ไฟฟ้าสถิต ติวไฟฟ้าสถิต ตะลุยโจทย์ไฟฟ้าสถิต เรียนง่าย ใช้เวลาน้อย

[c.leewood]

ไฟฟ้าสถิต ติวไฟฟ้าสถิต ตะลุยโจทย์ไฟฟ้าสถิต เรียนง่าย ใช้เวลาน้อย
ไฟฟ้าสถิต (อังกฤษ: Static electricity) เป็นความไม่พอดีย์ของประจุไฟฟ้าข้างในหรือบนผิวของวัสดุหนึ่ง ประจุยังคงอยู่กับที่จนถึงมันสามารถจะเคลื่อนโดยอาศัยการไหลของอิเล็คตรอน (ไฟฟ้า) หรือมีการปลดปล่อยประจุ (อังกฤษ: electrical discharge) ไฟฟ้าสถิตมีชื่อที่ขัดกับไฟฟ้ากระแสที่ไหลผ่านเส้นลวดหรือตัวนำอื่นรวมทั้งนำส่งพลังงาน1
ประจุไฟฟ้าสถิตสามารถสร้างขึ้นได้ขณะใดก็ตามที่สองผิวสัมผัสกันและแยกจากกัน และอย่างน้อยหนึ่งในผิวนั้นมีความต้านทานสูงต่อกระแสกระแสไฟฟ้า (และด้วยเหตุผลดังกล่าวมันจึงเป็นฉนวนกระแสไฟฟ้า) ผลพวงทั้งหลายแหล่จากไฟฟ้าสถิตจะคุ้นเคยกับคนจำนวนมากเนื่องจากผู้คนสามารถรู้สึก, ได้ยิน, รวมทั้งแม้กระทั้งได้เห็นสะเก็ดไฟเมื่อประจุส่วนเกินจะถูกทำให้เป็นกลางเมื่อถูกนำเข้ามาใกล้กับตัวนำไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ดังเช่นว่าเส้นทางที่ไปลงดิน) หรือภูมิภาคที่มีประจุส่วนเกินที่มีขั้วตรงกันข้าม (บวกหรือลบ) ปรากฏการณ์ที่คุ้นเคยของช็อกจากไฟฟ้าสถิต หรือที่กำหนดมากยิ่งขึ้นคือการปลดปล่อยไฟฟ้าสถิต (อังกฤษ: electrostatic discharge) จะมีสาเหตุจากการเป็นกลางของประจุ
ประจุไฟฟ้าเป็นปริมาณทางไฟฟ้าจำนวนหนึ่งที่กำหนดขึ้นธรรมชาติ ของสสารจะมีหน่วยย่อยๆ ที่มีลักษณะและก็ มีโภคทรัพย์เหมือนกันที่เรียกว่า อะตอม(atom)ข้างในอะตอม จะมีอนุภาคมูลฐาน3จำพวกได้แก่ โปรตอน (proton) นิวตรอน (neutron) และ อิเล็คตรอน (electron)โดยที่โปรตอนมีประจุไฟฟ้าบวกกับนิวตรอนที่เป็นกลางทางไฟฟ้ารวมกันอยู่เป็นแกนกลางเรียกว่านิวเคลียส (nucleus) ส่วนอิเล็กตรอน มี ประจุ ไฟฟ้าลบ จะอยู่บริเวณนิวเคลียส



