[STORY] ขนาดผัวยังไม่เคยทำกันขนาดนี้

[etatae333]

[STORY] ขนาดผัวยังไม่เคยทำกันขนาดนี้



ดิฉันเก็บความในใจไว้ทั้งที่อัดอั้นในใจมานานหลายปี อยากจะหาที่ระบายแต่
ก็ไม่รู้ว่าจะไปพูดคุยให้ใครฟัง วันนึงฉันมาเปิดเจอเวปนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ จึงอยาก
จะระบายเรื่องที่มันเกิดกับชีวิตฉันโดยที่เก็บมันอยู่ในใจมาหลายปี ตอนแรกอยาก
จะบอกให้สามีฟัง แต่ก็หวั่นใจกลัวว่าสามีรับรู้แล้วจะไม่รักตัวดิฉันเองเหมือนเก่า
จึงเก็บใว้ในใจของฉันตลอดมา...

คือเมื่อก่อนนั้นดิฉันทำงานอยู่ในบริษัทแห่งนึงในกรุงเทพฯ สามีก็ไปรับไปส่งอยู่เป็นประจำ
แต่พอช่วงเศฐกิจไม่ค่อยดี บริษัทก็เลิกจ้างงานแล้วก็จ่ายเงินมาให้ก้อนนึงฉันจึงต้องหา
งานทำใหม่ เป็นเดือนก็ยังหางานทำไม่ได้ เพื่อนข้างบ้านจึงแนะนำให้ไปรองขายยาคูลท์ดู
ฉันก็เลยเห็นดีด้วยเพราะอยู่ระหว่างรองานที่สมัครไว้ ก็เลยลองทำดู

ฉันเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดีจึงมีส่วนที่ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน
สินค้าขายได้ทะลุเป้าทุกวันและถึงจะเหนื่อย แต่ก็คุ้มกับเงินที่ได้มาเพิ่มมากขึ้นลูกค้า
ของดิฉันก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย บางคนจ่ายเป็นเงินสดแต่บางคนก็จ่ายอาทิตย์ละครั้ง
ดิฉันก็ไปตามเก็บเอา

แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นโดยที่ดิฉันไม่เคยมีความคิดอยู่ในหัวสมองเลยว่า จะต้องมาเจอ
เหตุการณ์เช่นนี้กับดิฉันเพราะในใจของฉันนั้นรักและซื่อสัตต่อสามีมากไม่เคยคิดว่า
จะไปร่วมหลับนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่สามีตัวเองมาก่อนเลย



อย่างเช่นบ้านคุณนิสา ก็เช่นกันที่สั่งยาคูลท์ของดิฉันและให้ไปเก็บเงินทุกอาทิตย์
ดิฉันเริ่มสังเกตุเห็นความผิดปกติที่บ้านคุณนิสา เพราะเป็นเวลาร่วมสามอาทิตย์แล้ว
ที่ไม่เห็นคุณนิสาอยู่บ้านและในบ้านก็ปิดเงียบ แต่ยาคูลท์ที่ฉันมาแขวนเอาใว้หน้าบ้าน
มีคนมาเก็บเข้าไปไว้ แต่พอดิฉันจะหันหลังกลับพอดีก็มีรถวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน
แล้วก็มีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมาจากรถแล้วเรียกถามดิฉันว่า
"น้องๆ น้องจะมาเก็บค่ายาคูลท์เหรอครับ" ดิฉันก็ตอบไปว่า "ค่ะ"

แล้วเค้าก็เล่าให้ดิฉันฟังว่าคุณนิสาตอนนี้นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลเกือบสามอาทิตย์แล้ว
ตัวเค้าเป็นสามีของคุณนิสา ให้หนูไปนั่งรออยู่ในบ้านก่อนเดี๋ยวจะหยิบเงินให้พร้อมทั้ง
บอกว่าจะขอสั่งยาคูลท์เพิ่ม เพื่อที่จะนำไปให้คุณนิสาที่โรงพยาบาลด้วย ขอให้ดิฉัน
นั่งรอแป๊บนึง เค้าขอตัวเข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะอากาศร้อนมาก

ดิฉันก็นั่งรอเค้าประมาณ 15 นาทีเห็นจะได้ เค้าก็ออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนู
เพียงผืนเดียวที่มันปกปิดร่างกายเค้าอยู่ ดิฉันรู้สึกใจเต้นแรงมาก เพราะเค้าเริ่มเดิน
ตรงมาทางดิฉัน แล้วก็ถามดิฉันว่า

"เป็นงัยบ้างเหนื่อยมั๊ย ขายของดีมั๊ย ถ้าเหมาหมดคิดราคาเท่าไหร่"

โดยที่ดิฉันยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร เค้าก็ทำผ้าขนหนูหลุดออกจากร่างกายเค้า
แล้วเข้ามาจู่โจมกอดรัดดิฉันเป็นการใหญ่ ดิฉันพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพราะ
เห็นท่าทางไม่จะค่อยดี และพูดกับเค้าว่า

"อย่าทำอย่างนี้นะเพราะดิฉันมีสามีแล้ว ขอค่ายาคูลท์ดิฉันเถอะฉันจะต้องรีบไป"

เค้าบอกว่า "วันนี้ไม่ต้องขายแล้ว เพราะวันนี้เค้าขอเหมาหมดรวมทั้งตัวของหนูด้วย"