แบตเตอรี่รถยนต์ ทำความรู้ความเข้าใจแบตเตอรี่รถยนต์

[emaceatorboost]

            แบตเตอรี่รถ มิใช่แหล่งผลิตกระแสไฟ แต่ว่าเป็นแหล่งเก็บกระแสไฟสำรองที่มีศักยภาพสูงให้กับรถ เพื่อรถของท่านสามารถทำอะไรได้หลายชนิด มีบทบาทป้อนกระแสไฟให้กับวัสดุอุปกรณ์หลายชนิดของเครื่องยนต์สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นมอร์เตอร์เครื่องยนต์กลไก สตาร์ท ระบบจุดระเบิด อีกทั้งยังทำหน้าที่แบ่งพลังงานให้กับเครื่องไม้เครื่องมือหลายชนิดให้กับเครื่องยนต์กลไกเช่นกัน เพื่ออำนวยความสบายต่างๆให้กับท่าน อาทิเช่น ระบบไฟหลากหลายภายในตัวรถ รวมไปถึงระบบวิทยุด้านในรถเช่นกัน

          หน้าที่ของแบตเตอรี่รถยนต์คือ จ่ายกระแสไฟไปยังเครื่องยนต์ เป็นวัสดุอุปกรณ์สำรองที่เมื่อใดก้ตามที่ไดร์ชาร์ช อันเป็นเครื่องมือผลิตกระแสไฟในเครื่องยนต์กลไกไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทัน เช่น เมื่อขับขี่รถในช่วงกลางคืน ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ระบบกระแสไฟเยอะมากกว่าปกติ เครื่องยนต์กลไกก็จะดึงกระแสไฟจากแบตเตอรี่มาใช้เก็บสำรองก่อน แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากไดร์ชารจ์อาจทำงานได้ดีขึ้นและหมุนเร็วขึ้น ภายในเครื่องยนต์ก็จะมีไฟฟ้าที่หลงเหลือจากการใช้งาน ซึ่งไฟฟ้าที่เหลือนั้นก็จะถูกส่งเข้าไปยังแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรองอีกครั้งจนกว่าเเบตเตอรี่จะเต็ม แบตเตอรี่จะถูกจ่ายไปออกอย่างเดียวก็ต่อเมื่อเวลาที่เครื่องสตาร์ทอยู่เท่านั้น ก็เพื่อว่าแบตเตอรี่จะสามารถส่งไฟฟ้าเข้าสู่มอเตอร์สตาร์ทพร้อมกับส่งกระแสไฟเข้าสู่ทุกๆระบบของเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้ว พร้อมเดินเครื่องปฏิบัติหน้าที่ของมันต่อไป ไดร์ชาร์จก็จะปฏิบัติหน้าที่ประจุไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างติดต่อกัน ซึ่ง ไฟฟ้าจะถูกส่งจ่ายออกไปยังเครื่องยนต์ พร้อมกับจะประจุเพิ่มเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ หมุนเวียนเข้าออกแบตเตอรี่อยู่สม่ำเสมอ

         แบตเตอรี่รถยนต์มีความแข็งแรง คงทน สามารถใช้ได้ช้านาน ถ้ารู้จักวิธีดูแลที่ถูกต้องและใช้เครื่องยนต์อย่างถูกวิธี นั่นย่อมหมายความว่า แบตเตอรี่จะหมดลง ก็เพียง 2 กรณีเท่านั้นคือ
1.แบตเตอรี่ไม่อาจจะเก็บกระแสไฟฟ้าได้อยู่ หรือว่าแบตเตอรี่เกินกำหนดการใช้งานและเสื่อมสภาพ
2.เกิดจากไดร์ชาร์จทำงานติดขัด ผิดปกติ อันจะทำให้กระแสไฟที่ไหลไปมาอยู่ทุกขณะประจุไปยังแบตเตอรี่รถยนต์ได้น้อย หรือว่าแทบไม่เข้าเลย อันเป็นต้นเหตุหลักที่ไม่อาจจะใช้แบตเตอรี่ได้

ขอบคุณบทความจาก : http://www.palangbattery.com/