พิศวงงงงวย ว่า เพราะเหตุใดเราถึงต้องกู่เรียก ยาหมอเส็งทั้งที่ไม่ได้จบหมอ

พิศวงงงงวย ว่า เพราะเหตุใดเราถึงต้องกู่เรียก ยาหมอเส็งทั้งที่ไม่ได้จบหมอ

เริ่มโดย mrtidy55, 21 ตุลาคม 2015, 18:29:40

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtidy55

ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร ที่เราคุณรู้จักกันดีในชื่อ "ยาหมอเส็ง"ผู้เป็นหมอด้านการไวทย์แผนตะวันออกและเป็นที่ปรึกษาคลีนิคสุขภาพ
ไตรเวชศาสตร์ เป็นผู้ชำนาญพิเศษด้านสมุนไพรจีนและไทย ด้วยชนมพรรษากว่า 60 ปี กับการเจริญเติบโตและคลุกมานานกับร้านรวงขายยาหมอเส็งแผนโบราณมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นผู้เยาว์ ด้วยเหตุนั้น หมอเส็งจึงได้มีการศึกษาทุกขั้นตอนเกาะเกี่ยวกับการปรุงยาหมอเส็งสมุนไพรแผนโบราณอย่างเจ้าระเบียบ และยิ่งไปกว่านั้นหมอเส็งยังสมรรถจดจำตัวยาหมอเส็งสมุนไพรทุกชนิดได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง ไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรุงหรือการผลิตยาที่เป็นยาหมอเส็งสมุนไพรทั้งสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีน ซึ่งสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีนทั้งสองประเภทนี้มีความเสมอหรือเสมือนกันมากจนยากที่จะหาผู้หลักแหลมทางด้านนี้ได้ เพราะว่านอกจากผู้ศึกษาจะต้องมีความรู้ความชัดเจนในเรื่องสมุนไพรแต่ละชนิดแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังต้องมีการสั่งสมประสบการณ์เป็นเวลายาวนาน ซึ่งความชำนาญและความเชี่ยวชาญต่างๆนี้ หมอเส็งใช้เวลาเรียนรู้และใช้เวลาสั่งสมมาประสบการณ์มาจนแตกฉานภูมิลำเนาเดิมของยาหมอเส็งอยู่ที่บางคล้า อำเภอแปดริ้ว เปิดเป็นร้านรักษาโรคทั่วไป และขายยาสมุนไพร ทั้งตระกูลของหมอเส็งเป็นหมอยา (ทั้งก๋งและเตี่ย) ซึ่งมีความรู้ความรอบรู้และมีความสามารถเฉพาะด้านการใช้สมุนไพรมาเป็นระยะเวลานาน เตี่ยของหมอเส็งเป็นหมอยามาจากประเทศจีน ท่านสอนหมอเส็งเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาหมอเส็งสมุนไพรชนิดต่างๆ และเรียนรู้ถึงสรรพคุณและสรรพคุณของสมุนไพรหลากหลายชนิด ซี่งการทำความเข้าใจการแพทย์แผนโบราณนั้นเป็นเรื่องที่มีความยากมาก เพราะว่าถ้าจะรักษาการเจ็บป่วยด้วยยาหมอเส็งสมุนไพรให้ถูกหลักถูกวิธีและให้ส่งผลหรือออกฤทธิ์รักษาอาการเจ็บป่วยอย่างได้ผล ต้องมีความฉลาดอย่างถ่องแท้และมีความแตกฉาน เพราะว่าเราไม่สามารถปกป้องรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างได้ผลด้วยยาหมอเส็งสมุนไพรเพียงชนิดเดียว ต้องนำสมุนไพรแต่ละชนิดนำมาผสมผสานกันจึงจะสามารถรักษาโรคอย่างได้ผล และจะต้องมีการตรวจหรือวินิจฉัยโรคของคนป่วยอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน จึงจะปรุงยารักษาให้ ซึ่งสิ่งต่างๆที่ได้กล่าวมานี้ยาหมอเส็งได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้งจนกระทั่งวันหนึ่ง หมอเส็งได้แยกตัวออกมาเปิดร้านขายยาสมุนไพรของตัวเองที่กรุงเทพฯ เยียวยารักษาโรคทั่วไปและทำงานเป็นหมอเช่นเดียวและคู่กับเตี่ยมาตลอด จนเตี่ยเห็นว่าความรู้ความสามารถของหมอเส็งเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจได้แล้ว เตี่ยของหมอเส็งจึงได้วางมือเนื่องด้วยท่านอายุมากแล้ว หลังจากนั้นหมอเส็งจึงได้ไปสอบใบอนุญาต ด้านเภสัชกรรมและเวชกรรมจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งบุคคลที่จะไปสอบใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านสมุนไพรเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าใครๆก็อาจจะไปสอบได้ ซึ่งเมื่อสมัยนั้นร้านขายยาแผนโบราณยังมีไม่มากนัก ต่อเมื่อมียาแผนปัจจุบันเข้ามา หมอเส็งก็ขายยาแผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย ทั้งขายทั้งเป็นหมอยาหมอเส็งไปในตัว พอมาระยะหลัง ยาแผนปัจจุบันเริ่มมาแรง ผู้คนหันไปนิยมกันมากขึ้นด้วย เหตุเพราะกินง่ายและไม่มีกลิ่นฉุนเหมือนยาแผนโบราณ ขณะเดียวกันการต่อสู้ของย่าแผนปัจจุบันได้ขยายตัวสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ยาหมอเส็งจึงหันมาเน้นในเรื่องของสมุนไพรทั้งไทยและจีนตามที่ตัวเองถนัดมาก ขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันโรคเกี่ยวกับสตรี ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เลือดลม หรืออาการทางสมองที่เรามักจะพบในคนสูงอายุ และล่าสุดที่ ยาหมอเส็งได้มานะพยายามศึกษามากกว่า 10 ปี นั่นก็คืออัศจรรย์ "ว่านชักมดลูก"แห่งสมุนไพรไทยถึงวันนี้ท่านที่ทำงานอยู่ในแวดวงการธุรกิจขายตรงคงปฏิเสธไม่ได้ว่า  ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมุนไพรที่มีชื่อว่า "แสงสุริยะฉัตร 2002 จำกัด" โดยคุณ ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร หรือ คุณหมอเส็ง ผู้ชำนาญด้านการแพทย์แผนไทยโดยใช้สมุนไพร วันนี้เราจะมาทราบถึง ความเป็นมา บริษัทของคุณยาหมอเส็ง ว่ามีจุดเริ่มต้นและมีความเป็นมาจนกระทั่งสืบเนื่องมาถึงสมัยนี้อย่างไร
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions