค่าใช้จ่ายร้านนวดแผนไทย โดยทั่วไปใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เพราะค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวดคือ เงินที่ธุรกิจต้องจ่ายออกไปเพื่อดำเนินกิจการ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละราย

การเก็บเอกสาร
1. การจัดเก็บแบบกายภาพ (Hard Copy)
  • แฟ้มเอกสาร: จัดทำแฟ้มแยกตามประเภทเอกสาร (เช่น แฟ้มรายรับ, แฟ้มรายจ่าย, แฟ้มพนักงาน) และแบ่งย่อยตามเดือน/ปี เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา

  • ตู้เก็บเอกสาร: ใช้ตู้ที่มีกุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะเอกสารสำคัญ
  • การเรียงลำดับ: จัดเรียงเอกสารตามวันที่ หรือตามลำดับเลขที่เอกสาร
2. การจัดเก็บแบบดิจิทัล (Soft Copy)
  • สแกนเอกสาร: สแกนเอกสารสำคัญให้เป็นไฟล์ดิจิทัล (PDF) เพื่อสำรองข้อมูลและลดการใช้พื้นที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์/External Hard Drive: สร้างโฟลเดอร์แยกตามประเภทเอกสารและปี
  • Cloud Storage: ใช้บริการ Cloud Storage (เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive) เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงจากทุกที่ และเป็นระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
  • โปรแกรมบัญชี/บริหารจัดการร้าน: โปรแกรมเหล่านี้มักมีฟังก์ชันการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือเชื่อมโยงกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างที่น่าสนใจพร้อมวิธีการบันทึก
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับเงินสด
คือ การให้บริการนวดเป็นรายครั้ง และลูกค้าจ่ายเงินทันทีหลังใช้บริการ เราจึงสามารถบันทึกรายได้ได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยเงินสดหลังใช้บริการ
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับบัตรเครดิต
การรับชำระบัตรเครดิต เป็นอีกทางเลือกในการรับเงิน ถ้าร้านค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิต ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมจากร้านค้าต่อรายการ เช่น ร้อยละ 1% จากจำนวนเงินที่จ่ายต่อครั้ง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเกิดรายได้แล้ว ในขณะเดียวกันก็เกิดค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ค่าธรรมเนียมธนาคารด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยบัตรเครดิตหลังใช้บริการ โดยธนาคารจะหักค่าธรรมเนียม 1% ก่อนโอนเงินให้ร้านค้า
สนใจวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด กับเรานรินทร์ทองคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

เรียนรู้แนวทางการเสียภาษี และจัดทำ บัญชี ร้าน นวด ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทอง
สำหรับใครที่สนใจเปิดธุรกิจร้านนวดแผนไทย คุณสามารถหา สำนักงานบัญชีมืออาชีพ เพื่อคลายความกังวลด้านบัญชีและภาษีให้กับร้านของคุณ เราขอแนะนำนรินทร์ทองสำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#5

"การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย" สำหรับเจ้าของธุรกิจนั้น มีหลายขั้นตอน วันนี้ นรินทร์ทอง จึงอยากมาให้ความรู้เกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย สำหรับธุรกิจว่า ควรเสียยังไง? แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง? เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ประกอบการมือใหม่
อยากยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตัวเอง อ่านคู่มือการยื่นเพิ่มเติมคลิกที่นี่

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร?


คำว่า "ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)" คือ ระบบการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าประเภทหนึ่งที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้น โดยผู้จ่ายเงินได้บางประเภทมีหน้าที่ต้อง หักเงินจำนวนหนึ่งไว้จากเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับ แล้วนำเงินที่หักไว้นั้นไป นำส่งให้แก่กรมสรรพากร แทนผู้รับเงินได้

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับ การยื่นภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (มาตรา 50 ทวิ หรือ 50 ทวิ/ป.ม.ร.)
  • เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดของ ผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน ประเภทเงินได้ที่จ่าย ยอดเงินได้ที่จ่าย และยอดภาษีที่หักไว้ โดยผู้จ่ายเงิน มีหน้าที่ต้องออกให้แก่ผู้รับเงินทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า มีการหักภาษีไปแล้วเท่าไหร่
2. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (รายเดือน/รายงวด)
  • เป็นแบบฟอร์มที่ผู้หักภาษีต้องนำส่งกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์) ของเดือนที่มีการจ่ายเงินได้
3. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (สรุปประจำปี)
  • เป็นแบบฟอร์มที่เจ้าของธุรกิจมีหน้าที่นำส่งกรมสรรพากร ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป (สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษีที่ผ่านมา) เพื่อสรุปยอดรวมทั้งปี

เรียนรู้วิธีการยื่นแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบละเอียดคลิกที่นี่


ขั้นตอนการ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
1.1) ในกรณีที่ยังไม่เคยลงทะเบียน
  • ให้ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
  • เลือกเมนู "e-Filing" หรือ "ยื่นแบบออนไลน์"
  • คลิก "ลงทะเบียน" และกรอกข้อมูลตามที่ระบบกำหนด
  • เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และ รหัสผ่าน ที่ตั้งไว้เพื่อเข้าสู่ระบบ

1.2) ในกรณีที่เคยลงทะเบียนแล้ว
  • ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร จากนั้นเลือกเมนู e-Filing และ Log-in เข้าสู่ระบบ


2. เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการยื่น
  • ในขั้นตอนนี้คุณต้องเลือกแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินของคุณ
  • เลือกงวดภาษี โดยทำการระบุ ปีภาษี และ เดือนที่เกิดรายการ (เดือนที่คุณจ่ายเงินและหักภาษีไว้)


3. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์ - ในขั้นตอนนี้คือ การป้อนข้อมูลรายละเอียดการหักภาษี ณ ที่จ่าย
  • เลือกประเภทการยื่น - มีทั้งยื่นปกติ สำหรับการยื่นครั้งแรกในงวดนั้นๆ และ ยื่นเพิ่มเติม สำหรับกรณีที่เคยยื่นไปแล้วแต่ต้องการแก้ไขข้อมูลหรือเพิ่มรายการ
  • กรอกข้อมูลผู้หักภาษี - ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกดึงมาจากข้อมูลการลงทะเบียนของคุณอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย
  • กรอกรายละเอียดผู้ถูกหักภาษี
  • หากมีการจ่ายเงินให้ผู้รับหลายราย ให้คลิก "เพิ่มรายการ" หรือ "Add Item" เพื่อกรอกข้อมูลของผู้รับเงินแต่ละราย
  • เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะยอดเงินได้และยอดภาษีที่หักไว้


4. ยืนยันการยื่นแบบและเลือกช่องทางการชำระภาษี
  • คลิกปุ่ม "ยืนยันการยื่นแบบ" หรือ "Submit" ระบบจะแสดงข้อมูลสรุปให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นเลือกช่องทางการชำระภาษี เช่น Internet Banking/Mobile Banking, QR Code หรือบัตรเครดิต (มีค่าธรรมเนียม)



5. ชำระภาษี - นำข้อมูลจากใบแจ้งการชำระเงิน ไปดำเนินการชำระเงินตามช่องทางที่คุณเลือก (เช่น เข้าสู่ระบบ Internet Banking ของธนาคารเพื่อทำการโอนเงิน) หลังจากนั้นระบบจะใช้เวลาในการประมวลผล คุณสามารถกลับมาตรวจสอบสถานะ การชำระเงินในระบบ e-Filing ได้

เรียนรู้วิธีการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผ่านออนไลน์คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย กับ นรินทร์ทอง เราพร้อมให้คำปรึกษา และบริการที่ครอบคลุม
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย จะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมาย และแน่นอนว่าการยื่นผ่านระบบออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าคุณประกอบธุรกิจขนาดปานกลาง-ใหญ่ หรือมีรายการหัก ณ ที่จ่ายที่ซับซ้อน/จำนวนมาก การยื่นผ่านระบบออนไลน์ด้วยตนเอง อาจมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เพราะฉะนั้น การใช้บริการสำนักงานบัญชี จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดเวลา และทำให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง
หากคุณกำลังมองหา สำนักงานบัญชีที่เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านการวางแผนภาษี และบัญชีโดยรวมของธุรกิจ ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#6

สำหรับท่านใดที่ต้องยื่น ภ.ง.ด. 90/91 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่าง รวมถึงขั้นตอนการยื่นภาษีเงินได้ทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไร อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่เลย!
ทำความรู้จัก การยื่น ภ.ง.ด. 90/91 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

ภ งด 90 91 คืออะไร

ภ.ง.ด. 90 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้กรณีทั่วไป เช่น รายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือรายได้จากกิจการของตัวเอง โดยจะเป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง 40(8) หลายประเภทหรือประเภทเดียว

ส่วน ภ.ง.ด. 91 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน โดย ภ.ง.ด. 91 เป็นแบบแสดงรายการเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนที่มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ประเภทเดียว ที่ได้จากการจ้างงาน

ระหว่าง ภ งด 90 กับ 91  เลือกยื่นแบบไหนดี ?


1. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 - ได้แก่ ผู้มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง (8) แห่งประมวลรัษฎากรหลายประเภทหรือประเภทเดียว
2. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 - ได้แก่ ผู้มีเงินได้จากการจ้างงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรประเภทเดียว ตามเกณฑ์ดังนี้
- ผู้ที่เป็นโสด มีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาท
- ผู้ที่มีคู่สมรส มีเงินได้พึงประเมินไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือสองฝ่ายรวมกันเกิน 220,000 บาท

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การยื่น ภ งด 90 กับ 91 แบบละเอียด อ่านที่นี่


ขั้นตอนการทำ ภ งด 90 91 ยื่นภาษีออนไลน์

1. รวบรวมเอกสาร/ข้อมูล
- หนังสือรับรองเงินเดือน/เงินได้ (ใบ 50 ทวิ)
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี
- ข้อมูลรายได้อื่นๆ

2. เข้าสู่ระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร
- ไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th แล้วเลือกเมนู "E-FILING"
- เข้าสู่ระบบด้วย User ID (เลขบัตรประชาชน) และ Password ของคุณ

3. เลือกแบบ ภ.ง.ด. ที่ถูกต้อง
- ภ.ง.ด. 91
- ภ.ง.ด. 90

4. กรอกข้อมูลตามขั้นตอนในระบบ
- ระบบจะนำทางให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว
- กรอกข้อมูลเงินได้แต่ละประเภท (โดยใช้ข้อมูลจากใบ 50 ทวิ และข้อมูลรายได้อื่นๆ)
- กรอกรายการค่าลดหย่อนต่างๆ (โดยใช้ข้อมูลจากเอกสารลดหย่อนที่คุณเตรียมไว้)
- ระบบจะทำการคำนวณภาษีให้โดยอัตโนมัติ


5. ตรวจสอบความถูกต้อง
- ทบทวนข้อมูลทั้งหมดที่กรอกไป โดยเฉพาะตัวเลขรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน
- ตรวจสอบยอดภาษีที่ระบบคำนวณได้ (ต้องชำระเพิ่ม / ได้รับคืน)

6. ยืนยันการยื่นแบบ ระบบ e-Filing
- เมื่อตรวจสอบครบถ้วนและถูกต้อง ให้กดยืนยันการยื่นแบบ

7. ชำระภาษี (ถ้ามี)
- ระบบจะแจ้งยอดภาษีที่ต้องชำระ (ถ้ามี) คุณสามารถเลือกชำระผ่านช่องทาง E-Payment (เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต) หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- กรณีขอคืนภาษี: ระบบจะแจ้งยอดที่ได้รับคืน และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน


8. เก็บหลักฐาน
- บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับการยื่นแบบ และใบเสร็จรับเงิน (หากมีการชำระภาษี) เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ยื่นภาษีอย่างถูกต้อง ทุกขั้นตอนไม่มีพลาด เลือกปรึกษา กับ นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ อย่างถูกต้อง นรินทร์ทอง พร้อมให้คำปรึกษา