สาเหตุของการเกิดไฟฟ้าสถิต
อุปกรณ์ทั้งหลายแหล่จะทำจากหลายอะตอมที่ธรรมดาแล้วจะเป็นกลางทางไฟฟ้าเพราะว่าพวกมันมีปริมาณของประจุบวก (โปรตอนในนิวเคลียส) แล้วก็จำนวนของประจุลบ (อิเล็กตรอนใน "วงรอบนิวเคลียส") เท่ากัน การปรากฏของไฟฟ้าสถิตจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการแยกประจุบวกและลบออกจากกัน เมื่อวัตถุสองชนิดสัมผัสกัน อิเล็กตรอนบางทีอาจย้ายจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง ทำให้วัตถุหนึ่งมีประจุบวกเกิน แล้วก็อีกวัตถุหนึ่งมีประจุลบเกินในปริมาณที่เสมอกัน เมื่อแยกวัตถุทั้งคู่ออกมาจากกัน จึงเกิดการไม่สมดุลของประจุขึ้นในวัตถุแต่ละตัว วัตถุที่มีประจุลบเกิน ก็จัดว่าเกิดไฟฟ้าสถิตประจุลบ วัตถุที่ประจุบวกเกิน ก็เรียกว่าเกิดไฟฟ้าสถิตประจุบวก
การแยกประจุที่รั้งนำจากการสัมผัส
ดูบทความหลักที่: ผลกระทบไทรโบอิเล็กตริก
อิเล็กตรอนสามารถแลกเปลี่ยนกันระหว่างวัสดุโดยการสัมผัส วัสดุที่มีอิเล็คตรอนผูกพันอย่างอ่อนมีแนวโน้มที่จะสูญเสียพวกมันในระหว่างที่อุปกรณ์ที่มีวงรอบนอกมีที่ว่างมีแนวโน้มที่กำลังจะได้รับพวกมัน ธรรมชาตินี้เรียกว่าผลพวงไทรโบอิเล็กตริก แล้วก็ได้ผลสำเร็จให้อุปกรณ์หนึ่งเปลี่ยนเป็นมีประจุบวกและก็อีกอุปกรณ์หนึ่งมีประจุลบ ขั้วและก็ความแข็งแรงของประจุบนว้สดุทั้งสองทันทีที่พวกมันถูกแยกออกมาจากกันจะขึ้นกับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกันระหว่างพวกมันในไฟฟ้าสถิต#ชุดของไทรโบอิเล็กตริก ผลกระทบไทรโบอิเล็กตริกเป็นสาเหตุหลักของการสร้างไฟฟ้าสถิตที่พินิจได้ในชีวิตประจำวัน และสำหรับเพื่อการสาธิตตามโรงเรียนมัธยมทางด้านวิทยาศาสตร์ทั่วๆไปที่เกี่ยวกับการเช็ดวัสดุที่ต่างกันเข้าด้วยกัน (ตัวอย่างเช่นขนสัตว์กับแกนอาคริลิค) การแยกประจุที่เหนี่ยวนำโดยการสัมผัสเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมของคุณตั้งขึ้นและนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการ "เกาะติดจากไฟฟ้าสถิต" (อาทิเช่นบอลลูนเมื่อขัดถูกับผมจะเปลี่ยนเป็นมีประจุลบ เมื่ออยู่ใกล้กับกำแพงบอลลูนที่มีประจุจะดูดกับอนุภาคประจุบวกในผนังแล้วก็สามารถ "ติดตาม" กับมัน ปรากฏให้มีความเห็นว่ามันถูกแขวนต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลก)
การแยกประจุที่เหนี่ยวนำจากความดัน
ดูบทความหลักที่: ผลพวงไพโซอิเล็กตริก
ความตึงเครียดเชิงกลที่จ่ายให้จะมีผลให้มีการแยกประจุในบางชนิดของผลึกแล้วก็โมเลกุลเซรามิกส์
การแยกประจุที่รั้งนำจากความร้อน
มองบทความหลักที่: ผลกระทบไพโรอิเล็กตริก
ความร้อนจะทำให้เกิดการแยกประจุในอะตอมหรือโมเลกุลของสิ่งของบางสิ่งบางอย่าง อุปกรณ์ไพโรอิเล็กตริกทั้งสิ้นยังเป็นไพโซอิเล็กตริกอีกด้วย คุณลักษณะของอะตอมหรือโมเลกุลของการโต้ตอบต่อความร้อนแล้วก็ความดันจะเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด
การแยกประจุที่รั้งนำจากประจุ

Tags : ไฟฟ้าสถิต,โจทย์ไฟฟ้าสถิต,ข้อสอบไฟฟ้าสถิต