วิเคราะห์เกมส์!! ผี-หอย

วิเคราะห์เกมส์!! ผี-หอย

เริ่มโดย j007, 03 เมษายน 2010, 09:38:49

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

j007

แมน-ยู ภายใต้การคุมทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เพิ่งพ่ายแพ้ต่อเสือใต้บาเยิร์น มาในนัดกลางสัปดาห์ของศึกยูฟ่าฯ และที่ได้รับข่าวร้ายสุดๆ คือ ไอ้อ้วน เวย์น รูนี่ มีโอกาสที่จะต้องหยุดพัก 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม พอมีข่าวดีเมื่อ จอห์น โอเช กองหลังสารพัดประโยชน์ รวมถึง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางที่พักมานานกว่าปีครึ่งต่างมีลุ้นคืนสู่ทีม
ส่วนฝั่งทีมเยือน คาร์โล อันเชลอตติ ไม่มีปัญหาสำหรับตัวผู้เล่น เพราะเจ้าแมงสาบ ดร๊อกบา ก็หายจากอาการบาดเจ็บสามารถกลับเข้าสู่สนามในศึกครั้งนี้ได้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน
    แมตช์สำคัญที่สุดของซีซั่นของทั้งสองทีม แมนฯ ยูฯ เกมรุกมีปัญหา ส่วนทีมเยือนเกมรับมีปัญหา นัดนี้สูสีกันมาก เชลซี นั้นมีทีเด็ดเรื่องความเฉียบคม แต่เมื่อแผงหลังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แมนฯ ยูฯ เองแม้ไร้ รูนี่ย์ ก็คงหาโอกาสได้เหมือนกัน นัดนี้อาจเล่นกันอึดอัดในช่วงแรก แววออกหน้าเสมอมีเยอะเหลือเกิน แต่ถ้าจะให้มีผู้ชนะเชื่อว่าสิงห์บูลส์มีโอกาสมากกว่า

ตัวนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด :
(4-5-1) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - แกรี่ เนวิลล์, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พาร์ค ชี-ซอง, นานี่ - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เชลซี :
(4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรยร่า, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, ยูริ ชีร์คอฟ - มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเคล - นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูด้า

ฟันธง :: 0-1(สกอร์นี้อาจมาจากความลำเอียงในจิตใจผมเล็กน้อยครับ..... เขิน)

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

dvd6699

ผู้เล่นเชลซีสดกว่าด้วย  เขิน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

BOMBTOOL

แมทนี้ น่าจะอึดดัด มากเลย เพราะต้องการแต้มทั้งคู่ เซลซี ได้เปรียบที่สดกว่า แต่ แมนยูคงอาศัยโต้กลับแน่ๆ  ๆ ในช่วงแรกๆ ๆ  โอกาศแบ่งแต้มสุงมาก แต่ ขอเอียงฝั่งเจ้าบ้านนิดๆ ๆ 
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

sonor

ฟันธง........  หอยชนะชัวร์ kick kick
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

shoots

อ้างจาก: หมีพู เมื่อ 03 เมษายน 2010, 11:47:08
ฟันธง........  หอยชนะชัวร์ kick kick
ชัวร์หรือมั่วนิ่ม แล้วคืนนี้มาคอยดูกัน     kick
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

innosen

ผมมั่นใจยังไงวันนี้ผีไม่แพ้สิงแน่  ยังไงก็ผี.......
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

meaw_meow

 ;khhg เชียร์ผีสุดใจครับ ขออีกสักสมัยละกันนะครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

jaydai

จาก ซ๊อกเกอร์ซัค ครับ.....
เซอร์ เล็กซ์ เฟอร์กูสันอาจจะเซอร์ไพร์แฟน ๆ ด้วยการใส่ชื่อโอเว่น ฮาร์กรีฟนั่งเป็นตัวสำรองในเกมนี้ หลังจากหายหน้าไปถึง 19 เดือนเพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ในขณะที่จอห์น โอเชียเองก็กลับมาได้เช่นเดียวกัน

