ซื้อ ขายลู่วิ่งไฟฟ้า อย่างไรไม่ให้โดนหลอก

[toktoi043]

ปมการซื้อขายอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายที่ในปัจจุบันถือว่าการ ซื้อ ขายลู่วิ่งไฟฟ้า  มีปมมากที่สุด  เนื่องจากว่ามีความต้องการค่อนข้างสูง    จึงทำให้การ ซื้อ ขายลู่วิ่งไฟฟ้า    ทำปัญหาให้กับทั้งผู้ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า และ  ผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้าไม่น้อย   มาเริ่มกันที่ผู้ซื้อก่อน   ส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อเวลาจะซื้อมักถามถึงเรื่องราคาเป็นอันดับแรก   ไม่เคยที่จะหาข่าวคราวอื่นนอกจากเรื่องราคา    ส่านสำคัญที่ควรสอบถามคือ   ปริมาตรของมอเตอร์   ขนาดสายพาน   ความหนาของแผ่นรอง   อันนี้ถือเป็นส่วนยิ่งใหญ่ยิ่ง    ทำเอา ผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้า เองก็จะคำนึงถึงแต่เรื่องสนนราคา   โดยมองข้ามส่วนสำคัญที่กล่าวมา    ท้ายที่สุดผู้ใช้เมื่อใช้งานไปแล้วเมื่อลู่วิ่งไม่เหมาะสมกับน้ำหนัก   ทำให้เสื่อมโทรมเสียหายได้โดยง่าย   แล้วกลับมาโทษ   ผู้ ขายลู่วิ่งไฟฟ้า  ว่าขายของไม่ได้คุณภาพให้    ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้ว   เมื่อลูกค้าลู่วิ่งไฟฟ้าพึงปรารถนาสินค้าที่มีความถูก  ผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้า   ก็ค้าขายให้ตามต้องงาน    เพราะฉะนั้นหากมีการซื้อขายลู่วิ่งไฟฟ้ากัน   เห็นว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้า  ควรที่จะต้องทำความเห็นอกเห็นใจกันบ้างว่า   ลู่วิ่งไฟฟ้าองค์ประกอบการใช้งานที่สำคัญคือ   น้ำหนักของตัวผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญมาก   ดังนั้นต้องพอควรกับบรรทุกาดของมอเตอร์    ไม่เช่นนั้นแล้ว  อายุการใช้งานอาจจะไม่ยาวนานเท่าที่ควร   และslimครั้งผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้าเองก็ต้องทำความเข้าใจกับของซื้อของขายของตัวเองว่า  อันที่จริงแล้วลู่วิ่งที่ใช้ขนาดเท่าไดถึงจะถูกที่กันแน่   มิได้ว่าจะเอาแต่ขายกันอันเดียว   โดยไม่ได้ทราบเรื่องของอุปกรณ์เลย    ทั้งนี้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายลู่วิ่งไฟฟ้าเองควรทำความเข้าใจกันก่อนมีการค้าขาย    เพราะเป็นครั้งคราวผู้ซื้อเองไม่ซับซาบว่า    โดยความจริงแล้วลู่วิ่งไฟฟ้าจะต้องใช้น้ำหนักของผู้ใช้เป็นตัวกำหนด    รวมไปถึงลักษณะการใช้งานเป็นสำคัญ   ไม่ใช่ว่าจะใช้ราคาเป็นตัวกำหนด    ไม่เช่นนั้นแล้วลูกค้าอาจจะได้ราวตากผ้าราคาแพงมาไว้ด้วยใจยอม    เช่นนั้นก็เช่นกันผู้ประกอบการค้า  ขายลู่วิ่งไฟฟ้า   ก็ควรประกอบภารกิจแบบตรงไปตรงมา    ให้คำสั่งสอนที่ถูกต้องถ้ามองแล้วผู้ซื้อเองเน้นแต่เรื่องความถูก    แต่ไม่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวและการใช้งาน    เห็นว่าควรยกเลิกการค้าขาย    ไม่เช่นนั้นปัญญาจะตามมาทั้งสองฝ่าย    และเชื่อว่าถ้าคนขายของเองให้คำแนะนำที่มีความจริงใจกับลูกค้า    ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจได้    และถ้าหากผู้ซื้อมีมุ่งมั่นที่จะนำไปใช้งานจริงๆก็น่าจะเพิ่มวงสินทรัพย์งบประมาณได้ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าซื้อไปใช้ในบ้านแล้ว    ลู่วิ่งที่เหมาะสมจะมีปริมาตรมอเตอร์ประมาณ   2.5-3.5 แรงม้า   ราคาจะอยู่ที่ 30,000-45,000 บาท  ซึ่งถือว่าเหมาะสม    แต่ถ้าราคาแพงกว่านี้ทั้งๆที่มอเตอร์มีขนาดตามนี้ถือว่าแพงมาก    ต้องพิจารณาจากชื่อยี่ห้อและรูปรักษ์   การบริการหลังการขาย   รวมไปถึงฟังชั่นการใช้งานด้วย   เนื่องจากถ้าราคาสูงกว่านี้    จะต้องเป็นรุ่นที่ต้องได้รับเกณฑ์  มอก.  หรือไม่ก็  มาตรฐาน ISO 9001:2008   เป็นอย่างน้อย   หวังว่าผู้ซื้อและขายลู่วิ่งไฟฟ้า    คงสมผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย