Messages

ร้อนๆแบบนี้เราต้องหาอะไรมาดับร้อน จะเอาน้ำแข็งใส่แก้วแล้วเทน้ำก็เบื่อ งั้นมาทำให้เป็นวุ้นกันเถอะ
ลองเข้ามาทำกัน https://www.wongnai.com/recipes/how-to-make-slurpees-homemade

แนะนำร้านเบียร์เด็ดๆ อุ่นเครื่องรับลมหนาว

ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ตามปกติในช่วงต้นเดือนพ.ย. ยาวไปจนถึงสิ้นเดือนธ.ค. จะต้องเป็นช่วงเวลาของ "เทศกาลลานเบียร์" กันแล้ว แต่อาจเป็นเพราะช่วงเวลานี้บ้านเรามีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง ปีนี้เทศกาลลานเบียร์ในสถานที่ฮิตๆ หลายแห่ง เลยเริ่มต้นช้าไปหน่อย บางแห่งยังไม่จัดเลยด้วยซ้ำ คอเบียร์หลายๆ คนก็คงเริ่มจะรอไม่ไหวกันแล้วใช่มั้ยล่ะ ถ้าอย่างนั้นลองมองหาร้านที่มีเบียร์เจ๋งๆ มาเป็นการทดแทนไปก่อนก็แล้วกันนะ



1.ร้าน Brew Beers & Ciders

*ทีเด็ด* เบียร์กล้วย เบียร์ช็อกโกแลต เบียร์คาราเมล ท็อฟฟี่- สวรรค์ของคนรักเบียร์ เพราะมีเบียร์ให้เลือกหลายหลายยี่ห้อ และมีเบียร์แปลกๆ ให้ลองเยอะเลยทีเดียว เช่น เบียร์อังกฤษที่ทางร้านเพิ่งนำเข้ามาสดๆ ร้อนๆ เมื่อตอนต้นเดือนพ.ย. ซึ่งน่าสนใจมาก และใครที่เป็นคอเบียร์ ไม่ควรพลาด เพราะเบียร์ตระกูลอังกฤษที่เพิ่งนำเข้ามา นั้นมีรสชาติและกลิ่นที่เหมือนกับขนม!!! อาทิ "Bombardier" เบียร์กลิ่นคาราเมลจางๆ ผสมดอกฮอบส์ , เบียร์กลิ่นกล้วยหอม "Wells Banana Bread Beer", เบียร์ดำรสช็อกโกแลต "Young's Double Chocolate Stout", เบียร์รสคาราเมล ท็อฟฟี่ "Well's Sticky Toffee Pudding Ale" ที่มีกลิ่นคาราเมลและกลิ่นวานิลลาผสมกลมกลืนอยู่ในรสชาติของเบียร์ด้วย รสชาติของเบียร์ออกหวาน แต่ไม่มากนัก...เบียร์แต่ละอย่างรสชาติเหมือนขนมซึ่งสาวๆ น่าจะชอบได้ไม่ยาก



ร้าน Brew Beers & Ciders


ร้าน Brew Beers & Ciders

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/restaurants/11239sD


2.ร้าน Beers Cellar Tree Square

*ทีเด็ด* ร้านสไตล์ผับอังกฤษ กับเบียร์ผลไม้มาใหม่ เอาใจสาวๆ - "Beer Cellar" กำลังนำเสนอ "BrewDog" เบียร์หน้าตาซ่าส์ๆ จากสก็อตแลนด์ ซึ่งที่ร้านเอามาให้คอเบียร์ได้ดื่มดัน ถึง 7 ชนิดเลยทีเดียว อาทิ "BrewDog Punk IPA" เบียร์สีทองที่มีกลิ่นหอมของ Tropical Fruit และคาราเมล, "BrewDog Dead Pony Club" เบียร์ที่มีกลิ่นหอมของลิ้นจี่ผสมกลมกลืนอยู่ด้วย เหมาะกับสาวๆ ยิ่งนัก, "BrewDog 5 a.m. Saint" เบียร์ที่มีกลิ่นสลับซับซ้อนของลิ้นจี่และท็อฟฟี่ คาราเมลอยู่ด้วยกัน รสขมนิดๆ แต่ก็ยังดื่มง่าย และ "Brewdog Golding" เบียร์สีทองฟองน้อย มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ น้ำผึ้ง แบล็คเบอร์รี่ ลูกพลัม และเปลือกไม้รมควัน เบียร์ตัวนี้กลิ่นแรง หอมติดจมูก ...พิเศษ!! ช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่น 2 ขวดฟรี 1 ขวดให้คอเบียร์ช่วยกัน "Keep Water, Drink Beer" เป็นอีกหนึ่งร้านเบียร์ที่มีเบียร์น่าสนใจมานำเสนออยู่มิได้ขาด คอเบียร์ควรจัดไว้ในลิสต์อีกหนึ่งร้าน


ร้าน Beers Cellar Tree Square

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/restaurants/122994eB

3.ร้าน Brugge Beer Cafe The Scene

*ทีเด็ด* - มีเบียร์สดกว่า 10 ชนิดส่งผ่านหัวจ่ายรักษาความเย็นสุดไฮเทค - ที่นี่เป็นเบียร์คาเฟ่ที่มีเบียร์นำเข้าให้เลือกมากถึง 40 ชนิด แบ่งเป็นเบียร์ขวด 30 ชนิด และเบียร์สดอีก 10 ชนิด ซึ่งเบียร์สดของที่นี่ใช้ระบบ "Glycol System" ที่ทันสมัย โดยถังเบียร์สดะถูกเก็บไว้ในห้องเย็นที่รักษาอุณหภูมิเอาไว้ให้คงที่ แล้วถูกส่งผ่านท่อที่เดินขนานไปกับท่อน้ำเย็น เมื่อลูกค้าสั่ง จึงจะกดเรียกเบียร์สดออกมาตามท่อ ทำให้เบียร์สดของที่นี่เย็นเจี๊ยบชื่นใจ ถึงขนาดมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่บนท่อจ่ายเบียร์ ส่วนเบียร์สดก็มีแต่เบียร์เด็ดๆ ทั้งนั้น เช่น Hoegaarden, Leffe, Bavaria, La Trappe Witte Trappist, Warsteiner...ใครที่ซีเรียสกับความเย็นเจี๊ยบของเบียร์ที่จิบ ร้านนี้จะต้องโดนใจแน่นอน



ร้าน Brugge Beer Cafe The Scene


ร้าน Brugge Beer Cafe The Scene

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/restaurants/122632gM

4.ร้าน PinT Park Lane

*ทีเด็ด* - เบียร์ดี ดนตรีสด กับแกล้มเด็ด - ถ้าชอบร้านสไตล์ English Pub ก็เลี้ยวมาที่ร้าน "Pint" ได้เลย ร้านนี้อยู่ที่พาร์ค เลน เอกมัย เป็นร้านที่มีให้เลือกทั้งอิน ดอร์ และเอาท์ ดอร์ และมีดึกๆ มีดนตรีสดให้ฟังด้วย ร้องเพราะใช้ได้ทีเดียว ส่วนเบียร์ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของงานนี้ ก็มีทั้งเบียร์สดและเบียร์ขวดหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ทั้งเบียร์ลาว, Stella Artois, Hoegaarden, Leffe, Erdinger, Paulaner, Warsteiner, Sapporo, Yebisu ลองถามพนักงานดูว่าเบียร์ยี่ห้อไหนมีแบบสดบ้าง เพราะบางยี่ห้อก็มีแต่แบบขวด ส่วนกับแกล้มก็เน้นอาหารฝรั่งซะส่วนใหญ่ เช่น มันฝรั่งทอดจิ้มกับดิปรสชาติต่างๆ หรือไส้กรอกรวมแกล้มกับกิมจิ



ร้าน PinT Park Lane


ร้าน PinT Park Lane

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/restaurants/9474st


5.ร้าน The Robin Hood

*ทีเด็ด* - HAPPY HOUR เบียร์ลดราคา 50% เชียวนะ!! - ผับสไตล์อังกฤษที่เน้นบรรยากาศอบอุ่นๆ มีอาหารให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ เช่น สเต็ก เบอร์เกอร์ พาสต้า ฟิชแอนด์ชิพ พร้อมเบียร์ที่มีทั้งเบียร์สด และเบียร์ขวด เช่น "Guinness" เบียร์ดำสุดคลาสสิค, เบียร์ลาว, เบียร์ไอริช อย่าง Magners และ Kilkenny, เบียร์เยอรมัน Paulaner พร้อมเบียร์มาตรฐานที่ทุกร้านต้องมี อย่าง เบียร์ช้าง เบียร์สิงห์ เบียร์อาซาฮี และ Hoegaarden แต่แม้ว่าเบียร์จะมีให้เลือกมากมายเหมือนร้านอื่นๆ แต่ที่นี่มีทีเด็ดตรงที่มีช่วง "Happy Hour" ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00- 19.00 เบียร์ที่ร่วมรายการทั้งสดและขวดจะลดราคา 50%



ร้าน The Robin Hood


ร้าน The Robin Hood

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/restaurants/3484za


ค้นหาร้านเบียร์เด็ดๆและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.wongnai.com/listings/recommend-beer-pub-and-restaurant
fhgj fhgj fhgj fhgj fhgj fhgj fhgj fhgj fhgj

แนะนำสถานที่ลอยกระทงเด็ดๆทั่วกรุงเทพ!

"วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง" วันลอยกระทงใกล้เข้ามาแล้วนะคะพี่น้องชาววงใน ลอยกระทงปี 2556 นี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน แหม่ตรงวันอาทิตย์แบบนี้เหมาะเลย จะมีเวลากันเยอะหน่อย ไม่ต้องรีบๆร้อนๆมากปั่นงานแล้วรีบออกไปลอยกระทงเหมือนวันธรรมดา มีเวลาออกไปเดินเล่นตอนเย็นๆหาอะไรอร่อนๆทานกันก่อนที่จะไปลอยกระทงกัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เค้าคาดการว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยววันลอยกระทงเพิ่มขึ้น 10% ! โอ้โหคนคงจะแน่นขึ้นอีกน่าดูเลย คนเยอะแบบนี้เราควรจะเตรียมตัวกันเยอะหน่อย วันนี้ทีมงานวงในเลยรวบรวมสถานที่แนะนำสำหรับลอยกระทงปี 2556 นี้จ้า จะได้วางแผนล่วงหน้ากันก่อนไปเนอะ ไปดูกันดีกว่า ว่ามีที่ไหนเด็ดๆน่าสนใจบ้าง !

1. Asiatique Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์)
สถานที่ท่องเที่ยวสุด hip สุด hit ราวกับเกิดมาเพื่อเทศกาลลอยกระทงโดยเฉพาะ ก็เล่นอยู่ติดรริมน้ำเจ้าพระยา มีตลิ่งยาวให้เดินลงไปลอยกระทงได้สะดวกๆแบบนี้จะพลาดไปได้ไงหละ ยิ่งปีนี้ถูก ททท. คัดเลือกเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทงในบรรยากาศ "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" เตรียมพบการแสดง แสง สี ตระการตา พลุประกอบเพลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เรือประดับไฟฟ้าขนาดใหญ่ เติมสีสัน สร้างความสุขและสืบสานวัฒนธรรมไทยได้ในเทศกาลลอยกระทง พร้อมกับการแสดงสุดยอดประเพณี 4 ภาคลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่โดยกรมศิลปากร และคอนเสิร์ตจากนักร้องดัง 'สินเจริญบราเธอร์ส' ใครสนใจก็เตรียมจดวันไว้ได้เลย ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2556 เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ !
ติดตามความเคลื่อนไหวที่ได้ www.facebook.com/Asiatique.Thailand หรือ www.thaiasiatique.com



2. สะพานพระราม 8
สุดคลาสสิก! สะพานที่สวยที่สุดในประเทศไทย สะพานพระราม 8 มีความยาวรวม 475 เมตร มีรูปแบบโดดเด่นสวยงามเพราะได้ออกแบบเป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรซึ่งหมายความว่ามีเสาสะพานหลักเสาเดียวบนฝั่งธนบุรี และมีเสารับน้ำหนัก 1 ต้นบนฝั่งพระนคร จึงไม่มีเสารับน้ำหนักตั้งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ไม่มีปัญหาต่อการสัญจรทางน้ำ และยังไม่บดบังวิวสวยๆของแม่น้ำเจ้่าพระยาด้่วย

ช่วงลอยกระทงบริเวณเชิงสะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ คนเยอะประจำเลยก็เพราะบรรยากาศดีๆวิวสวยๆที่พลาดไม่ได้จริงๆต้องลองไปสักครั้งหละถึงจะเข้าใจ ได้บรรยากาศลอยกระทงริมน้ำแบบดั้งเดิมสุดๆไปเลยนะ!




รูปประกอบจาก http://chitaphon.wordpress.com

3. The Siam Hotel
ถ้าอยากลอยกระทงกันแบบคนไม่แน่นมาก มีบรรยากาศส่วนตัวหน่อยๆ ก็คงต้องลองหาดูตามท่าเรือของโรงแรมต่างๆดูหละ เพราะเป็นท่าเรือส่วนของเอกชนคนก็จะน้อยหน่อย เช่นของ The Siam Hotel เค้าก็จัดงานลอยกระทงเหมือนกัน วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษจิกายนนี้ โดยจัดเป็นสไตล์ตลาดภาคเหนือ พร้อมดนตรีสด โดยบริการ 4-course dinner 9 เมนูสุดอร่อย โดยมีให้เลือก 2 package
The Siam Loy Krathong dinner includes:
Market festival with apéritif
4 course dinner featuring 9 dishes
A bottle of house wine
Krathong making workshop
The Romance Loy Krathong dinner includes:
Market festival with apéritif
A secluded, romantic table on the Chon Lawn next to the river
A bottle of champagne
4 course dinner featuring 9 dishes
A bottle of house wine
Krathong making workshop
สำรองที่นั่งก่อนได้ที่ info@thesiamhotel.com หรือ T +66 (0) 2206-6999
ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.thesiamhotel.com/loy-krathong



4. ท่าน้ำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
สถานที่ลอยกระทงยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง ทีเด็ดคือมีบริการเรือพาคนไปลอยกระทงกลางแม่น้ำ!
ท่าพระจันทร์แม้ว่าพื้นที่จะมีขนาดเล็ก แต่ในทุกๆปีจะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ (ยิ่งทำให้คนแน่นเข้าไปอีก) ดังนั้น คำแนะนำของวงในคือ ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะๆควรจะเดินทางไปเร็วๆหน่อย ลอยกระทงแต่หัวค่ำแล้วค่อยไปหาอะไรกินน่าจะดีกว่านะ!


5. Siam Park City (สวนสยามทะเล-กรุงเทพฯ)
ที่สุดท้ายที่จะแนะนำวันนี้ ไม่ได้ติดแม่น้ำ แต่ก็น่าไปไม่น้อยหน้าใคร! สวนสยาม Siam Park City จัดคอนเสิร์ตสุดมันส์ให้มาสนุกกันแบบไม่ไปกวนใครในวันลอยกระทง 17 พ.ย. 56 Greez Festival พบกับวง MILD พร้อมราคาบัตรสุดเร้าใจ 450 บาท (จากปกติ 900 บาท) !!  ซื้อบัตรครั้งเดียวเที่ยวสนุกสุดเหวี่ยง ได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง!! ผ่านประตู+เครื่องเล่นได้ทุกชนิด ไม่จำกัดรอบ ตลอดทั้งวัน + สวนน้ำ (สวนน้ำปิด 17.00 น.) เเต่เครื่องเล่นจัด 10 โมง ถึงเที่ยงคืนกันไปเลยจ้าา (คอนเสิร์ตเริ่มประมาณ 20.00 น.)

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/siamparkcity.fanpage / www.siamparkcity.com / โทร. 02-919-7200-19






6. มหาวิทยาลัย
เช่นเคยทุกปี ช่วงลอยกระทงมหาวิทยาลัยต่างๆเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปลอยกระทงที่สระน้ำของมหาวิทยาลัยได้ รวมทั้งจะมีกิจกรรมและการแสดงต่างๆที่จัดโดยนิสิตนักศึกษาให้ชมให้เที่ยวเพลินๆอีกด้วย หลายๆมหาวิทยาลัยมีจัดงานประจำทุกปี ใครใกล้ที่ไหนสะดวกที่ได้ก็ลองแวะๆเข้าไปดูกันได้เลย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมากและบางนา)
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(บางมด)
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (วิทยาเขต พิษณุโลก)
มหาวิทยาลัยโยน
มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


7. สวนสาธารณะใน กทม.
สำหรับ กทม. ปีนี้ทาง กทม. จัดพื้นที่สวนสาธารณะให้ลอยกระทงกันทั้งหมด 28 แห่ง ใน 19 เขต ของ กทม.  โดยจะเปิดให้ลอยกระทงตั้งแต่เวลา 15.00 – 24.00น. เช่นเคย ใครสะดวกที่ไหนก็ลองไปดูละกันเนอะ
สวนลุมพินี เขตปทุมวัน
สวนจตุจักร เขตจตุจักร
สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร
สวนพระนคร เขตจตุจักร
สวน 60พรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง
สวนสราญรมย์ เขตพระนคร
สวนรมณีนาถ เขตพระนคร
สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร
สวนนาคราภิรมย์ เขตพระนคร
สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ
สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม
สวนนวมินทร์ภิรมย์ เขตบึงกุ่ม
สวนหนองจอก เขตหนองจอก
อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย
สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย
สวนน้ำบึงกระเทียม เขตมีนบุรี
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม
สวนสันติภาพ เขตราชเทวี
สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน
สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง
สวน 50พรรษา มหาจักรีสิรินธร เขตประเวศ
สวนวนธรรม เขตประเวศ
สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา
สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด
สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 เขตลาดพร้าว
สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ เขตบางกอกน้อย
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตบางกอกน้อย
สวนสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตสาธร
วันลอยกระทงก็ถือเป็นวันที่จะได้ทำกิจกรรมกันในครอบครัวอีกวันหนึ่ง ถ้ามีแผนจะออกไปหาอะไรทานนอกบ้านด้วยก็น่าจะลองดูร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีๆ เพื่อให้เข้ากับเทศกาลเสียหน่อย ทีมงานวงในจึงมี guide ร้านอาหารริมน้ำเจ้าพระยาบรรยากาศดีๆ ให้ไปนั่งสบายชิวๆ ชมวิว บรรยยากาศโรแมนติก ลองอ่านกันดูได้นะเผื่อจะได้ไอเดีย >> http://www.wongnai.com/listings/riverside-restaurant

ขอบคุณที่มา http://www.wongnai.com/news/loi-krathong-2013
mbvc mbvc mbvc mbvc mbvc

ร้านไวน์สุดเก๋ บรรยากาศดี อาหารเริ่ด!

แม้ตอนนี้บ้านเราจะยังไม่รู้สึกว่าเริ่มเย็นลงแต่อย่างใด แต่หัวใจของใครๆ หลายคนคงอยากให้อากาศตอนนี้เริ่มหนาว เริ่มเย็นกันบ้างแล้วสินะ ก็ขอแนะนำให้ชวนคนพิเศษไปนั่งชิลล์ร้านบรรยากาศดีๆ กินอาหารพร้อมจิบไวน์หรูๆ ในราคาเบาๆ เพื่อมอบให้ไออุ่นให้กับร่างกายและหัวใจ

1.Why97 Pub & Restaurant

ร้านน่านั่งที่ Asiatique the Riverfront ตกแต่งให้ดูดิบๆ ด้วยบรรยากาศมืดทึม ดูลึกลับ และตกแต่งตรงกลางร้านด้วยหลอดไฟสลัวๆ แบบเปลือยสายไฟ กับเมนูไวน์หลากหลายชนิด ค็อกเทลที่ผสานผลไม้ต่างๆ กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างลงตัว เช่น "Mango Passion Mojito" และ "Anticaodo" ที่ผสมผสานวอดก้ากับส้มโอ แถมด้วยอาหารที่ครีเอตรสชาติได้อร่อยจนลืมไม่ลง เช่น "Angle Hair Pasta with River Prawns" สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำผัดกับซอสมันกุ้งที่รสชาติเข้มข้นถึงใจ และทอดมันปูชิ้นโต กับน้ำจิ้มผสมกะทิและพริกแกง ให้รสชาติเหมือนกินห่อหมกทะเลแบบทอด และที่เด็ดคือ วันอังคารที่ 27 พ.ย. นี้ พบกับ Wine Testing ในราคาแค่ 500 บาทต่อคนเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า "เมาไม่ขับนะจ๋ะ" ถ้าไม่อยากเทสต์ไวน์แล้วขับรถไม่ได้ แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีตากสิน แล้วต่อเรือข้ามฟากของ Asiatique แบบฟรีๆ ได้เลย จะได้บรรยากาศล่องลำน้ำเจ้าพระยาแถมให้อีกด้วยนะ


Why97 Pub & Restaurant


Why97 Pub & Restaurant

อ่านรายละเอียดและรีวิวของร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/restaurants/24147nq


2.Vita Bistro

ตกแต่งร้านให้น่านั่งด้วยสไตล์คอนเทมโพรารี่ วินเทจ พร้อมเมนูอาหารที่มีไทย ฝรั่ง และฟิวชั่นให้กินแกล้มไวน์กันให้อร่อย ทั้งสปาเก็ตตี้ซอสไส้กรอกอีสาน และแซลมอนคาปาชิโออร่อยล้ำ พร้อมโปรโมชั่นบุฟเฟต์ไวน์จากฝรั่งเศสและชิลีกว่า 7 ชนิด ในราคาแค่ 399 ต่อคนเท่านั้น ในช่วงเวลา 20.00-23.00 น. สั่งไวน์ขาวมากินคู่กับอาหารทะเลเบาๆ อย่างแซลมอนคาปาชิโอ แล้วสั่งไวน์แดงมากินคู่กับซี่โครงหมูกิมจิ และสเต็กเนื้อวากิวนุ่มๆ ไวน์ไม่อั้นแบบนี้นั่งชิลล์กันได้อีกนาน


Vita Bistro


Vita Bistro

อ่านรายละเอียดและรีวิวของร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/restaurants/10538qq


3. Wine Fusion

คนที่ชอบไวน์ที่มีกลิ่นและรสที่สลับซับซ้อน และชอบลองไวน์ไทย ควรมาลองร้านนี เพราะมีทั้งไวน์ขาวจากไร่องุ่นที่หัวหิน ในราคาแค่ขวดละ 650 บาท อย่าง "Monsoon Valley Colombard 2011" ที่ให้กลิ่นหอมที่หลากหลายทั้งแอปเปิ้ลเขียว เสาวรส และมะนาว กินคู่กับอาหารรสจัดๆ กลิ่นแรงๆ หน่อยอย่างส้มตำ และอาหารซีฟู้ด หรือไวน์แดงขวดละ 650 บาทจากไร่องุ่นที่หัวหิน "The Monsoon Valley Shiraz 2010" ที่ให้กลิ่น ล้ำลึกของพลัมและกาแฟหอมละมุนอยู่ในกลิ่นไวน์ เอาไว้กินคู่กับอาหารหนักๆ อย่างชีส หรือเนื้อสเต็ก จะยิ่งขับเน้นรสชาติซึ่งกันและกันระหว่างอาหารกับไวน์ได้เป็นอย่างดี และพิเศษสุดกับกับโปรโมชั่นซื้อไวน์ 2 ขวด ลด 50% จนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้


Wine Fusion


Wine Fusion

อ่านรายละเอียดและรีวิวของร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/restaurants/9365Vd


4.Tell me wine

เป็นร้านไวน์ที่อาหารอร่อยเลิศล้ำ เพราะผ่านการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี เชฟจึงจับนู่นมาผสมกับนี่ได้อย่างลงตัว ทั้งไทยพบอิตาเลียนอย่างพิซซ่าหน้าต้มยำทะเลหอมเครื่องเทศต้มยำข่าตะไคร้เป็นที่สุด หรือไทยพบญี่ปุ่นอย่างซูชิโรลที่ราดน้ำซอสรสต้มยำเข้มข้นเผ็ดนิดๆ โรยด้วยด้วยตะไคร้ทอดกรอบหอมอร่อย แกล้มกับบุฟเฟต์ไวน์จากฝรั่งเศสและอิตาลี ในราคาแค่คนละ 600 บาท และราคาต่อขวดแค่หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้น ไวน์ราคาไม่แพงและอาหารอร่อยขนาดนี้ เหมาะจะพาคนพิเศษไปนั่งชิลล์เพื่อบิลท์อารมณ์หน้าหนาวซะจริง


Tell me wine


Tell me wine

อ่านรายละเอียดและรีวิวของร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/restaurants/14640Kp


5. GoodFellas Wine & Eatery

ถ้าอยากนั่งจิบไวน์ในบรรยากาศแบบแกงค์สเตอร์ทำท่าเท่ๆ ต้องมาที่ร้านนี้เลย กับโซฟาหนังตัวยาว และแสงไฟสลัว กับเปียโนเก่า และของประดับตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้รู้สึกว่ากำลังมานั่งอยู่ในบาร์ที่นิวยอร์คในยุค 50's หรือ 6o's มาถึงแล้วขรึมๆ สั่ง "ฟัวกราส์ราดซอสราสพ์เบอร์รี่" หรือ "สเต็กซี่โครงแกะซอสไวน์แดง" มากินคู่กับไวน์แดงแรงๆ สักแก้ว หรือจะสั่ง "หอยเชลล์ คาปาชิโอ" มากินคู่กับไวน์ขาวรสละมุนก็ไม่เลว แล้วปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง "โอรีโอคัพเค้ก" แล้วก็เดินออกไปอย่างเท่ๆ ให้เหมือนใ นหนัง "Gang of Newyork" นั่นเลย


GoodFellas Wine & Eatery


GoodFellas Wine & Eatery

อ่านรายละเอียดและรีวิวของร้านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/restaurants/13336zy



ค้นหาร้านไวน์สุดเก๋เพิ่มเติมได้ที่  http://www.wongnai.com/listings/chic-wine-bar-and-restaurant

แอ่วม่วนรอบดึกคึกคักกับร้านที่เจียงใหม่

พูดถึงเชียงใหม่แล้วทั้งอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวโดยมากแล้วก็จะโดดเด่นในตอนกลางวันทั้งในตัวเมืองและรอบนอก แต่เมื่อตกเย็นไปจนถึงดึกก็มีอีกบรรยากาศการท่องเที่ยวไปอีกแบบก็คือร้านนั่งดื่มยามค่ำคืน ที่มีหลากหลายร้านให้นักท่องเที่ยวรวมไปถึงคนท้องถิ่นได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบนั่งชิล, ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำปิง, แดนซ์กระจายไปกับดนตรีสด, เชียร์บอลกันสนุก ๆ กับจอยักษ์หรือจะไปฟังดนตรีแจ๊สสนุก ๆ ก็มีให้เลือกกันตามสไตล์ของแต่ละคน


1.The Good View Bar And Restaurant เชียงใหม่

น้อยคนนักที่มาเชียงใหม่แล้วจะพลาดมาที่นี่ มาถึงเชียงใหม่แล้วต้องมาให้สักครั้งด้วยความมีชื่อเสียงของร้านมาอย่างยาวนาน ที่นั่งกว้างขวางจะนั่งโต๊ะคุยกันสบายในร้านหรือจะนั่งริมน้ำปิงก็ได้บรรยากาศดีสุด ๆ ถ้าอยากเปลี่ยนแนวก็มีบาร์ให้เลือกนั่งกันตามสะดวกที่สำคัญขอบอกว่าดนตรีเล่นสดที่นี่มันส์แบบสุด ๆ หรือถ้าต้องการสวีตกับหวานใจกันก็มีบริการล่องเรือบนแม่น้ำปิงพร้อมดินเนอร์ใต้เสียงเทียนอีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    :   http://www.wongnai.com/restaurants/785Cx

2.วอร์มอัพ (Warm Up)
ถ้าถามว่ายามค่ำคืนที่เชียงใหม่ไปเที่ยวไหนกันดี แน่นอนว่าชื่อ "วอร์มอัพ" ต้องมาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน บรรยากาศที่นั่นมีทั้งโซนนั่งทานอาหารทั่วไป นั่งชิลไปคุยกันไปได้สบาย ๆ ในบรรยากาศแบบเอาต์ดอร์และโซนแดนซ์มัน ๆ แบบอินดอร์ มีหนุ่มสาวทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวมากันเพียบ แบบว่าไปหลัง 2 ทุ่มไม่มีโต๊ะนั่งแน่นอน ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรดี ขนาดนั้นต้องลองไปด้วยตัวเองครั้งแล้วล่ะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    :   http://www.wongnai.com/restaurants/807EV


3.The Riverside Bar & Restaurant @ Chiang Mai (เดอะริเวอร์ไซด์)
อีกร้านน่านั่งชิลยามดึกริมแม่น้ำปิง ที่มีความหลากหลายของอาหารมีให้เลือกกันเพียบ มีมุมสงบนั่งชมบรรยากาศริมน้ำปิง ถ้าต้องการฟังดนตรีก็มีให้เลือกถึง 2 โซน คือ โซนดนตรีฝรั่งแบบมันส์ ๆ โยกหัวกันได้เต็มที่และโซนดนตรีไทยแบบคลาสสิคฟังกันเบาๆ ไม่ว่าจะมากับหวานใจ, มาสังสรรค์ตามประสาเพื่อนฝูงมาที่นี่ได้ครบ ๆ ในที่เดียว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    :   http://www.wongnai.com/restaurants/27754id

4.ธารา บาร์ (Tara Bar)
ร้านน่านั่งตกแต่งได้สวยงามสำหรับนั่งสบาย ๆ พร้อมฟังดนตรีเพราะ ๆ ในบรรยากาศสุดชิลริมแม่น้ำปิง โดยไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่นี่ความสนุกไปกับดนตรีสดที่บรรเลงเพลงโปรดหลายรูปแบบ โดยทางร้านมีโซนให้เลือกนั่งได้ถึง 3 โซน แต่ละโซนก็ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Riverside Zone, Exclusive Zone และ Step Zone และยังมีบริการห้อง Party Room ที่เป็นส่วนตัวอีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    :   http://www.wongnai.com/restaurants/2665LR

5.North Gate Jazz CO-OP (นอร์ท เกท แจซ)
านแจ๊สชื่อดังของเชียงใหม่ ที่คอแจ๊สเชียงใหม่และภาคเหนือรู้จักกันดีด้วยเอกลักษณ์ของทางร้านที่เป็นสไตล์แจ๊สโดดเด่นไม่เหมือนใครมีวงดนตรีแจ๊สมาเล่นกันสดประจำทุกคืนเปลี่ยนไปในแต่ละคืน และพิเศษสุดในคืนวันอังคารจะเปิดโอกาสให้วงใหม่ ๆ มาเล่นอีกด้วย ถ้าสนใจดนตรีแจ๊สหรืออยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาลองฟังแจ๊สต้องที่นี่เลย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่    :   http://www.wongnai.com/restaurants/122159cn


ขอขอบคุณที่มา:   http://www.wongnai.com/listings/night-cm


mbvc mbvc mbvc mbvc mbvc