ถ้าหากใครที่สนใจอยากทำธุรกิจ มีความจำเป็นต้องยื่นภาษี ควรทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้น และขั้นตอนการยื่น ภ.ง.ด.90/91 รวมถึง ภ.ง.ด. ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ถ้าอยากได้คำปรึกษาเชิงลึก ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#7

หากคุณเริ่มต้นประกอบธุรกิจ และต้องการคู่มือในการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยื่น ภ.ง.ด. 50 จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะจะต้องมีการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลทุกปี ส่วนขั้นตอนการยื่นจะเป็นอย่างไร? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้คุณแล้ว!
นรินทร์ทองสอนวิธีการยื่น ภ.ง.ด. 50 ทุกขั้นตอน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่

แบบ ภ งด 50 คืออะไร

ภ.ง.ด. 50 คือ แบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี" ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนที่ทำธุรกิจในรูปแบบของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เมื่อมีกำไรถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย

การยื่น ภ.ง.ด. 50 ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ?


1.  งบการเงินประจำปี
2. กระดาษทำการปรับปรุงกำไรสุทธิทางบัญชี เป็นกำไรสุทธิทางภาษี
3. ใบทวิ 50 (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย)
4. หลักฐานการชำระ ภ.ง.ด. 51
5. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก
6. User ID และ Password
7. ข้อมูลผู้ทำบัญชี


เรียนรู้เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ งด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่


แนะนำขั้นตอนการ ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์

1. เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร และเข้าสู่ระบบ e-Filing เปิดเว็บเบราว์เซอร์แล้วเข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th

2. เลือกแบบ ภ.ง.ด. 50 เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว จะมีเมนูให้เลือกประเภทแบบแสดงรายการภาษี เลือก "แบบ ภ.ง.ด. 50" (ภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี) แล้วคลิก "ยื่นแบบ"

3. กรอกข้อมูลทั่วไปของกิจการ ระบบจะแสดงข้อมูลพื้นฐานของกิจการ เช่น ชื่อ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ที่อยู่

4. กรอกข้อมูลทางการเงินและภาษี ในส่วนนี้จะต้องกรอกข้อมูลจากงบการเงิน และผลการคำนวณภาษีให้ครบถ้วน

5. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี โดยทำการกรอกชื่อ-สกุล, เลขประจำตัวประชาชน, และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี

6. แนบไฟล์งบการเงินและรายงานผู้สอบบัญชี ระบบ e-Filing จะมีช่องให้คุณอัปโหลดไฟล์งบการเงิน และรายงานผู้สอบบัญชีที่อยู่ในรูปแบบที่กำหนด

7. ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ ในขั้นตอนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทุกตัวเลข รายการปรับปรุง และข้อมูลส่วนตัวของกิจการและผู้เกี่ยวข้อง

8. บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับและชำระภาษี (ถ้ามี) เมื่อยืนยันการยื่นแบบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดง "ใบตอบรับอิเล็กทรอนิกส์" และ "ใบแจ้งการชำระเงิน" (ถ้ามีภาษีต้องชำระ)


อยากรู้ขั้นตอนการยื่น ภงด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่ คลิกอ่านที่นี่

ประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงทางภาษี ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทอง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นว่า การยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ เป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากคุณต้องการความถูกต้องแม่นยำ ลดความเสี่ยงทางภาษี ประหยัดเวลา และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การลงทุนในบริการจ้างสำนักงานบัญชี ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสี่ยงและภาระที่คุณต้องแบกรับ หากทำเองโดยไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ นรินทร์ทอง เรายินดีให้บริการ ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#8

เปิดบริษัทมาแล้วปีกว่า แต่ยังไม่ได้ยื่นภาษี ต้องทำยังไง? สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ท่านใด ที่อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่น ภ.ง.ด.51 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาแนะนำ วิธีการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ ครบจบทุกขั้นตอน!
ทำความรู้จัก ภ.ง.ด.51 แบบละเอียดก่อนตัดสินใจยื่น อ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่

แบบ ภ.ง.ด.51 คืออะไร

สำหรับ ภ.ง.ด. 51 หรือที่เรียกว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี คือ แบบแสดงรายงานเงินได้และประมาณการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ต้องประมาณรายได้และภาษีที่ต้องชำระสำหรับครึ่งปีแรกของรอบบัญชี และนำส่งต่อกรมสรรพากร


ต้องเตรียมเอกสาร หรือ ข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ ?


1.  ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  • ชื่อกิจการ
  • ที่อยู่ของกิจการ
  • ประเภทกิจการ
  • รอบระยะเวลาบัญชี: เช่น 1 มกราคม - 31 ธันวาคม

2. ข้อมูลทางการเงินเพื่อประมาณการกำไรสุทธิ (กรณีทั่วไปที่ใช้การประมาณการ)
  • คุณต้องนำส่วนนี้มาคำนวณภาษีครึ่งปี ดังนั้นคุณต้องมีข้อมูลทางการเงินของกิจการอย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อใช้ในการประมาณการสำหรับทั้งปี

3. ข้อมูลผู้ทำบัญชี (ถ้ามี)
  • ชื่อผู้ทำบัญชี
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ทำบัญชี

4. ข้อมูลผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี (สำหรับบางกรณี)
  • สำหรับบริษัทที่ต้องสอบทานงบการเงินระยะเวลา 6 เดือน เช่น บริษัทมหาชนจำกัด, บริษัทเงินทุน หรือนิติบุคคลที่คำนวณภาษีจากกำไรสุทธิรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรก โดยคุณจะต้องระบุชื่อผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีพร้อมเลขทะเบียน

อ่านเอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 คลิกอ่านเพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขั้นตอนการยื่น ภ งด 51 ออนไลน์


1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เลือก e-Filing และเลือก "ยื่นแบบออนไลน์"
2. เข้าสู่ระบบ e-Filing โดยการกรอกเลขบัตรประชาชนในช่องชื่อผู้ใช้งาน พร้อมกรอกรหัสผ่าน และกด "ตกลง" จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP 6 หลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ
3. เลือกยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 5 อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข ในการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร จากนั้นกด "เข้าสู่ระบบ" และเลือก "ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51"
4. กรอกข้อมูลกิจการ ระบบจะดึงข้อมูลพื้นฐานของกิจการขึ้นมาให้ตรวจสอบ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ชื่อกิจการ ที่อยู่ ฯลฯ
5. กรอกข้อมูลประมาณการกำไรสุทธิและภาษี ในหน้านี้คุณจะต้องกรอกข้อมูลทางการเงิน เพื่อใช้ในการประมาณการกำไรสุทธิของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี
6. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชี กรอกชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี
7. กตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน ระบบจะสรุปข้อมูลให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง
8. ตรวจสอบความถูกต้อง ระบบจะมีการคำนวณ และช่วยตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้น
9. ยืนยันและส่งแบบ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วกด "ยืนยัน" เพื่อส่งแบบ ภ.ง.ด. 51
10. ชำระภาษี (ถ้ามี) สามารถชำระผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต, ATM หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส

สนใจยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ กับผู้เชี่ยวชาญ แนะนำนรินทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เจอปัญหาระหวว่าง ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นรินทร์ทอง พร้อมให้คำแนะนำ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งโดยรวมแล้ว การยื่นออนไลน์จะช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารจัดการภาษีของธุรกิจคุณได้อย่างมาก ดังนั้นหากใครที่เพิ่งเคยทำธุรกิจรูปแบบนิติบุคคล อย่าลืมศึกษาเรื่องของ "ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี" เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเบี้ยปรับ และทำให้การยื่นแบบในปีถัดๆ ไปนั้นง่ายยิ่งขึ้น แต่หากคุณไม่มีความรู้ เวลา หรือต้องการความมั่นใจสูงสุด ารจ้างสำนักงานบัญชีมาดูแล ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยเราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339