เวย์น รูนี่ย์หัวหอกตัวเก่งจะไม่ได้ลงสนามแน่นอน เพราะได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเฟอร์กี้น่าจะส่งดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟลงเล่นแทนในตำแหน่งกองหน้า

คาร์โล อันเชล็อตติจะได้ดิดิเย่ห์ ดร็อกบากลับมาจากหลังหายจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาลงซ้อมได้แล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

การที่ดร็อกบากลับมาลงเล่นได้ ก็จะแปลว่าโจ โคลต้องกลับไปนั่งสำรองอีกครั้ง เพราะนิโกลาส์ อเนลก้าจะได้ลงเล่นร่วมกับดร็อกบาในตำแหน่งเกมรุก

คาดว่า เสมอ แบ่งแต้มครับ


แต่ผมขอเชียร์หอยให้ยิงผีดับครับ..... kick
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

prozerger1

ถ้ามาร์คดรอกบ้าดีๆ แล้วกลางช่วยกันเก็บบอล น่าจะมีโอกาสส่องครับ ความหวังเด็กผีฝากที่ปาร์ค+นานี่ครับ เผื่อจะผีเข้าเหมือนตอนเตะกะหงส์ kick ไอ้เบิบมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ติสเกิน ljhgf
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Keijikung

เกมนี้น่าจะอัดกันหนักแน่นอน แต่ด้วยนานี่คืนร่างอวตาลแล้ว ถ้าแกพริ้วไหวดั่งสายธาราแล้วนั้น แมนยูมีสิทธ์ชนะแน่นอน สกอร์น่าจะ2-1 ไม่ก้อ 1-0  ฟันธง !!! คอนเฟิร์ม !!! สุดยอดมะก้วยเต๊ด !!

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

ไม่อยากบอกว่า ราคาเสมอ ใส่กะพวกแฟนผีไป 2 พัน....วันจันทร์จะไปเก็บตังส์หล่ะ

เหอะๆ ผีเน่าแน่
.,mn
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mrskyeyes44

หอย...จ๋า ล้างแค้นให้ที.... vbnn
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

พอดีผมไปอ่านเจอบทความดีๆ อันนี้ เลยเอามาแชร์ให้อ่านกันครับ

ความทรงจำสีน้ำเงินที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
..........หากจะ บอกว่าการเจอกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล คือการแข่งขันที่มี "ศักดิ์ศรี" เป็นเดิมพัน.. การพบกันของปีศาจแดงกับสิงโตน้ำเงินครามก็เปรียบได้ว่าเป็นนัดที่ตัดสินทิศ ทางของแชมป์ พรีเมียร์ลีก เกือบทุกครั้งในเวลาหลายปีที่ผ่านมา
แต่ ถ้าย้อนไปในช่วงที่ แมนยูไนเต็ด กำลังรุ่งเรืองสุดขีดหลังจากคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ การเจอกันของ เชลซี กับ แมนยูไนเต็ด ต้องบอกว่าปีศาจแดงเป็นต่อพอสมควร หากเอาชนะได้ได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ยิ่งถ้าวันใดเกิดพลิกล็อคบุกไปชนะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้นั่นก็คือโบนัสแสนล้ำค่าสำหรับแฟนบอลที่ไม่มีวันลืม

ตัว ผมเริ่มเชียร์ เชลซี ในปี 1997 โดยตอนนั้นยังเป็นเด็กอายุ 6 ขวบที่วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ตามสวนสาธารณะ.. ทุกคนในครอบครัวขายวิญญาณให้กับปีศาจแดงแบบเต็มสายเลือด จะมีก็แต่ผมนั่นแหละ ที่เป็นแกะดำเพราะดันบังเอิญไปเห็นโปสเตอร์ของ จานฟรังโก้ โซล่า ในห้องนอนของพี่ชาย

จากนั้นก็รบเร้าขอให้คุณแม่ ซื้อเสื้อของ เชลซี ให้กับผม และเสื้อฟุตบอลตัวแรกที่ผมได้นั้น เป็นของขวัญที่แสนล้ำค่า มีสีน้ำเงินที่ครามอย่างสง่า และมีสปอนเซอร์ตรงกลางที่เขียนไว้ว่า Autoglass.. ทำให้เสื้อตัวเล็กที่เคยใส่ในตอนเด็กๆ ตัวนั้นยังอยู่ในตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิมไม่เคยหายไปไหน

ความทรงจำแสน งดงามครั้งแรกของผมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด คงต้องย้อนไปในปี 2001..

เป็น วันที่ผมมอบหัวใจให้แก่ เชลซี แบบเต็มร้อย เพราะตามเชียร์อย่างใกล้ชิดมาตลอดหลังจากนั้น.. จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายของสนาม.. มาริโอ เมลคิออท วิ่งโฉบขึ้นมาโหม่งเต็มศรีษะให้ทีมบุกมานำ แมนยูไนเต็ด ไปก่อน 1 – 0

หลัง จากนั้นสถานการณ์ของ เชลซี เกือบมีปัญหาเมื่อพี่ม้า ฟาน นิสเตอรอย ได้โอกาสหลุดเดี่ยวไปดวลกับ คาร์โล คูดิชินี่ แต่ว่า บาบายาโร่ ล้มตัวตัดฟาวส์ไว้เสียก่อน และต้องถือว่าโชคดีที่เป็นแค่ใบเหลืองทั้งๆ ที่เป็นกองหลังตัวสุดท้าย สามารถให้ใบแดงได้ทันที

จบครึ่งแรก เชลซี เป็นฝ่ายที่ครองความได้เปรียบเอาไว้ ครึ่งหลังปีศาจแดงก็บุกตามระเบียบ.. แต่ว่า เซบาสเตียน เวรอน เจ้าของค่าตัวสถิติสโมสรผ่านบอลพลาดแบบไม่น่าให้อภัยตรงกลางสนาม.. ฮัสเซลแบงค์ ตัดบอลได้และฝากไปให้ที่ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น..

ศูนย์ หน้าชาวไอริชเลี้ยงบอลจี้เพื่อกดดันกองหลัง ก่อนที่จะผ่านบอลไปให้ ฮัสเซลแบงค์ อีกครั้งและจัดการสังหารโหดมุมแคบเสียบเสาสองผ่านมือ ฟาเบียง บาร์กเตซ เข้าไปอย่างสวยงาม.. ภาพในจอทีวีตัดกลับมาให้เห็นอารมณ์ของ เวรอน ในตอนนั้นด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดหวังในตัวเองอย่างรุนแรง

ช่วงท้าย เชลซี มาตอกย้ำชัยชนะด้วยประตูชัยของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น ทำให้สิงโตน้ำเงินครามบุกไปเอาชนะ แมนยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 – 0 ภายใต้อาการดีใจอย่างสุดขีดของผู้จัดการทีม เคลาดิโอ รานิเอรี่..

หลัง จากนั้นผมไม่เคยมีความทรงจำดีๆ แบบนี้อีกเลยที่โรงละครแห่งความฝัน.. สาวกสิงโตน้ำเงินครามรู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ โรมัน อบราโมวิช จัดการปลด รานิเอรี่ ออกในปี 2004 ทั้งๆ ที่พาทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยยุโรปและจบฤดูกาลด้วยอันดับ 2 ในเกมลีก

นาย ใหม่ โชเซ่ มูรินโญ่ สามารถสร้างปรากฏการณ์อันวิเศษให้แก่พวกเราอีกครั้ง.. เชลซี คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในรอบ 50 ปีที่ รีบอร์ค สเตเดี้ยม..

เกม ต่อมาต้องเดินทางไปที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฐานะ "ผู้ชนะ" โดยมี แฟรงค์ แลมพาร์ด เดินน้ำหน้าเข้าสู่การต้อนรับอันสุดแสนประทับใจ นักเตะปีศาจแดงยืนเป็นแถวให้ผู้เล่น เชลซี เดินผ่านไปพร้อมกับเสียงปรบมือดังสนั่นจนทำให้ตัวผมขนลุกเหมือนตอนที่กำลัง นั่งเขียนบทความนี้ขึ้นมา

แมนยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการยิงไขว้ขาสุดคลาสสิกของ รุด ฟาน นิสเตอรอย.. แต่ประตูเสมอของ เชลซี ทำให้ผมจำชื่อของ ติอาโก้ เมนเดส ไปตลอดชีวิตว่านั่นคือลูกยิงที่สวยงามที่สุดตั้งแต่เคยดูฟุตบอลมา.. ติอาโก้ ตั้งป้อมตรงกลางสนามระยะ 30 กว่าหลา

บอลพุ่งเป็นจรวดพร้อมกับเสียบ สามเหลี่ยมพอดิบพอดีในชนิดที่ รอย คาร์โรล ได้แต่มองบอล ทำให้นายใหญ่ โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงกับลุกขึ้นมาแล้วชูนิ้วให้อย่างมึนงง อารมณ์ประมาณว่า "นายยิงเข้าไปได้ยังไง"

เกมวันนั้นจบลงด้วยการที่ เชลซี บุกมาเอาชนะ 3 – 1 โดยอีก 2 ประตูที่ได้คือการหลุดไปแปบอลแบบจ่อๆ ของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น และการชาร์จหน้ากรอบเผาขนของ โจ โคล.. เป็นอีกแมทที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้อย่างดี

แต่มันก็มี บางครั้ง ที่ความทรงจำสีน้ำเงินได้อ่อนจาง.. ปี 2005 เชลซี บุกไปเยือน แมนยูไนเต็ด ในสถาณการณ์ที่ยอดเยี่ยม.. หนังสือพิมพ์ทุกแขนงลงความเห็นกันว่า "เกมนี้มันจะสู้กันได้หรือ ?"

พอ จบเกมแล้วเซียนทั้งหลายถึงกับหน้าแตกกันเป็นแถว ลูกโหม่งย้อยๆ ของ ดาเรน เฟลตเชอร์ ทำให้ผู้เล่นของ เชลซี ต้องจำไปอีกนาน ตอนนั้นผมเศร้าสุดขีด เพราะคุณย่ามาเสียชีวิตในวันนั้นพอดี ทำให้ผมเสียน้ำตาไปหลายวันแบบทวีคูณจนตั้งสติแทบไม่ได้

อย่างไรก็ ตาม ฤดูกาลที่แล้ว ณ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่..

ทีม แพ้แบบหมดรูป สถาณการณ์ในแคมป์ของ เชลซี ระอุเพราะมีข่าวออกมาว่านักเตะอย่าง เช็ก ดร็อกบา และ บัลลัค เริ่มออกมาโจมตีใส่ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ จนทำให้ "บิ๊กฟิล" ต้องโดนเฉดหัวออกจาก เดอะ บริดจ์ ด้วยเวลาการทำทีมเพียง 7 เดือน

เวลา เดินทางมาจนถึงปี 2010.. ในวันเสาร์ที่ 3 เมษายน ซึ่งก็คือวันเสาร์นี้ จะมีเกมชี้ชะตาแชมป์เกิดขึ้นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยที่ แมนยูไนเต็ด มีข่าวที่ไม่สู้ดีนัก เมื่อ เวนย์ รูนีย์ ศูนย์หน้าตัวเก่งต้องพักรักษาตัวถึง 2 สัปดาห์.. กลับกัน เชลซี ได้ตัว ดิดิเยร์ ดร็อกบา กลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง..

แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่มองว่า เชลซี จะได้เปรียบอะไรเลยแม้แต่นิด..!? อย่าลืมว่าเตะกันที่บ้านของ แมนยูไนเต็ด และทีมก็ยังไม่มีชื่อของ ไมเคิ่ล เอสเซียง , แอชลีย์ โคล , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ โชเซ่ โบซิงวา อีกด้วย.. ตามความจริงคือความพร้อมของตัวผู้เล่นเจ้าถิ่นเหนือกว่าด้วยซ้ำ

สถาณการณ์ บีบบังคับให้ เชลซี ต้องไม่แพ้.. เพราะถ้าเกิดถูกปีศาจแดงขย้ำในวันเสาร์นี้ จะทำให้ทีมแทบหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์เลยทันที..

แต่ถ้าเกมจบลงด้วยผล เสมอ ก็ใช่ว่าจะไม่เสียหายอะไร.. ในทางกลับกัน เชลซี ยังต้องเจอกับ สเปอร์ และ ลิเวอร์พูล อีกต่างหาก โอกาสชนะก็น้อย เพราะสถิติการเล่นนอกบ้านปีนี้ไม่ค่อยจะดีนัก

ความลำบากใจของคนที่ ติดตามเชียร์คงไม่มากเท่ากับผู้จัดการทีมอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ.. ถึงจะตกรอบถ้วยยุโรปไปแล้ว ยังไงพวกเราในฐานะสาวกสิงโตน้ำเงินครามก็ยังต้องเอาใจช่วยกันต่อไป กำลังใจอันเต็มเปี่ยมคือแรงผลักดันให้ผู้นำของเรานั้นก้าวไปข้างหน้าอย่าง เต็มความสามารถ

เกมจะเป็นอย่างไรคงไม่มีใครตอบได้.. ของแบบนี้มันต้องลิ้มรสให้ถึงที่สุด.. แล้วคุณจะรู้ว่า ความทรงจำที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของคุณนั้นเป็นแบบไหน ?

คำตอบมันอยู่ที่จิตใต้สำนึกของตัวเรา เอง.. ว่าจะให้มันเป็นเช่นไร..



ขอขอบคุณ

"Petrboat"
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

marathoner9

แมนยู จะใช้วิธีกดดัน กองหลัง โดยปีกทั้งสองข้าง ... เพื่อ ให้กองหลัง เชลซี ..สกัดเข้าประตูตัวเอง...

ฟันธง .... จอนเทอรี่ สกัดเข้าประตู ตัวเอง...  แมนยู ชนะ  1-0  " ขำๆ "
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mommamman

อ้างจาก: marathoner9 เมื่อ 03 เมษายน 2010, 18:30:12
แมนยู จะใช้วิธีกดดัน กองหลัง โดยปีกทั้งสองข้าง ... เพื่อ ให้กองหลัง เชลซี ..สกัดเข้าประตูตัวเอง...

ฟันธง .... จอนเทอรี่ สกัดเข้าประตู ตัวเอง...  แมนยู ชนะ  1-0  " ขำๆ "

จบ แล้ว แมนยู แพ้ 1-2
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

sodax

ไปดูมาครับเมื่อกิ้นี้เอง

สิงห์บุกฝังผีแดง2-1ยึดฝูงทิ้งสองแต้ม

03/04/2010 20:43:17
 


 
   

เส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ของ เชลซี เริ่มกระจ่างใสมากขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะหลังเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปเอาชนะคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างสุดมัน 2-1 จากการสังหารของ โจ โคล และ ดร็อกบา กลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้งและมีคะแนนทิ้งห่าง ผีแดง สองคะแนน ขณะที่มีเกมให้ลงเล่นอีกทีมละ 5 นัดสุดท้าย




ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553


แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - 2 เชลซี

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


 

เกมหยุดโลกตัดสินแชมป์อย่างไม่เป็นทางการที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด "จ่าฝูง" แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาขาด เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าซึ่งเจ็บข้อเท้า ต้องอาศัย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงบู๊ ขณะที่ เฟเดริโก้ มาเคด้าหอกดาวรุ่งมีชื่อเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับนานี่
 
