7 นางฟ้า (七仙女) Part 1

7 นางฟ้า (七仙女) Part 1

เริ่มโดย etatae333, 13 กรกฎาคม 2018, 11:11:06

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

7 นางฟ้า (七仙女) Part 1



ทั้ง 7 เป็นเทพธิดาขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ครับ แต่นางฟ้าทั้ง 7 นางก็ไม่ได้ถือกำเนิดมาจากพระแม่ซีหวังหมู่
เพราะเทพไม่สามารถสัมผัสหรือมีสัมพันธ์กันได้อย่างลึกซึ้งเหมือนมนุษย์ที่มีกายหยาบครับ


นางฟ้าทั้ง7 แต่เดิมนั้นเคยเกิดเป็นมนุษย์และชีวิตของแต่ละนางก็ล้วนน่าสงสาร บางองค์กำพร้าพ่อแม่ บางองค์
เกิดในสถานนางโลม บางองค์เคยถูกกลั่นแกล้งต่างๆนานา แต่พวกนางได้บำเพ็ญบารมีและกระทำความดีซึ่งเป็น
สิ่งที่ตรงข้ามกับสถานที่และสภาพแวดล้อมที่พวกนางเกิด ผลบุญของนางทำให้เวลาตายไปได้กลายเป็นเทพธิดา

(เง็กเซียนฮ่องเต้กับพระแม่เกิดความเมตตา ทรงโปรดรับเป็นพระราชธิดาแห่งพระองค์)

มีบางตำราว่า 7 นางฟ้าก็คือ กลุ่มดาวลูกไก่ด้วย!!!



นางฟ้าแต่ละองค์นั้นมีหน้าที่ต่างกันออกไปครับ บางองค์ปั่นปุยเมฆในท้องฟ้า บางองค์มีหน้าที่โปรยหิมะ และพวกนาง
มีหน้าที่หลักที่ต้องกระทำก็คือ เก็บผลท้อในสวนแห่งสวรรค์เพื่อไปใช้ในงานเลี้ยงเหล่าเทพเจ้าและเซียนในงานเลี้ยง
ลูกท้อของเจ้าแม่ซีหวังหมู่นั่นเอง

สำหรับเรื่องของ 7 นางฟ้าที่เราทราบกันดีก็คงเป็นเรื่องของ "จื่อหนี่" น้องคนสุดท้าย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ
เทศกาลชีซี (七夕) หรือวันไหว้วันที่ 7 เดือน 7 ครับ




วันระลึก 7 นางฟ้า วันที่ 7 เดือน 7 จีน (七初日七月) เจ็ดนางฟ้า (七夕)เป็นตำนานปรัมปราของจีนว่าด้วยงาน
ประเพณีใน วันที่ 7 เดือน 7 (จีน: 七夕; พินอิน: qī xī; แปลว่า ราตรีแห่งเลขเจ็ด) ตามปฏิทินแบบจีน เป็นที่มา
ของประเพณี ทานาบาตะ ในญี่ปุ่น และประเพณี Chilseok (칠석) ในเกาหลี ซึ่งมีการโยงตำนานนี้กับสถานที่
ในภูเขาคึมกังซาน (ภูเขาเพชร) ที่ว่ากันว่าเป็นจุดที่นางฟ้าลงมาเล่นน้ำด้วย


เทศกาลวันดังกล่าวเปรียบได้ว่าเป็นวันแห่งความรักในประเพณีจีน ช่วงเวลาแห่งประเพณีนี้คือเมื่อดวงดาวในสามเหลี่ยม
ฤดูร้อนโคจรขึ้นสูงเหนือศีรษะ ดาวสำคัญในสามเหลี่ยมฤดูร้อนที่เกี่ยวข้องกับตำนานนี้ คือดาวอัลแทร์ และดาวเวกา
นักวิชาการส่วนหนึ่งเชื่อว่า ตำนานเจ็ดนางฟ้าของจีนนี้ (ซึ่งเล่าขานกันในเกาหลี เวียดนาม และญี่ปุ่นด้วย)



สามารถสืบกันได้กับนิทานเรื่องพระสุธนมโนห์รา ซึ่งเล่ากันแพร่หลายในไทย ลาว และอินโดนีเซีย โดยมีแก่นเรื่อง
คล้ายคลึงกันและทำให้เห็นได้ว่า น่าจะมาจากแหล่งเดียวกัน กล่าวคือ เป็นเรื่องของผู้หญิงเจ็ดคน (หรือแปดคน
ในตำนานบางฉบับของเกาหลี) ที่มีความสามารถมากกว่ามนุษย์ คือ บินได้ด้วยเครื่องช่วยบางอย่าง (ปีกและหางของกินรี
และอาภรณ์เทพธิดาของนางฟ้าทั้งเจ็ด) ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อเล่นน้ำ


น้องสาวคนเล็กสุดและสวยที่สุดของนางเหล่านี้ถูกมนุษย์ผู้ชายจับได้และยึดอุปกรณ์ช่วยบินไว้ (ในบางตำนาน ผู้จับได้
เป็นตัวพระเอกเอง บางตำนานเป็นนายพรานซึ่งนำไปถวายพระเอกที่เป็นเจ้าเหนือหัวของตน) นางเอกจึงยอมแต่งงาน
กับมนุษย์ แต่ต่อมามีเหตุให้นางเอกต้องใช้อุปกรณ์ทิพย์บินหนีจากโลกมนุษย์คืนไปสู่ถิ่นเดิมของนาง และพระเอก
ต้องเริ่มต้นผจญภัยเพื่อตามหาตัวนางคืน




เรื่องดังกล่าวมีจารึกเป็นภาพสลักไว้ที่ บุโรพุทโธ ในอินโดนีเซีย เนื่องจากเชื่อว่าเป็นอดีตชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า
และพระเถระชาวเชียงใหม่ได้รจนาไว้เป็นภาษาบาลีใน ปัญญาสชาดก ซึ่งนักวิชาการเชื่อว่าแต่งขึ้นระหว่าง
ปี พ.ศ. 2000-2020 ด้วย โดยให้ชื่อเรื่องว่า สุธนชาดก ตำนานเจ็ดนางฟ้า บางครั้งก็เรียกว่า ตำนานรักหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า

เรื่องราวของ 7 นางฟ้านั้นจะเน้นสอนว่า ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในความลำบากสักแค่ไหน ให้อดทนไว้แล้วมันจะผ่านไปได้ครับ



นางฟ้าองค์ที่ 1



สมัยก่อนมีขุนนางตงฉินและกังฉินซึ่งทั้งสองบ้านอยู่ใกล้กัน ขุนนางตงฉินนั้นมีภรรยาและลูกสาวลูกชายอย่างละ 1 คน
และมักโดนขุนนางกังฉินใส่ความอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งลูกชายของขุนนางตงฉินเล่นว่าวอยู่ในสวนบ้านตัวเอง พร้อมๆกับ
บ่าวของขุนนางกังฉินที่เล่นว่าวบนดาดฟ้าของบ้านนั้น ด้านบ่าวของขุนนางกังฉินพลาดท่าตกลงมาตายเอง แต่ขุนนางกังฉิน
ก็ใส่ความว่าลูกของขุนนางตงฉินนั้นเป็นเหตุพร้อมทั้งให้ลงโทษด้วยการฝังทั้งเป็นพร้อมกับบ่าวของเค้า

(คือสมัยนั้นขุนนางกังฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มาก เลยมีอำนาจสูง)

ฝ่ายลูกชายก็ถูกจับนอนในโลงศพ และมีขบวนคนนำไปฝัง แต่สวรรค์คุ้มครอง เกิดเป็นลมพายุพัดทั้งขบวนตกลงไปในเหว
ตายหมดยกเว้นลูกชายขุนนางตงฉินที่รอดมาได้ ฝ่ายลูกชายพอรอดมาก็กลัวที่จะกลับไปอีกจึงสร้างกระท่อมอาศัยในป่าลึกแทน
แต่ทุกครั้งที่คิดถึงครอบครัวก็จะสวดภาวนาคำที่แม่เคยสอนไว้ว่า "นะโมพุทธะ" ต่อหน้ารูปวาดพ่อแม่ตัวเองที่วาดเองบนผนังถ้ำ
และประทังชีวิตด้วยการเก็บพืชสมุนไพรไปขอแลกอาหารจากนายพราน

ฝ่ายพ่อพอคิดว่าลูกชายของตนเองนั้นตาย ก็ลาออกและเดินทางกลับบ้านเกิด ระหว่างทางก็ยังไม่วายโดนปลอมแปลงราชการ
ให้เนรเทศสองผัวเมียไปอยู่ที่ชายแดน ทิ้งให้ลูกสาวที่เหลืออยู่คนเดียวรับชะตากรรม ฝ่ายลูกสาว (ตอนนั้นก็อายุประมาณ 12-13 ปี)
ก็โดนโบยจนเกือบพิการ และถูกหลอกขายให้ไปเป็นคนรับใช้ของหลานชายขุนนางกังฉินอีก ชีวิตของนางตอนนั้นน่าสงสารมากๆ

ตอนแรกขุนนางกังฉินนั้นไม่มีลูก เลยคิดจะให้หลานคนนี้สืบสกุลแทน หลานก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะรับมรดกจากอา แต่...ขุนนางกังฉิน
ดันมามีลูกสืบสกุลเองตอนแก่ หลานชายผิดหวังมากจึงวางแผนกับภรรยาว่า พอถึงวันไหว้พระจันทร์ตอนที่คนกำลังสนุกสนาน
จะขโมยลูกทารกของอาไปทิ้งที่ไกลๆ

แต่แผนนี้ดันถูกสาวใช้ (ลูกสาวขุนนางตงฉิน) รู้เข้า และนางก็เกิดมีความเมตตาจึงตามไปเก็บทารกและหนีเข้าไปในป่าลึก
ฝ่ายขุนนางกังฉินรู้เรื่องก็ให้คนออกตามหาลูกตัวเอง ฝ่ายภรรยาของหลานก็กลัวว่าจะถูกจับได้จึงโยนความผิดให้สาวใช้
(ลูกสาวขุนนางตงฉิน) ที่ไม่ได้อยู่ที่บ้านในตอนนั้นพอดี (คือฝ่ายภรรยากลัวว่าสาวใช้แอบรู้แผนตัวเอง เลยกะว่าจะป้าย
ความผิดเพื่อปิดปาก)

ฝ่ายสาวใช้เมื่อหนีเข้าป่าลึกก็หานมสุนักป่าและน้ำจากน้ำพุมาเลี้ยงทารกน้อย ทหารและคนรับใช้ของขุนนางกังฉินจึงหาตัวไม่เจอ
และประทังชีวิตด้วยการเก็บผลไม้ป่ากินเอง วันนึงระหว่างที่ฝ่ายลูกชายเก็บสมุนไพรอยู่นั้นก็เห็นหญิงสาวอุ้มทารกจึงเข้าไปสอบถาม
และได้รู้ความจริงว่าเป็นน้องสาวของตน จึงพาไปสร้างกระท่อมอยู่ใกล้ๆกัน เรื่องนี้แพร่สะพัดจากหมู่นายพรานที่เห็นถึงความผิดปกติ
ไปถึงหูของขุนนางกังฉิน ขุนนางกังฉินจึงส่งคนมาจับและลงโทษด้วยการแขวนคอ สองพี่น้องก็นึกถึงคำสอนของแม่ว่า

"ไม่โกรธแค้น หรือแก่งแย่งกับใคร"

จึงไม่มีความหวาดกลัวและท่องนะโมพุทธะตลอดในตอนที่ถูกแขวนคอ ทันใดนั้นก็เกิดพายุพัดกระหน่ำทำให้เชือกขาด
และทั้งคู่ก็บรรลุเป็นเซียน




นางฟ้าองค์ที่  2



มีครอบครัวที่ร่ำรวยครอบครัวนึง ครอบครัวนี้มีลูกสาว และลูกสาวคนนี้ชอบห้อยกวนอิมหยกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษตลอดเวลา
วันนึงเกิดสงครามกลางเมือง ฝ่ายแม่ได้เสียชีวิตลงตอนชุลมุน ฝ่ายพ่อจึงพาลูกสาวหนีไปที่อื่นและเสียชีวิตกลางทางอีกคน
ลูกสาววัย 8 ในตอนนั้นก็ได้เดินเร่ขายตัวเองเพื่อที่จะเอาเงินมาทำศพพ่อ แต่ก็ไม่มีใครซื้อเพราะยังอยู่ในภาวะสงคราม เด็กน้อย
เลยไปขายตัวเองให้หอนางโลมโดยมีสัญญาการทำงานอยู่ห้าปี เธอเป็นเด็กที่ฉลาดและเรียนรู้เร็ว ทำให้ฝีมือการร้องรำทำเพลง
พัฒนาขึ้นรวดเร็วทำให้ได้เงินรางวัลมาเยอะมากๆ เธอชอบนำเงินที่ได้เหล่านั้นไปช่วยเหลือคนยากไร้เพื่อสร้างกุศล


ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกครอบครัวนึง มีพี่น้องสองคน (ผู้ชายทั้งสอง) คนน้องนั้นเป็นลูกติดมาจากแม่เลี้ยง เป็นคนโหดร้าย
และชอบหาเรื่องรังแกคนพี่ มีครั้งนึงก็ใส่ร้ายพี่และโบยจนคนพี่มือขวาพิการทำให้ไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้อีกและต้องมา
คอยรับใช้คนน้อง วันนึงคนน้องนั้นเดินทางเข้าไปสอบจอหงวนในเมืองหลวงพร้อมด้วยคนรับใช้ที่เป็นพี่ตัวเอง แต่...คนน้อง
ไม่สนใจอะไรเลย เอาแต่เที่ยวหอนางโลม (ที่เด็กสาวตอนต้นเรื่องทำงาน)

นางเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่คนพี่ไม่ได้เรียนและคนน้องก็ใช้เงินแบบล้างผลาญ จึงแอบเอาเงินตัวเองให้คนพี่ไปเรียนพร้อม
อ้างว่าทางครอบครัวนั้นส่งเงินมาให้เรียน คนพี่ก็ได้เรียนและพัฒนาคนเอง ส่วนคนน้องก็เที่ยวเตร่และตกต่ำลงเรื่อยๆ
พอครบกำหนดห้าปีเด็กสาวคนนั้นก็ได้ออกจากหอนางโลมและไปอาศัยอยู่ที่วัด แม่ชีเห็นว่าเธอนั้นขยันและฉลาดจึง
ตั้งให้เธอเป็นผู้ดูแลวัด และแล้วเด็กพิการที่ได้โอกาสเรียนก็สอบชิงตำแหน่งจอหงวนได้ พอหญิงสาวรู้เรื่องก็กลัวว่าจอหงวน
คนนี้สักวันต้องรู้เรื่องทุกอย่างและต้องตามมาตอบแทนเธอที่วัดแน่ๆ จึงออกจากวัดไปบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาแทน

ฝ่ายจอหงวนพิการ ก็กลับบ้านไปขอบคุณแม่เลี้ยงที่อุตสาห์ส่งเสียจนตนเองได้เป็นจอหงวน แม่เลี้ยงนั้นรู้สึกละอายใจมาก
จึงหนีออกจากบ้านไป นางมีสีหน้าเศร้าหมองมากและคิดจะฆ่าตัวตาย ระหว่างทางในป่าก็ได้พบกับหญิงสาวที่ออกจากวัด
มาบำเพ็ญเพียร พอได้คุยกันก็ได้ทราบเรื่องกันทั้งหมด หญิงสาวก็ปลอบให้กำลังแม่เลี้ยงคนนั้นจนนางดีขึ้น และได้มอบ
กวนอิมหยกที่ห้อยคอให้กับแม่เลี้ยง ด้วยน้ำใจอันดีงามของเธอเจ้าแม่กวนอิมก็ปรากฎตัวขึ้นและพาเธอขึ้นสวรรค์ทันที


นางฟ้าองค์ที่  3



มีครอบครัวนึงฝ่ายสามีเป็นคนเชือดหมูขาย ฝ่ายภรรยาเป็นคนใจดีถือศีลกินเจไหว้พระไหว้เจ้า ครอบครัวนี้มีลูกสาวด้วยหนึ่งคน
ภรรยาเคยเตือนสามีเสมอให้เปลี่ยนอาชีพแต่สามีไม่เคยทำตามเลย พอภรรยาเสียชีวิตลงลูกสาวที่ตอนนั้นอายุสามขวบ
ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้แต่ถามพ่อตัวเองว่า "แม่อยู่ไหนๆ?"


พ่อก็ได้แต่ปลอบว่า แม่ไปเยี่ยมญาติยังไม่กลับ แต่ในใจก็นึกถึงคำขอร้องให้เปลี่ยนอาชีพของภรรยาตัวเองตลอด เค้าจึง
เปลี่ยนอาชีพ แต่...ก็หางานที่เหมาะสมกับตัวเองไม่ได้ ฐานะความเป็นอยู่ก็แย่ลงเรื่อยๆ จนตรอมใจและป่วยหนัก ลูกสาว
ที่ไม่รู้อะไรเลยก็ได้แต่นั่งนั่งร้องไห้ใต้ต้นองุ่นเพื่อให้สวรรค์มอบองุ่นให้พ่อตนเองกินบ้าง แต่ตอนนั้นเป็นฤดูหนาวหิมะตกหนามาก
ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่องุ่นจะออกลูก แต่สวรรค์ก็ประทานองุ่นให้ตกลงตรงหน้าเด็กหญิงคนนั้น เด็กหญิงเลยเก็บองุ่น
ไปให้พ่อตัวเองกิน พ่อตัวเองก็หายป่วยเป็นปลิดทิ้ง แต่ในใจก็ยังคงคิดถึงแม่ตัวเองอยู่

วันนึงเด็กหญิงได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก เห็นชายชรานอนป่วยร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้างถนน (เป็นเทพแปลงร่างลงมา)
เด็กหญิงจึงกลับไปนั่งภาวนาใต้ต้นองุ่น และก็มีองุ่นตกลงมาอีก เด็กหญิงดีใจรีบเอาองุ่นไปให้ชายชรากิน ชายชราเห็นว่า
เด็กคนนี้เป็นคนดีจึงสอนบำเพ็ญเพียร และพาเธอไปบำเพ็ญเพียรบนเขาจนบรรลุมรรคผลขึ้นสวรรค์ไป เหลือแต่เพียงแขน
ที่มีไฝสามเม็ดไว้ พอพ่อตัวเองมาตามก็เห็นเพียงแค่นั้นก็รู้ว่าลูกตนเองได้สำเร็จเป็นเซียนไปแล้ว

หลังจากขึ้นสวรรค์นางก็มาช่วยพ่อและแม่นางขึ้นไปสวรรค์เช่นกัน นอกจากนี้นางยังลงมาช่วยรักษาโรคให้คนบนโลกมนุษย์ด้วย


นางฟ้าองค์ที่  4



มีครอบครัวนึงได้ให้กำเนิดลูกสาว ตอนเกิดนั้นมีกลิ่นหอมตลบอบอวนทั่วห้องไปหมด (อันนี้เป็นสัญญาณว่ามีนางฟ้ามาเกิด)
เด็กคนนี้ได้ชื่อว่าเซียนเอ๋อ พออายุได้ 2 ขวบ ร่างกายของนางก็อ่อนแอ แม้ว่าพ่อแม่จะหาหมอมารักษาจากทั่วสารทิศก็ไม่หาย
พอโตขึ้นมาเธอชอบกินแต่อาหารเจ ไม่กินเนื้อสัตว์อะไรเลย ถ้าอาหารปนถูกเนื้อเพียงเล็กน้อย เธอก็จะอาเจียนออกมา


วันนึงเกิดน้ำท่วม ครอบครัวเธอถูกน้ำพัดพาไปคนละทิศคนละทาง แต่เธอได้ถูกชายชราชาวประมงช่วยไว้และรับเธอเป็นลูกบุญธรรม
ทุกๆครั้งเวลาที่จับปลามาได้ก็พบว่าหายไปจำนวนมาก จึงได้ถามลูกสาวบุญธรรมตัวเอง เซียนเอ๋อก็ร้องไห้ยอมรับว่าเอาไปปล่อย
และยังขอร้องว่าพ่ออายุแก่มากแล้วให้เลิกทำอาชีพนี้ แล้วตนจะหาเลี้ยงพ่อบุญธรรมเอง

วันนึงพ่อบุญธรรมเป็นแผลมีหนองที่หลัง แต่ด้วยความที่ยากจนเลยไม่มีเงินไปหาหมอ เซียนเอ๋อจึงใช้วิธีที่แม่ตัวเองเคยทำให้
ตอนเด็กๆคือใช้ปากดูดหนองออกจนหมด มาช่วยพ่อบุญธรรมจนหายเป็นปกติ แต่พ่อบุญธรรมก็อายุมากแล้วร่างกายไม่แข็งแรง
ได้แต่นอนบนเตียง เซียนเอ๋อมักไปที่วัดไหว้ขอพรให้พ่อและคอยดูแลปรนนิบัติเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเดินขึ้นไปตรงหัวเรือ
และจุดธูปบนบานเบื้อบนและภาวนาถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม

ทันใดนั้นท่านก็มาปรากฎตัวให้เห็น เซียนเอ๋อรีบวิ่งไปที่หัวเรือเพื่อกราบไหว้ แต่ก้าวเท้าพลาดตกลงไปตายในทะเล กายทิพย์
ของเธอนั้นได้กลายเป็นเซียนขึ้นสวรรค์ ศพของเธอถูกงมขึ้นมาและนำไปฝังที่เชิงเขา และก็เกิดเรื่องแปลกขึ้นคือ รอบๆหลุมฝังศพ
ของเธอนั้นมีดอกไม้สวยงามมีกลิ่นหอมขึ้นอยู่รอบๆ ทุกคนเรียกว่าดอกนางฟ้า และพ่อบุญธรรมของเธอก็ได้เอาดอกนางฟ้าไปขาย
ประทังชีวิตจนสิ้นอายุไข
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่