สำหรับ "รองจ่าฝูง" เชลซีใส่ชื่อ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา นั่งรออยู่ข้างสนาม ทำให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ต้องรับภาระหอกเดี่ยว แต่เป็นขุมกำลังชุดเดียวกับเกมขยี้ แอสตัน วิลล่า 7-1 ในนัดก่อนทั้งหมด
 
สิงห์บลูส์ได้เริ่มเขี่ยบอล และเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกใส่เจ้าบ้านทันที ก่อนจะได้เตะมุมทางด้านขวาในนาทีที่ 4 ทว่าอเล็กซ์โขกจาก 12 หลาถากเสาไกลออกไป
 
ผ่านมาถึงนาทีที่ 9 ผีแดงก็มีลุ้นเช่นกันเมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย โชว์ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าสลัดหนี ยูริ ชีร์คอฟ ขึ้นกราบขวาได้ จึงสบโอกาสโยนบอลเข้าเขตโทษ แต่เบอร์บาตอฟโหม่งจาก 12 หลาโด่งข้ามคาน
 
เชลซียังไม่เสียขวัญ ขึ้นเกมรุกกันใหม่ และได้เสียวในอีกสามนาทีต่อมาจากจังหวะที่ เนมานย่า วิดิช สกัดบอลแย่ไปเข้าทางให้เดโก้ไหลต่อมาที่อเนลก้า ซึ่งตวัดบอลจากเส้นหลังฝั่งเกมขวาให้โคลซัลโว แต่ไม่รุนแรงมากพอถูก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟได้ที่เสาแรก
 
เกมโดยรวมยังเป็นทีมเยือนที่ลุยเข้าใส่ และในที่สุดนาทีที่ 20 ฟลอร็องต์ มาลูด้า ก็แผลงฤทธิ์เลื้อยขึ้นกราบซ้ายหนีวาเลนเซียเข้าเขตโทษได้ แม้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จะตามไปเบียดก็เอาไม่อยู่ ทำให้ปีกเฟร้นช์แมนปาดบอลจากเส้นหลังมาเสาแรกโดยมีโคลใช้ส้นเท้าสะกิดจากสามหลาตุงตาข่ายชนิดที่ ปาทริซ เอวร่า ได้แต่ยืนประกบ จึงเป็นเชลซีที่บุกมานำ 1-0
 
พอเสียหาย ผีแดงก็พยายามเน้นเกมรุก แต่อาคันตุกะไม่ยอมง่ายๆ ยังคงรักษารูปเกมของตัวเองเอาไว้ กระทั่งนาทีที่ 26 เจ้าบ้านก็สบโอกาสเดินหน้าและเป็นเบอร์บาตอฟที่ทำชิ่งคืนให้ พาร์ค ชี ซอง ลากไปถึงเส้น 18 หลาโดยมีชีร์คอฟเข้ามาเกี่ยวล้ม แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้เป็นทั้งลูกฟาวล์หรือลูกโทษแก่แชมป์เก่า
 
ล่วงเข้าครึ่งชั่วโมง ทีมจากเมืองกรุงยังคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ดี แถมทำเสียวได้อีกจากจังหวะที่ชีร์คอฟเจาะขึ้นทางซ้ายก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษให้อเนลก้า ซึ่งถูก แกรี่ เนวิลล์ ตามไปเบียดล้ม แต่สิงห์เชิ้ตดำยังเฉย ไม่ให้ลูกโทษแก่ทีมเงินถังเช่นกัน
 
จากนั้นในนาทีที่ 35 พอล สโคลส์ ก็ได้ใบเหลืองย้อนหลัง เมื่อเข้าสกัดมาลูด้าแถวกลางสนาม แต่กองกลางเชลซีพลิ้วหนีได้ ผู้ตัดสินจึงปล่อยให้เป็นลูกได้เปรียบไปก่อนแล้วจึงตามมาจดชื่อแข้งผีแดงหลังจากเกมหยุด
 
ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านเน้นเก็บครองบอลให้แน่นอนมากขึ้น แต่ถึงนาทีที่ 44 เนวิลล์ก็มีใบเหลืองติดตัวโทษฐานรวบมาลูด้าจากด้านหลัง ครบ 45 นาทีสิงโตน้ำเงินครามจึงนำไปก่อน 1-0
 
เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านเปิดเกมรุกเร็วเข้าใส่ แต่ว่าเกมโต้กลับเร็วของ เชลซี เกือบทำให้เจ้าบ้านช็อก เมื่อ มาลูด้า ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตก่อนจิ้มบอลผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ หลุดเสาสองไม่น่าเชื่อ
 
นาที 57 แมนฯ ยูไนเต็ด น่าได้ประตูตีเสมอเมื่อ พาร์ค ชี-ซอง เล่นชิ่งกับ สโคลส์ ก่อนดาวยิงเกาหลีใต้ จะได้ยิงนอกกรอบเขตโทษเต็มแรงบอลพุ่งข้ามคานออกหลังไป
 
ถัดมาอีก 4 นาที กิ๊กส์ ได้เปิดบอลจากกราบขวาเข้ากรอบให้ เบอร์บาตอฟ โขกเต็มๆ แต่บอลหลุดสามเหลี่ยมเสาสองออกหลังอย่างน่าเสียดาย
 
นาที 66 เบอร์บาตอฟ ได้โอกาสโหม่งทำประตูอีกครั้งจากการเปิดบอลของ พาร์ค แต่บังคับบอลไม่ดีเหินข้ามคานอย่างออกหลังไปอีก
 
นาที 70 เชลซี ปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นก่อนด้วยการส่ง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงเล่นแทน อเนลก้า
 
นาที 72 เจ้าบ้านปรับตัวผู้เล่นทีเดียวสองคนรวดด้วยการถอด พาร์ค ชี-ซอง และ พอล สโคลส์ ออกแล้วส่ง หลุยส์ นานี่ และ เฟรเดริโก้ มาเคด้า ลงมาเล่นแทน เช่นกับ เชลซี ที่ส่ง โซโลมง กาลู แทนที่ของ โจ โคล
 
นาที 77 เชลซี ได้ลุ้นประตูบ้างเมื่อ กาลู ได้บอลนอกกรอบเขตโทษกลางประตู ตัดสินใจยิงจากระย 30 หลาบอลเหินข้ามคานออกหลังไม่ได้ลุ้น
 
นาที 79 ทีมเยือนได้ประตูที่สองจนได้ เมื่อ กาลู ไหลบอลทะลุแนวรับให้ ดร็อกบา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงยัดเสาแรกให้ เชลซี ทิ้งห่าง 2-0
 
นาที 81 เจ้าบ้านมาตีไข่แตกได้สำเร็จจนได้เมื่อ นานี่ กระชากบอลถึงเส้นหลังแล้วตวัดเข้ากลาง เช็ก ปัดบอลออกมาโดนตัว มาเคด้า เปลี่ยนทางเข้าประตูให้ ผีแดง ไล่มาเป็น 1-2
 
นาที 84 แฟร้งค์ แลมพาร์ด เกือบบวกประตูที่สามให้ เชลซี เมื่อได้ยิงจากนอกกรอบบอลพุ่งถากเสาแรกออกหลังไป
 
ช่วงท้ายเกมแม้ว่า ปีศาจแดง จะเปิดเกมรุกบุกแหลกแต่ว่ายังยิงประตูตีเสมอไม่ได้จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 1-2 ตกบัลลังก์จ่าฝูงตามหลัง เชลซี สองคะแนน





รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิซ, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ - พาร์ค ชี-ซอง - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
 
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรยร่า, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, ยูริ ชีร์คอฟ - โจ โคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดโก้, จอห์น โอบี มิเกล - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
จาก siamsport เน้อครับ


friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

ZOIDS

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

sonor

แฟนๆหอยเตรียมฉลองแชมป์กันครับ  kjhg kjhg kjhg
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions